ตอนที่แล้วตอนที่ 25  โลกภายในลูกบาศก์วิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 27 การเรียกรวมตัวด่วน

ตอนที่ 26  ความซวยมาเยือนเสมอ


ตอนที่ 26  ความซวยมาเยือนเสมอ

        ดอนมารออายูอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของหอคอยเอราธาเมีย หลังจากที่รออยู่สักพักก็มีรถม้าวิ่งชะลออยู่ตรงหน้าเขา

        “นายท่านข้ามาแล้ว!” ยังไม่ทันที่รถม้าจะจอดจนหยุดนิ่ง เสียงของอายูก็ดังนำมาแต่ไกล

        เมื่อรถมาจอด อายูก็รีบกระโดดลงมาทันทีด้วยความดีใจ 

“นายท่านข้าคิดถึงเงินของท่านมาก เอ้ย ไม่ใช่! ข้าคิดถึงท่านมาก นายท่านรู้หรือไม่? ข้าลำบากมากเลยในการใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกคนเดียว ข้ากินอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ ลำบากมากเลยนะท่าน” อายูพูดพร้อมกับทำสีหน้าเศร้า

“จริงเหรอทำไมข้ารู้สึกว่าเจ้าอ้วนขึ้นมาก” ดอนมองไปที่อายู ตอนนี้เธอดูแตกต่างจากตอนที่พบกันครั้งแรกมาก ดูจากรูปร่างแล้วน้ำหนักเธอน่าจะขึ้นเกือบ 5 กิโลเลยทีเดียว 

แต่มันไม่ได้ทำให้เธอดูน่าเกลียดหรืออ้วนเลย แต่มันกลับทำให้เธอสมกับเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 15 ที่มีน้ำมีนวลขึ้นมาก  แก้มทั้งสองข้างของเธอนั้นดูน่าหยิกเป็นอย่างมาก เขาพยายามหักห้ามใจอยู่หลายครั้งไม่ให้ยื่นมือไปบีบแก้มนุ่ม ๆนั้น

“ข้าไม่ได้อ้วนสักหน่อยนะนายท่าน ข้าแค่ใส่ชุดหลายชั้นเพราะอากาศมันหนาวแค่นั้นเอง” เธอเถียงเขาพร้อมกับทำแก้มป่อง

“เอาล่ะหยุดไร้สาระได้แล้ว เจ้าเตรียมของที่ข้าสั่งมาครบหรือไม่?”

“ข้าได้ของมาครบแล้วค่ะนายท่าน เชิญท่านดูได้เลย” อายูกลับเข้าไปในรถรถมาจากนั้นก็หยิบถุงผ้าที่ไม่ใหญ่มากนักออกมา

        ภายในบรรจุเมล็ดพันธุ์ไว้กว่า 100 ชนิดทั้งดอกไม้และพืชที่เป็นพวกผลไม้และไม้ยืนต้น เขาให้อายุซื้อเมล็ดพันธุ์มาแค่ชนิดละไม่กี่ 10 เมล็ดเท่านั้นดูพื้นที่ที่จำกัดด้านในของพื้นดินที่อยู่ภายในลูกบาศก์วิญญาณ

        ดอนรับของมาหลังจากที่เช็คดูแล้วว่าของที่ได้มานั้นครบตามที่สั่งไป เขาก็เตรียมที่จะกลับเข้าไปภายในหอคอยเอราธาเมีย

“นายท่านเดี๋ยวก่อน!! คือว่า….เออ” อายูรีบเรียกดอนหยุดทันทีหลังจากนั้นก็อ้ำอึ้งอยู่นาน

“มีอะไรก็พูดมา?” เขาถามอายูด้วยความสงสัย

“คือว่า ถ้าขอเงินเพิ่มได้หรือไม่คะนายท่าน คือที่ให้ไปครั้งแรกมันหมด ไม่สิ...ใกล้จะหมดแล้วคะ”

“หืม….  เจ้าเอาเงินไปทำอะไรหมด”

“คือ...คือว่า...” ดูเหมือนว่าอายูจะตอบคำถามของเขาไม่ได้ แต่แล้วก็ดูเหมือนว่าจะคิดอะไรออก เธอทำสีหน้าเศร้าและบีบน้ำตาออกมาเล็กน้อย“คืออย่างนี้ค่ะนายท่านที่เมืองนี้ ค่าครองชีพมันสูงเป็นอย่างมาก โดย….เออ...โดยเฉพาะเรื่องค่าอาหาร…..นายท่านต้องไม่เชื่อแน่ว่าอาหารนี่นั้นมีราคาที่แพงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะขนมหวาน เค้กช็อกโกแลตและ...และชานมไข่มุก” 

“พอ ๆ เอาไป เจ้าเอาไปแลกเป็นเครดิตเอาเองก็แล้วกัน” เขากล่าวตัดบทพูดของอายูทันทีและส่งผลึกพลังงานไปให้อายู 2 ก้อน 

เขายิ่งฟังก็รู้สึกยิ่งแปลก ๆ ดูท่าแล้วเจ้าเด็กนี่น่าจะ เอาแต่กินขนมหวานจนเงินหมดแน่นอน

        ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะพลังงานแค่ 2 ก้อนนั้นก็เทียบได้กับค่าอาหารของเขาแค่ 2 มื้อภายในหอคอยเท่านั้น

        เมื่ออายูรับผลึกพลังงานมาเธอก็รีบเก็บเข้าไว้ในกระเป๋าอย่างดี ราวกลับกลัวว่าจะมีใครมาปล้นผลึกพลังงานไปจากเธอ

        “เอาเอาละเจ้ากลับไปได้แล้วข้ามีธุระ”

        หลังจากที่ อายูได้รับอนุญาตขากดอนแล้ว เธอก็รีบวิ่งขึ้นรถม้าไปอย่างรวดเร็ว รถมาได้เคลื่อนตัวออกไปพร้อมกับเสียงของ อายูที่ดูจะร่าเริงเป็นพิเศษดังออกมาจากรถมาอยู่ตลอดเวลา

“ขนมหวาน เค้กช็อคโกแลต ชานมไข่มุก พี่สาวกำลังจะไปหาพวกเจ้าแล้ว…….”

 “เฮ้อ ข้าไม่เข้าใจอารมณ์คนเด็กผู้หญิงเลยจริง ๆ”  ดอนส่ายหัวและกลับเข้าไปในหอคอย

…………………………..

        ภายในห้อง 242

        ด้านหน้าของดอน ลูกบาศก์วิญญาณกำลังย่อยสลายเมล็ดพันธุ์อยู่ ใช้เวลาไม่นานเมล็ดพันธุ์ทั้งหมดก็ถูกย่อยสลายจนหมด

        การย่อยสลายของลูกบาศก์วิญญาณนั้นขึ้นอยู่กับขนาดไม่ใช่คุณภาพหรือพลังงานที่อยู่ภายในวัตถุ

        ตอนนี้ดอนเข้ามาภายในลูกบาศก์วิญญาณกำลังเห็น เคนชักนำพลังงานบางส่วนไปรักษาต้นเมเปิ้ลที่เป็นรูอยู่

“เป็นอย่างไรบ้าง รักษามันได้หรือไม่?” เขาลอยเข้าไปใกล้ ๆ ต้นเมเปิ้ลเพื่อดูเคน

“ใกล้จะเสร็จแล้วนายท่าน”  เคนรีบหันมาทักทายดอนทันที

“ดีแล้ว ข้าก็นึกว่ามันจะไม่สามารถรักษาได้ซะแล้ว เอานี่เมล็ดพันธุ์พืชเจ้าออกไปปลูกหลายๆหน่อยก็แล้วกัน ข้าขอตัวไปฝึกต่อก่อน” ดอนสั่งให้ลูกบาศวิญญาณสร้างเมล็ดพันธุ์ที่ย่อยสลายตอนแรกและส่งมันให้กับเคน

        หลังจากที่เดินออกมาได้ไม่กี่ก้าวเขาก็เตรียมที่จะร่ายคาถาหอกดินต่อทันที

“นายท่านเดี๋ยวก่อน! ท่านไปฝึกตรงนั้นดีหรือไม่? ข้าได้เตรียมสนามฝึกให้ท่านแล้ว” เคนชี้ไปที่ทางทิศเหนือของสระพลังงาน

เขาคิดอยู่สักพักก็ตอบตกลง

เมื่อเขาเดินมาถึงบริเวณที่เคนบอก ก็เห็นว่ามันมีสนามฝึกซ้อมที่เป็นก้นถ้วยมีเนินดินล้อมรอบอยู่ ตอนเดินดินจะมีเสาดินดูเหมือนว่าจะเตรียมไว้ให้เป็นเป้าในการยิงหอกเขา ‘ข้านี่โชคดีจริง ๆ ที่มีข้ารับใช้คอยเป็นห่วง เอาล่ะต้องฝึกให้หนักเคนจะได้ไม่ผิดหวัง’

        ทุกวันเขาก็ฝึกฝนอยู่ภายในลูกบาศก์วิญญาณ และเข้าเรียนวิชาที่เขาลงทะเบียนไว้ทั้ง 2 วิชา หลังจากที่เรียนครบตามที่กำหนดแล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่เข้าใจทฤษฎีของมันทั้งหมด แม่ต้องค่อยๆทดลองและกลับมาอ่านสมุดบันทึกที่ซื้อมา เพราะตอนนี้เขาไม่มีเงินไปลงทะเบียนเพื่อที่จะเรียน

        อันที่จริงแล้วไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เข้าใจ ส่วนใหญ่ศิษย์ที่เรียนในวิชาพวกนี้ จะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ตั้งแต่ระดับ 3 ลงไป เพราะคนที่มีพรสวรรค์เหนือกว่านั้นส่วนใหญ่จะมีจอมอาคมรับเป็นศิษย์และสั่งสอนด้วยตนเอง

ภายในสถาบันจอมอาคมเอราธาเมียนั้น กว่า 80% ก็เป็นพวกที่มีพรสวรรค์ระดับ 3 ลงมา

ในช่วงที่ผ่านมาเขาฝึกหนักเป็นอย่างมาก เสาดินที่ล้อมรอบอยู่ในสนามฝึกถูกยิงแตกกระจายด้วยหอกดินเกือบหมดแล้ว แม้แต่พื้นดินที่ลบรอบก็ยังมีร่องรอยของหอกดินปากอยู่เต็มไปหมด

        เมื่อฝึกเล็งเป้าจนแม่นยำแล้ว เขาก็ฝึกร่ายคาถากำแพงผู้พิทักษ์ต่อทันที

       

“ฟานามิล มิเลมิส(กำแพงผู้พิทักษ์ จงปกป้องข้าดังขุนเขา)”

“ฟอนดาซิลูอา เมซิรอส(เปลี่ยนผืนดินเป็นหอก เพื่อสังหารศัตรู)”

“ตูม!!!”

        เขาลองสร้างกำแพงผู้พิทักษ์และยิงหอกดินใส่กำแพงผู้พิทักษ์

ในการฝึกฝนเกือบเดือนที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่เขาสังเกตว่าวงจรอาคมที่อยู่ภายในคาถามันไม่สมบูรณ์แบบ มีรูนบางตัวที่เชื่อมโยงกับลุงมีตัวที่ผิด ทำให้ประสิทธิภาพของมันลดลงเป็นอย่างมากและสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ

เขาจึงได้ลองให้ลูกบาศก์วิญญาณสร้างโครงสร้างที่สมบูรณ์ของคาถาหอกดิน เปิดด้วยความเข้าใจและเวลาที่จำกัดของเขา จึงปรับเปลี่ยนได้เล็กน้อย หอกดินที่ถูกยิงใส่กำแพงผู้พิทักษ์ก็คือหนึ่งในผลงานการปรับเปลี่ยนของเขา

“ถ้ามีข้าสัก 10 คนก็คงจะดีจะได้มาช่วยกันทำความเข้าใจ”

ถึงเขาจะคิดแบบนั้นแต่ของดินที่ปรับปรุงใหม่นี้ สามารถทำความเสียหายได้ถึง 7 หน่วยเลยทีเดียว และยิงทะลุกำแพงพิทักษ์ที่รับความเสียหายสูงสุดได้ 5 หน่วยเป็นรูทันทีปลุก

เขารู้ว่ายังมีอีกหลายจุดที่ผิดพลาดแต่ตอนนี้ความสามารถของเขาก็เพียงแค่ปรับแต่งได้แค่นี้

ถ้ามีผู้ใช้พลังฝึกหัดคนอื่นรู้จะต้องตกใจเป็นอย่างมากเพราะการที่จะปรับเปลี่ยนคาถาได้นั้นจะต้องเป็นระดับจอมอาคมขึ้นไป

“น้ำหวานจากต้นเมเปิ้ลได้แล้วครับ” ขณะที่เขากำลังคิดถึงวิธีที่จะทำความเข้าใจกับคาถาหอกดินอยู่นั้นก็มีเสียงของเคนดังขึ้นมา

“อืม ข้ากำลังไป” เขาเดินออกมาจากสนามฝึกซ้อมตอนนี้ทุกอย่างรอบด้านนั้นเปลี่ยนไปแล้วมันเต็มไปด้วยต้นหญ้าที่ขึ้นมาปกคลุมอยู่ทั่วพื้นดิน แล้วมีต้นไม้จำพวกไม้เข็มอีกหลายสิบต้นถูกล้อมรอบเสาะพลังงาน ต้นไม้เหล่านี้ยังเป็นเพียงต้นกล้าเท่านั้นเนื่องจากเขาไม่มีพลังงานที่เพียงพอไปเลี้ยงมากนัก

ในเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาหลังจากที่ต้นเมเปิ้ลฟื้นขึ้นมาแล้วเขาก็ใช้พลังงานส่วนใหญ่ไปหล่อเลี้ยงมันเธอที่ได้นี่ขนมหวานออกมาได้มากที่สุด

        ตอนนี้วิญญาณของดอนฟื้นฟูจนใกล้จะสมบูรณ์แล้ว เขาเดาว่าถ้ากินน้ำหวานอีกครั้งก็คงจะฟื้นฟูขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์

        เมื่อรับน้ำหวานมาจากเคนและเขาก็กินน้ำหวานโดยที่ไม่รอช้า ทันทีที่มันละลาย วิญญาณของเขาก็ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมายังช้าๆหลังจากรออยู่สักพักนึงในที่สุดพวกเขาก็ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แบบ

        ดอนรีบออกจากลูกบาศก์วิญญาณทันทีเมื่อจิตสำนึกของเขากลับเข้าสู่ร่างกายเขาก็เริ่มรู้สึกถึงขาทั้งสองข้างนิ้วเท้าทั้ง 10  ความความรู้สึกที่สามารถขยับมันได้อย่างอิสระทำให้เขารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก

        มือต้องส่งค่าของรถเข็นแล้วค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นมา แล้วลองเข้าเดินได้อย่างปกติราวกับว่าค่าของเขาไม่เคยพิการ

        แต่นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะว่าเขาไม่ได้พิการที่เกิดจากร่างกายตัวมันเกิดจากการบาดเจ็บทางร่างวิญญาณที่ฉีกขาดหายไป จากตอนสร้างเคน

        “ฮ่าๆ ในที่สุด ข้าก็เดินได้แล้ว”  ด้วยความดีใจเขาจึงเดินไม่หยุด

        ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ที่เขาสูญเสียกันเดิน เขารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมากมันเป็นความรู้สึกที่เรายังมีขายอยู่แต่ไม่สามารถขยับแล้วทำได้แค่อยู่นิ่งๆเท่านั้น

        แต่ตอนนี้มันจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว

        ตอนนี้ดอนรู้สึกอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก เขาจึงจะออกไปหาอะไรกินข้างนอก ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็ไม่ลืมที่จะชวนอายูไปด้วย

        เมื่ออายุหรือว่านอนกำลังจะชวนเธอไปกินข้าว เธอก็รีบนั่งรถม้าเข้ามาทันที

        เมื่ออายูลงจากรถม้าแล้วเห็นเขาที่กำลังยืนอยู่เธอถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก “นาย..นายท่าน ท่านยืนได้แล้ว”

“เจ้าจะตกใจอะไรนัก ไปกันเถอะข้าหิวแล้ว” เขาไม่รอช้ารีบเดินนำหน้าอายูไปทันที

“ท่านไม่นั่งรถมาไปเหรอ?” อายูถามด้วยความสงสัย

“ข้าอยากเดิน”

ดอนไม่รอให้อายูได้ถามอะไรอีกก็เดินออกไปทันที

        อายูที่เดินตามหลังมานั้นได้แต่คิด ‘ทำไมท่านต้องเดินแทนที่จะนั่งรถมาไป รู้ไหมว่าข้าเหนื่อย ถ้าไม่ติดที่เป็นข้ารับใช้ของท่านข้าขึ้นรถมาไปแล้ว’ หลังจากที่นินทาดอนในใจจนเหนื่อยแล้วเธอก็หยิบขนมออกมากินเล่นทันที

        ร้านที่เขาจะมากินในวันนี้อยู่ ในโซน 2  ที่นี่เป็นร้านอาหารพี่พวกผู้ใช้พลังฝึกหัดออกมากินบ่อย ๆ เนื่องจากมันอยู่ใกล้และที่สำคัญบรรยากาศก็ดีเป็นอย่างมากมันมีวิวที่สามารถมองเห็นได้ทั้งเมืองดีกว่าโรงอาหารของหอคอยที่ทุกด้านเป็นแค่กำแพงหินเท่านั้น

        เขาเลือกโต๊ะตัวที่อยู่ติดริมหน้าต่างซึ่งเห็นวิวได้ทั้งเมือง หลังจากนั้นก็สั่งอาหารเต็มโต๊ะทันทีส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อย่าง ซึ่งเป็นอาหารที่เขาชอบเป็นพิเศษ อายูก็ไม่เกรงใจเธอสั่งขนมและของหวานหลายอย่างทันที

“ชีวิตแบบนี้ก็ถือว่าไม่เลวเหมือนกัน” ระหว่างที่กินอยู่นั้นเขาก็คิดถึงลูกไปก่อนนะตอนนี้เขายังอยู่ที่นั่นก็คงจะเป็นได้แค่พนักงานออฟฟิศ พี่เอาแต่ทำงานกินแล้วก็นอนแล้วก็ทำงานชีวิตที่วนลูปไปเรื่อย ๆ

ถึงแม้ในช่วงที่เขามาถึงที่นี่แรกๆ จะลำบากก็ตามแต่อย่างน้อยมันก็ถือว่าเป็นการผจญภัยและเปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับเขาเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเขารู้สึกออกจะชอบนิดหน่อยกับการผจญภัยและการเสี่ยงอันตราย มันทำให้เขารู้สึกถึงคุณค่าของชีวิต จงทำงานเพื่อใช้ชีวิตไม่ใช่ใช้ชีวิตเพื่อทำงาน

แต่แล้วตามคำกล่าวที่ว่าไว้เมื่อใดที่เรามีสุขเมื่อนั้นจะต้องมีมารผจญ 

“นายท่านตอนนี้โต๊ะเต็มหมดแล้ว รบกวนหน่อยท่านรอสักครู่นึง…...”

แต่ก่อนที่พนักงานจะได้ทันพูดจบก็ถูกตบหน้าทันที เพียะ!

“รู้ไหมว่าข้าเป็นถึงผู้ใช้พลัง ไปลูกค้าคนอื่นออกไปก็ได้แล้ว ทำไม่ต้องให้พวกข้ารอ”

        ดอนที่นั่งกินอาหารเพลินอยู่นั้น ก็หันไปมองชายที่ตบหน้าพนักงานคนนั้นทันที เขาก็คือ อิกรีออน ด้านหลังของเขามีกลุ่มผู้ใช้พลังอีก 5-6 คนหนึ่งในนั้นคือ ลิริธ โอเฟียเลีย อาจารย์ไนเรล

        ดูเหมือนว่าเธอระดับพลังจะเลื่อนไปเป็นผู้ใช้พลังฝึกหัดระดับผู้ใช้พลังงานแล้วด้วยนะคือความแตกต่างของพรสวรรค์

“พอได้แล้ว อิกรีออน วันนี้ข้าพาศิษย์น้องมาเลี้ยงฉลองพี่ได้เลื่อนเป็นผู้ใช้พลังงาน ก็อย่าทำให้เขาเสียเวลา ก็แค่เดินไปไล่แขกสักโต๊ะนึงก็พอแล้ว” ชายหนุ่มร่างสูงยังกับหุ่นของนายแบบ เส้นผมสีแดงเพลิงและดวงตาสีเลือดทำให้ยิ่งเขาดูลึกลับ กล่าวออกมา

ดูเหมือนว่าอิกรีออนจะเคารพออร์คัสเป็นอย่างมาก

ออร์คัสเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสจอมอาคมมอร์บิคของสถาบันจอมอาคมเอราธาเมีย ที่เป็นผู้ได้ฉายาว่า ผู้สร้างความหวาดกลัวมอร์บิค

ออร์คัสมีพรสวรรค์สูงมากปีนี้เขาอายุแค่ 24  ปีเท่านั้นแต่กำลังจะทะลวงผ่านไปเป็นจอมอาคม ถึงแม้ในประวัติศาสตร์ของสถาบันจอมอาคมเอราธาเมียเขาจะไม่ได้เป็นผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดที่เป็นจอมอาคมก็ตาม แต่เขานั้นกลับมีสายเลือดชั้นสูง

“ครับ ศิษย์พี่ออร์คัส เดี๋ยวข้ารีบจัดการให้”

        อิกรีออนรีบมองหาโต๊ะตัวในมุมที่ดีที่สุด และแล้วเขาก็หันไปเห็นโต๊ะที่ดอนนั่งอยู่ ดูเหมือนว่าอิกรีออนจะจำดอนได้ เขายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินเข้าไปหาโต๊ะนอนทันที

-------------------------------------------------------------------

จากผู้เขียน : อ่านเสร็จแล้วคอมเม้นมาติชมกันบ้างนะครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด