ตอนที่ 33 เที่ยงวันแห่งการฆ่า
ตอนที่ 33 เที่ยงวันแห่งการฆ่า
“ตูม! ตูม!! ตูม!!!”
หอกยอกเข้าไปที่ ศีรษะ หน้าอก ต้นขาขวาของมัน ด้วยแรงของหอกดินทั้ง 3 ร่างของมันแยกออกเป็น 5 ส่วน
“ขอบคุณ ท่านหัวหน้า” ซิเรียพูดด้วยเสียงที่เหนื่อยล้าและตกใจ
ถ้าเมื่อสักครู่ไม่มีกำแพงดินมาขวางระหว่างเธอกับเกสแพนสท์ เธอคงตายไปแล้ว
ดอนพยักหน้าตอบ หลังจากนั้นเขาก็หันกลับไปช่วย ฮอคและพี่น้องฝาแฝด ฆ่าเกสเพนสท์อีก 2 ตัวและดูเหมือนว่าจะมี 3 ตัวที่หนีไปได้
นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกมันรู้ว่าไม่สามารถสู้ได้ จึงได้หลบหนี โดยไม่ลังเลทันที ตั้งแต่ที่เกสเพนสท์ตัวเลขกระโดดลงมาจากต้นไม้จนถึงตอนสุดท้ายที่ตายด้วยหอกของเขาใช้เวลาทั้งหมดเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น
“รวบรวมศพของเกสเพนสท์ทั้งหมด ไปไว้ที่ข้างที่พักของข้า แล้วไปพักผ่อน เราจะเริ่มออกล่าพวกมันในตอนเช้า” เขาพูดก่อนแล้วกลับมาเดินเข้าไปในที่พักทันที
เขาไม่ได้กลัวว่าพวกมันจะกลับมาโจมตีอีก พวกมันไม่ได้โง่ที่จะเข้ามาโจมตีโดยไม่สนใจชีวิต มันน่าจะกลับไปรวมกับตัวอื่นๆ มามากกว่านี้และเข้าโจมตีเขาเลยกลางคืนของอีกวัน
แต่มันจะไม่มีโอกาสนั้น เพราะพรุ่งนี้ เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น เขาจะออกไปล่าพวกมันแทน
การต่อสู้นี้ดอนใช้พลังจิตและพลังงานไปเกือบครึ่ง จึงรู้สึกเหนื่อยเป็นอย่างมาก
เขานำยาพลังงานที่ซื้อออกมา 1 ขวด ยาพลังงานขวดนี้มันมีลักษณะสีฟ้าใสบรรจุอยู่ในขวดขนาดเท่านิ้วโป้ง จะเป็นยาพื้นฐานเท่านั้น สามารถฟื้นฟูพลังงานได้ 20 หน่วย เขาดื่มมันในทันที มันมีความรู้สึกเย็นสบายเป็นอย่างมาก พลังงานของเขาฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เติมเต็มพลังงานจนถึง 53 หน่วยแล้ว เขาก็เริ่มฟื้นฟูพลังจิตต่อทันที โดยการเข้าไปในโลกของลูกบาศก์วิญญาณ ดอนนั้งลงใต้ต้นเมเปิ้ล และเริ่มโคจรเทคนิคฝึกฝนพลังจิตศิลาทมิฬ วงจรอาคมที่อยู่ภายในอาณาเขตวิญญาณ หมุนวนและดูดซับอนุภาควิญญาณเข้าไปอย่างช้าๆเพื่อเติมเต็ม พลังจิต
เหตุผลที่เขาต้องเข้ามาภายในลูกบาศก์วิญญาณนั่นก็เป็นเพราะว่าภายในโลกของลูกบาศก์วิญญาณ มีอนุภาคพลังวิญญาณหนาแน่นมากกว่าโลกภายนอกมากนัก
เมื่อลืมตาขึ้นเขาก็ฟื้นฟูพลังจิตทั้ง 9 หน่วยที่เสียคืนมา มันใช้เวลาถึง มันใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง
เคน เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าด้านหน้าของเขาและกล่าว “นายท่าน ข้าขอออกไปล่าพวกมันได้หรือไม่”
“อืม พยายามจะออกไปเกิน 30 กิโลเมตรที่หน่วยของข้ารับผิดชอบ เอาลูกบาศก์วิญญาณไปด้วย ศพของพวกมันเมื่อย่อยสลาย มันให้พลังงานแก่ลูกบาศก์วิญญาณพอสมควร”
ตอนนี้ภายในสระพลังงานมีพลังงานเหลืออยู่แค่ประมาณ 200 หน่วยเท่านั้น
เขาจะยังไม่ได้ขยายอาณาเขตของพื้นดินในลูกบาศก์วิญญาณ แต่ภายในมันมี ต้นไม้ ต้นหญ้า อยู่กว่า 100 ชนิด
ทำให้ในแต่ละวันมันใช้พลังงานอยู่ที่ประมาน 250 หน่วยต่อวันถ้าต้องการให้พืชที่อยู่ภายในโลกลูกบาศก์วิญญาณเติบโตได้อย่างเต็มที่
ซึ่งมันไม่เพียงพอต่อพลังงานแต่ละวันที่โลกลูกบาศก์วิญญาณ ดังนั้นเขาจึงจำกั ดพลังงานให้เหลือน้อยที่สุดแค่ 40 พลังงานต่อวันเท่านั้น ต้นไม้ส่วนใหญ่จึงไม่สามารถให้ผลผลิตได้โดยเฉพาะต้นแอปเปิ้ลที่เคนบอกว่ามันคือผลไม้พลังจิตที่สามารถช่วยฟื้นฟูพลังจิตได้
ศพของพวกเกสเพนสท์ตาขาวที่ถูกย่อยสลายเมื่อตอนกลางวันนั้นให้พลังงานประมาน 10- 20 หน่วยต่อตัว มันสามารถช่วยเขาประหยัดผลึกพลังงานได้พอสมควร
‘ต่อไปนี้ข้าคงต้องให้ เคน แยกตัวออกไปล่าพวกมันสักวันละ 20 ตัวเพื่อให้พลังงานแก่ลูกบาศก์วิญญาณได้ใช้เพียงพอ’
หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากดอน เคนก็ลอยออกไปพร้อมกับลูกบาศก์วิญญาณโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
ตอนนี้มันเป็นเวลา 5:00 น อีกแค่ 1 ชั่วโมงพระอาทิตย์ก็จะขึ้นแล้ว เขาเดินออกมาจัดการกับศพของเกสเพนสท์ ผ่าเอาหัวใจของมันออกมา มีหัวใจที่เป็นสีขาว 6 ชิ้น และอีกชิ้นเป็นครึ่งขาวครึ่งแดงและหัวใจชิ้นสุดท้ายมีสีแดง 1 ทั้งชิ้น
ตอนนี้เขามีหัวใจของเกสเพนสท์รวม 17 ชิ้นแล้วถ้ารวมกับเมื่อของกลางวันที่แล้ว
เขาเดินมานั่งข้างกองไฟ โดยมีฮอคและชูเรียลนั่งเฝ้ายามอยู่ก่อนแล้ว
“อรุณสวัสดิ์ หัวหน้า” ทั้งสองคนทักทายของด้วยความเคารพทันที
ดอนพยักหน้าตอบรับจากนั้นก็หยิบม้วนภารกิจออกมาดู พื้นที่รับผิดชอบของเขา คือระยะ 30 กิโลเมตรรอบนอกเทือกเขาโบเมาท์
เทือกเขาโบเมาท์แบ่งออกเป็น 3 พื้นที่ คือ รอบนอกที่ระยะทาง อยู่ที่ 1000 กม. ถัดเข้าไปก็จะเป็นบริเวณส่วนกลางของเทือกเขาโบเมาท์ มียอดเขาโบเมาท์ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดทั้งหมด
เขามีเวลา 5 วันในการจัดการพื้นที่นี้จากนั้นก็ไปรวมตัวกับที่ยอดเขาโบเมาท์
หลังจาก 6:00 น แสงแรกของวันใหม่ก็มาเยือน ทั้ง 5 คนมารวมตัวกันอยู่ที่รอบกองไฟ
เขาเริ่มกินอาหารแท่งที่ซื้อมา มันให้พลังงานกับเขาได้ทั้งวัน แต่รสชาติมันแย่มากราวกับกินท่อนไม้ เขาจึงแย่งเนื้อแห้งบางส่วนมาจากฮอคและชูเรียล
ทั้งชูเรียลและฮอคได้แต่ยิ้มแบบฝืน ๆ ส่วนสองสาวนั้นพวกเธอไม่ได้ใส่ใจมากนักเพราะพวกเธอไม่ได้โดนแย่งอาหาร และเขาเองก็ถือคติที่ว่าห้ามแยกอาหารจากผู้หญิงเด็ดขาด ซึ่งเขาเรียนรู้และสังเกตมาจากอายู
เมื่อพูดถึงอายู เขาก็ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง ‘ไม่ใช่ว่าจะเอาเงินไปกินขนมจนหมดแล้วละมั้ง’
……………...
“ฮัดชิ้ว!...โอ้ย” อายูจามเสียงดัง ทันใดนั้นเธอก็โดนเคาะหัวทันที
“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่าจามจนน้ำลายกระเด็นใส่อาหารแบบนั้น”
เธอจับไปที่หัวของตัวเองพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย และได้แต่คิดในใจว่า ‘ไม่น่ากินอาหารเยอะไปหน่อยเลย แต่มันก็ช่วยไม่ได้ อาหารและขนมหวานอร่อยพวกนั้นอร่อยจะตาย’
“ตั้งใจทำหน่อยเจ้าเอาแต่ทำแล้วก็กินแล้วก็ทำ เมื่อไหร่จะใช้หนี้จนหมด ข้าไม่เข้าใจเลยว่านายหญิงถึงให้เจ้ามาทำงาน อาหารคงหมดครัวก่อนที่เจ้าจะทำงานใช้หนี้หมด” หัวหน้าพ่อครัวบ่นเธอด้วยเสียงดุพร้อมกับสอนเธอทำอาหารต่อ
“นายท่านข้าจะหาเงินด้วยตัวเองให้ได้” อายูทำท่าฮึดสู้ให้กำลังใจตัวเอง
…………………
หลังจากจัดการเรื่องของตัวเองเสร็จแล้ว ทั้งกลุ่มก็ออกตามล่าพวกเกสเพนสท์ทันที แต่ดอนมีจุดหมายอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าห่างออกไปอีก 19 กิโลเมตรจะมีถ้ำอยู่ ซึ่งตอนนี้เคนกำลังเข้าไปสำรวจ
ถึงแม้เขาและเคน จะห่างกันแต่ก็ยังสามารถเชื่อมต่อกันผ่านทางลูกบาศก์วิญญาณได้อยู่
หลังจากใช้เวลาสักพัก ทั้งกลุ่มก็มาถึงปากทางเข้าถ้ำเคนบอก ในระหว่างทางพวกเขาเจอหลุม ที่เกสเพนสท์ 6 ตัว นอนหลับเลยจัดการเชื่อดพวกมันไป ผ่าเอาหัวใจออกมาและเผาร่างทิ้ง
“หัวหน้า ท่านรู้ได้อย่างไรว่าที่นี่มีถ้ำ?” ชูเรียลถามด้วยความสงสัย
“วิญญาณบอกข้า” ดอนตอบแบบโกหกหน้าตายพร้อมกับเดินเข้าไปในถ้ำทันที
ชูเรียลได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าหัวหน้าหน่วยของมันจะโกหกแบบนั้น
“ท่านเห็นข้าเป็นเด็ก 3 ขวบหรือไง ถ้ามีวิญญาณมาบอกท่านจริง ข้าจะแต่งงานกับเกสเพนสท์” ชูเรียลได้แต่บ่นพึมพำพร้อมกับเดินตามทุกคนเข้าไป
ฮอคถือคบเพลิงที่ทำอย่างง่ายก่อนจะเข้ามาภายในเดินนำหน้าไปอย่างชำนาญ
ภายในถ้ำแฉะเป็นอย่างมาก มันมีมูลของค้างคาวและสัตว์ป่าอยู่บ้างเล็กน้อย แต่กลับไม่มีตัวให้เห็นอยู่เลย หลังจากเดิมไม่ได้สักพักเขาก็เจอกับโครงกระดูกขนาดใหญ่
กระดูกส่วนใหญ่เป็นของสัตว์ป่าทั้งเล็กและใหญ่
“มันมีกระดูกมนุษย์ปนอยู่ด้วย” ฮอคที่เดินไปเขี่ยกองกระดูกดู มันมีศีรษะของมนุษย์อยู่จริงๆ
“สัตว์ในถ้ำน่าจะถูกเกสเพนสท์กินกันหมดแล้ว รีบเข้าไปฆ่าล้างพวกมันดีกว่า” เชร่าพูดพร้อมยกดาบขึ้นมาทำท่าฟันไปมาในอากาศ
“ข้าว่ารังของพวกมัน ไปต่อกันเถอะ” ดอนสั่งให้เดินต่อไปทันที อันที่จริงเขารู้อยู่แล้ว เพราะ เคนบอก
หลังจากเดินมาได้สักพักพวกเขาก็เจอกับทางแยก
“พวกเจ้าสองคนไปสำรวจเส้นทางมาก่อน ถ้าเจอกับพวกเกสเพนสท์ อย่าเปิดฉากสู้ให้กลับมาเลยงานข้าก่อน” ดอนหันไปสั่งฮอคและซิเรีย
ซิเรียและฮอคเข้าไปสำรวจคนละเส้นทางทันที
หลังจากนั้นเขาก็ทิ้งสองพี่น้องฝาแฝดให้เฝ้าทางเข้าไว้ เขาอ้างว่าจะไปทำธุระส่วนตัว แต่ที่จริงแล้วเขาจะไปหาเคน
ทั้งสองไม่ได้สงสัยอะไร ดูเหมือนว่าสองพี่น้องจะลืมว่าเขาเป็นผู้ใช้พลังงานฝึกหัดซึ่งสามารถจัดการกับของเสียที่ออกมาจากร่างกายได้อย่างไรได้โดยไม่จำเป็นต้องไปเข้าอะไร
“นายท่าน ข้าเติมเต็มพลังงานให้ลูกบาศก์วิญญาณไม่พอสมควร”
“เจ้าเข้าไปสำรวจดูอุโมงค์ถ้ำทั้งสองเส้นทางหรือยัง”
“เส้นทางขวา ดูเหมือนจะไปทางออกไปสู่อีกฝั่งของพวกเขา ส่วนฝั่งซ้ายน่าจะเป็นรังของมันแต่ก็ยังไม่ได้เข้าไปดูระยะใกล้”
ถ้านั้นเป็นรังของพวกมันเขาก็อยากจะเห็นว่ามันเป็นอย่างไร
“นายท่าน ข้าขอตัวก่อนไปย่อยสลายวิญญาณที่กินเข้าไปก่อน”
“อืม ไปเถอะ”
เคน เข้าไปในลูกบาศก์วิญญาณ จากนั้นเขาก็เรียกมันกลับมา แล้วก็ต้องแปลกใจดูเหมือนว่าเคนจะล่าได้เยอะพอสมควรเพราะพลังงานในสระพลังงานเพิ่มขึ้นมาถึง 600 หน่วย
หลังจากนั้น เขาก็กลับมารวมกับกลุ่ม ดูเหมือนว่าฮอคและซิเรียทั้งสองคนจะสำรวจเส้นทางเสร็จแล้ว
“ทางขวามีพวกมันอยู่ 10 กว่าตัว มันนอนหลับกันอยู่ เส้นทางสามรถทะลุอีกฝั่งได้” ซิเรียอธิบาย
“ทางซ้ายมี 30 ตัวแต่ดูเหมือนมันจะนอนเฝ้าบางอย่าง” ฮอคอธิบาย
มันเป็นอย่างที่เคนบอก หลังจากคิดดูสักพักก็เขาก็กล่าว “เราจะไปจัดการทางฝั่งขวาก่อน แล้วค่อยไปจัดการกับฝั่งซ้าย อย่างน้อยก็มีเส้นทางหนีได้ถ้าทางฝั่งซ้ายตื่นขึ้นมา”
ทั้งกลุ่มเดินไปทางเส้นทางฝั่งซ้ายอย่าเงียบที่สุด หลังจากเดินลึกไม่ได้สักหน่อยเขาก็เจอเข้ากับเกสเพนสท์ที่ซิเรียบอก
พวกมันมีอยู่ประมาณ 10 กว่าตัวนอนพักกันเหมือนกับกองซากศพ ดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นแค่ตัวที่เฝ้ายามของทางออก
ที่เขาไม่เจอ ตอนนี้ขอเข้ามาไม่เจอพวกพี่เฝ้ายามน่าจะเป็นเพราะ ถูกเคนฆ่าทิ้งไปทั้งหมดแล้ว
ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้หอกดิน แต่หยิบดาบออกมาแทน
“รีบจัดการกันเถอะ”
พวกเขาใช้ดาบแทงไปที่เกสเพนทันที ด้วยความร้อนของดาบ ผิวหนังของมันไม่ทันทีที่สัมผัสกับใบดาบ ดูเหมือนพวกมันจะรู้สึกตัวแต่ก็สายไปแล้ว
มีบางตัวที่ตื่นขึ้นมาและพยายามที่จะต่อสู้แต่มันก็ถูกเชร่าและชูเรียลฟันจนไม่เหลือชิ้นดี
ชิ้นส่วนของพวกมันกระจายรวมกันเป็นแอ่งเลือดไหลย้อมไปทั่วพื้นถ้ำ
เขาไม่ได้รู้สึกสะอิดสะเอียนแม้แต่น้อย การที่ต้องเห็นชิ้นส่วนที่เคยเป็นร่างกายของมนุษย์กระจายเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น
ทั้ง 10 ตัวถูกฆ่าอย่างง่ายดายโดยไม่มีการต่อสู้ใด ๆ พวกมันเป็นแค่เกสเพนสท์ตาขาวเท่านั้น
หลังจากจัดการผ่าเอาหัวใจออกมาหมดแล้วก็ไปจัดการตัวที่อยู่เส้นทางซ้ายต่อทันที
แต่พวกเขาก็ต้องแปลกใจ และรีบหลบหลังก้อนหินทันที ดูเหมือนว่าจะมีบางตัวที่ตื่นขึ้นมา
“มันต้องนอนหลับอยู่ไม่ใช่? เราจะทำอย่างไร?” ชูเรียลถามด้วยความส่งสัย
“มันอาจจะได้กลิ่นเลือด หรือได้ยินเสียงจากทางอุโมงอีกฝั่ง” ฮอคกล่าว
“ข้ามีวิธี” เชร่าเล่าแผนของเธอทันที
“ว่ามา” เขากล่าวพร้อมกลับมองไปที่เพสเพนสท์ตัวนี้ด้วยความแปลกใจ มันมีรูปร่างคลายกับคนธรรมดายกเว้นก็แต่ ดวงตาที่เป็นสีขาว ถ้าเขาไม่เห็นมันรวมอยู่ในฝูงเกสเพนสท์เขาก็คิดว่ามันเป็นแค่คนตาบอดเท่านั้น
………..
หลังจากผ่านไปสักพัก เกสเพนสท์ที่ตื่นอยู่ 1 ตัวก็ทำจมูกฝึด ๆ เพื่อสูดอากาศเข้าไป พวกมันได้กลิ่นเลือดสด ๆ
เกสเพนสท์ตัวนั้นรีบตามกลิ่นเลือดนั้นไปทันที
เมื่อมันออกมาถึงก็เห็นเชร่าที่กำลังนอนหมดสติเลือดไหลออกมาจากฝ่ามือ
“คน...ผู้...หญิง.. ไม่ถูก..ต้อง” มันพูดด้วยเสียงที่แหบแห้งเรากับคนที่เพิ่งหัดพูด และหันไปมองทางซ้ายทีขวาที
“หืม มันพูดได้” ดอนที่แอบอยู่ถึงกับตกใจทันที ดูเหมือนว่าตัวนี้จะไม่เหมือนตัวอื่น ๆ
ทั้งสามคนที่แอบอยู่ ก็รู้สึกแปลกใจเช่นเดียวกัน
เพสเพนสท์หลายๆตัวมันดูเหมือนว่าพวกมึงจะสูญเสียความสามารถในการพูดไปแล้วพูด แต่ตัวนี้กลับดูแตกต่างออกไป
“ลงมือ” เขาให้สัญญาณทันที
ฟิ้ว… ฮอคยิงลูกศรออกไปทันที ขณะที่ชูเรียลกระโดดพุ่งเข้าไปหามัน แต่ยังไม่ทันที่ชูเรียลจะวิ่งไปถึงตัวมัน
“อ๊าก...” มันก็กรีดร้องออกมา ดูเหมือนว่าที่มันจะกรีดร้องเพราะลูกศรยิงไปถูกที่ไหล่ขวาของมัน มันรีบวิ่งออกไปทันที
เชร่าที่เห็นแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นมาขวางทางมัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะเร็วมาก มันกระโดดข้ามหัวของเธอและวิ่งออกจากถ้ำไปทันที
“เออ… มันหนีไปแล้ว” ชูเรียลที่ค้างอยู่ในท่าจะฟันถึงกับงงไปทันที
อย่าว่าแต่ชูเรียลเลย เขาเองก็ยังงงไม่คิดว่ามันจะขี้ขาดขนาดนี้
“มันแข็งแกร่งมาก” ฮอคเดินมาหยิบลูกศรขึ้นมาดูและส่งลูกศรให้กับเขาดู