ตอนที่ 5 มันมาจากใต้ดิน
ตอนที่ 5 มันมาจากใต้ดิน
ดอนนอนอยู่จนพระอาทิตย์ตกดิน เขาได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามาและคนพวกนั้นก็แบกเขาใส่กรงเหล็กยกขึ้นรถม้าขนาดใหญ่ บนรถม้าเหมือนจะไม่ได้มีแค่เขาแต่ยังมีนักโทษอีกหลายราย
ดอนได้ยินสิ่งที่พวกนั้นคุยกันอยู่
“ฮี่ ๆ พวกเราดูสิมีเด็กหนุ่มหน้าใสมาด้วยวะ 5555 ข้ายาบาขอจองมันล่วงหน้า”
“ฮ่า ๆ ได้แต่ข้าขอแบ่งสักหน่อยนะ ดูผิวมันสิยังกับหญิงสาวเลย”
“ในที่สุดก่อนตายข้าจะได้ปลดปล่อยสักที”
สิ่งที่พวกนักโทษคุยกันมันถึงกับทำให้เขาขนลุกทันที ตอนนี้เขายังโชคดีเพราะเขาถูกจับใส่กรงแยกไว้ในรถม้าทำให้ยังไม่ตกไปอยู่ในมือของหมู่มารสายเหลืองเหล่านั้น
แต่ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีกรงขังกั้นเอาไว้ เขาที่ขยับตัวไม่ได้ก็ไม่ต่างจากหญิงสาวนอนแก้ผ้าอยู่ในห้องรอพวกมันมาย้ำยี...
ดอนยิ่งคิดก็ยิ่งเหงื่อแตก นักโทษพวกนี้มันน่ากลัวยิ่งกว่าสู้กับพวกโจรซะอีก
“ดูเจ้านักโทษในกรงดี ๆ ละ ราคามันสูงไม่เบา ครั้งนี้พวกเราน่าจะได้ส่วนแบ่งมากพอดู”
ดอนได้ยินเสียงของผู้คุมเขาคุยกัน อย่างกะตือลือล้น
ผู้คุมเป็นทหารของเมืองนี้ รับผิดชอบเป็นผู้คุมนักโทษไปส่งที่เหมืองนอกเมืองที่พึ่งค้นพบใหม่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว บริเวณสันเขาโลหิต
นักโทษส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเดนตาย กำลังจะถูกจับไปขายให้กับองค์กร ภูติกะโหลก เพื่อเอาไปใช้แรงงานที่เหมืองผลึกพลังงาน
“เอาละ ได้นักโทษคนสุดท้ายมาแล้วก็ออกเดินทางกันได้แล้ว”
หัวหน้าผู้คุมเรทมอนตะโกนออกมาและขบวนก็เริ่มออกเดินทาง
รถม้าเดินทางออกจากเมืองมาได้ประมาน 1 วันแล้ว...
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 6 โมงเย็น พวกผู้คุมเริ่มที่จะตั้งที่พักและพักผ่อน การเดินทางตอนกลางคืนด้านนอกกำแพงนั้นอันตรายเป็นอย่างมาก
พลังงานสีเทาที่เข้ามาในร่างกายของดอนถูกย่อยสลายลงไปแล้วประมาน 10% เขาเริ่มที่จะกลับมามองเห็นบ้างแล้ว
สิ่งแรกที่มองเห็นคือนักโทษที่ล้อมรอบกรง จ้องมองมาที่เขาตาเป็นมัน
“โอ้ !! หนุ่มหน้าขาวของเราลืมตาตื่นแล้ว”ยาบาพูดออกมาพร้อมกับน้ำลายที่กระเด็น
ดอนมองไปที่พวกนักโทษด้วยความขนลุกทันที เขาจะต้องรีบควบคุมร่างกายให้ไวที่สุด ไม่งั้นละก็......เขาไม่อยากจะคิดเลย
เขาเลิกสนใจพวกนักโทษและมองไปรอบข้าง นอกจากรถม้าคันนี้แล้วยังมีรถม้าอีก 4 คัน มีนักโทษรวมประมาน 50 คน และ ผู้คุมอีก 10 คน มีพลังตั้งแต่นักรบนักรบขั้น 1 และ 2 หัวหน้าผู้คุมเป็นนักรบขั้น 3
ที่จริงแล้วผู้คุมไม่ได้ถูกใช้เพื่อควบคุมนักโทษแต่ถูกใช้เพื่อคุ้มกันนักโทษไม่ให้ตายจากการเดินทางมาก
ตอนแรกเขาคิดว่าพวกผู้คุมจะก่อไฟทำอาหารกัน แต่ดอนสังเกตว่าผู้คุมได้ใช้นักโทษสองคน แจกอาหารแห้งให้กับพวกนักโทษแทน
ในตอนกลางคืนอากาศหนาวเย็นยะเยือกอย่างมากผิดกลับตอนกลางวันที่ร้อนระอุ พวกนักโทษได้แต่นอนกอดกันอยู่บนพื้นไม้ของรถม้า ส่วนผู้คุมนั้นก็ผลัดเวรกันเฝ้ายามบางส่วนก็นอนพักผ่อนในเต็นท์ที่อุ่นสบาย
............................
ปี 4855 8 ธันวาคม
ขณะนี้ ขบวนนักโทษเดินทางมาได้ 3 วัน
ในช่วงสามวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากเสียงที่ดังออกมาจากใต้ดินเป็นบางครั้งในตอนกลางคืน แต่พวกผู้คุมกับมีสีหน้าตึงเครียดขึ้นทุกวันราวกับไม่ชอบความเสียงและเงียบสงบแบบนี้ ส่วนนักโทษนั้นก็อ่อนแรงลงทุกขณะ จากการที่ต้องทนร้อนในตอนกลางวันและหนาวในกลางคืน
ในคืนที่ผ่านมา ๆ ดอนได้แต่มองดูเส้นใยแสง ค่อย ๆ ย่อยสลายพลังสีเท่าที่ผนึกร่างเอาไว้ ตอนนี้เขาเริ่มควบคุมมือทั้งสองข้างได้แล้ว อีก 2-3 วันเขาก็คงกลับมาเป็นปกติ
ดอนไม่รู้ว่าในผู้คุมนั้นจะมีกี่คนที่รู้เรื่องเขา จึงได้แต่ทำตัวนิ่ง ๆ อยู่และค่อยให้คนอาหารเอามาป้อนให้เขาเท่านั้น เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตุว่าเขาหลุดจากผลึกของท่านหญิงเรน่า
แต่วันนี้เขาก็ต้องขนลุกขึ้นมาทันทีเพราะ
เมื่อคนแจกอาหารเดินมาจะใส่อาหารแห้งเข้าไปในปากเขา กลับถูกหยุดไว้โดยยาบา
ยาบาแย่งอาหารและมองมาที่ดอนด้วยรอยยิ้มที่น่าขนลุก เขารู้สึกถึงรางสังหรณ์ที่ไม่ดีเอามาก ๆ เขาได้แต่กัดฟันทนไปก่อน เขาจะไม่ขยับตัวจนกว่าจะรู้ว่าเรน่าส่งคนมาจับตามองเขาหรือไม่
ถ้าเธอรู้ว่าเขาสลายคาถาที่ผนึกไว้ได้ เธออาจจะค้นเจอความลับของเขาก็ได้และคงได้กลายเป็นหนูทดลอง ถูกผ่าร่างแยกชิ้นส่วนทันที ดอนเชื่อว่าเขาคงไม่มีโอกาสหนีไปได้แน่นอน
หลังจากที่ยาบากินอาหารของเขาจนหมด ก็เดินมากระซิปที่ข้างหูของดอน “ต่อไปนี้ข้าจะเป็นคนกินส่วนของเจ้าเองเพื่อที่เจ้าจะได้ร่างผอมอีกหน่อยข้าไม่ชอบคนที่มีไขมันมากนัก”
สีหน้าของดอนแสดงถึงความขยะแขยงทันที ไอ้เจ้าโลกจิตนี่ มันต้องการทรมานเขาเล่น
วันนี้ทั้งวันเขาไม่ได้กินอะไรเพราะโดนแย่งไปหมด แต่ดอนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร
ตกเย็นขบวนก็เตรียมที่จะตั้งแคมป์ คืนนี้ท้องฟ้ามืดผิดปกติ จึงได้มีการก่อกองไฟ ล้อมรอบแคมป์เยอะกว่าปกติ แต่ที่หน้าแปลกคือ พวกผู้คุมกับพากันไปนอนอยู่บนก้อนหินขนาดยักษ์ และดูจะมีการตรวจตามากกว่าปกติ
กลางคืนอากาศยังหนาวเหมือนเดิม และเงียบมากไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงลมที่พัดผ่านพื้นดินที่แตกระแหง และต้นไม้ที่แห้งตายประปราย
ดอนนอนอยู่อยู่ในกรง และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา นักโทษส่วนใหญ่หลับไปแล้ว แต่ก็มีบางคนที่สังเกตเห็นท่าทีของผู้คุมและเริ่มตื่นตัวระวังตัว ‘ยังไงซะ นักโทษพวกนี้ก็ต้องมีคนที่ฉลาดบ้างละนะ’
เขาเดาว่าน่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นคืนนี้แน่นอน
ไม่ต้องรอนานนัก เมื่อถึงเที่ยงคืนช่วงที่อากาศหนาวที่สุด มีหมอกลงหนา ก็มีเสียงดังมาจากใต้ดิน
เสียงดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆเหมือนกับเสียงฟ้าร้อง พื้นดินก็สั่นสะเทือนอย่างแรง จากสิ่งที่เกิดขึ้นดอนไม่อาจจะจินตนาการได้เลยว่าสัตว์ตัวนี้มันจะใหญ่แค่ไหน
ผู้คุมเริ่มกระโดดขึ้นไปอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่กันแล้ว นักโทษบางส่วนนั้น พยายามไปใกล้ผู้คุมให้มากที่สุดนักโทษที่นี่ เป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น อาจจะมีบางส่วนที่มีร่างกายเทียบได้กับนักรบฝึกหัด แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คุมมีสีหน้าจริงจังได้นั้นก็ต้องหน้ากลัวเป็นอย่างมากแน่ ๆ และทางรอดเดียวของพวกเขาก็คือ การอยู่ใกล้ผู้คุมให้มากที่สุด แต่นักโทษถูกล่ามไว้ที่รถม้า
นักโทษกลุ่มหนึ่งพยายามดึงกุญแจมือออก มันทำให้เกิดเสียงดังของโซ่กระทบกัน
ทันใดนั้นพื้นใต้เท้าของพวกเขาก็นูนออกมาและหนอนสีขาวขนาดยักษ์ใหญ่เท่ารถบัส ยาว 10 เมตรก็พุ่งขึ้นมา กลืนนักโทษลงไปทั้งตัวและมุดลงดินไปอย่างรวดเร็ว รถม้าที่ผูกนักโทษไว้นั้นแตกกระจายออกทันที นักโทษที่เหลือของรถนั้น กระเด็นไปคนละทิศทันที
ภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำเอานักโทษที่อยู่รถม้าคันอื่นตกใจกลัวจนฉี่แตกหน้าซีดทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมานั้นน่ากลัวยิ่งกว่า หนอนขนาดท่อนแขน ไปจนถึง ขนาดเท่ารถบัส ทยอยกันออกมาจากหลุมเกือบหนึ่งร้อยตัว และรีบไปกินนักโทษที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น
กลายเป็นเหตุการณ์ที่หน้าสยดสยอง เมื่อต้องเห็นตัวเองโดนกินแบบสด ๆ
“มันคือหนอนยักษ์แดนร้างมันกินเนื้อ ระวังด้วยมันมีราชาหนอนยักษ์ด้วย มันคือสัตว์ร้ายระดับ 3” หัวหน้าผู้คุมเรทมอนตระโกนออกมาพร้อมกับใช้ดาบฟันหนอนยักษ์ที่หลงฝูงออกมา
ผู้คุมเริ่มแบ่งทีมออกเป็น 3 คนจำนวน 3 กลุ่มไล่ฆ่านอนยักษ์อย่างมันเมา
ราชาหนอนยักษ์สังเกตเห็นผู้คุมที่ไล่ฆ่าพวกของตน ก็เรียกหนอนที่เหลือมุดลงดิน เปลี่ยนเป็นจู่โจมศัตรูจากพื้นดินแบบไม่ทันตั้งตัวแทน
ราชาหนอนยักษ์ดูเหมือนจะเริ่มมีสติปัญญาขึ้นมาบ้างแล้ว
ดอนสังเกตเห็นว่าเริ่มมีนักโทษตายมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในขณะเดียวกัน หนอนยักษ์ที่ตายมากขึ้นเช่นกัน ศพของพวกมันกลับถูกหนอนยักษ์ด้วยกันเองแย่งกินทันที
รถม้าที่ดอนอยู่มีหนอนยักษ์โผล่ขึ้นมาสามตัว โจมตีรถม้าที่นักโทษอยู่จนแตกกระจาย
เขาที่อยู่ในกรงกระเด็นไปกระแทกก้อนหินทั้งกรงจนกรงขังบิดผิดรูปทันที
ดอนที่อยู่ในกรงขังพยายามพยุงตัวขึ้นและงัดกรงเหล็กตรงที่เสียหาย เพื่อหนีขึ้นไปอยู่ที่สูงโดยเร็วที่สุด
ตอนนี้ไม่มีใครจะมาสนใจชีวิตคนอื่นมากนัก และเขาก็เริ่มแน่ใจแล้วว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ส่งคนมาจับตาดูเขา เพราะถ้าจับตาดูจริง ๆ คน ๆ นั้นจริงคงจะมาช่วยเขาไปแล้ว
ผู้คุมเริ่มที่จะถอยขึ้นไปที่สูงแล้วนักโทษที่เหลือรอดอยู่ก็รีบตามขึ้นไปทันทีด้วยความกลัว
เขางัดจนกรงเปิดออก ขณะที่กำลังจะออกจากกรงนั้น ใต้พื้นดินที่เขาอยู่ก็นู้นขึ้นมา
ดอนรีบกระโดดออกจากกรงทันที พอพ้นระยะ ราชาหนอนยักก็พรุ่งขึ้นมาเขมือบกรงลงไปทั้งกรง น้ำลายมันกระเด็นไปโดนพื้นหินด้านข้างก็เริ่มละลาย
“บ้าเอ้ย เกือบไป!!!”
ดอนเห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งขึ้นไปที่สูงทันที ข้างบนเป็นก้อนหินขนาดใหญ่หลายก้อนซ้อนทับกัน ทำให้หนอนยักษ์ ไม่อาจโผล่มาจากพื้นดินได้ พวกมันก็เริ่มที่จะไปล่าคนที่อยู่ข้างล่างแทน
เขามองกลับไปข้างล่าง เสียงกรีดร้องของคนที่หนีไม่ทันดังออกมาอย่างต่อเนื่อง มันราวกับนรกบนดิน
ข้างล่างเหลือแค่เรทมอนและผู้คุมสามคน ส่วนผู้คุมที่เหลือหนีขึ้นมาข้างบนแล้ว
หลังจากผ่านไปสักพัก ราชาหนอนยักษ์ก็คำรามออกมาและถอยหนีออกมาทันทีมันไม่ยอมต่อสู้กลับเรทมอนเลยตั้งแต่ต้นจนจบ บางทีมันอาจจะสัมผัสได้ว่าเรทมอนนั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่ามันเลย
อันที่จริงแล้วนั้น สัตว์พวกนี้ยังไม่ใช่สัตว์อสูรด้วยซ้ำ พวกมันเป็นแค่สัตว์ร้ายทั่ว ๆ ไปที่เจอได้ในแดนร้าง ถ้าพวกเขาเจอสัตว์อสูรก็คงจะตายยกกลุ่มทันทีแน่นอน
หลังจากรออยู่ข้างบนสักพักก็แน่ใจแล้วว่าพวกมันคงจะอิ่มกันแล้ว และจะไม่มาโจมตีอีกแล้วในคืนนี้
“ตรวจดูความเสียหาย” เรทมอนสั่งออกมาพร้อมกับเช็ดและเก็บดาบลง
“รายงานหัวหน้า ผู้คุมตายไป 2 นาย รถม้าทั้งหมดพังทั้งหมด ม้ารอดมาได้แค่ 7 ตัว ส่วนนักโทษนั้นเหลือแค่ 13 คน”
“ครั้งนี้พวกเราขาดทุนแล้ว” เรทมอนพูดด้วยความโกรธ เขาหันไปมองนักโทษทั้งหมดรวมถึงดอนที่นั่งหอบอยู่บนพื้นด้วย
หลังจากเก็บรวบรวมของที่ใช้ได้แล้วทุกคนก็ออกเดินทางต่อทันทีอย่างรีบร้อน เพราะไม่รู้ว่าพวกหนอนมันจะกลับมาล่าพวกเขาตอนไหน
ดอนเดินด้วยความเหนื่อยล้าและกัดฟันมองไปที่ยาบาที่ถูกล่ามด้วยโซ่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างแค้นใจ ถ้าไม่เป็นเพราะมันแย่งอาหารไปเขาคงไม่ต้องเดินไปหิวไปแบบนี้
ยาบารอดมาได้แบบปาฏิหาริย์มากตอนรถม้าถูกโจมตีนั้น ยาบากระเด็นขึ้นไปที่ก้อนหินพอดี ทำให้มันโชคดีรอดมาได้ ดั่งคำที่ว่าคนชั่วมักตายยาก
นักโทษสิบสามคนที่ถูกล่ามเป็นแถวยาว และผู้คุม แปดคนเดินทั้งกลางวันกลางคืนมาสองวันติดแล้ว ตอนนี้ทุกคนเหนื่อยล้ามาก แต่ยิ่งเป็นแบบนั้นผู้คุ่มก็ยิ่งเร่งเดินทางเพราะอีกไม่ไกลก็จะถึงคุกเหมืองนรกแล้ว
พระอาทิตย์ใกล้ที่จะตกดินแล้ว...
ดอนกล้มหน้าเดินด้วยเสียงหายใจที่เหนื่อยล้ามาก ๆ ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเขาไม่มีแรงเหลืออยู่แล้ว เขาเงยหน้ามองไปทางดวงอาทิตย์ตก ทันใดนั้นก็เห็นแสงไฟอยู่ไกล ๆ
ทั้งกลุ่มเดินมาหยุดที่เนินเขา มองลงไปในหลุมทันที่ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดหมายแล้ว
-------------------------------------------------------------------
จากผู้เขียน : อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเม้นติชมกันนะครับ ขอบคุณสำหรับทุก ๆ วิวที่เข้ามาอ่านนะครับ