ตอนที่ 42 จูบแรกของข้าก็ไม่เลวเหมือนกัน(18+)
ตอนที่ 42 จูบแรกของข้าก็ไม่เลวเหมือนกัน(18+)
ถ้ามันเป็นคำสั่งจากทางค่ายเขาก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่ดอนไม่มีทางที่ใจะให้คนในหน่วยของเขาไปโดยไม่เต็มใจอย่างแน่นอน
“อย่างที่มันบอกข้าได้รับภารกิจอื่นมาปรุงยามาแล้ว ดังนั้นพวกเจ้าตัดสินใจกันเอาเองว่าจะอยู่กลับข้าหรือออกไปสู้” ดอนกล่าว
หลังจากรออยู่สักพักเชร่าและชูเรียลก็ตัดสินใจว่าจะไปหน่วยกับกีเกล
ดอนไม่ได้แปลกใจเพ ราะเขารู้ว่าเป้าหมายของทั้งสองคนที่เข้ามาที่กองกำลังแห่งนี้คือการฝึกฝน พวกเขาต้องการต่อสู้เพื่อพัฒนาตนเอง
แต่ที่อยู่เหนือความคาดหมายคือ ซิเรีย เธอกลับตัดสินใจที่จะอยู่กับเขา
“เอายานี่ไปถือว่าเป็นของขวัญก็แล้วกัน” ดอนหยิบผงห้ามเลือด สูตรปรับปรุง 2 ขวดส่งให้กับเชร่าและชูเรียลคนละขวด เขาหวังว่ามันจะช่วยทั้งสองคนผ่านวิกฤตเป็นตายไปได้ เพราะดูแล้วเส้นทางที่ทั้งสองพี่น้องเลือกนั้นไม่ง่ายแน่นอน เมื่อไปกับอีเกลและอิกรีออน
“ตามข้ามาได้แล้ว! ชักช้าอยู่ได้” อีเกลกล่าวจนน้ำลายกระเด็นออกจากปากและหันหลังเดินออกไป ตอนแรกอีเก ลต้องการพามาทั้งหมดแต่ดอนเลือกที่จะให้พวกเขาตัดสินใจเองอีเกลก็ทำอะไรไม่ได้เพราะถึงอย่างไร ดอนก็เป็นศิษย์ประจำตัวแล้ว แต่เขาก็คิดว่าอย่างน้อยก็ได้สาวสวยมาด้วย 1 คนคงต้องต้อนรับกันหน่อย
“ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมา” ทั้งสองคนกล่าวแล้วเดินตามอีเกลไป
“เราก็ไปกันเถอะ” ดอนหันไปบอกกับซิเรียและเดินออกไปจากตรงนี้ทันที
หลังจากที่เดินออกมา เขาก็ไปแวะเอาวัตถุดิบปรุงยาผงห้ามเลือดและไปซื้อวัตถุดิบสำหรับสร้างยาผงห้ามเลือด สูตรปรับปรุง และยาผสานกระดูก เขาจะปรุงมันและขายแยกตั้งหาก ให้กับร้านขายยาไม่ก็ฝากขายกับร้านสมบัติสวรรค์ ไปทางเรือเหาะที่กลับเข้าไปในเมืองทุกวัน
เมื่อกลับมาที่ห้องใต้ดิน ดอนก็เข้าไปปรุงยาผงห้ามเลือดทันที ก่อนไป 3 ชั่วโมง เขาก็ปรุงยาผงห้ามเลือดออกมาได้ 30 ขวดอัตรานี้ถือว่าเร็วเป็นอย่างมาก
เขาให้ซิเรียเอายาไปให้กลับทางกองคลังและเอาวัตถุดิบสำหรับวันพรุ่งนี้มาด้วย เพราะเขาไม่อยากเสียเวลาเดินไปเดินกลับ
หลังจากนั้นเขาก็เตรียมปรุงยาผสานกระดูกและยาผงห้ามเลือดสูตรปรับปรุง
7 วันก็ผ่านไปข่าวจากแนวหน้าส่งเข้ามาที่ค่ายเป็นระยะดูเหมือนทางสหพันธ์จะทำส่งครามกับพวกลัทธิบูชาปีศาจอย่างรุนแรง
พวกลัทธิบูชาปีศาจ มันก็ยังไม่ได้แพ้อาจจะด้วยหลายเหตุผล แต่หนึ่งในนั้นคือมีคนทรยศหักหลัง
เสบียงที่ถูกส่งไปงวดล่าสุด ถูกปล้นบางส่วนที่ไม่สามารถออกไปได้ก็ถูกต้องเสมอ หลังจากสืบทราบก็รู้ว่าเป็นหนึ่งในอัศวินของกองทัพสหพันธ์
เขาได้แต่สงสัยว่าพวกลัทธิบูชาปีศาจ มันยื่นข้อเสนออะไรให้คนเหล่านี้ถึงได้ยอมทรยศ ‘หรือจะเป็นพลังของสายเลือด’
ดอนได้แต่สายหัวสลัดความคิดพวกนี้ออกไปก่อน เพราะสงครามตรงนั้นถึงแม้มันจะสงผลต่อภาพรวมแต่มันก็ไกลเกินสำหรับเขาที่จะเข้ารวม
ดอนหันกลับไปฟัง ซิเรียที่ตอนนี้เธอกำลังเราเรื่องพร้อมกับพยายามยั่วเขาอยู่
“ท่านดอนตอนนี้ที่ข้างนอกมีผู้อพยบเดินทางเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ว่าข้ายังไม่เห็นหน่วยของเชร่ากับชูเรียลกลับมาพวกเขาน่าจะไปเมื่องที่ไกลพอสมควร”
“อืม” ดอนได้แต่พยักหน้าเพราะตอนนี้ความสนใจเขาไม่ได้อยู่กับเรื่งที่ซิเรียเล่าเลยแต่มันอยู่บนเรือนร่างของเธอแทน
“ท่านดอน ดูเหมือนว่ายาที่ท่านให้ข้าไปขายจะมีคนต้องการที่จะซื้อเป็นจำนวนมาก ข้าได้ข่าวว่ามีบางคนถึงขนาดซื้อไปขายต่อก็มีตอนนี้ราคามันอยู่ที่ 10 ผลึกต่อขวดแล้ว และหลายคนกำลังตามหาท่านเพื่อที่จะได้รู้ว่าใครเป็นคนปรุงมัน” ซิเรียกล่าวพร้อมกับหยิบถุงผลึกพลังงานส่งให้ดอน
ที่ผ่านมาเขาขายยาผงห้ามเลือดสูตรปรับปรุงไปได้เยอะพอสมควรทำให้ได้ผลึกพลังงานมา เกือบ 3000 ก้อนบวกกับผลึกที่ได้มาจากภารกิจปรุงยาผงห้ามเลือดด้วยอีก 800 ผลึกและแต่มสงครามอีก 500 แต้มเขาเก็บแต้มสงครามไว้เพราะต้องการแลกเทคนิคการฝึกฝนพลังงจิตระดับ ปฐพี ซึ่งต้องใช้เติมทั้งหมด 5000 แต้ม เขายังขาดอีกเยอะ
“อืมขอบใจนี่ส่วนแบ่งของเจ้า จากนี้ให้หาตัวแทนจำหน่ายแล้วส่งไปขายที่เมืองอัสซาเมียทั้งหมด ระวังตัวด้วยถ้ามีปัญหาอะไรก็เรียกข้า” เขาหยิบผลึกพลังงานส่งให้ซเรีย 100 ชิ้น
เธอถึงกับยิ้มออกมาและเข้าไปจูบดอนทันที
ดอนตอนแรกก็ตกใจ แต่เขาก็จูบกลับไปโดยไม่เกรงใจเช่นกัน เขาเองก็เป็นผู้ชายอีกทั้งเธอก็เสนอตัวมาเอง
มือของเขาค่อย ๆ ลูปไร้ไปที่เอวจาก นั้นก็สอดมือเข้าไปภายในเสื้อ ผิวที่หน้าท้องของเธอมันลื่นและเรียบเนียนเป็นอย่างมาก เขาค่อย ๆ เลื่อนมือไปที่หน้าอกหน้าใจขนาดใหญ่คู่นั้นของเธอ เพียงแค่คิดว่าเขาสัมผัสกับตรงนั้นอยู่ก็รู้สึกร้อนไปทั้งตัวโดยเฉพาะช่วงล่าง ดอนจึงบีบมันอย่างนุ่มนวลทันที
“อ้า ๆ อื้อ” ซิเรียร้องออกมาด้วยเสียงที่เซ็กซี่มันยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นขึ้นไปอีก เขาจึงจูบเธออย่างเร่าร้อน
แต่หลังจากนั้นเขาก็พักตัวออกจากเธอ ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลา ทุกเวลาของเขามีค่ามาก ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียเวลากับเรื่องพวกนี้มากนัก
“ไว้คราวหลัง ตอนนี้เจ้าไปจัดการเรื่องที่ข้าบอกก่อนก็แล้วกัน”
ดอนหันไปกล่าวกับซิเรีย ที่ตอนนี้ดูจะอารมณ์ค้างเล็กน้อย เธอรีบเช็ดบากจากนั้นก็จัดแจงเสื้อผ้า “ค่ะ ท่านดอน”
“เฮ้อ” หลังจากที่ซิเรียดอนออกไปเขาก็ถอนหายใจและคิด ‘บุรุษไม่ว่าเก่งแค่ไหนก็มาจะถูกสยบด้วยสตรีเสมอ’
ดอนสายหัวและปรับอารมณ์ตัวเองจากนั้นก็เดินเข้าไปที่ห้องกลับเข้าไปที่ห้องปรุงยา แต่เขาก็หันกลับไปมองห้องของซิเรียอีกทีพร้อมเรียริมฝีกปากและคิดในใจว่า ‘จูบแรกในโลกนี้ของข้าก็ไม่เลวเหมือนกัน’
เขายกห้องใต้ดินให้กลับซิเรีย 1 ห้อง เพื่อที่เธอจะได้สะดวกมากยิ่งขึ้นในการจัดการธุระให้กลับเขา
เมื่อเข้ามาในห้องปรุงยา ดอนไม่ได้ปรุงยาแต่เรียกลูกบาศก์วิญญาณออกมาจากนั้นก็ใส่ผลึกทั้ง 3000 ชิ้นลงไปให้มันย่อยสลาย ดอนต้องการที่จะเลือนไปเป็นผู้ควบคุม ให้ได้ก่อนที่กองทัพเกสเพนสท์จะมาถึง
เพราะอาจารย์ของเขาติดต่อมาว่า อย่าออกไปข้างนอกค่ายพักในช่วงนี้ เพราะสถานะการภายนอกไม่สู้ดีนักดูเหมือนว่าจะมีเกสเพนสท์ระดับสูงอ้อมเข้ามาในเทือกเขาโบเมาท์
เขาได้แต่คิด ‘สถานะการที่ว่าเลวร้ายนั้นคืออะไร มันคงไม่ใช่ฝูงเกสเพนสท์ตาดำหรอกนะ’
ตอนนี้เขารู้สึกว่าสถานการณ์ของตัวเองไม่มั่นคงเป็นอย่างมาก ถ้าเกิดพวกมันบุกขึ้นมาบนยอดเขา โดยเฉพาะเกสเพนสท์ตาดำที่มีพลังเทียบเท่ากับจอมอาคมระดับผู้สร้าง
คงจะหวังพึ่งแต่จอมอาคมที่ประจำการอยู่ที่นี่ไม่ได้อย่างแน่นอนเพราะ เกสเพนสท์ตาดำต้องไม่มีแค่ตัวเดี่ยวแน่นอนแล้วไหนจะพวกลัทธิบูชาปีศาจที่ควบคุมพวกมันอีก
“สิ่งเดียวที่ข้าหวังพึ่งได้ก็คือพลังของตัวเอง”
หลังจากที่รอลูกบาศก์วิญญาณย่อยสลายผลึกเสร็จ ดอนก็เข้าไปในอาณาเขตวิญญาณของตนและให้ลูกบาศก์วิญญาณย่อยรูนศิลาทมิฬ 1 ตัวที่มีความสมบูรณ์ถึง 97 เปอร์เซ็น จากนั้นสร้างมันขึ้นมาใหม่ในลูกบาศก์วิญญาณแต่ทันใดนั้นมันก็แสดงข้อความ [ รูนศิลาทมิฬ ระดับมนุษย์ ความสมบูรณ์ 97 เปอร์เซ็น สามารถปรับปรุงต่อได้ ใช้ 20000 พลังงาน ระยะเวลา 1 สัปดาห์]
[ปรับปรุงรูนศิลาทมิฬ ใช่/ไม่]
“ข้าขอดูผลลัพธ์รูนศิลาทมิฬที่ปรับปรุง”
[รูนศิลาทมิฬระดับมนุษย์ ปรับปรุง มีความสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็น เพิ่มพลังให้กับคาถาธาตุดิน 1 เปอร์เซ็น]
ดอนรีบเปลี่ยนแผนการทันที ตอนนี้เขายังไม่สามารถซื้อเทคนิคการฝึกฝนพลังจิตระดับปฐพีได้ แต่ถ้าเขาสามารถสร้างรูนศิลาทมิฬที่ปรับปรุงนี้ได้ มันก็จะสามารถเพิ่มพลังให้กับคาถาธาตุดินได้เช่นกัน
ซึ่งนั้นจะเป็นการข้ามระดับของรูน เหตุที่รูนระดับปฐพีต่างจากรูนระดับมนุษย์ ก็เพราะว่ารูนระดับปฐพีสามารถส่งผลในการเพิ่มความสามารถให้แก่คาถาได้นั่นเอง
แต่ตอนนี้เขาสามารถมีรูนระดับมนุษย์ที่เพิ่มพลังได้เหมือนกับรูนระดับปฐพีมันก็ไม่ต่างกันมากนัก รูนศิลาทมิฬ 1 ตัวเพิ่มพลังคาถาธาตุดินได้ 1 เปอร์เซ็น ถ้า 75 ตัวก็ 75 เปอร์เซ็น แค่คิดว่าคาถาหอกดินมีพลังเพิ่มอีก 75 เปอร์เซ็นเข้าก็ยิ้มออกมาแล้ว
“ใช่” ดอนรีบตอบใช่ทันที
ต้องรอ 7 วัน ดังนั้นเขาจึงเร่งปรุงยาหวงห้ามเลือดและยาประสานกระดูก สูตรปรับปรุง เพราะหลังจาก 7 วันเขาต้องสร้างรูนอีก 75 ตัว เพื่อเข้าสู้ระดับผู้ควบคุม มันต้องใช้พลังงานที่มากกว่าเดิมแต่ ซึ่งขั้น ต่ำต้องใช้ผลึกพลังงานถึง 7500 ก้อนเลยที่เดี่ยว
หลังจากนั้นยาของโลกวิญญาณก็ถูกสร้างและส่งไปขายที่ร้านสมบัติวิญญาณเป็นจำนวนมาก ไม่มีใครรู้ว่าใครคือเจ้าของสัญญาลักษณ์นามโลกวิญญาณ แต่น่าแปลกที่มันมีแค่ยาพื้นฐานสองชนิดเท่านั้น
ดังนั้นหลายคนจึงเดาว่าน่าจะเป็นแค่นักปรุงยาหน้าใหม่ที่บังเอิญได้รับมรดกปรุงยา และสูตรยาผงห้ามเลือดและยาผสานกระดูกมา นักปรุงยาหลายคนจึงพยายามแกะสูตรยาผงห้ามเลือดและยาผสานกระดูกของโลกวิญญาณ
แต่ก็มีหลายองค์กรที่คิดว่าทำไมพวกเขาต้องมานั้งเสียเวลาแกะสูตรสู้ไปจับตัวคนปรุงมาถามเอาเลยไม่ไวกว่าหรือ
เมื่อไปถามที่ร้านสมบัติสวรรค์ สาขาอัสซาเมีย แต่ก็ไม่ได้รับเบาะเเสอะไร เพราะร้านสมบัติสวรรค์นั้นจะต้องปกป้องลูกค้าของต้นเองอย่างแน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งยาที่สามารถซื้อได้แค่ร้านนี้มันก็ยิ่งทำให้พวกเขาได้รับกำไรมากเท่านั้น ตาบใดที่นักปรุงยาคนนั้นยังคงขายผ่านร้านของพวกเขา แล้วทำไมต้องไปขายหานทองคำให้กับใครก็ไม่รู้ด้วย
“ท่านดอน ข้าว่าอีกไม่นานพวกมันจะต้องรู้แน่ ๆ ว่าข้าคือคนที่ขายยาของนักปรุงยาโลกวิญญาณและอีกไม่นานมันก็อาจจะสืบมาถึงท่านได้ถ้ายังทำแบบนี้อยู่” ซิเรียกล่าว ช่วงนี้เธอต้องระวังเป็นอย่างมากในการติดต่อกับตัวเเทนขายจากร้านสมบัติสวรรค์ ทำให้เธอดูเหนื่อย ๆ
“อืม แล้วข้าจะคิดหาวิธีก็แล้วกัน เจ้าไปพักเถอะ” ดอนกล่าวเสร็จก็ลุกขึ้นและออกจากห้องใต้ดินทันที
ตอนนี้เขาต้องไปหาอาจารย์อีวานที่ส่งข้อความมาก่อน
หลังจากมาถึงห้องในวิหารเก่า อีวานก็กล่าวทันที “เจ้าศึกษาสมุดบันทึกที่ข้าให้ไปแล้วใช่หรือไม่”
“ศึกษาแล้วครับ อาจารย์” ดอนตอบด้วยความเคารพ
“ตอนนี้ความสามารถในการปรุงยาเจ้า คงจะสามารถสอบเป็นผู้ช่วยนักปรุงยาได้แล้วที่สมาคมเล่นแร่แปรธาตุ ไว้เดี่ยวจบเรื่องนี้เจ้าก็ลองไปสอบดู”
“ครับ อาจารย์” ดอนพยักหน้าตอบ
สมาคมเล่นแร่แปรธาตุ คือผู้กำหนดมาตรฐานขึ้นมา สมาคมนี้มีประวัติมายาวนานไม่แน่ชัด
นักปรุงยาก็ถือเป็นหนึ่งในการเล่นแร่แปรธาตุ โดยระดับจะแบ่งออกเป็นเหมือนกันคือ
ผู้ช่วย
นักปรุงยาก็มี
ขั้นต้น
ขั้นกลาง
ขั้นสูง
ปรมาจารย์นักปรุงยา ก็แบ่งเป็น
ขั้นปรมาจารย์
ขั้นปรมาจารย์สรรสร้าง
ขั้นปรมาจารย์ชีวิต
อาจารย์ของเขาก็อยู่ในขั้นปรมาจารย์ ที่สามารถปรุงยาระดับ 4 ได้ เขาไม่รู้ว่ายาระดับ 4 มันมีค่าแค่ไหน แต่มันต้องเป็นสมบัติแน่นอน เพราะมันถูกใช้โดย จอมอาคมระดับ 4 เจ้าแห่งเวท
การที่เป็นนักปรุงยานั้นไม่จำเป็นต้องมีพลังที่สูงตามยาที่ปรุงก็ได้เพราะดูย่างอาจารย์ของเขานั้น เป็นแค่จอมอาคมระดับสอง ผู้ทำลายก็ยังเป็นปรมาจารย์ได้ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับฝีมือ
แต่ระดับพลังก็สำคัญเช่นกัน เพราะต่อให้มีฝีมือสูงแค่ไหนก็ต้องมีขีดจำกัดเช่นเดี่ยวกับอาจารย์ของเขาที่ติดอยู่แค่ระดับปรมาจารย์เท่านั้น
“ข้าคงต้องออกไปจัดการบางสิ่ง คงไม่อยู่ประมาน 1 ปี ถ้าที่นี่เกิดบีปัญหาขึ้นมา หรือพวกลัทธิบูชาปีศาจบุกเข้ามาที่เทือกเขาโบเมาท์แล้วทางกองกำลังของสถาบันจอมอาคมเอราธาเมียไม่สามารถต้านได้ เจ้าจงหนีไปกับเรือเหาะ โดยแสดงตราสัญญาลักษณ์ที่ข้าให้ไปกับเรือเหาะพวกนั้น มันจะให้จะพาเจ้าหนีไปด้วยอย่างแน่นอน”
“ครับท่านอาจารย์” ดอนขอบคุณมีความจริงใจอย่างน้อย ถ้าเกิดเหตุการณ์วิกฤตขึ้นมาเขาก็ยังมีทางหนีทีไล่
“ข้าต้องไปแล้ว” ปรมาจารย์อีวาน ริสโตยืนขึ้นพร้อมกับเดินออกไปกับผู้คุมกฏ
“ขอให้ท่านเดินทางปลอดภัย” ดอนกล่าว
..................................................................................
Witterry : ถ้าชอบก็อย่าลืมคอมเม้นมาบอกกัน หรือจะกดถูกใจ ก็ได้นะครับ
ฝากกดติดตามให้ด้วยนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ทุกวิวนะครับ