ตอนที่ 36 ปะทะโบอางูยักษ์
ตอนที่ 36 ปะทะโบอางูยักษ์
ทันทีที่เขาลืมตามา ก็รู้สึกจนสายตาของหลายคนรอบข้างเรามา
“หัวหน้า ฟื้นแล้ว!” ชูเรียลตะโกนออกมาทันที
“ท่านเป็นอะไรหรือไม่ ?” ซิเรียจับมือเขาอยู่ถามด้วยความกังวลเล็กน้อย
ถ้าเกิดดอนเป็นอะไรขึ้นมา พวกเขาจะต้องลำบากแน่นอน
“ข้าไม่เป็นอะไร ห้ามทุกคนพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด!” เขาสั่งด้วยเสียงเข้ม
ถ้ามีคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายในห้องทดลองเก่า เขาคงไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับคนที่มาตรวจสอบได้ว่าหลุมสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ขนาดยักษ์เกิดขึ้นได้อย่างไรจากผู้ใช้พลังงานฝึกหัด ตอนแรกเขาคิดว่าจะฆ่าทั้ง 4 คนทิ้งดีไหมเพื่อปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้น ยิ่งคนรู้หน่อยได้ไหมยิ่งดีเท่านั้น
แต่เขาก็เปลี่ยนใจเพราะถึงอย่างไรทั้ง 4 คน ก็ยังถือว่าเป็นคนในหน่วยของเขา
เมื่อเห็นสายตาที่น่าขนลุกของดอน ทั้ง 4 คนก็ตอบรับด้วยเสียงเข้มทันที “ครับ / คะ หัวหน้า”
“เอาไปเตรียมตัวได้แล้วเราจะกวาดล้างพื้นที่นี้เสร็จภายใน 2 วันจากนั้นก็เดินทางไปที่ยอดเขาโบเมาท์ทันที” เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกไปเตรียมตัวทันที
หลังจากนั้นสักพักทั้งกลุ่มก็ออกจากถ้ำและตามล่าเกสเพนสท์ภายในระยะ 30 กิโลจนหมด ถึงแม้จะมีบางตัวที่หลงเหลืออยู่บ้างแต่ก้ไม่ถือว่าเป็นภัยคุกครามมากนัก ด้วยความที่เขาเอาหัวใจของเกสเพนสท์ทั้งหมดให้ลูกบาศก์วิญญาณกลืนกินจนหมด ทำให้เขาต้องมาเริ่มสะสมหัวใจของเกสเพนสท์ใหม่เพื่อใช้แลกกับแต้มสงคราม
ตกกลางคืนพวกเขาก็กลับเข้าไปพักในถ้ำและเตรียมตัวที่จะเดินทางต่อทันทีในตอนกลางวันของอีกวัน
ในคืนนี้ดอนให้ เคน ออกไปล่าเช่นเคยเพื่อเติมเต็มพลังงานวิญญาณให้แก่โลกลูกบาศก์วิญญาณ
เนื่องจากพลังงานทั้งหมดถูกระบบโลกลูกบาศก์วิญญาณใช้ไปจนหมดทำให้ตอนนี้ไม่มีพลังงานวิญญาณพอที่จะหล่อเลี้ยงพืชหลายชนิดจนทำให้พวกมันเริ่มที่จะตายลงบ้างแล้ว
เช้าวันนี้พวกเขาตื่นขึ้นมาแล้วจัดการธุระทั้งหมดเสร็จแล้ว เตรียมตัวที่จะออกเดินทางแต่ดูเหมือนว่าอากาศจะไม่เต็มใจมากนัก เมฆฝนขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่วเทือกเขาโบเมาท์
ถึงเขาจะรู้ว่าฝนกำลังจะตก แต่ถึงยังไงก็ต้องออกเดินทางอยู่ดีเพราะมันใกล้ครบกำหนดเวลาในการรวมตัวกันแล้ว
เราจะผ่านไป 1 ชั่วโมงก็เดินมาถึงระยะ 30 กิโลเมตรที่หน่วยของเขาดูแล ใน 30 กิโลที่ผ่านมาเกสเพนสท์ทั้งหมดถูกกวาดล้างไปแล้ว แต่เขายังไม่รู้ว่าหน่วยอื่นจะกวาดล้างพวกมันไปหมดหรือยัง
โดยเฉพาะในตอนนี้ซึ่งสภาพอากาศที่เย็นมากจากกลุ่มเมฆขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเหนือผืนป่าทำให้แสงแดดไม่สามารถส่องลงมาได้
เมื่ออุณหภูมิหนาวเย็นพอสมควรพวกมันอาจจะตื่นขึ้นมาได้ตลอดเวลา
พวกเขารีบเร่งเดินทางกันต่อก่อนที่ฝนจะตกลงมา แต่ผ่านไปได้สักพักสายฝนก็กระหน่ำลงมาราวกับท้องฟ้ารั่วไม่มีผิด
ระยะการมองเห็นที่ถูกบดบังด้วยสายฝน ทำให้ต้องระวังตัวเป็นอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีอะไรบ้าง
“หัวหน้าเราจะหลบฝนก่อนหรือไม่?”ชูเรียลถาม
“เดินทางในช่วงที่ฝนตกอันตรายพอสมควร ข้าว่าเราน่าจะหยุดพักกันก่อน” ฮอคกล่าวเสริม
“ไม่ เราช้ากว่าที่กำหนดมากแล้ว ใช้ผ้าคุมและเดินทางกันต่อ” ดอนสั่ง ทันทีอันที่จริงแล้วเขาไม่ได้กลัวว่าจะเดินทางล่าช้า แต่สิ่งที่เขากลัวคือ พวกเกสเพสนท์ที่ตื่นขึ้นมา และที่สำคัญศัตรูเขาไม่ได้มีแค่พวกมัน แต่ยังมีสัตว์ร้ายที่อยู่ในป่านี้อีก
ทั้ง 4 คนใช้ผ้าคลุมเพื่อป้องกันสายฝนที่ตกลงมาและเพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกาย ส่วนตัวของนั้นมีผ้าคลุมสีเทาของผู้ใช้พลังงานฝึกหัดอยู่กับตัวอยู่แล้ว ซึ่งมันสามารถป้องกันสายฝน และรักษาอุณหภูมิของร่างกายได้เป็นอย่างดี
บริเวณที่เขาอยู่ตอนนี้มันเป็นป่าต้นไม้ขนาดใหญ่ มันมีขนาดใหญ่ถึงขนาดที่ว่าใช้คนถึง 40-50 คนออกก็ยังไม่พ้นรอบวงของต้นไม้
บางต้นมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าพวกมันเรียงซ้อนกัน จนดูเหมือนบางครั้งก็กลายเป็นพื้นดิน ตอนนี้เขากำลังวิ่งอยู่บนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ที่มีความกว้างถึง 5 เมตร
เขาคำนวณระยะทางตามแผนที่แล้ว พวกเขาน่าจะผ่านพื้นที่ของหน่วยอื่น ๆ มาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 กลุ่ม แต่กลับไม่พบหน่วยอื่น ๆ ไหนเลย ดูเหมือนว่ากลุ่มอื่นจะออกเดินทางไปก่อนแล้ว
ขณะที่เขาวิ่งอยู่นั้นจู่ ๆ ฮอคที่นำทาก็หยุดลงกระทันหัน ด้วยความที่เขาเคยเป็นนายพรานมาก่อนทำให้มีสัญชาตญาณระวังภัยในป่าสูงมาก
“พวกเราคงต้องอ้อมไป ข้างหน้ามีโบอาอยู่” ฮอคชี้ไปที่ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า
ดอนมองไปตามที่ฮอคชี้ มันก็เป็นแค่ต้นไม้ธรรมดาแต่เมื่อมองดูดี ๆ จะเห็นว่ามีเถาวัลย์ขนาดใหญ่ปกคลุมต้นไม้ บางเส้นมันเคลื่อนที่อย่างช้าๆ หลังจากที่สังเกตดี ๆ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ต้นเถาวัลย์แต่เป็นงูยักษ์
“มันคือโบอา งูยักษ์ สัตว์ร้ายระดับ 2 สมัยที่ข้าเป็นนายพราน เคยเห็นมันไกล ๆ เท่านั้น ข้างหน้าคงจะมีอีกหลายตัว ที่นี่อาจะเป็นรังของมันก็ได้ เราควรจะรีบออกไป” ฮอคอธิบาย
แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้ไปไหน ทันใดนั้นจิตสัมผัสของเขาก็สัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าที่พุ่งเข้ามา
“ระวัง!!!”
โบอา ขนาดยักษ์พุ่งงับเข้ามาใส่กลุ่มที่พวกเขาอยู่ ทุกคนกระโดดหลบทันทีด้วยสัญชาตญาณ แต่ดูเหมือนว่าคนที่จะตอบสนองช้าที่สุดจะเป็นชูเรียล
ชูเรียลถูกกระแทกเข้าที่ไหล่ขวากระเด็นตกลงไปที่พื้นดินพร้อมกับกิ่งไม้ขนาดยักษ์ที่แตกกระจายหักลงไปด้วย แขนเขาหักทันที จนเห็นกระดูกเเขนที่โผล่ออกมาเลือดที่ไหลไปตามน้ำไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นหรือตาย
“ชูเรียล!!!” เชร่าที่เห็นก็รีบกระโดดลงไปช่วยทันที
“ระวังมันเป็นสัตว์ร้ายระดับ 3 !” ดอนรีบตะโกนบอกแต่เชร่าก็ไม่ได้สนใจ “บ้าเอ้ย! ฮอคดึงความสนใจมันไว้กับข้า ซิเรียรีบเข้าไปช่วยเชร่าพาชูเรียลออกมา!”
“คะ” ซิเรียตอบกลับแล้ววิ่งตามเชร่าไป
ขณะที่ งูยักษ์กำลังจะโดนตีชูเรียลที่วิ่งเข้า มันก็ถูกโจมตีด้วยลูกศรเข้าไปที่หัว
พลังโจมตีของลูกศรไม่สามารถทะลวงผ่านเกล็ดของมันได้ จึกไม่ได้สนใจมากนัก
“ตูม! ตูม! ตูม!”
แต่ขณะที่มันเผลออยู่นั้น ก็ถูกหอกดิน 3 เล่มของดอนยิงเขาไปที่หัว
“ฟี้ทททททททททท !” มันร้องด้วยความเจ็บปวดราวกับเสียงกาน้ำเดือด
เขาเรียกมือขึ้นมาปิดหูทันทีด้วยความปวด เมื่อเอาออกมาก็มีเลือดไหลออกมาจากหูติดอยู่ที่มือของเขา
ที่หัวของมันมีรูแผลขนาดใหญ่ อยู่ 3 แห่ง ดูเหมือนงูยักษ์มันจะโกรธมาก ที่ได้รับบาดเจ็บจากเจ้าสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ พวกนี้ที่มันมองว่าเป็นค่าอาหารเท่านั้น
มันพุ่งตรงมาหาดอนทันที
“ฟานามิล มิเลมิส(กำแพงผู้พิทักษ์ จงปกป้องข้าดังขุนเขา)
” ดอนรีบร่ายคาถากำแพงผู้พิทักษ์ถึง 3 ชั้นทันที ป้องกันการโจมตีของมัน
กำแพงทั้ง 3 ชั้นถึงกับพังทลายลงทันที ถึงแบบนั้นเขาก็ยังสามารถหลบการโจมตีของมันได้อย่างฉิวเฉียด
ดอนที่หลบไปดานข้างก็ยิงยิงหอกดินออกไปอีกเล่มเข้าไปที่ตาข้างขวาของมัน ออกมาถึงกับระเบิดทันทีถึงแบบนั้นดูเหมือนว่าจะหอกดินจะยังไม่รุนแรงพอที่จะทะลุไปถึงสมองมัน
โบอางูยักษ์ มันดิ้นอาละวาดไปรอบ ๆ ความเจ็บปวด เขาและฮอคอาศัยจังหวะนี้ รีบไปรวมตัวกับคนอื่น
ตอนนี้ชูเรียลถูกแบกออกมาโดยเชร่าและซิเรีย กำลังวิ่งหนีออกมาอย่างสุดชีวิต
ด้านหลังตามมาด้วยดอนและฮอค ทั้งกลุ่มดูโล่งอกเป็นอย่างมาก ที่นี่ลอดออกมาจากงูยักษ์ได้
“ไปรีบออกจากตรงนี้ก่อนเดี่ยวมันก็ตามมา!” เขาตะโกนบอกทุกคน แต่แล้วก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะไม่มีเสี่ยงตอบกลับมาจากฮอคที่วิ่งตามหลังมา
เมื่อหันกลับไปมองข้างหลังเขาก็ถึงกับตกใจ เพราะตอนนี้ฮอคถูกโบอา งูยักษ์อีกตัวรัดตลอดทั้งร่างไว้อย่างแน่น
“อั๊ก ๆ อ๊าก ๆ” ฮอคร้องด้วยความเจ็บปวด
ด้วยแรงที่มันรัด กระดูกทั้งร่างถูกบด เลือดไหลทะลักออกมาจากทางปาก หู และตาที่หลุดออกมาของฮอคอย่างต่อเนื่อง มันกัดเข้าที่หัวของฮอคจากนั้นก็สะบัดร่างของเขาลอยขึ้น และปากกลืนร่างทั้งร่างไป ทั้งอย่างนั้นเลย
“งูบัดซบเอ้ย !”ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจเท่านั้นเขาก็สูญเสียคนไปหนึ่งแล้ว
“ไปรีบไปต่อ!” ตอนนี้เขาไม่สามารถช่วยอะไรฮอคได้แล้ว เขาหันหลังไปดูบริเวณที่ฮอคตายเป็นเป็นครั้งสุดท้ายแต่แล้วก็ต้องเห็นวิญญาณของชายวัยกลางคนยืนอยู่มันร้องด้วยความเจ็บปวด แบบเดียวกับสภาพก่อนที่ฮอคจะตาย
“วิญญาณของฮอค!!!” เขาถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ
[ตรวจพบวิญญาณที่สามารถแย่งชิงได้ ดำเนินการหรือไม่]
[ใช่/ไม่]
“ใช่”เขารีบตอบตกลงทันที ดูเหมือนว่านี่จะเป็นวิธีการแย่งชิงวิญญาณจากพิภพแห่งนี้
แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่หวัง
[ดำเนินการล้มเหลว….]
[ไม่สามารถแย่งชิงวิญญาณได้ เนื่องจากระยะห่างเกินไป ท่านต้องทำการสัมผัสกับวิญญาณโดยตรง...]
‘เจ้าจะบ้าหรือให้ไปนั้น’ ดอนได้แต่บ่นลูกบาศก์วิญญาณและตัดใจในวิญญาณของฮอควิ่งหนีออกไปทันที
ดูเหมือนว่าพวกมันยังไม่อิ่มจึงได้ตามกลุ่มของพวกเขามาทันที โดยเฉพาะงูยกษ์ ตัวที่ตาบอดเพราะหอกของดอน มันตามกลุ่มของเขาอย่างไม่ลดละ และร้องออกมาเป็นระยะด้วยความโกรธแค้น
ด้วยสายฝนที่ตกลงมาทำให้งูยักษ์ติตามความร้อนของพวกเขาอยากยากลำบาก งูตัวที่กินฮอคก็หยุดตามล่าเพราะมันออกมาจากอาณาเขตของตนเองแล้ว
ส่วนงยักษ์ตาบอดดูเหมือนมันจะไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว มันตามพวกเขามาอย่างบ้าคลั่ง ทุกที่ที่มันเลื้อยผ่าน ต้นไม้จะถูกทำลายลงไปทันทีด้วยแรงกระแทกจากความเจ็บปวด
ดวงตาของมันเลือดไหลไม่หยุด แต่ด้วยพลังชีวิตของสัตว์ร้ายที่มหาศาลทำให้มันยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าจะเสียเลือดไปมากก็ตาม
“พวกเราจะทำอย่างไรดี?” เชร่าถามออกมาด้วยความกังวลพร้อมกับใช้เสื้อกดไปที่บาดแผลห้ามเลือด เมื่อเห็นงูยักษ์ตาบอดตาบอดตามมา
ตอนนี้เธอเป็นห่วงน้องชายของเธอมาก ถ้าชูเรียลน้องชายของเธอยังไม่รีบหยุดพัก และทำแผลเขาอาจเสียเลือดตายได้
“วิ่งต่อไป!!! ไม่งั้นก็ตายอยู่ที่นี่!” ดอนพูดด้วยเสียงที่เย็นชา ตอนนี้เพียงแค่เอาตัวเองให้รอดก็เต็มกลืนมากพอแล้ว แล้วเขาจะยอมไปสนใจทำไมอีกว่าใครจะอยู่หรือตาย
ด้วยสภาพตอนนี้เขาต้องช่วยตัวเองให้รอดก่อนถึงจะไปช่วยคนอื่นได้ และไม่สามารถพึ่งพาแสงก่อเกิดที่ไม่มีการตอบสนองที่แน่นอนได้
ถ้าเขาตายทุกอย่างก็จบ ไม่มีการไปต่ออะไรทั้งนั้น
เชร่าที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่กัดฟันและวิ่งตามดอนไป ส่วนซิเรียเองก็ที่ช่วยแบกชูเรียลก็หันกลับมากล่าว “ถ้าทุกอย่างถึงวิกฤตจริง ๆ ข้าคงต้องทิ้งชูเรียล ส่วนเจ้าก็เลือกเอาแล้วกัน”
เชร่าไปได้นิ่งเงียบไป เธอเข้าใจดีว่าไม่สามารถโทษดอนและซเรียได้ ถ้าเป็นเธอเธอก็ทำแบบเดียวกัน ไม่มีใครยอมเอาชีวิตมาทิ้งผู้ช่วยคนแปลกหน้า ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่หน่วยเดียวก็ตาม
แต่ตอนนี้คนที่เธอต้องช่วยกับเป็นน้องชายซึ่งเป็นความหวังของพ่อเธอที่จะต้องเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์
………………………...
พวกเขาหนีมาจนกระทั้งเป็นเวลาเย็น ท้องฟ้าเริ่มมืดแต่สายฝนก็ยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ตูม ! ตูม ! ตูม !
ตอนนี้ดูเหมือนว่างูยักษ์ตาบอดจะหาพวกเขาไม่ มันจึงอาละวาดทำลายพื้นป่าอย่างต่อเนื่อง แต่ก็คงจะอีกไม่นานที่มันจะเจอตัวพวกเขาเพราะตอนนี้เสียงของมันใกล้ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“รีบห้ามเลือดของชูเรียลซะเรามีเวลาอีกไม่มาก มันจะตามกลิ่นเลือดของชูเรียลมา” ดอนหันไปบอกเชร่าทันทีพร้อมกับโยนผงห้ามเลือดไปให้
เชร่ามองไปที่ดอนด้วยความรู้สึกขอบคุณและรีบรับผงห้ามเลือดมา
เธอใส่ผงห้ามเลือดไปที่บาดแผลและดันกระดูกแขนที่โผลออกมากลับเข้าที่เดิมของมัน
“อ๊าก ๆ” ชูเรียลร้องขั้นมาด้วยความเจ็บปวด สีหน้าของเขาขาวซีดมากจากการที่สูญเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก
“เอาผ้าให้เขากัดไว้ ก่อนที่งูยักษ์จะได้ยินเสียงร้อง” ดอนรีบสั่งให้
หลังจากผ่านไปสักพักเลือดที่แขนของชูเรียลก็หยุดไหล
“รีบไปต่อ ข้างหน้าเป็นหน้าผา มีเป็นทางเชื่อมไปอีกฝั่งอยู่ น่าจะสลัดมันผ้น” ดอนสั่งพร้อมกลับเก็บแผนที่และลุกขึ้น เตรียมไปต่อทันที
-----------------------------------------------------------
จากผู้เขียน witterry : อ่านจบแล้วอย่าลืม comment มาคุยกันบ้างนะ