ตอนที่ 25 โลกภายในลูกบาศก์วิญญาณ
ตอนที่ 25 โลกภายในลูกบาศก์วิญญาณ
“ยินดีต้อนรับกลับมา เคน เจตจำนงแห่งความโกรธของข้า”
“ขออภัยในท่าน ที่ข้าหลับลึกทำให้ท่านต้องรอนาน” เคนคุกเข่าข้างหนึ่งและทำความเคารพแบบอัศวิน
“ลุกขึ้นเถอะ เอาล่ะบอกวิธีการที่จะรักษาอาการบาดเจ็บทางวิญญาณของข้าที่เจ้าเคยพูดถึงให้ฟังหน่อย มันเกี่ยวข้องอย่างไรกับต้นเมเปิ้ลที่เจ้าให้ข้าดูแล”
ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่อยู่ในถ้ำ ก่อนที่เคนจะเข้าสู่การหลับไหล เคนได้บอกให้ดอนดูแลต้นเมเปิ้ลอย่าให้ขาดพลังงานในการหล่อเลี้ยง ที่ผ่านมาเขายังไม่รู้วิธีการใช้ลูกบาศก์วิญญาณว่ามีประโยชน์อะไรบ้างดังนั้นพลังงานทุกอย่างที่ลูกบาศก์วิญญาณย่อยได้เขาจึงนำไปหล่อเลี้ยงต้นเมเปิ้ล
ตอนนี้มันสูงกว่า 15 เมตรแล้วราวกับต้นเมเปิ้ลที่มีอายุ 6 ปี ทั้งที่เคนเริ่มจะปลูกมันภายในลูกบาศก์วิญญาณเราราวๆ 2 เดือนที่แล้วเอง
“นายท่าน ท่านอาจจะยังไม่รู้อันที่จริงแล้วการรักษาอาการบาดเจ็บทางวิญญาณนั้น ก็คือการใช้วิญญาณของสิ่งอื่นมาเติมเต็มวิญญาณท่าน และสิ่งของที่อยู่ในโลกลูกบาศก์วิญญาณก็ถือว่าเป็นวิญญาณเช่นกัน” เคนอธิบาย
“แล้วข้าต้องทำอย่างไร?”
“ท่านเพียงแค่ส่งจิตสำนึกของท่านเข้าไปในลูกบาศก์”
‘จริงสิ ทำไมข้าถึงคิดไม่ออก’ เขาเริ่มสั่งให้ลูกบาศก์วิญญาณที่รออยู่ข้างหน้าอย่างสงบนิ่ง เชื่อมต่อจิตสำนึกของเขาและเปิดประตูเข้าไปในโลกภายในลูกบาศก์วิญญาณทันที
ทันใดนั้นก็มีประตูขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นภายในจิตสำนึกของเขา เขายื่นมือผลักประตูให้เปิดออกแล้วเข้าไปภายในประตู
จิตสำนึกของเขาถูกดึงเข้าไปภายในลูกบาศก์ทันที ถ้าจะพูดให้ถูกต้องมันคือการแบ่งสำนึกบางส่วนเพื่อเข้าไปในลูกบาศก์วิญญาณ แต่เขาก็ยังรู้สึกและรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวในโลกภายนอกอยู่
ดอนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแล้วมองไปที่รอบด้านยังงงงวย ตอนนี้เขายืนอยู่บนผืนดินที่แห้งแล้งด้านหน้าของเขามีต้นเมเปิ้ลตั้งตระหง่านอยู่กลางผืนดิน
นี่คือโลกที่อยู่ภายในลูกบาศก์ที่เขาเห็นจากภายนอกมาโดยตลอด ด้วยความตื่นเต้นเขาจึงก้าวขาและเดินเพื่อไปพี่ต้นเมเปิ้ลไปแล้วเขาก็ต้องสะดุดหน้าคะมำลง เขาก้มลงมองดูตัวเองทันทีตอนนี้ ร่างกายครึ่งท่อนล่างมันไม่มีอยู่
“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?”
“สิ่งที่เข้ามาในโลกใบนี้ก็คือจิตสำนึกของท่าน จิตและกายวิญญาณคือสิ่งที่ผูกโยงและเชื่อมต่อกัน ดังนั้นจิตของท่านจึงสร้างร่างกายที่เหมือนกับกายวิญญาณ”
ตามพื้นฐานของภพนี้ทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิตจะประกอบขึ้นมาด้วย 3 สิ่งนั้นก็คือร่างที่เป็นกายหยาบ กายวิญญาณ และจิต
วิญญาณคือตัวตน ส่วนจิตสำนึกคือความคิดมันไม่มีรูปร่างแต่มันสามารถที่จะควบคุมทั้งกายหยาบและวิญญาณ นั่นคือสิ่งที่จอมอาคมถึงได้ฝึกฝนพลังจิตเพื่อที่จะสามารถควบคุมร่างกายและวิญญาณได้สมบูรณ์แบบ ว่ากันว่าเมื่อฝึกจนมีระดับพลังจิตที่มากถึงระดับนึง จะสามารถคงรูปร่างของกายวิญญาณให้คงสภาพอยู่ได้แม้จะไม่มีร่างกายก็ตาม
วิญญาณที่คงอยู่ในสภาพแบบนี้จะแตกต่างจากวิญญาณอาฆาตที่เกิดมาจากคนตาย
“ท่านไม่จำเป็นต้องเดินเองก็ได้ อย่าลืมว่าท่านสามารถควบคุมลูกบาศก์วิญญาณได้”
เมื่อดอนได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้สึกอายเล็กน้อยจึงได้แกล้งไอเพื่อกลบเกลื่อน “แค่กๆ! ไปที่ต้นเมเปิ้ลกันเถอะ”
เขาสั่งให้ลูกบาศก์วิญญาณพาเขาไปหาต้นเมเปิ้ลทันที ตัวของเขาค่อยลอยเข้าไปหาต้นเมเปิ้ลแต่ถ้าจะให้ถูกต้องในความเป็นจริงแล้วต้นเมเปิ้ลและพื้นดินทั้งหมดกำลังลอยเข้ามาหาตัวเขา
เมื่อมาถึงต้นเมเปิ้ล เคนก็เดินเข้าไปที่ต้นจากนั้นก็ใช้เล็บที่งอกออกมาจากนิ้วกรีดเข้าไปที่ลำต้นของต้นเมเปิ้ลทันใดนั้นก็มีของเหลวสีทองไหลออกมา
“นายท่านสิ่งนี้คือน้ำหวานจากต้นเมเปิ้ล เมื่อท่านกินมันมันจะช่วยในการรักษาอาการบาดเจ็บทางวิญญาณของท่าน” เคนอธิบาย
น้ำหวานสีเหลืองทองลอยมาหยุดอยู่ที่หน้าของเขา กลิ่นที่มันส่งออกมานั้นช่างหอมหวานเป็นอย่างมาก เขาเคยได้ยินชื่อของน้ำหวานที่ได้จากต้นเมเปิ้ลในโลกเก่าแต่เขาเชื่อว่าน้ำหวานพวกนั้น ไม่มีทางที่จะส่งกลิ่นหอมได้เท่ากับน้ำหวานที่อยู่ตรงหน้าของเขาอย่างแน่นอน
ดอนอ้าปากและกลืนน้ำหวานนั้นลงไปทันที สัมผัสแรกที่เขาสัมผัสได้นี่คือความหวานที่รู้สึกเบาสบายเป็นอย่างมาก มันมีรสชาติคล้ายคาราเมล มีกลิ่นของวานิลลาอ่อน ๆ กระจาย ละลายในปากทันที
“อร่อยมาก!” ปกติแล้วเขาจะเป็นคนที่ไม่ชอบของหวาน ๆ แต่เมื่อได้กินน้ำหวานจากต้นเมเปิ้ลตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกติดใจขึ้นมาแล้ว
ระหว่างที่เขากำลังดื่มด่ำกับความหวานของมันอยู่ เขาก็รู้สึกได้ว่าอาการบาดเจ็บทางวิญญาณลงคอเริ่มจะฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาอย่างช้า ๆ
เมื่อเป็นแบบนั้นเขาจึงสั่งให้ลูกบาศก์วิญญาณดึงน้ำหวานที่อยู่ในต้นเมเปิ้ลออกมาเท่าที่จะทำได้ เขาดึงน้ำหวานที่ได้จากต้นเมเปิ้ลประมาณ 1 เหยือกเท่านั้น
ขณะที่เขากำลังเจาะกินน้ำหวาน ไปแล้วแล้วเขาก็นึกขึ้นได้ จึงหันไปถามเคน “มันมีประโยชน์ต่อเจ้าหรือไม่”
“แน่นอนเลยท่านมันมีประโยชน์ต่อข้าอย่างแน่นอน เพราะข้าก็ถือว่าเป็นวิญญาณเช่นเดียวกัน”
“เอานี่รับไป” ดอนแบ่งน้ำหวานส่วนนึงออกมาแล้วส่งให้กับเคน
ถึงแม้ว่าเขาต้องการน้ำหวานนี้เป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังจะแบ่งให้เคนอยู่ดีเพราะถึงอย่างไรแล้วเมื่อเคนมีพลังที่มากขึ้นมันก็จะเป็นประโยชน์ต่อเขามากเช่นเดียวกัน
“ขอบคุณนายท่าน” เคนกินน้ำหวานทันที พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
เคนมีพลังที่เทียบเท่ากับวิญญาณเร่ร่อนระดับต่ำ พลังของเขามีผลแค่กับมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น ยิ่งวิญญาณเขาแข็งแกร่งมากแค่ไหนพลังของเขาก็ยิ่งมากเท่านั้น
หลังจากนั้นสักพักดอนก็เริ่มสำรวจโลกภายในลูกบาศก์วิญญาณต่อ
เขาก็ไปที่สระน้ำพลังงานที่อยู่ด้านข้างต้นเมเปิ้ล มันเหมือนกับทะเลสาบขนาดเล็ก ที่น่าพิศวงอย่างมาก พลังงานที่อยู่ภายในหมุนวนเหมือนกับดวงดาวและแสงที่ร่องรอยอยู่ในอวกาศ พลังงานบางส่วนได้ถูกส่งไปที่ต้นเมเปิ้ลผ่านรากของมันที่ยื่นลงไปในสระพลังงาน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อัศจรรย์มาก
“ก็แค่อยากรักษาการบาดเจ็บทางวิญญาณให้หายเร็ว ๆ เขามีแต่ต้องหาพลังงานมาเพิ่มให้กับมันเท่านั้น” เขาบ่นพึมพำขณะที่มองไปที่สระพลังงาน
“จริงสิข้าสามารถสลายต้นไม้ต้นอื่น ๆ หรือสัตว์บางชนิดได้จากนั้นก็กินมันได้เหมือนกัน ซึ่งดีกว่าการที่ต้องรอน้ำหวานจากต้นเมเปิ้ลเพียงอย่างเดียว” เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็รู้สึกผ่อนคลายลงทันที ‘พรุ่งนี้เดี๋ยวให้อายูไปรวบรวมเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นให้ก็แล้วกัน’
เมื่อความหวังเรื่องนี้ลงได้แล้วเขาก็คิดถึงสิ่งนั้นก็คือการฝึกฝนคาถาหอกดินที่ตอนนี้ยังค้างคาอยู่เขาจึงหันไปหาเคนเพื่อคลายข้อสงสัย เพราะถึงอย่างไรคลื่นก็ยังมีความทรงจำของจอมอาคมอยู่ นั่นหมายความว่าตอนนี้เขาสามารถเรียนรู้จากจอมอาคมได้โดยตรง
“เคน เจ้าสอนข้าร่ายคาถาได้หรือไม่?”
“ข้าพอจะช่วยชี้แนะบางอย่างให้แก่ท่านได้ ข้าขอดูคาถาที่ท่านจะใช้ได้หรือไม่”
ดอนบอกชื่อคาถาและอธิบายวิธีการทำงานและคำที่ร่างในคาถาให้กับเคนฟัง หลังจากนั้นสักพักก็เริ่มอธิบายในส่วนของคำร่ายที่ดอนไม่เข้าใจในเรื่องของภาษาเนธาดิธโบราณ
“หัวใจสำคัญของการร่ายคาถานั่นก็คือการออกเสียงและจินตนาการถึงสิ่งที่ต้องการจะให้เป็น………..”
“ท่านต้องจินตนาการถึงวงจรอาคมที่ต้องการจะสร้างและรูปร่างของสิ่งที่ท่านต้องการจะให้เป็นเช่นถ้าต้องการเปลี่ยนพื้นดินเป็นหอกดิน………...”
ดอนฟังที่เคนธิบายอยู่สักพักหลังจากนั้นทดลองร่ายคาถา
โลกของลูกบาศก์วิญญาณก็มีพื้นดินเช่นเดียวกันดังนั้นมันจึงสามารถใช้แทนดินได้
“ฟอนดาซิ…..เดี่ยวนี่มัน!!!” เมื่อเขาเอ่ยคำที่ 3 วงจรอาคมที่อยู่ข้างหน้าก็แตกสลาย ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงบางอย่างจากบทร่ายนั้น
โดยไม่รอช้าเขาเริ่มทดลองร่ายอีกรอบ
“ฟอนดาซิ…”
“ฮ่า ๆ เป็นแบบที่ข้าคิดจริง ๆ ด้วยข้ามองเห็นรูนที่อยู่ภายในวงจรอาคมขณะที่กำลังสร้างได้อย่างชัดเจน” เขาหัวเราะพร้อมกับยิ้มออกมาทันที
ในสายตาของเขาวงจรอาคมที่ปรากฏอยู่ด้านหน้ามันเหมือนกับถูกส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ที่มีความละเอียดสูงมาก สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน การที่เขามองเห็นในรูปแบบนี้น่าจะมาจากการที่โลกภายในลูกบาศก์วิญญาณคือสิ่งที่เขาสามารถควบคุมและปรับแต่งมันได้อย่างสมบูรณ์
จึงทำให้เขาสามารถมองเห็นถึงโครงสร้างสิ่งที่เกิดขึ้นภายในโลกลูกบาศก์วิญญาณได้อย่างอย่างชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นเพราะเขายังไม่เคยเข้ามาในลูกบาศก์วิญญาณ
โดยปกติแล้วรูนที่อยู่ในธรรมชาติจะเชื่อมต่อกันเป็นวงจรอาคมจะมีขนาดที่เล็กมากซึ่งไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ทำให้ได้แต่ต้องใช้พลังจิตสัมผัสเพื่อจินตนาการถึงรูปร่างและหน้าตาของวงจรอาคมแต่ละตัว หลังจากที่มีการศึกษาหมอตั้งแต่ยุคโบราณ จอมอาคมก็ได้สร้างบรรทัดฐานและภาษาที่ช่วงต่อแล้วสื่อสารกับรูนและวงจรอาคมที่อยู่ในธรรมชาติ เพื่อที่จะเลียนแบบวงจรอาคม และสร้างรูนขึ้นมาในภายหลัง
ดังนั้นการที่เห็นโครงสร้างของวงจรอาคมนั้นนั่นหมายความว่าเขาจะรู้ว่าตรงไหนบกพร่องบ้างและสามารถปรับเปลี่ยนได้ก่อนที่มันจะพังทลาย
อีกครั้งก็ยังช่วยให้เขาเข้าใจโครงสร้างของวงจรอาคมแต่ละตัวได้อย่างทะลุปรุโปร่งได้ง่ายยิ่งขึ้นดีกว่าต้องมานั่งจินตนาการเองทุกครั้ง
“ฟอนดาซิ...”
“ฟอนดาซิลู...”
ทุก ๆ วันเขาใช้เวลากลางคืนภายในลูกบาศก์วิญญาณหลังจากกลับมาจากคราบเรียนวิชาพลังงานพื้นฐาน วิชาธาตุพื้นฐาน
เมื่อพลังจิตหมดเขาก็จะกินน้ำหวานที่ได้จากต้นเมเปิ้ลซึ่งเขาค้นพบว่ามันสามารถช่วยฟื้นฟูพลังจิตได้อย่างรวดเร็ว แล้วถ้าเขาใช้น้ำหวานต้นเมเปิ้ลหมดแล้วเขาจะออกลูกบาศก์วิญญาณเพื่อฟื้นฟูพลังจิตแล้วเขาก็จะกลับเข้าไปใหม่
หลังจากในเช้าวันที่ 5 วัน
ดอนลอยอยู่ใต้ต้นเมเปิ้ล ตอนนี้ร่างกายวิญญาณที่บาดเจ็บฟื้นฟูขึ้นมาจนถึงเกือบหัวเข่าแล้ว
‘ครั้งนี้แหละ มันต้องสำเร็จ’ เขามั่นใจเป็นอย่างมากเพราะที่ผ่านมาเกือบจะทำสำเร็จอยู่หลายครั้งแล้ว
เคนยืนอยู่ข้างหลังอย่างเงียบ ๆ มองดอนที่กำลังยกมือไปข้างหน้าและเริ่มร่ายคาถา
“ฟอนดาซิลูอา เมซิรอส”(เปลี่ยนผืนดินเป็นหอก เพื่อสังหารศัตรู)
พื้นดินที่อยู่ด้านหน้าของเขาก็เริ่มไหลรวมและหมุนวนเป็นเกลียวจากนั้นมันก็กลายเป็นหอกสีน้ำตาลเข้ม
“สำเร็จ ฮา ๆ สำเร็จแล้ว” ดอนหัวเราะเสียงดังด้วยความดีใจแต่ทันใดนั้น หอกดินก็ดูเหมือนจะสูญเสียการควบคุมพุ่งเข้าไปหาดอนทันที
ด้วยความตกใจเขาจึงกระโดดหลบหอกออกไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว
หอกพุ่งผ่านบริเวณที่เขายืนอยู่ตอนแรกไป
เคนที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่ทันได้สังเกตเนื่องจากตัวของดอนบังทันมองเห็นของออก หอกได้พุ่งขยับเข้าไปที่ข้างหูของเขาหลังจากนั้นก็ไปโดนกับต้นเมเปิ้ลที่อยู่ข้างหลัง และปักลงดินที่อยู่ด้านหลัง
“ตูม!!!”
ลำต้นของต้นเมเปิ้ลเป็นรูทะลุออกไปย้อนหลัง พื้นดินที่ด้านหลังกระจายเป็นหลุมทันที
“ฮู้...เกือบไปแล้ว ฝึกเล็งเป้าใหม่ซะแล้ว” ดอนยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผาด้านหน้าผากพร้อมก็บ่นขณะที่เขาหันไปเห็นเคนที่ตอนนี้ยังยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
เคนที่ตอนนี้ใบหน้าสีขาว ค่อย ๆ หันไปมองรูที่อยู่บนลำต้นของต้นต้นเมเปิ้ล เขาถึงกับกลืนน้ำลายทันที ถ้าหอกเบี่ยงออกมาอีกสักนิดคงเป็นหัวเขาที่เป็นรูแทนต้นเมเปิ้ล
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นวิญญาณก็ตาม ภายในโลกของลูกบาศก์วิญญาณ เขาก็ไม่ได้ต่างจากคนที่มีเนื้อหนังจริง ๆ เหมือนกับโลกภายนอก ถ้าโดนหอกนั้นไปมีหวังได้กลับบ้านเก่าจริง ๆ แน่
“อีกครั้ง!”
“ฟอนดาซิลูอา เมซิรอส(เปลี่ยนผืนดินเป็นหอก เพื่อสังหารศัตรู)”
“รีบหลบเร็ว!!!” ทันใดนั้นก็มีเสียงของดอนตะโกนขึ้น เคนที่ยังไม่ทันได้ตอบสนอง หอกก็เพิ่งผ่านใบหูอีกข้างหนึ่งของเขาทันที
“เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ ข้าบอกให้เจ้ารีบมัวแต่ยืนทำอะไรอยู่”
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทุกครั้งที่ดอนฝึกร่ายคาถา เคนก็จะหาข้ออ้างเพื่อหลบเลี่ยงเขาทุกครั้งไป และแม้แต่เจตจำนงตนอื่น ๆ ก็เป็นเช่นเดียวกัน
หลังจากที่พลังจิตหมดลง ดอนก็ออกไปจากโลกลูกบาศก์วิญญาณทันทีเนื่องจากตอนเย็นของวันนี้ เขาได้สั่งอายูให้ซื้อเมล็ดพืชที่หาได้ภายในเมืองนี้เพื่อที่จะมาเพิ่มให้กับโลกลูกปัดวิญญาณ
-------------------------------------------------------------
จากผู้เขียน : อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเม้นติชมกันบ้างนะครับขอบคุณสำหรับทุกวิวที่เข้ามาอ่านนะครับ