ตอนที่แล้วตอนที่ 9 ราวกับถ้ำลับสวนสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 เคน เจตจำนงแห่งความโกรธ

ตอนที่ 10 วิญญาณอาฆาต


ตอนที่ 10 วิญญาณอาฆาต

ข้างหลังของดอนมีวิญญาณยืนจ้องมาที่ดอนอย่างสนใจ

“สวัสดี” มันมองมาที่ดอนแล้วยิ้มออกมา

“สวัสดี” ดอนตอบไปแบบงงและยกมือขึ้นมาปิดปากทันที

“เจ้ามองเห็นข้า?” มันลอยเข้ามาใกล้ ๆ ดอน

“ไม่...ไม่เห็น”เขาถอยหลังไปสดุดเข้ากลับศพที่อยู่ด้านหลังและล้มลง ดอนมองไปที่ศพที่เขาสดุด หน้าตาของมันเหมือนกับวิญญาณที่ลอยอยู่

“ผู้อาวุโส ข้าไม่เห็นท่าน ข้า...ข้าลาละ” รีบถอยหลังคานออกไป

แต่ดูเหมือนว่าวิญญาณนั้นจะไม่ยอมปล่อยดอนไป มันลอยมาขวางทางดอนไว้

“ผู้อาวุโสข้าไม่ได้ตั้งใจเตะท่านนะ” ดอนรีบแก้ตัวแต่แล้วเขาก็นึกว่าเจ้าผีนี่คงจะดูเขามานานแล้วมันก็น่าจะเห็นในหลาย ๆ อย่าง

“ข้ามีเรื่องให้เจ้าช่วย” วิญญาณนั้นพูดออกมาและลอยไปประชิดหน้าดอนทันที

“ท่านต้องการให้ข้าช่วยอะไร” ดอนตั้งสติถามออกไป

“ในเมื่อเรามีวาสนาได้พบเจอกัน เจ้าต้องการเป็นศิษย์ข้าไหม?” ขณะที่พูดหมอกสีเลือดออกมาจากปากของวิญญาณความหนาวเย็นมากระทบหน้าดอน ดอนรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัวทันที

“ท่านตายกลายเป็นผีไปแล้ว ข้าจะเป็นลูกศิษย์ท่านได้อย่างไร ข้าว่าท่านไปอยู่ที่ชอบที่ชอบเถอะนะ” ดอนยกมือไหว้ ในใจคิดใครจะไปอยากเจอผีตาแก่หน้าย่นกัน ข้าอยากเจอผีสาวสวย ๆ อกใหญ่ ๆ มากกว่า

“ใครบอกข้าตาย! ข้าเป็นจอมอาคม ร่างตายแต่กายวิญญาณยังอยู่ ข้าสามารถฟื้นคืน....ช่างมันเถอะเอาเป็นว่าเจ้าอยากเป็นจอมอาคมไหม?” วิญญาณมองมาที่ดอนอย่างคาดหวัง

“ข้าเป็นได้เหรอ?” ดอนถามอย่างสนใจทันที

“ได้สิ! เจ้าก็แค่ให้ข้าตรวจดูว่าเจ้ามีอาณาเขตวิญญาณพอที่จะรองรับ วงจรอาคมได้หรือไม่ก็แค่นั้น” วิญญาณยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

เขาไม่ได้เชื่อใจวิญญาณนี้มากนัก ตอนแรกดอนหวังแค่เป็นนักรบแล้วกลายเป็นอัศวินมีพลังปกป้องตัวเอง แต่ถ้าเขามีโอกาศได้เป็นจอมอาคมนั้นมันก็น่าลองเสี่ยงดู “ข้าต้องทำอะไรบ้าง”

“เจ้าก็แค่เอาของที่อยู่ในกระเป่าข้างเอว ของข้าออกมา วางตามที่บอก เดี่ยวที่เหลือข้าจัดการเอง” วิญญาณชี้ไปที่กระเป๋า “ลากร่างของข้ามาด้วย ตามข้ามา” เมื่อสั่งเสร็จก็ลอยไปทางใต้หน้าผาทันที

ในบริเวณนี้เป็นใต้หน้าผา ทำให้ไม่ชื้นมากนัก

ทันทีที่ดอนเปิดกระเป๋าเทของออกมา ผลึกพลังงานมากกว่า 1000 ก้อน ก็ไหลออกมา พร้อมกับพร้อมกับขวดยา กล่องใส่ของเล็ก ๆ  และหนังสือหลายเล่ม

ดอนเห็นแบบนั้นก็ตาโตทันที ‘ข้ารวยแล้ว ถ้าข้าเป็นจอมอาคมไม่ได้ข้าจะปล้นของจากวิญญาณบ้านี่ให้หมดเลย การที่อยู่ในค่ายที่อดยากนั้นมันส่งผลทำให้นิสัยของคนเราโลภขึ้นมากจริง ๆ’ ดอนแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ ในใจ

หลังจากน้ำลายไหลสักพักดอนก็มองไปที่กระเป๋าที่ไม่ใหญ่มากนัก “มันใส่ของได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ”

“มีอะไรน่าดู มันก็แค่กระเป๋า รีบมาตรงนี้ดีกว่าเดี่ยวข้าจะมีอะไรที่สนุก ๆ ให้ดูอีกเยอะ”

เขาถือผลึกพลังงานไปว่างรอบ ๆ ตามที่วิญญาณนั้นบอก เขาไม่รู้ว่ามันกำลังทำอะไร ดอนได้แต่ระวังตัวตลอดเวลา

เขาเชื่อว่าไม่มีใครที่ทำอะไรโดยไม่หวังผลตอบแทน

ใช้เวลาสักพักก็วางครบทุกตำแหน่ง เมื่อวางไปที่ตำแหน่งสุดท้าย

ดอนก็มองดูอย่างรอคอย

5 นาทีผ่านไป..........ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้น???” ดอนหันไปมองวิญญาณที่กำลังทำอะไรอยู่กับร่างกายของมันก็ไม่รู้

“ใกล้แล้ว ใจเย็น ๆ นะ เจ้าเข้าไปยืนในวงจรอาคมแล้วรออยู่ในนั้นสักพัก” วิญญาณตอบด้วยความตื่นเต้นโดยที่ไม่หันกลับมามองเลย

“ก่อนจะเข้าไปข้าขอถามชื่อของท่านได้ไหม” ดอนหยุดอยู่นอกวงและถามออกมา

“ข้าคือ เคเซฟอน จอมอาคมระดับผู้ทำลาย เจ้ารีบเข้าไปได้แล้ว” วิญญาณนั้นตอบออกมาด้วยสีหน้าที่ดูหยิ่งทะนงเป็นอย่างมาก

ดอนได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกว่าคุ้นชื่อเป็นอย่างมาก พยายามนึกว่าเคยได้ยินที่ไหนแต่ก็นึกไม่ออก

จอมอาคมระดับผู้ทำลาย ในระดับพลังของจอมอาคมก็คงมีการแบ่งแยกไว้แบบพวกนักรบเหมือนกัน ถ้าเขาได้เป็นจอมอาคมแล้วก็คงต้องถามเรื่องนี้กับวิญญาณนั้นดู

ดอนยังไม่รู้ว่าจะเป็นจอมอาคมตามที่วิญญาณนี้บอกหรือไม่แต่เขาระวังตัวตลอดเวลาเขารู้สึกว่า มันแปลกมาก วิญญาณนี่พยายามที่จะเร่งให้เขาเข้าไปยืนในวงจรอาคมมาก

เขาเรียกลูกบาศก์วิญญาณออกมาแอบถือไว้ในมือเตรียมพร้อมไว้ก่อน ถ้ามีอะไรผิดปกติเขาจะได้สั่งให้มันย่อยสลายเคเซฟอนนั้นซะเลย

เมื่อดอนเข้าไปในวงจรอาคมแล้ว ทันใดนั้นก็มีโลหิตสีแดงฉานไหลออกมาจากร่างกายของเคเซฟอนมารวมเข้ากลับวงจรอาคม

เขาที่พึ่งก้าวเข้ามาในวงเห็นแบบนั้น ก็รีบถอยออกทันที มันไม่น่าจะใช่การตรวจสอบแล้ว แต่ก็สายไป รอบอาคมเกิดม่านแสงสีแดงขังดอนเอาไว้

“ท่านจะทำอะไร! ข้าเป็นศิษย์ท่านนะ” ดอนถามพร้อมกับเตรียมที่จะใช้ลูกบาศก์ทันที

“ฮ่า ๆ!!! ในที่สุดข้าก็จะได้ร่างใหม่สักที ตลอดเวลาที่ข้ารอคอยมา 4 ปี คอยดูเถอะ ข้าจะฆ่าล้างให้หมดทั้ง เมืองจากนั้นก็ฆ่าเมืองถัดไปและถัดไป” เคเซฟอนหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจดอน

วิญญาณที่ดูเหมือนกับคนปกติค่อย ๆ เกิดรอยแตกออก เลือดสีแดงไหลออกมา ดวงตาเริ่มแดงเหมือนเลือด ฟันเริ่มแหลมคม เล็บเริ่มยาวขึ้น เนื้อหนังเริ่มเน่าเปื่อยเห็นถึงการเสื่อมสลาย ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีดำ

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น

ดอนเห็นแบบนั้นก็รีบถอยออกมาจากกำแพงทันทีด้วยความกลัว เคเซฟอนลอยเข้ามาในวงจรอาคมพร้อมกับปลดปล่อย ออร่าความตายและความอาฆาตออกมาอย่างเข้มข้น

เขาที่เป็นแค่มนุษย์ธรรมดานั้นถึงกับตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ทันที ทำอะไรไม่ได้นอกจากมองดูเลือดที่ไหลอยู่ในวงจรอาคม กลายล่างเป็นงูโลหิต ไหลมาพันรอบ ๆ ร่างกายเขา

ดอนกัดลิ้นเพื่อเรียกสติกลับมา และพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากแรงที่รัดมากของงูโลหิต แต่ว่ายิ่งดิ้นมากเท่าไหลก็ยิ่งแน่นเท่านั้น  งูเริ่มพันดอนตั้งแต่ขาไปจนถึงหัว จนคุมไปทั่งร่างของดอน

“ฮ่า ๆ !!! สำเร็จ เสร็จข้าละ” วิญญาณนั้นตอบพร้อมกับลอยหาเข้าไปในรูปปั้นโลหิต วงจรอาคมที่ด้านข้างก็หมดพลังงานทันที ศพของเคเซฟอนและผลึกพลังงานก็สลายหายไป และทุกอย่างรอบข้างก็เงียบสงบลงเหลือแต่เพียงร่างของดอนที่โดนงูโลหิตพันไว้อยู่

.......................

ภายในแสงก่อเกิด ดอนเฝ้ามองวิญญาณของเคเซฟอน ค่อย ๆ ซึมเข้ามาในร่างของเขา ทันใดนั้น เคเซฟอนก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของดอนที่ล้อมรอบไปด้วยกลุ่มแสง

เคเซฟอนมองไปมองมาสักเล็กน้อยมันก็ตรงดิ่งมาหาวิญญาณของดอนทันที

“ฮี่ ๆ เจ้าอยู่ที่นี่เอง” เคเซฟอนยิ้มจนเผยฟันที่แหลมและเลือดที่ไหลออกมา

“เจ้าต้องการอะไรกันแน่?” ดอนไม่ได้แสดงท่าทีกังวลมากนัก ตอนแรกดอนกลัวว่าจะถูกฆ่าตายทันที

แต่เมื่อสังเกตุเห็นว่าร่างวิญญาณของเคเซฟอนที่เข้ามานั้นเหมือนกับไปกระตุ้นแสงก่อเกิดมันเหมือนกับตอนพลังงานสีเทาของนายหญิงเรน่าที่ถูกแสงก่อเกิดขังเอาไว้และค่อย ๆ ย่อยสลาย ไปเป็นพลังงาน

ดอนก็มันใจว่าวิญญาณเคเซฟอนนั้นก็สามารถย่อยสลายได้เช่นกัน

“ข้าจะทำอะไรนะหรือ ก็แค่จะกลืนกินจิตวิญญาณของเจ้าจากนั้นก็ใช้ร่างนี้ไปล้างแค้นก็แค่นั้น เจ้าคงไม่ว่าอะไรนะ” เคเซฟอนตอบแบบยิ้ม ๆ

ดอนรู้สึกว่าวิญญาณเฒ่านี่ช่างกวน...นัก คนแก่ ๆ ในโลกนี้เป็นแบบนี้กันหมดเลยหรือไม่ แต่อาจจะเป็นแค่จอมอาคมเท่านั้น ที่คงมองว่าคนธรรมดาเป็นแค่วัตถุดิบจะทำอะไรก็ได้

“มันจะเจ็บแค่แปปเดียว” ร่างวิญญาณของเคเซฟอนเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ กว่า 100 เมตร

ดอนรู้สึกเจ็บปวดมาก ราวกับว่าร่างกายของเขาไม่สามารถรองรับวิญญาณของเคเซฟอนไว้ในร่างกายได้อีก เคเซฟอนยื่นมือมากำวิญญาณของดอนไว้

“อ๊ากก ๆ” ดอนร้องออกมาขณะที่ เคเซฟอนยกร่างวิญญาณของดอนไว้และกำลังจะกลืนลงไป

 

“เจ้าต้องการจะยึดร่างข้าเหรอ ฝันไปเถอะ!!!” ดอนยิ้มออกมาและสั่งให้ลูกบาศก์ที่อยู่ข้างนอก เริ่มย่อยสลายงูโลหิตที่พันรอบตัวเขาอยู่

ตอนนี้ถ้ามีใครมองดูรูปปั้นโลหิตอยู่ตอนนี้จะเห็นได้ว่าที่มือของรูปปันมีรอยแตกเผยให้เป็นแสงสีขาว ที่เริ่มไหลคุมร่างของรูปปั้น และเริ่มย่อยสลายงูโลหิต

“ซี่ ๆ !!!” มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

ในร่างของดอนแสงก่อเกิดก็เริ่มกระจายออกมาจากวิญญาณของดอนไล่กลืนกินวิญญาณของเคเซฟอนอย่างเมามัน

“มันคืออะไร อ๊ากๆๆ เอาออกไป” วิญญาณเคเซฟอน บินหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่แสงก่อเกิดก็ตามไปติด ๆ ไล่ฉีกและกลืนกินวิญญาณของเคเซฟอทีละชิ้น ๆ

“ของบำรุงชั้นดี”ดอนรู้สึกว่ามีพลังงานไหลเข้ามามันรู้สึกอุ่นและสบายเป็นอย่างมาก

เคเซฟอนรีบออกมาจากร่างของดอนทันทีด้วยความกลัว แต่มันกลับถูกจับโดยลูกบาศก์ทันที

ตอนนี้งูโลหิต ถูกขังอยู่ในลูกบาศก์พร้อมกับวิญญาณของเคเซฟอน มันพยายามชนลูกบาศก์อย่างรุนแรงแต่มันก็ทำได้แค่ชนอย่างสิ้นหวังเท่านั้น

เขาถือว่าโชคดีมาก ถ้าเคเซฟอนฆ่าเขาทันทีด้วยพลังของจอมอาคมเขาคงตายทันที แต่ดูเหมือนว่ามันต้องการจะยึดร่างของดอน ทำให้มันถูกลูกแสงจับขังได้

หลังจาก 5 นาทีผ่านไป....

ดอนก็ลืมตาขึ้นมา ตอนนี้ลูกบาศก์วิญญาณลอยนิ่ง ๆ อยู่ข้างหน้าเขา ด้านในมี เคเซฟอนที่กำลังถูกย่อยสลายราวกับขนมสายไหมที่โดนน้ำค่อยๆ ละลาย

ตอนนี้วิญญาณของเคเซฟอนเริ่มจางลงไปมากแล้ว เสียงกรีดร้องของมันนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก

“อ๊าก ๆ !!! ข้าจะฆ่าเจ้า ๆ” เคเซฟอนกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง ไม่ได้รู้สึกสงสารวิญญาณของเคเซฟอน เขารู้สึกว่ามันน้อยไปด้วยซ้ำดอนเลยสั่งให้ลูกบาศก์ย่อยสลายมันช้า ๆ จะได้ทรมานให้มันเจ็บปวดยิ่งขึ้นไปอีก

สำหรับดอนแล้ว เขาไม่สนใจว่าใครจะมาทำดีกับเขาหรือไม่ แต่ถ้ามาดีเขาก็ดีกลับ แต่ถ้ามาร้ายละก็เขาจะจองเวรมันจนตายกันไปข้างหนึ่งเลย

ดอนเลิกสนใจลูกบาศก์ที่ลอยอยู่ เขาไปหาใบไม้มาปูนอนระหว่างทางเขาเจอเข้ากับปลาถ้ำตัวใหญ่เท่าขา ยาวกว่า 1 เมตร มันดูจะไม่กลัวคนอาจจะเป็นเพราะว่ามันไม่มีผู้ล่าตามธรรมชาติ ดอนจับมันได้อย่างง่ายด่าย

เมื่อลองหาของในกระเป๋าเคเซฟอนเพื่อจุดไฟแต่ก็ไม่มีอะไรใช้ได้ เขาได้แต่ทนความหิว ไปหาไม้มาจุดไฟ โดยใช้วิธีแบบคันธนูปั่น ต้องขอบคุณสมัยที่เขาเรียนมหาลัยในโลกเก่าเขาชอบแอบดูสารคดีเดินป่าในห้องเรียนบ่อย แต่ด้วยความที่อากาศมันชื้นและเขาทำครั้งแรกดอนเสียเวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง เขาก็ก่อกองไฟเล็ก ๆได้สำเร็จ

เขาใช้เวลาย่างปลาไม่นาน ก็สุกถ้าไม่นับที่ไหม้เกรียมเล็กน้อยหลังจากกินปลาที่ย่างเสร็จ ความอิ่มที่ได้รับการเติมเต็ม ดอนก็งีบหลับไปทันที

เมื่อนอนเต็มอิ่ม เขาตื่นขึ้นมาก็มองไปที่ลูกบาศก์ทันที ตอนนี้มันย่อยสลายงูโลหิตหมดแล้วเหลือแต่เคเซฟอนที่เหลือแต่หัวเอาแต่สาปแช่งดอนอยู่

เขาก็หันไปสนใจกับสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าเคเซฟอนทันทีสิ่งแรกที่หยิบขึ้นมาไม่ใช่ผลึกพลังงานแต่เป็นหนังสือ ในนี้มีหนังสือหลายสิบเล่มเลยที่เดียว เขาลองหยิบสุ่มออกมาเล่มหนึ่งมันคือ

“หนังสือคาถาระดับ 2 คืนชีพผีดิบ โดยจอมอาคมริชาด เอลโดสัน”

ดอนเห็นแบบนั้นก็พอจะนึกขึ้นได้บ้าง

“มันนั่นเอง จอมอาคมผู้ชั่วร้ายเคเซฟอน ผู้ปรุงชีพผีดิบถล่มเมือง ฆ่าคนไป 400000 กว่าคน เมื่อ 4 ปีก่อน ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอศพมันที่นี่”

ดอนเปิดหน้าแรกของหนังสือ แต่ทันทีที่เปิดออก ก็มีพลังงานจิตจำนวนมหาศาล โจมตีเข้ามาทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ

ที่จิตวิญญาณดอนมีแสงก่อเกิดป้องกันไว้อยู่จึงไม่เป็นอะไรมากนัก แต่ว่าร่างของเขารับพลังจิตไปถึงจะเป็น แค่ 10 % ของทั้งหมดมันก็เกินที่เขาจะรับไหว

“อั๊ก ๆ ดอนกระอักเลือดกระเด็นไปทันที” หนังสือที่อยู่ในมือของเขาหล่นปิดหน้าลง พลังจิตที่โจมตีก็หยุดลงทันที พร้อมกลับดอนที่สลบไป

-------------------------------------------------------------------

จากผู้เขียน : อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเม้นติชมกันนะครับ ขอบคุณสำหรับทุก ๆ วิวที่เข้ามาอ่านนะครับ

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด