ตอนที่แล้วThree of us 32 : กดดัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThree of us 34 : แสบๆหายาก (NC)

Three of us 33 : สนุก


Three of us

ตอนที่ 33

สนุก

...อนุภัทรพี่ชายคนโตของทุกคนเดินเข้ามาในห้องประชุมก่อนจะยกมือไหว้พ่อแม่น้าชายน้าสะใภ้และรับไหว้น้องๆทุกคนจนครบ

"เฮียนุมาไงอะ" โต๋ถามด้วยความตื่นตา อนุภัทรไม่กลับไทยมาเกือบ 2 ปีแล้ว... แต่วันนี้จู่ๆก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีที่ดูสบายๆสุดๆ...

"เรื่องสำคัญนี่นะ น้องจะแต่งงานทั้งทีแล้วไหนจะเรื่องในครอบครัวอีก...เฮียจะพลาดได้ไง" เขาเอ่ยก่อนจะรับกอดจากผู้เป็นแม่ที่น้ำตาซึมไปแล้ว

ไม่แน่ใจว่ามารดาร้องไห้เพราะเขามาหรือว่าร้องไห้เพราะเหตุการณ์ในห้องประชุมบานปลายเข้าเรื่อย...

"ว่าไงเราสองคน...ไปถึงไหนกันแล้ว นึกว่าจะมาถึงตอนทุกอย่างเรียบร้อยไปแล้วซะอีก ดันมาทันได้ยินช็อตสำคัญซะได้ ใช่ไหมครับน้า..." อนุถามไปยังองอาจที่เพิ่งโพล่งประโยคแห่งอารมณ์ออกมาสดๆร้อนๆ...

"น้าไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้นุต้องบินมาถึงนี่..." องอาจถามเสียงเบาหวิว

จากอารมณ์ๆกริ้วๆนายตำรวจใหญ่ก็พริ้วเป็นเสียงอ่อนทันที ทุกคนรู้ดีว่าเพราะอะไร... ในบ้านไม่มีใครไม่เกรงใจพี่ใหญ่อย่างอนุภัทร...

"ไม่ได้สิครับเรื่องใหญ่นะเนี่ย... การใช้อำนาจโดยไม่ชอบและการเอาเรื่องส่วนตัวมาปนในการบริหารงาน ผมเป็นคนร่างโครงทั้ง 3 บริษัทนี้เลยนะ เกิดอะไรมิชอบขึ้นนี่มีหวังผมด่าไปถึงโน่นเลยนะครับ...เอ ทำไมมันหละหลวมซะได้นะฮ่าๆๆ" อนุบอกพร้อมทำท่าทางขำขัน ทว่าทุกคนนั้นเงียบกริบ

รู้ดีว่าอนุไม่ได้ขำอย่างที่แสร้งทำ...

แต่พี่คนโตกำลังเหน็บแนมเสียดสี...

"แจ้งไปหมดแล้วทั้งเรื่องพิจารณาและเรื่องอื่น ขอบคุณนะเฮีย..." นทีเอ่ยกับพี่ชายคนเดียวอย่างรู้กัน

"ไม่ได้สินัทเฮียต้องช่วยอยู่แล้ว มันเรื่องความถูกต้องนี่นะ มีใครมีปัญหาเรื่องในบริษัทไหมครับ?" อนุถามลอยๆ

"จะไปมีอะไร...ป๊าผิดจริงก็ต้องยอมรับ แต่คราวนี้ไอ้เรื่องความเป็นมนุษย์นุจะเข้าข้างน้องมันยังไง?" บิดาของอนุและนทีถามออกมา

สุรเชษฐ์ยังกล้าเถียงอยู่เพราะรู้สึกถือไพ่เหนือกว่าในเรื่องนี้ ไอ้เรื่องที่เขาใช้อำนาจลับหลังลูกชายก็ใช่ว่าผิดจริง แล้วเรื่องสามคนผัวเมียอนุจะเข้าข้างน้องยังไงคนเป็นพ่อกำลังรอฟังมัน...

"ความเป็นมนุษย์ที่ป๊าว่าคืออะไรครับ?"

"เอาแล้ว..." โต๋ยกยิ้มพึมพำออกมา คุณลุงเขาถามออกมาราวกับไม่รู้จักลูกชายตนเอง...

"แล้วการร่วมเพศแบบสามคนไง แล้ว 2 คนในยังเป็นพี่น้องกันอีกล่ะ? มันยอมรับกันได้ง่ายๆเหรอนุ..." สุรเชษฐ์ถามกลับ

แม้ว่าเขาจะค่อนข้างแน่ใจนักหนาว่าลูกและหลานชายไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันเอง แต่ยังไงก็บรรเลงรักเข้าไปทางเดียวกันโดยมีเด็กผู้ชายคนนั้นเป็นเมีย....พี่น้องมีเมียเดียวกัน แบบนั้นเขารับไม่ได้อยู่ดี และเขาจะพูดด้วยประโยคนี้ให้เต๋และนทีรู้สึกแย่...

"ทุกคนไม่เหมือนกันนี่ครับ และเพราะทุกคนแตกต่าง... ถ้าเหมือนกันหมดมันจะใช่ "คน" เหรอ...รสนิยมทางเพศมันไม่มีใครบังคับกันได้นะป๊า และนุว่านี่มันคนละเคสกับการ incest..."

"น้าก็ไม่ว่าอะไรที่เขาจะชอบหญิงหรือชาย แต่นี่มันอยู่กันสามคนนะนุ มัน..." เนเอ่ยออกมา ในที่สุดเธอก็หาเสียงตัวเองเจอ

"มันต่างอะไรกับการที่น้าองอาจหรือป๊าไปซื้อบริการทางเพศเหรอครับน้าเน อันนี้นุพูดตรงๆเลยนะ...เราควรจะพูดมันได้อย่างปกติใช่ไหม" อนุภัทรถามทำเอาองอาจหน้าชา

"...."

"....น้องๆมันอาจจะไม่กล้าถามกัน แต่นุถามแล้วให้กันว่าถ้ายึดติดกับการมีผัวมีเมียเดียว แล้วจะอธิบายการไปซื้อบริการทางเพศแล้วเลี้ยงเป็นน้อยนั่นจะว่าไงดีครับ?" อนุภัทรในตอนนี้ซักยิ่งกว่าในห้องสอบสวนคดี

อนุภัทรรู้มาเสมอว่าครอบครัวมีเรื่องแบบนี้ในตอนที่เขาโตพอจะรับความจริงได้ พ่อเขากับน้าชายมักไปเที่ยวในสถานบริการทางเพศจนแม่และน้าสะใภ้ปวดใจอยู่เสมอ

เขาโอเคกับการซื้อขายบริการอยากจะให้มันถูกกฎหมายด้วยซ้ำ... แต่อยากจะย้ำอีกทีว่าคนพวกนี้เลี้ยงคนเหล่านั้นเป็นน้อย เดือนละคนบ้างสองคนบ้าง มันต่างอะไรจากการที่น้องชายเขาอยู่กันสามคน...

สุดท้ายทำเป็นรับไม่ได้ไม่ใช่แค่เพราะสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมให้ตัวเองเหรอ...

"เฮีย.." แต้วทำท่าจะแย้งเพราะเห็นพ่อและลุงไปไม่เป็น และมันแรงเกินไปแล้วสำหรับเธอ...

"แม่แกโอเค!! ....ป๊าไม่ได้นอกใจ เราตกลงกันได้แบบนั้น..."

"มันไม่ใช่การบังคับโกหก น้าก็ยังมีเมียคนเดียว.." องอาจเสริมพี่เขย

คำตอบของทั้งสองคนทำเอาเต๋ นที โต๋ขำพรืดกันออกมา.... การมีเมียน้อยและเลี้ยงเด็กที่ว่าเป็นรายเดือนน่ะเหรอที่แม่กับป้าพวกเขาโอเค...

"จะบอกว่าแบบนั้นทำได้...หาความชอบธรรมให้ตัวเอง ไม่ตลกไปเหรอครับ น้องๆโตกันแล้ว ฟังแล้วเขาจะไม่เคารพเอานะ.." อนุภัทรเอ่ยนิ่งๆ

"มากไปแล้วนะนุ.." อรณิชย์ว่าออกมาเมื่อลูกชายกำลังหลอกด่าพ่อและน้าของตัวเอง

"ถ้าแม่กับน้าเนจะโอเค...ป๊ากับน้าก็ทำไปนุไม่ได้ว่าแล้วก็ไม่มีใครว่าด้วย ไม่มีใครก้าวก่ายใครสักคนในชีวิตคู่แบบที่รุ่นพ่อแม่เลือกจะทำ แต่ในเมื่อน้องตกลงอยู่กันสามคนได้ ไม่ได้ฝืนใจกัน เขายอมรับกันได้ ทำไมพ่อแม่แล้วก็น้าเลือกจะไม่เคารพมัน?" อนุถามกลับตีแสกหน้าทุกคน

"...."

"นุไม่ได้บอกว่าสิ่งที่พวกป๊าทำมันห้ามทำ การซื้อบริการหาความสุขแบบตกลงกันได้ไม่ผิด และนุจะไม่บอกว่าที่น้องทำมันไม่ควร"

"...."

"เพราะสุดท้ายชีวิตใครคนนั้นก็ต้องเลือกเอง ยิ่งชีวิตรักเขาต้องยิ่งตกลงพร้อมใจกันเองไม่ใช่หน้าที่ของ 'คนนอก' เลย เรื่องมันมีแค่นี้ทำไมเราต้องมานั่งอธิบายกัน" อนุภัทรถามด้วยท่าที่สบายๆ

"รักเฮียว่ะ" โต๋เอ่ยขึ้นมายกนิ้วโป้งให้

"การที่คนในครอบครัวไม่รับฟังไม่เปิดใจว่าแย่แล้ว แต่เอาอำนาจบริหารงานมาต่อรองเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ที่สุด เพราะฉะนั้นเซ็นข้อตกลงซะนะครับ.." อนุภัทรว่า

"บินกลับมาเพื่อสอนพ่อแกแล้วก็บังคับให้เซ็นสัญญาไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวชีวิตพวกแกเนี่ยนะ" บิดาเขาถามปากสั่นไปหมด

"ไม่ใช่แค่พวกเรา แต่พนักงานหรือทุกคนในบริษัทจะไม่มีใครได้รับผลกระทบในเรื่องงานจากการที่รสนิยมทางเพศ ศาสนา และส่วนตัวอื่นๆอีก ผมไม่ได้บังคับครับ แต่อยากให้ทุกคนมีบั้นปลายชีวิตที่สบาย...มีเงินใช้ไม่ขาดมือ.." อนุภัทรรู้ดีว่าทุกคนเสพติดความสบายไปแล้ว พ่อและลุงโดยเฉพาะแต้วคงไม่ยอมรับความลำบากเพราะแค่อีโก้และยอมยึดหลักความคิดหัวโบราณแน่ๆ

"เด็กพวกนี้จะเอาพ่อแม่มันไปปล่อยวัดละมั้ง เพราะไม่คิดเห็นด้วยกับพวกมันน่ะ.."

"พ่อพอเถอะ!!" แต้วที่หน้าแทบจะเหลือเซ็นเดียวปรามพ่อตัวเอง เฮียพูดขนาดนี้แล้วทำไมพ่อยังไม่เข้าใจ...

"ถ้าแกฟังแล้วยังคิดไม่ได้ฉันจะเป็นคนตัดแกออกเอง" อรณิชย์ว่าน้องชายเสียงสั่นไปหมด...

"จะไม่เซ็นไม่ว่าครับ โต๋เลี้ยงพ่อกับแม่ได้นะ ต่อให้พ่อแม่จะไม่เคารพการตัดสินใจชีวิตของเราเลย...และเชื่อว่าเฮียก็ไม่ทิ้งแน่ๆแต่จะโอเคกันไหมครับถ้าไม่มีหุ้นให้เอาไปอวดใครๆ ไม่มีอำนาจไปเข้าหน้ากับสังคมเพื่อนด้วยนะครับลุง" โต๋ตอบออกมากวนๆใส่พ่อและลุงตัวเอง รู้ดีว่าสังคมเพื่อนของคนเหล่านี้เป็นยังไง การมีเงินมากมายแต่ไม่มีเส้นสายไปอวดก็เหมือนรวยแต่ในนามสำหรับพวกเขา...

"ก็ยังคบได้นะโต๋ เขาก็ไม่สนอะไรอยู่แล้วคนพวกนั้นนอกจากได้รู้ว่ามีธุรกิจรายได้มหาศาล เขาอาจจะรับไม่ได้มากกว่าถ้าคนมองว่าลูกมีรสนิยมทางเพศไม่เหมือนใคร"

"...."

"แต่ตัวเองลงอ่างกันเล่นเซ็กหมู่ในที่ลับด้วยกันได้ไม่เป็นไรซะงั้น แปลกแต่จริงแฮะ.." อนุภัทรบอกเล่าราวกับเป็นเรื่องขำขัน สองพี่เขยน้องเขยคู่นี้มีรสนิยมปาร์ตี้แบบลงหม้อสุกี้ด้วยกันบ่อยจะตายไป... เรื่องมันไปไกลจนเข้าหูเขาที่อยู่เมืองนอกประจำ...

องอาจและสุรเชษฐ์ที่ตอนนี้นั้นไม่รู้จะเอาหน้าไปวางตรงไหนตัวแทบจะหดลงเท่านิ้วก้อย ส่วนแต้วดูเหมือนจะตกใจกับบางเรื่องหน่อยๆ และก็คงคิดได้แล้วจากการฟังทั้งหมด

"ช่วยเอาเอกสารไปวางไว้หน้าทุกคนด้วยครับ.." นทีสั่งเลขาก่อนที่เธอจะไปวางตามคำสั่ง

คราวนี้ทุกคนจรดปากกาลงอย่างไม่ลังเล เนื่องจากไม่มีข้อให้เถียงหรือโต้แย้งใดๆ องอาจเซ็นเสร็จก็ลุกขึ้นเดินออกไปอย่างฉุนๆเล็กน้อยเพราะเสียหน้า ก่อนที่สุรเชษฐ์จะออกตามไปด้วยท่าทีคล้ายๆกัน

"นุ..." อ้อเรียกลูกชายด้วยใบหน้ารู้สึกผิด มองไปยังนทีและเต๋อีกด้วย

"นุรักแม่และทุกคนเหมือนเดิมนะ เชื่อว่าน้องก็เหมือนกัน ไม่มีใครเกลียดใครหรอก ถ้าแม่เข้าใจแล้วแม่ไปนั่งคิดอีกสักหน่อยก็ได้ นุเข้าใจว่ามันไม่ง่าย..." อรุภัทรสวมกอดกับมารดา

"แม่ขอโทษนะ นัทแม่ขอโทษนะลูก เต๋ด้วยนะ.." ทั้งเต๋และนทีเดินเข้ามาสวมกอดเธอด้วยอีกคน

"น้าด้วยนะนัท และน้าขอบใจนุนะที่พูดสิ่งที่อยู่ในใจน้า หลายครั้งน้าไม่ได้ดีใจที่เขาทำแบบนั้นนอกบ้าน คนเป็นเมียน่ะนะ... แต่น้าอยากรักษาครอบครัวไว้" เนบอกออกมา ก่อนที่เต๋นทีจะไปสวมกอดเธอบ้าง

"เจ้ขอโทษนะ ที่เอาเรื่องงานมาทำแบบนี้ แล้วตอนนี้เจ้เข้าใจพวกแกมากขึ้นแล้วนะ ทั้งที่เจ้ยึดถือความถูกต้องมาตลอดแต่กลับทำแบบนั้น.."

"เจ้ ความถูกต้องอื่นน่ะมันใช่นะ แต่เจ้ต้องไม่ตัดสินว่าอะไรคือความถูกต้องในชีวิตส่วนตัวคนอื่น แล้วกรอบน่ะมันไม่ได้มีแบบเดียว ตีกรอบรูปอื่นบ้างก็ได้ สุนทรีย์เจ้รู้จักปะ ผัวจะเครียดตายเอาได้นะ" โต๋ที่ปากจัดกว่าใครในวันนี้พูดออกมา ทำเอาอนุภัทรขำพรืด

โต๋เหมือนเขาตอนเด็กไม่มีผิด

"เจ้จะทำตามพ่อกับลุงมากไปไหม รู้นะว่ามีเขาเป็นแบบอย่าง แต่ไม่ต้องทำตามหมดก็ได้" เต๋แตะไปบนไหล่พี่สาวปลอบใจ

"พอๆ จะร้องอีกแล้วนั่น เราก็เรียนรู้กันไปแล้วกัน ยังไงคืนนี้ไปกินข้าวกันไหม เลี้ยงต้อนรับที่เฮียกลับมาหน่อยสิ...ชวนน้องมาด้วยนะนัทเต๋.." อนุภัทรบอกกับน้องชาย

เขาอยากจะพบจริงๆคนรักของน้องที่ว่า เชื่อว่าต้องเลือกกันมาดีแล้วแต่ถึงไม่ดีก็ต้องให้น้องเรียนรู้กันเองอยู่ดีน่ะแหละนะ.. ไม่ใช่หน้าที่พี่ชายอย่างเขาที่จะไปชี้หน้าว่าใครเหมาะกับใคร...

"ได้เฮีย กลับมาแบบจัดเต็มซะด้วยดิงานนี้" นทียกยิ้มให้คนแก้ปัญหาวันนี้ลุล่วงไป

"ห้ามมาหลงรักวอนอีกคนล่ะเฮีย คนนี้หวงมากด้วย" เต๋ว่า

"เออน่า.. แล้วว่าที่สามีคนโน้นล่ะเป็นยังไงบ้าง ดูดีแล้วใช่ไหมว่าไม่ใช่อาชญากรหรือเบื้องหลังอันตรายนะ...เฮียเองก็ห่วงไม่กี่เรื่องหรอก" อนุภัทรไม่เคยจะไปชี้นิ้วสั่งน้อง

...เขาห่วงเพียงแค่เรื่องพื้นฐานเหล่านี้ ยิ่งน้องสาวที่ฉลาดแต่หัวอ่อนคนนี้เขาจะกังวลใจมากกว่าใครอยู่หน่อยๆ

"ไม่มีหรอกเฮีย พ่อสแกนมาแล้ว" แต้วบอกก้มหน้างุด

"รักเองหรือเปล่า ไม่ใช่พ่อหามาให้นะ" อนุยิงคำถามตรงๆ

"ไม่ใช่แบบนั้น คนรักกันจริงๆ" เธอปฏิเสธทันควัน

"นุไม่ต้องห่วงนะ เรื่องนี้น้าดูอยู่" เนรีบช่วยลูกสาวทันที อนุภัทรเลยพยักหน้ารับไป

"แล้วเราล่ะไปอยู่โน่น...ชีวิตเป็นยังไง จะมีครอบครัวกับเขาหรือยัง?" อ้อถามแล้วลูบหัวลูกชายที่ยังเป็นตัวน้อยของเธอเสมอ...

"มีแน่ครับแม่...แต่จะมีแบบไหนยังไงรอเอาแล้วกัน นุไม่ต้องการงานใหญ่โตหรือพิธีอะไร พร้อมเมื่อไหร่นุจะพามาหาเองนะ" อนุว่าก่อนจะยกยิ้มร่าให้ทุกคน

"กูว่าลูก 3 แล้ว" นทีกระซิบกับโต๋

"ไม่เฮีย...ที่ 3 น่ะเมีย ลูกคงนับไม่ถ้วนแล้วล่ะป่านนี้..." โต๋ขำคิกคักด้วยทันที

"เตรียมรับหลานมาเลี้ยงเลย แจกจ่ายให้ทั่วถึง..." เต๋เข้าร่วมอีกคน

"มาพูดใกล้ๆนี่มา!" อนุบอกหลังจากมองน้องๆนินทากันขำขัน

อนุภัทรและชีวิตที่ไม่กลับเมืองไทยนานนั้นทำเขาตื่นตา เขาเดินตรวจตราดูบริษัทที่ถือหุ้นทั้งหมดและเป็นหุ้นที่ไม่น้อยไปกว่าใครเสียด้วย ทั้งอสังหาและหลักทรัพย์ของเต๋และนทีมีชื่อเขาอยู่ในบริษัทพวกนี้ทั้งนั้น ในฐานะพี่ใหญ่เขาไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย เพียงแค่มาร่วมทุนด้วยหวังจะให้น้องๆมีทุนไปสร้างรายได้จนเติบโต...

การมาครั้งนี้เขาได้มาทำหลายอย่างทั้งจัดการ ครอบครัว ระบบบริหารงาน งานแต่งน้องสาวและคงไม่พลาดการมาใช้ชีวิตง่ายๆที่บ้านเกิดสักพัก มาซึมซับว่าน้องๆโตกันไปแค่ไหนแล้ว...

...นทีและเต๋โทรทางไกลไปปรึกษาถึงเรื่องทั้งหมด ตอนแรกก็เกือบจะหาทางออกไม่ได้แต่พ่อและน้าก็ทำการอย่างนั้นไปซะก่อนบวกกับว่าตั้งใจจะพูดตรงๆให้แม่และน้าเนอยู่แล้ว เมื่อพ่อและน้าอาจตัดสินใจทำเรื่องแบบนั้นลงไปก็ไม่มีอะไรจะมาค้านได้อีก ผิดทั้งการกระทำและจริยธรรม...

เขารู้ว่าแม่และน้าเนนั้นปวดใจตลอดที่สามีมีเล็กมีน้อยเพียงแต่เขาทำเพียงคอยดูห่างๆไม่ได้มายุ่ง... อ้างว่าเมียรับได้ทั้งที่มีคนปวดใจเพราะตนเอง พอน้องจะมีบ้างแบบสามคนผัวเมียเกิดจะเสียหน้าขึ้นมา เขาก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่ารักกันสามคนมันเป็นยังไง แต่ก็คงคล้ายกับสองคนแค่มีเพิ่มมาละมั้ง...

"ขยันขันแข็งดีนะ.." อนุภัทรที่เดินมาดูงานใน ELs หลักทรัพย์ที่เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาก่อนจะถ่ายทอดมันให้ศาตนันท์เอ่ยทักทายเฟยที่กำลังเครียดกับโปรเจกต์จนนั่งหน้ายุ่ง

"เอ่อ ครับ ..." เฟยที่ไม่รู้จักมาก่อนว่าคนนี้เป็นใครมองตามอนุจนสุดตา

มาดดูดี..

ท่าทางดูไม่ใช่คนทั่วไปในบริษัทเลย...

เดินมาทักแล้วก็หันหลังเดินกลับออกไป ใครวะนั่น...

"ใครอะพี่.." เฟยถามตรีวิทย์

"พี่ชายคนโตของบอสเขาน่ะ คนนี้แหละคนเริ่มก่อตั้งที่นี่ ฉันก็เพิ่งเคยเจอครั้งแรก กะเทยอย่างฉันแต่งตัวเสรีภาพได้ในบริษัทใหญ่แบบนี้ โดยไม่ต้องมีข้อจำกัดทางเพศหรือบุคลิกได้เนี่ย เพราะคนนี้เลยนะ..." ตรีวิทย์ด้วยความภาคภูมิใจที่ได้รู้จักคนที่ให้เสรีภาพและโอกาสกับตนเอง

....แม้โลกจะเปิดกว้างแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่บริษัทระดับใหญ่จะมีสักกี่ที่...ที่ให้พนักงานมีสิทธิ์และเสรีภาพเท่าเทียมทางเพศจริงๆอย่างที่ปากว่า แต่เพราะอนุภัทรนี่แหละที่วางโครงสร้างมาดีแต่ต้นเลยทำให้คนรุ่นหลังไม่โดนจำกัดการแสดงความสามารถแค่เพราะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด...

"อ๋อออ..." เฟยลากเสียงยาว แบบนี้เขาก็รู้ได้ทันทีว่าจะมีเรื่องดีเกิดขึ้นกับการปรากฎตัวของคนๆนี้แน่ๆ...

"นุ..." รติที่กำลังยุ่งกับงานและเดินออกมาจากห้องประธานเมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาคือใครก็เรียกออกไปเสียงเบา...

"ว่าไงคุณรติ สบายดีนะครับ?" อนุภัทรมองใบหน้าที่คุ้นเคยด้วยรอยยิ้ม

"ครับ คุณนุสบายดีนะ?" รติถามมองสำรวจคนที่ไม่ได้พบนานแล้วเปลี่ยนสรรพนามใส่คำสภาพลงไปทันที...

"สบายดีครับ คุณรติยังเหมือนเดิมเลยนะ ...ผอมลงไปหน่อย" อนุมองสำรวจกลับเช่นกัน

"ครับ ผมขอตัว.." รติก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินปลีกตัวออกไป ปล่อยทิ้งให้อนุภัทรมองตามหลังจนสุดสายตา

"ขึ้นมาเร็วที่รัก...ไปกินข้าวกัน" โต๋ขับรถมาเทียบหน้าวรภพที่ลงมาจากตึก the 1 หลังเลิกงานด้วยเสียงกวนโอ๊ย

"อะไรอะ ไมมึงมารับ...." วอนมองงงๆก่อนจะเปิดประตูขึ้นรถไป ที่รงที่รักอะไรของมัน...

"พี่นะไม่ว่าง ไปกับกูนี่แหละ" โต๋บอกก่อนจะเคลื่อนรถออกไปอย่างไว

"จะไปทำอะไรแปลกๆกูไม่ไปนะ เหนื่อยอะ" วอนพิงไปกับเบาะด้วยความล้า ขืนมันมารับแบบนี้เผลอคิดไปว่าที่บ้านคงวุ่นๆ กลัวว่าโต๋มันจะพาเขาไปทำกิจกรรมใช้แรง ขืนพาไปทำอะไรแผลงๆเช่นการเล่นเสิร์ฟบนน้ำแบบวันก่อนที่ไปกับได้กอล์ฟเขาได้ตายแน่ๆ...

"แปลกอะไรไปกินข้าวแปลกเหรอ Rooftop ETC รอมึงอยู่..." คำของเพื่อนทำเอาวอนหันขวับ

"มึง...อย่าเลย กูขี้เกียจมีปัญหาอะไปส่งกูที่บ้านเถอะนะ..." วอนคิดว่าเพื่อนต้องพาเขาไปหาพี่ชายมันสองคนนั้นแน่ๆเริ่มกังวล เขาเบื่อจะรับมือกับคนที่บ้านมันแล้ว... ไปเจอคนที่เฝ้าคิดถึงมันก็ดีแต่ให้คิดอีกทีปัญหาที่ตามมาเขาเหนื่อยล้าเกินจะรับมือได้ตอนนี้...

"มึงซีเรียสอะไรวะ...ไม่ต้องห่วงกูแค่จะพามึงไปหาใครคนนึง" โต๋บอกยกยิ้ม

"มึงเอาดีๆ กูต้องกลับไปกินข้าวกับที่บ้านนะ พรุ่งนี้แม่กูกลับแล้วด้วย"

"วอนมึงขี้กังวลตั้งแต่เมื่อไหร่ นั่งเฉยๆเงียบๆไปเลย!!" โต๋บอกก่อนลอบมองหน้าเพื่อนด้วยความพอใจที่มันเงียบลง

สนุกแน่มึง...

"สวัสดีครับ นั่งก่อนสิ.." วอนที่เดินเข้ามาในร้านและโต๋เดินนำมาที่โต๊ะที่มีผู้ชายคนนึงนั่งอยู่วรภพมองงงๆและทักทายอีกคนกลับ

"โต๋ มึงทำอะไรเนี่ย..." วอนถามเพื่อนงงหนักเข้าไปใหญ่ ไม่รู้คนที่โต๋พามาพบคือใครและนี่มันไม่ใช่พี่ชายสองคนของมัน...

"ก็มึงเสียใจเรื่องเฮียๆกู...กูก็เลยพามานี่ไง"

"มึงอย่ามาตลก เล่นอะไรของมึง" วอนเอ็ดเพื่อนคำโต ไอ้โต๋มันเล่นอะไรของมัน...เสียใจจากเฮียมันเลยรัดเขามาเจอผู้ชายคนใหม่เหรอ... มันประสาทดีอยู่ไหมเดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันภายในอีกรอบ คราวนี้ป้าอ้อป้าเนได้เกลียดเขาจริงเลย..

"....เราวอนใช่ไหม ได้ยินเรื่องเรามาเยอะเลย พี่ชื่อนุนะครับ" อนุภัทรที่ยกยิ้มให้โต๋อย่างรู้กันกำลังรวมหัวกับน้องแกล้งคนตรงหน้า

"เอ่อ...ครับ มันยังไงนะ" วอนงงไปหมด แต่ว่าพี่คนนี้หน้าคุ้นสำหรับเขาเหลือเกิน

มันคุ้นทว่าก็ไม่เคยเจอ...

แต่คุ้นเพราะคล้าย...ไม่แน่ใจว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

"พี่อยากรู้จักเรานะ.." อนุบอกแล้วยกยิ้มกว้าง

"ขอโทษนะครับแต่พี่คงเข้าใจผิด วอนไม่สะดวกจริงๆ.."

"ทำไมล่ะ พี่สนใจเรานะ"

"วอนมีคนรักแล้ว โต๋กูไม่ตลกจริงๆนะ" วอนตอบกลับแล้วหันมาทางเพื่อนที่กลั้นยิ้มอยู่

"วอนมึงลองดูก่อน.." โต๋ยังคงแกล้งไม่เลิก

"มึงจะบ้าเหรอ มึงก็รู้จักเฮียมึงนะ...เรื่องที่ค้างอยู่ยังไม่เคลียร์เลย มึงทำอะไรเนี่ย.."

"เคลียร์แล้ว" อนุภัทรตอบแทรกขึ้นมา

"ยังไงนะครับ?" วอนถามกลับไปบ้าง

"พี่เคลียร์ให้แล้วครับ พี่ชื่อนุ...เป็นพี่ชายของนที" อนุภัทรแนะนำตัวทำเอาวอนตาโต

"เอ่อ ..."

"ไม่ต้องช็อคกูแค่แกล้ง... นี่เฮียนุพี่ชายกูเองเป็นพี่คนโตของเฮียนัท" โต๋อธิบายด้วยความอารมณ์ดี

"สวัสดีครับ...แล้วแกล้งวอนทำไมเนี่ย เกือบจะด่าโต๋กลางโต๊ะไปแล้วนะ..." วอนถอนหายใจความเกรียนของเพื่อนและพี่ชายมัน...

"วันนี้พี่อยากมากินข้าวด้วยกัน ปิดโซนนี้เลยเนี่ยเห็นไหม....เดี๋ยวคนอื่นๆก็มา นัทกับเต๋น่าจะไปคุยกับแม่กับพี่ชายเราอยู่" ,

"ยังไงนะ...ไปคุยอะไรครับ" วอนงงไปหมด

"เฮียนุเคลียร์เรื่องที่บ้านกูแล้วนะ แล้วก็ให้เฮียสองคนนั่นไปคุยกับบ้านมึงต่อ เดี๋ยวคงรับมากินข้าวด้วยกันเลย..." โต๋ไขความสงสัยและเฉลยทั้งหมด

"จริงเหรอ มึง...เขาโอเคเหรอ.." วอนไม่อยากจะเชื่อ ทำไมทุกอย่างมันดูง่ายขนาดนี้ ทั้งที่บ้านมันเขาจงเกลียดจงชังความสัมพันธ์สามผัวเมียขนาดนั้นอะนะ...

"จริงสิ ต่อไปนี้ก็อยู่ที่พวกเราแล้วนะ..." อนุภัทรวาดรอยยิ้มพิมพ์ใจส่งไปให้น้องคนใหม่ของเขาอีกคน...

"เป็นไงเฮียกูทั้งหล่อทั้งใจดี นี่ถ้าเจอคนนี้ก่อนนะมึงต้องหลงแน่!! สองคนนั้นไม่ได้เสี้ยวหรอก" โต๋ชงให้พี่ชายใหญ่ทันที ไอ้พี่อีกสองคนน่ะไม่ได้เรื่อง!!

"ว่าทำไมพี่หน้าคุ้นๆ มองไปมองมาบางทีก็เหมือนพี่นัทเลย..." วอนยกยิ้มกว้างให้

"ขยับมานั่งใกล้ๆสิ...เกร็งเหรอ นึกว่าโต๋มันจะพามาหาแฟนใหม่ล่ะสิ..." นุแซ็วเพราะวอนนั่งห่างเขาเป็นวาแล้วยังทำท่าระแวงเขาด้วยในตอนกรก

"ก็กลัวนี่.ใใเพื่อนวอนแต่ละคนเนี่ยนะ เหอะ ..." วอนทำหน้าเหม็นเบื่อขึ้นมา

"จ้าาา ฃ...พ่อคนดี ว่าแต่คุยกันไปก่อนนะ...ลงไปข้างล่างแป๊ป" โต๋ว่าก่อนจะเดินออกไปทิ้งให้วอนและอนุภัทรนั่งคุยทำความรู้จักกันไปตามประสาพี่น้องคนใหม่ของครอบครัว...

"อ้าวนึกว่าใคร...พี่นุสวัสดีครับ" เสียงทักของคนมาใหม่ทำเอาวอนและอนุหันไปมองงงๆ

"อ้าวเดย์...หวัดดี ไม่เจอนานเลยนะ" อนุภัทรทักทายอดีตคู่ขาของน้องชายตอนเรียนที่ต่างประเทศ

เขารู้จักเด็กคนนี้ดี...เพราะตอนที่ควงกันกับนทีที่เมืองนอกเขาก็เจอออกบ่อย แต่หลังจากนทีกลับมาแล้วก็เจอบ่อยในอีกแง่... เดย์ไม่ใช่แค่รักสนุกแต่เหมือนจะบุกตะลุยทุกที่ในเมืองที่น้องจากมาแล้ว... ตะลุยในเรื่องไหนเขาคงไม่พูดให้วอนตกใจต่อหน้าเจ้าตัวหรอก...

"ครับไม่เจอกันนานเลย...ว่าแต่ทำไมมาอยู่กันสองคนได้ พี่นุระวังนะครับคนนี้เขาไม่ธรรมดาเลย จะหาเพิ่มอีกคนเหรอ.." เดย์ทักทายวอนอย่างไม่ไว้หน้าอนุภัทร

"นั่นปากเหรอ?" วอนถามกลับ

"อ๊ะๆ ใจเย็นสิครับไม่น่ารักเลย นี่รวมโต๋ด้วยไหมเนี่ยน่ากลัวนะเรา..." เดย์เบะปากใส่วอน

"อืมมม จะว่าไปแล้ว.." อนุดึงตัววอนให้ลุกขึ้น ก่อนจะพยักหน้าให้สัญญาณให้น้องเดินมาหา จนเดย์มองหน้าสองคนงงกว่าเดิม

"...."

"มานั่งนี่มาวอน... เดย์จะว่าอะไรไหมถ้าเป็นอย่างที่เดย์ว่า.." อนุภัทรดึงให้วอนนั่งลงบนขาเขา วอนยังไม่เข้าใจนักแต่ก็ตามน้ำไป

"นี่มันเกินไปแล้ว....วิปริตไปใหญ่ครอบครัวอะไรเนี่ย พ่อแม่พี่เขาคิดยังไงเนี่ยให้ลูกมาทำอะไรกันเองแบบนี้.." เดย์ที่สติหลุดด่ากราดออกมา

"อิจฉาเหรอที่ไม่ได้ไปสักคนน่ะ ตายตรงนี้เลยสิ.." วอนถามกลับยกมืออนุมาแนบที่ใบหน้า

"บ้า บ้าไปหมดแล้ว แหวะ...สกปรก!!"

เดย์มองภาพความสนิทสนมและเพราะความอิจฉาอย่างที่วอนว่าจริง เขาได้แต่ยืนกระทืบเท้ามอง... ลำพังแค่ได้นทีไปเขาก็เกลียดวอนจะตาย ไหนจะยังมีเต๋แล้วตอนนี้ยังได้อนุภัทรที่หมายปองของคนในเมืองที่เขาจากมาอีก...ทั้งรูปหล่อ ฉลาด บริหารอะไรก็เจริญ เด็กคนนี้มันมีดียังไงกัน!!

"พ่อแม่พี่จะว่าอะไรล่ะในเมื่อมัน เรื่องส่วนตัว ...พี่เองยังไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวเดย์เลยนะ" อนุภัทรตอกใส่หน้าเบาๆ

"อุ๊ปส์" วอนทำท่าเอามือปิดปากกวนๆ

"ทุเรศ!" เดย์ที่ทนไม่ได้เดินกระทืบเท้าออกไปจากโต๊ะในที่สุด ก่อนที่จะเดินออกมาจนถึงลิฟต์ก็เจอเข้ากับนทีและเต๋พอดี

"บ้าไปกันหมดแล้ว วิปริต!!" เดย์ว่าใส่หน้าสองคนและจะเดินหนีไป แต่เต๋คว้าไว้ทัน...

"อะไร จู่ๆเดินมาด่าแล้วจะเดินหนี!" ศาตนันท์ถามอย่างคนไม่ค่อยยอมความเท่าไหร่

"มึงปล่อยไป" นทีไม่อยากให้น้องเอาตัวไปยุ่งจึงได้แต่ปราม

"จะอะไรถ้าไม่ใช่เอาอีตัวนั่นมาเป็นเมียเป็นผัวกันทั้งบ้าน สกปรก!! พี่นัทก็เหมือนกัน...ยูเป็นบ้าไปแล้วเหรอ ทุเรศ!" เดย์ด่ากราดออกมา

ซ่าา!!

เต๋คว้าแก้วที่อยู่บริเวณนั้นสาดเข้าไปที่หน้าเดย์เต็มๆ

"เสือก!!" เขาพูดแค่นั้นก่อนจะเดินหนีไปจากคนที่เต้นเร่าๆ นทีเรียกให้คนมาจัดการพาเดย์ออกไปและไม่ให้กลับเข้ามาอีกเพราะนับวันยิ่งเข้าใกล้คนมีอาการประสาทเข้าทุกที

...เต๋เดินไปยังโต๊ะที่นัดกันไว้อย่างหงุดหงิด แต่ก็ต้องหงุดหงิดกว่าเดิมเมื่อเห็นวอนแต่ไกลว่ากำลังเพิ่งลุกจากตักพี่ชายเขามานั่งเก้าอี้อีกตัวและคุยกันด้วยรอยยิ้ม

"วอน!!" เขาเรียกน้องเสียงดังจนวอนสะดุ้ง ดีที่โซนห้องกระจกนี้ถูกปิดไว้ส่วนตัวแล้วคนอื่นจึงไม่พากันตกใจ

"เต๋ตะโกนทำไม...ตกใจหมด!" วรภพเอามือทาบอกไว้แล้วหายใจแรงๆออกมา

"ทำบ้าอะไรวะ...เฮียบ้าไปแล้วเหรอ ก็บอกไว้ว่าอย่ายุ่งไง!" เต๋ดึงตัววอนลุกขึ้นให้ไกลจากพี่ใหญ่ทันที...

"ไม่ถามก่อนเหรอ จะโวยวายทำไม..." อนุภัทรกรอกตาใส่น้องชายที่ทำตัวเหมือนเด็กอนุบาล

"เต๋มึงหยุดก่อนได้ไหม.." นทีที่เดินตามเข้ามาห้ามน้องไว้เพราะพอจะเดาเรื่องออกแล้ว

"น่าเบื่อๆๆๆๆๆ" วอนพูดย้ำๆใส่เต๋ก่อนจะดึงแขนตัวเองกลับแล้วไปนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวเดิม

"คนดี!!" เต๋ว่าน้องแต่ทว่าอนุภัทรถึงกับสำลักขำกับชื่อที่เรียกกัน

"หัวเราะอะไร เงียบเลยเฮีย!" เต๋ว่าก่อนจะนั่งลงตาม นทีส่ายหัวไปมาให้กับเรื่องราวที่ยิ่งห้ามยิ่งไปไกล....

"วอนมานั่งนี่มา.." นทีเรียกให้น้องมานั่งระหว่างเขากับเต๋แทน

"นั่งนี่ก็ได้.." วรภพไม่ยอมลุก นั่งข้างอนุก็ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องโดนเจ้แต้วและคนอื่นๆที่กำลังจะมาพูดจาฉีกหน้าด้วย...

"วอน!" นทีเรียกเสียงดุ

"นั่งตรงนี้มันจะทำไม? วอนนั่งนี่แหละเนอะ" อนุภัทรได้ทีก็หาเรื่องแกล้งอีก

"คนดีลุกมาเร็ว.." เต๋พยายามดึงน้องให้ลุกอีกคน

...อนุภัทรอมยิ้มกับเหตุการณ์ตรงหน้า

...กลับบ้านรอบนี้สนุกกว่าที่เขาคิดไว้เยอะเลยแฮะ...

09.11.2020

ตอนที่แล้วThree of us 32 : กดดัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThree of us 34 : แสบๆหายาก (NC)
แบ่งปัน
สวัสดีค่า สำหรับใครที่เข้ามาอ่านงานเรา ไม่ต้องคอมเม้นท์เราก็ได้ เข้ามาติดตามกันก็ชื่นใจแล้ว จะพยายามอัพเดทผลงานเรื่อยๆเลยนะ ติชมอยากให้เปลี่ยนแปลงตรงไหนบอกได้เลยพร้อมพัฒนาแก้ไขให้ทุกคน เราตั้งใจเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็น ศศิศิลป์ ศศิ ที่แปลว่าดวงจันทร์ และศิลป์ ที่หมายถึงศิลปะ เพราะส่วนตัวเราชอบคิดเรื่องที่จะแต่งในตอนกลางคืน เกือบทุกเรื่องจะเขียนจบในเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว ศิลปะทางภาษาของเรามักจะทำงานในตอนกลางคืนว่างั้นก็ได้ ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะ ศศิศิลป์
0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด