Three of us 29 : อลหม่าน
Three of us
ตอนที่ 29
อลหม่าน
"อ้าวมากันแล้ว ขับกันมายังไงให้แม่มาถึงก่อนเนี่ย แวะที่ไหนกันมา..." อรณิชย์ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากลูกชายตนเองและลูกเพื่อนสนิทพากันเดินเข้ามาในบ้าน
"นั่งกันก่อนนะ เดี๋ยวเจ้ไปอุ่นบัวลอยมาให้ ป้าอ้อเอาด้วยไหมคะ?" แต้วถามออกมาอย่างคนช่างดูแล ว่าที่สามีของเธอก็นั่งรอฟังอยู่บนโต๊ะถึงเรื่องสำคัญที่จะคุยกันด้วยวันนี้
"ด้วยสิ ป้าเป็นคนออร์เดอร์เชียวนะ..."
"แม่กินได้เหรอ ตรวจสุขภาพเป็นยังไงบ้าง?" นทีถามมารดาออกมา เพราะคนที่จะพาแม่และทุกคนไปโรงพยาบาลประจำจะเป็นเจ้แต้วผู้เจ้ากี้เจ้าการทุกอย่างของทุกคนในบ้านแต่ก็พาลเอานิสัยนั้นไปดูแลทุกคนทุกอย่างได้เป็นอย่างดี
"....ดีค่ะ ยังอยู่บ่นนทีของแม่ไปอีกนานเลย" เธอบอกด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงแห่งความรัก
วรภพรับรู้ได้แต่แรกว่าเธอรักและดูถนอมลูกชายคนนี้มากและนั่นยิ่งทำเอาเขาตัวเกร็งไปหมดกับเรื่องวันนี้... เขารู้ดีว่าเขาไม่ได้เหมาะสมกับนทีเท่าไหร่ ออกจะเด็กและเก่งน้อยเกินไปที่จะได้เคียงข้างกับคนตรงนี้...
แต่นั่นก็ไม่ใช่ที่กังวลใจทั้งหมด สิ่งเหล่านั้นเขาโตและเก่งให้ทันกันได้ แต่ที่กลังว่าอาจจะรับกันไม่ได้คืออีกเรื่อง
".มาแล้วค่า...ร้อนๆเลย ระวังกันนะ" แต้วถือถาดใส่บัวลอยถ้วยเล็กๆวางลงก่อนจะแจกจ่ายให้ทุกคน
"เรากินได้ไหมไม่รู้สิ เอาน้ำส้มด้วยไหม?" แต้วถามแขกรับเชิญของบ้านวันนี้ เธอรู้ดีว่าคนอื่นๆชอบแบบไหน แต่แต้วไม่มั่นใจว่าวรภพชอบของหวานหรือเปล่า...
"ได้ครับ ไม่เป็นไรครับ.." วอนตอบกลับกล้าๆกลัวๆ ....แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่ แต่ยกยิ้มได้แค่แปปเดียวก็เผลอไอออกมาเล็กน้อย
"ไหวไหม...กินไม่ได้ก็บอกนะ อยากไปนอนสักหน่อยไหม?" นทีถามและแตะไปที่หลังน้อง
"ไม่เป็นไร...." วอนบอกปัด ยังไงเขาอยากคุยให้ด้วยรู้เรื่อง ...อยากอยู่ในวงสนทนา อยากรู้ว่านทีจะพูดอะไรกับครอบครัวบ้าง...
"งั้นเข้าเรื่องกันไหม ไหนนัทมีอะไรจะบอกแม่?" อ้อถามแล้วมองสองคนสลับกัน หน้าเธอเรียบนิ่ง ไม่ยิ้ม แต่ก็ไม่ขึงขังดังเช่นแม่ผัวในละคร
"เราสองคนคบกันอยู่..." คำตอบนั้นผ่ากางปล้องออกมากลางความเงียบ ก่อนที่แต้วและสามีจะหันอมยิ้มให้กัน
"....รู้แล้วล่ะ นัทพาใครไปพาหมอที่ไหน เวลาส่วนตัวเราจะไปให้คนอื่นน่ะไม่มีหรอก เจออยู่ด้วยกันแบบนั้นก็เดาได้แล้ว..." อรณิชย์บอกก่อนจะหันมองวอนที่เกร็งไปหมดด้วยความเอ็นดู
"..."
"...วอนรู้ไหม กับแม่เขายังไม่ชอบไปตรวจร่างกายเป็นเพื่อนเลย กลัวได้ยินอะไรแล้วจะรับไม่ได้" อ้อบอกกับลูกชายของเพื่อนที่เลื่อนตำแหน่งมาใกล้ชิดครอบครัวเสียแล้ว
วอนยิ้มน้อยๆกลับให้เธอ ไม่คิดว่าจะเจอโหมดนี้ คิดว่าจะโกรธแล้วพาลเอาโทรไปฟ้องเจ๊สุณีย์จนเป็นเรื่องซะอีก...
"นานหรือยังนัท?" แต้วถามน้องชายออกมา ความจริงเธอมีศักดิ์เป็นน้องสาวนทีทว่าบ้านนี้เรียงลำดับเรียกกันตามคิวเกิดก่อนเกิดหลัง
"...สักพักแล้ว แม่โอเคไหม?" นทีตอบกลักแล้วหันถามมารดา
"...ทำไมต้องไม่โอเค มีอะไรให้แม่ไม่โอเคล่ะ แม่รู้อยู่แล้วว่านัทเป็นแบบไหนและแม่เคารพทุกการตัดสินใจของนัทเสมอ...เรื่องนี้ลูกต้องรู้ดีนะ"
"...." นทีพยักหน้า ก็จริงที่ว่าแม่รักเขาจนไม่เคยเอาเรื่องเพศมาพูดให้เป็นปัญหา
"เป็นวอนก็ดีซะอีกนัทจะได้ดูแลน้อง...แม่เขาก็เป็นเพื่อนแม่" เธอบอกด้วยรอยยิ้มและทำวอนยิ้มตามออกมาน้อยๆ
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่วอนกังวลใจ...
เพราะที่กลัวว่าจะรับกันไม่ได้คือเขากำลังคบกับลูกหลานบ้านนี้ถึงสองคนต่างหาก...
"แม่เรารู้หรือยังวอน?" อรณิชย์ถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ
"วอนยังไม่ได้เปิดใจพูดคุยตรงๆครับว่าคบกับพี่นัท" ที่ยังไม่กล้าบอกเพราะตั้งใจจะบอกทีเดียว บอกที่เป็นมวลใหญ่และมวลสำคัญของเรื่องนี้ ....เขาไม่อยากบอกสุณีย์ทีละก๊อก
"ถ้าเรากังวลอะไรป้าพูดให้เองก็ได้นะ..." อ้อยังบอกต่อด้วยรอยยิ้ม
"งั้นคงต้องระวังตัวเรื่องส่วนตัวกับงานแล้วสิ มาอยู่กับพี่เนี่ยพี่เนี้ยบนะ ดุด้วย...ไม่เกรงใจหรอกนะนัท" คำหลังแต้วหันบอกกับน้องชาย
"เต็มที่ได้เลยนะครับวอนไม่มีปัญหาเลย วอนจะทำให้เต็มที่เลยครับ...." เสียงแหบๆของคนป่วยรีบบอกออกมา
....ด้านนทียกยิ้มใหญ่ที่เห็นว่าทุกคนเอ็นดูน้อง ทุกคนในบ้านรู้ว่าเขามีรสนิยมแบบไหนเพียงแต่เมื่อเป็นวอนแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาจะเหมือนรังแกน้องหรือเปล่า ไหนจะเรื่องฝึกงานอีก... แต่ประเด็นนี้มันแค่ความไม่สบายใจเล็กน้อยเท่านั้น
ที่เขากังวลมันตรงกันคือเรื่องมีกันสามคนมากกว่า และจนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน...
"ตอนแรกพี่แอบคิดว่าเรากับเต๋ซะอีก รายนั้นออกตัวแรงคอยมาถามเรื่องเราจะตาย ที่แท้ก็คอยดูแลแฟนให้พี่ชาย.." แต้วบอกด้วยรอยยิ้ม
แต่ทำเอานทีและวอนตัวชาขึ้นมา
"ความจริงแล้ว.." นทีกำลังจะโพล่งมันออกมา ทว่าวอนจับมือเอาไว้ก่อน
....อ้อ แต้ว และว่าที่สามีของเธอมองอย่างสงสัย
"ถ้างั้นวันนี้เรานัดกินข้าวกันไหม รวมตัวกันให้ครบเลย เดี๋ยวอีกแปปคุณลุงก็กลับมาจากต่างจังหวัดแล้ว...เห็นว่าถึงบ่ายนี้แหละ แต้วจะได้ชวนคุณพ่อไปด้วยดีไหมคะป้าอ้อ?" เธอหันถามคนที่เธอรักเหมือนแม่อีกคน
"ดีสิ...ไปกันนะ โทรตามกันให้ครบเลย โต๋ด้วย เต๋ด้วย แล้ววอนชวนพี่ชายไปด้วยกันนะจ้ะ" อรณิชย์เกิดไอเดียขึ้นมา
"ครับ...วอนจะลองถามดู งานเขาไม่ค่อยเป็นเวลาเท่าไหร่" วอนตอบด้วยสีหน้าที่ถ้าสังเกตให้ดีมันเต็มไปด้วยความกังวลใจทั้งสิ้น
เหมือนหายนะทั้งมวลกำลังจะมา...
ปั่นป่วนท้องไปหมด
เขาอยากจะเป็นลมตอนนี้เลย...
"งั้นนัทพาน้องไปนอนก่อนนะ หน้าซีดหมดแล้ว" แต้วดูอาการของวอนที่ดูท่าจะไม่ไหวเลยออกปากให้นทีพาออกไปทันที
คนพี่หันมองวอนที่ปากไม่มีสีไปแล้วก็ได้แต่พาลรู้สึกแย่... ก่อนจะประคองน้องให้เดินขึ้นไปบนห้องด้วยกันท่ามกลางสายตาแม่และพี่ๆที่มองมา
"พี่นัทจะบอกเหรอ วอนไม่ให้บอกก่อนได้ไหม ยังรับมันไม่ไหวแน่ๆ..."
คงเพราะอาการป่วยหรือเปล่าไม่แน่ใจ มันถึงได้ทำให้วรภพมันป๊อดไปหมด เขายังไม่อยากจะเผชิญหน้ากับอะไรทั้งนั้นตอนนี้....
นทีได้ฟังดังนั้นก็ดึงน้องเข้ามากอดแนบอก ก่อนจะเอนตัวลงนอนไปบนเตียงแล้วประคองกอดน้องไว้ไม่ไปไหน
"ไม่เป็นไรพี่เข้าใจ...พักก่อนนะ เรื่องนั้นเราค่อยว่ากันใหม่..." นทีจูบลงไปบนขมับที่ตัวอุ่นๆของวอนแล้วช้อนตัวน้องให้นอนให้เข้าที่
....วอนอ่อนแอเกินไปจริงๆในตอนนี้
....น้องพร้อมแหลกสลายคามือเขาแล้ว
เขาโกรธตัวเองขึ้นมาทันทีที่ทำเรื่องบ้าๆเมื่อคืนไปตามอารมณ์ ถ้ารู้ว่าเรื่องนี้จะมาถึงเขาจะไม่ให้น้องทั้งป่วยพร้อมกับเชิญหน้ากับความกดดันไปพร้อมๆกันเลย ไม่สิ...ถ้าไม่ป่วยก็จะไม่เจอแม่ด้วย ผิดไปแล้วที่คิดว่าเปิดเผยไปเลยมันอาจจะดีกว่า...
นทีนอนหลับไปพร้อมกับวอน เขากอดน้องจนผล็อยไปพร้อมกันจนไม่ได้ยินเสียงจากมือถือจากเต๋ที่สั่นเรียกอยู่ข้างเตียง....
3❥(3)
tthe : สายที่ไม่ได้รับ
tthe : อยู่ไหนกัน
: @Nathee เจ้บอกว่ามีนัดกินข้าวใหญ่เรื่องมึง
: มีอะไร ได้โปรเจคใหญ่เหรอ
: ไมเงียบวะ? ไม่ว่างเหรอ..มาตอบด้วย
คนที่ยังไม่รู้เรื่องว่าดำเนินไปถึงไหนได้แต่ปล่อยผ่านที่ไม่มีใครตอบข้อความเขาสักคน เจ๋ยังคงคิดว่าเป็นการทานข้าวทั่วไปเหมือนที่เคยนัดกัน
"มะ ไม่ ไม่เอา พี่นัท ไม่ เฮือกกกก!!" วอนสะดุ้งเฮือกใหญ่แล้วตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย เขาลุกมองไปรอบกายแต่ไม่เจอใครเลย...
นทีไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว...
ตัวเขาปวดเมื่อยไปหมด...
"ตื่นแล้วเหรอ...ลุกขึ้นไหวไหม เราบอกพี่ชายรึยัง...หืม เรื่องไปกินข้าวเย็นนี้น่ะ?" นทีที่เดินมาจากระเบียงที่นั่งสูบบุหรี่อยู่ได้ยินเสียงจากในห้องก็รีบปรี่เข้ามาดู เขานั่งข้างตัววอนก่อนจะวัดความร้อนจากหน้าผากและไล่ไปยังลำคอไปมา
"ข้อความไปบอกแล้วก่อนนอน...นะน่าจะโอเค" ถ้าเป็นเรื่องสำคัญยังไงนรสิงห์ก็จะปลีกตัวมาได้เสมอ.... เขาบอกไปแล้วว่าครอบครัวป้าอ้ออยากเจอด้วยเรื่องสำคัญ
"แล้วเป็นอะไรเนี่ย ฝันร้ายเหรอ?" คนพี่ถามอีกคนที่ตอนนี้นั้นเอื้อมตัวมาซุกตัวอยู่ในอกเขาแล้วกอดเอาไว้แน่นเหมือนเด็กๆ
"พี่นัท... " วอนทำเพียงแค่เรียกชื่อออกมา นทีรู้ทันทีว่าเป็นความกังวลใจเดียวกัน...
"พี่ยังไม่เคลียร์กับเต๋นะ... ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะบอกมันยังไงแล้วมันจะรู้สึกยังไงถ้าทุกคนจะเข้าใจว่าวอนกับพี่คบกันอยู่...แบบสองคนคู่รัก" นทีสารภาพออกมา
เขาบอกน้องชายไปเพียงว่าแม่รู้เรื่องวอนแล้ว แต่ยังไม่ได้บอกลงรายละเอียดอะไรไปมากนัก
"วอนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เลยพี่นัท เขาจะรับได้กันไหม พี่นัท...วอนไม่ชอบเลย ไม่ชอบเลยจริงๆ..." เสียงแหบพร่าพูดซ้ำไปซ้ำมา ซุกใบหน้าลงไปหานทีไม่ยอมห่างไปไหน
"ไม่เป็นไรนะคะ...ไม่เป็นไร ไหนทำไมเด็กแสบของพี่งอแงขนาดนี้...มาดูซิ" นทีช้อนหน้าน้องขึ้นมามอง มันแดงอยู่หน่อยๆจนอดเป็นห่วงเพิ่มไม่ได้ วอนไม่มีท่าทีจะหายดีเลยและเขาไม่ชอบ... ไม่ชอบอาการเจ็บป่วยด้วยและไม่ชอบเห็นคนที่รักมาทรมาณแบบนี้...
"พี่นัท...วอนปวดไปหมด ปวดตัว ปวดหัว วอนเหนื่อย...วอนไม่อยากรับรู้อะไรเลย" เสียงแหบนั่นบอกออกมาด้วยความอ่อนล้า
"เหมือนลูกแมวเลยเนี่ยมาแง้วๆใส่แบบเนี้ย... เรานอนพักไปก่อนจนกว่าจะถึงเวลาออกไปกินข้าวแล้วกัน เดี๋ยวพี่จะมาตามอีกทีนะคะ...." นทีลูบหัวไปมาก่อนจะจับน้องนอนให้ดี ห่มผ้าให้เรียบร้อยอีกต่างหากก่อนจะเดินออกจากห้องไป...
FWG (3)
Won : พวกมึง กูเครียดอะ
Foei : ป่วยหนักเลยเหรอ
Golffy : โต๋เล่าแล้ว มึงไม่เป็นไรนะ ผ่านไปได้แน่
Foei : มีอะไร
Golffy : ทุกคนรู้แล้วว่ามันคบกับพี่นัท
Foei : แล้ว?
Golffy : เขาไม่รู้ไงว่าคบกับเฮียเต๋ด้วย
: แล้ววันนี้บ้านเขานัดกินข้าวใหญ่ต้อนรับมันเลยนะ
Won : กูไม่รู้ต้องทำไง
: ถ้าเขารู้ว่าคบกับลูกหลานเขาทีเดียวสองคนเลย เขาจะรับได้หรือเปล่า
: กูกลัวว่ะ
Foei : ถ้าเขารับไม่ได้จะทำไง?
Won : ไม่รู้เลย
Foei : ถ้าเขาบีบให้เลิก?
Won : เฟยกูไม่รู้ ไม่รู้จะต้องสู้หรือต้องยอมถอยไปเริ่มใหม่
: กูจะร้องอีกแล้วนะ
Foei : กูอยู่นี่ไง
: บอกตลอดว่าอยู่ข้างมึง
Golffy : คุณพ่ออย่าร้องนะครับ
Foei : ซีเรียสอยู่
Golffy : ไม่อยากให้เครียดไง
Won : รักพวกมึง
Foei : ถ้าต้องเลิกเดี๋ยวพาไปหาใหม่
Golffy : แคปฟ้องผัวมันแปป
อย่างน้อยเวลาอย่างนี้ก็มีเพื่อนทำให้ยิ้มได้...
วอนนอนขำน้อยๆกับข้อความเหล่านั้น...
ผ่านบทพิสูจน์ใจตัวเองมาได้ว่ารักจะอยู่กันแบบสามคน ก้าวข้ามการยอมรับจากคนรอบตัวมาก็แล้ว...สุดท้ายถ้าต้องมาตายเพราะด่านครอบครัวจะทำยังไงดี...
....ความจริงถ้าเป็นคนอื่นเขาคงไม่มานั่งเครียดเลย ไอ้ที่ว่าสังคมจะยังไง ใครจะมองแบบไหน ...นทีและเต๋ก็คงคิดคล้ายๆกัน งานคืองาน ใครที่เอาเรื่องส่วนตัวมาตัดสินพวกเขาไปกับเรื่องงานสองคนนั้นก็คงไม่ไปให้ค่าอะไรอยู่แล้ว...
...แต่นี่มันคือครอบครัว คือคนสำคัญในชีวิต ถ้าผ่านด่านนี้ไปไม่ได้มันคงเจ็บช้ำและเป็นแผลลึกในใจเราทั้งสามคนน่าดู เขาเดาท่าทีไม่ออกเลยว่าเต๋และนทีจะจัดการมันยังไง
เรื่องความเป็น lgbtq+ เป็นเกย์เป็นไบเราก้าวข้ามจนไม่เคยต้องไปกังวลอะไรกับมันแล้ว แต่เรื่องความเป็นคู่ครองตามวิถีนิยมที่คนส่วนใหญ่มีกันสองคนนี่สิ... แถม 2 ใน 3 นี้ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน พ่อแม่ที่ไหนจะเปิดใจได้บ้างนะ...
ไม่รู้ว่าวันนั้นจะทำความสัมพันธ์แม่กับป้าอ้อป้าเนเปลี่ยนไปไหม แล้วเขาจะยังได้รับความเอ็นดูหรือเปล่า แล้ว....
เฮ้อ...มันสาระพัดจะคิดไปได้ทั้งหมด
....เมื่อเวลานัดมาบรรจบพวกเขามาถึงร้านอาหารที่นัดพบกันไว้ เพราะวรภพยืนยันว่าเขาโอเคและทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าทุกคนเสมอ เลยไม่มีข้ออ้างที่ว่าป่วยหลุดออกมาเลยปับการรวมตัววันนี้...
นทีจูงน้องเข้ามานั่งที่โต๊ะที่มีผู้ใหญ่ทั้งบ้านนั่งรอกันอยู่แล้ว วอนเลือกนั่งข้างโต๋ที่มีเก้าอี้ว่างไว้สองตัวพอดี
"....เป็นไง ไหนขอดูหน่อย" โต๋ยกมือขึ้นอังหน้าผากเพื่อนแล้วคลำไปมา
"โอเคอยู่...คิดถึงมึงจัง" วอนบอกด้วยแววตาละห้อย ใจน้อยขึ้นมาอีกแล้ว... โต๋จะพาลโดนมองว่าแย่เอาไหมนะถ้าคนในครอบครัวมันรู้ว่าเพื่อนมันกำลังคบควบกันทั้งพี่ทั้งน้องของมันอยู่...
"ไม่เป็นไรนะ กูนั่งอยู่นี่ทั้งคน..." โต๋ลูบหัวเพื่อนแล้วกระซิบเบาๆหอบเอาข้อความห่วงใยส่งไปพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ
"....ป๊านี่วอน วอนนี่พ่อพี่...ส่วนนั่นลุงอาจพ่อของโต๋ คนอื่นๆรู้จักกันแล้วเนอะ...ส่วนนี่วอนแฟนนัทครับ" นทีแนะนำตัวออกมา
...วอนยกมือไหว้สวัสดีทุกคน ในนี้ที่น่ากลัวที่สุดคงเป็นพ่อของเต๋ที่อยู่ในชุดตำรวจใหญ่นี่แหละ ได้ข่าวว่าทั้งดุทั้งไม่ค่อยเปิดรับเอาอะไรใหม่ๆเลย...
"ลูกของคุณสุณีย์ค่ะคุณ" อรณิชย์แนะนำกับสามีซึ่งก็ดูใจดีและพยักหน้ารับเขาด้วยรอยยิ้ม
"แ.ล้วเต๋ไปไหนเนี่ย ตามพี่เขามารึยัง?" องอาจถามไปยังลูกชายคนเล็กเมื่อเช็คสมาชิกแล้วหายไปคนนึง...
"เดี๋ยวก็มาพ่อ" โต๋ยกยิ้มน้อยๆ
...อาหารเริ่มทะยอยมาเสิร์ฟ บนโต๊ะมีการพูดคุยถามไถ่กันตามประสา ต้องขอบคุณงานแต่งของแต้วที่คงยิ่งใหญ่พอสมควร ประเด็นของวันนี้จึงหนักไปฝ่ายโน้นเสียมากกว่าเรื่องการคบกันของนทีและวอน...
"....สวัสดีครับทุกคน" เสียงทักทายของคนมาใหม่ดังขึ้น เต๋เดินมาพร้อมกับนรสิงห์ ก่อนที่พี่ชายของวอนจะยกมือไหว้ทุกคนรอบโต๊ะ
"....นี่ 'นะ' พี่ชายวอนเองครับ" วรภพแนะนำนรสิงห์ให้ทุกคนรู้
"อ้าวๆมาๆ...วันนี้คนเยอะหน่อยอบอุ่นดีนะพร้อมหน้าพร้อมตาเลย นั่งเลยลูกตายๆ..หล่อๆกันทุกคน" อ้อจัดแจงให้โต๋เลื่อนเก้าอี้ไปอีกทาง แล้วนรสิงห์นั่งข้างน้องชาย ถัดไปเป็นเต๋ แล้วจึงเป็นโต๋ตามมา...
"...ตายจริงไม่เคยเจอเราเลยนะ หล่อเชียวลูก วันนี้มากินข้าวด้วยกันนะรู้จักกันไว้ วันหลังจะได้พาแม่เรามาทานด้วยกัน...." อ้อบอกกับนรสิงห์ด้วยรอยยิ้ม
"ได้ครับ" นะที่วางตัวได้สบายๆเอ่ยรับและย ้มกับทุกคนอย่างเป็นธรรมชาติไม่พอยังคอยส่งยิ้มให้กำลังใจน้องชายข้างๆเสมอ
"...แล้วนี่เรารู้กันมานานแล้วสินะว่านัทกับวอนคบกันอยู่ ถ้าแม่ไม่เจอวันนี้จะได้รู้กับเขาไหม..." อ้อเอ่ยออกมาทำเอาทั้งโต๊ะหันมาสนใจ รวมไปถึงเต๋ด้วย...
"นัท..กับวอน?" เต๋ทวนคำ
"อะไรกันเราไม่รู้เหรอ เป็นไปไม่ได้มั้ง?" แต้วถามขึ้นมา
เต๋มองหน้านทีกับวอนทันที...
....เขารู้สิ รู้ก่อนใครในที่นี้เลย เพราะมันเกิดขึ้นพร้อมกัน ตกลงพร้อมใจกันสามคน
แล้วมันจะมาเป็นแค่นัทกับวอนได้ไง?
"รู้สิ ทำไมจะไม่รู้" เต๋ตอบออกมาขมวดคิ้วเป็นปม
"แล้วทำไมทำหน้างั้นล่ะเต๋ นัทเขาชัดเจนแล้วนะ...เราล่ะ...เมื่อไหร่เราจะพาแฟนมาเปิดตัวบ้าง แต้วบอกแม่ว่าแกอาจจะคืนดีกับคริสเขาเหรอ?" คำถามจากเนทำเอาลูกชายที่งงอยู่แล้วชะงักเข้าไปอีก
"เปล่านะแม่ เต๋ไม่ได้จะคืนดีกับเขา..."
"เอ่อเอาละๆ... อย่าไปเร่งเร้าเฮียเลยแม่ ทุกคนด้วย เอาไว้เฮียอยากบอกคงมาบอกเราเองเนอะ" โต๋รีบช่วยทันที เขารีบถูหลังพี่ชายไปมาหลายๆทีให้ใจเย็นลง
....ส่วนนทีกุมมือวอนไว้แน่น เพราะเห็นว่าน้องเริ่มนั่งก้มหน้าแล้ว
"เป็นอะไร...ไหวไหม ที่ว่าไม่สบายหายยังเนี่ย?" นรสิงห์ถามแตะไปยังตัวน้องชายที่หน้าผากเริ่มชื้นเหงื่อขึ้นมา
"ไหว.."
วอนตอบกลับพี่ชายด้วยเสียงเบาหวิว...
3❥(3)
tthe : คืออะไร?
: ที่ว่าจะนัดมาเลี้ยงอะไรกันนี้เพราะจะเปิดตัวมึงกับวอน?
: ที่ว่าทุกคนรู้แล้วคือเข้าใจว่ามึงกับวอน?
: แล้วเต๋ละ? @Won
: เต๋อยู่ตรงไหนของเรื่องนี้?
วอนที่กดอ่านข้อความแล้วยื่นมันให้นทีดู ก่อนจะหันเลยไปมองเต๋ที่นั่งเงียบไปแล้ว
"อย่างนี้รอวอนหายดีไปทำงานกับพี่เลยนะ ไม่ต้องรอ 3 วันหรอก เลขาพี่น่าจะเตรียมงานไว้พร้อมแล้ว" แต้วเอ่ยขึ้นมาแต่วรภพแทบไม่ได้ยินมันเลย
"วอน...พี่เขาพูดด้วยน่ะ" นรสิงห์สะกิดน้องชาย
"อ๋อ เอ่อครับ...ได้เลย"
"แล้วนี่ไปฝึกงานกับเต๋เขาเป็นไงบ้าง ดูแลแฟนนัทเขาดีไหมเนี่ย แกล้งเขาหรือเปล่า..." เนถามขึ้นมาบ้าง
"ดูแลยังไงไม่รู้น้องป่วยเลยน่ะดูสิ นัทตักอาหารให้น้องอีกสิ วอนกินอันนี้ไหมจ้ะ..." อ้อแสร้งเย้าขึ้นอีกคนแล้วหันไปถามเอาใจแฟนลูกชาย...
"เห็นแกคบเป็นตัวตนอย่างนี้ป๊าว่าก็ดีแล้วนะ ดูแลกันให้ดีๆแล้วกัน..." ซ้ำร้ายบิดาก็ยังเอใจสองคนที่นั่งคู่แต่ไม่ค่อยจะชูชื่นเข้าด้วยอีกที...
ครืดดด!!!
คราวนี้เต๋ถอยเก้าอี้เสียงดัง ก่อนที่ทุกสายตาจะพลันหันมองไปจ้องเป็นตาเดียว...
"มีธุระด่วนครับ...ขอตัวนะ" เต๋บอกก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปเฉยๆเลย
วอนทำท่าจะลุกตามแต่นทีห้ามไว้ก่อน คนพี่รีบส่งสายไปหาโต๋ให้เดินตามพี่ชายมันออกไปแทน ขืนคนที่เป็นแฟนเขาลุกดุ่มๆไปกลางวงข้าวจะยิ่งมีพิรุธกว่านี้...แล้วคราวนี้เรื่องที่ไม่ควรจะใหญ่วันนี้ก็อาจจะยิ่งแย่ไปหมด...
"มันเป็นอะไรล่ะนั่น งานด่วนขนาดนั้นเลย" องอาจบ่นลูกชาย ก่อนทั้งโต๊ะจะเปลี่ยนประเด็นต่อไปคืองานแต่งของลูกสาวคนโต...
"ไม่เป็นไร...เฉยไว้ก่อน เดี๋ยวพี่จัดการให้นะ" นทีกระซิบกับวอนที่หน้ามุ่ยลงแล้ว เขาลูบหัวน้องไปมาแล้วคว้ามาจูบที่กลุ่มผมเบาๆ
"เบาหน่อยครับ..." นรสิงห์เอ่ยเสียงดุออกมา
"..."
"เปิดตัวแล้วจะไม่เกรงใจกันเลยหรือไง" นะว่าอีกครั้ง เขาไม่ได้อยากจะยั้งโต้งๆแบบนี้หรอกนะถ้าตรงนี้ไม่มีผู้ใหญ่ที่นั่งหัวหงอกเต็มไปหมด...
"...คืนนี้ขอพาไปดูแลนะ ป่วยแบบนี้อ้อนไม่หยุดเลย" นทีว่าออกมาพลางส่งสายตาขออนุญาตมองไปยังพี่ชายคนรัก
"...ให้กลับบ้านดีกว่า ดีไหมวอนเดี๋ยวนะดูแลเอง นะรู้ว่าอยากกินข้าวอะไร อยากให้เอาใจแบบไหน ไปอยู่กับคนอื่นเขาจะดูแลยังไง..." นรสิงห์โยกหัวน้องชายไปมา
....ถึงจะไม่ว่าอะไรที่คบกันก็ยังห่วงและหวงน้องชายคนเดียวอยู่นี่ คนอื่นๆในโต๊ะที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรได้แต่ลอบยิ้มให้กันกับความน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กๆตรงหน้า
"วอนขอไปกับพี่นัทได้ไหม..." วรภพขัดใจพี่ชายออกมา
แต่เขาไม่ได้อยากอ้อนนทีอย่างที่ใครเข้าใจ
....เขาอยากไปเคลียร์กับใครอีกคน
"....ตามใจ พี่มันหัวเน่าแล้วใช่ไหม?"
"ไม่ใช่งั้น นะอย่าโกรธวอนนะ..." วอนเขย่าแขนพี่ชายไปมา
"เข้าใจน้องหน่อยเถอะนะลูก เดี๋ยวป้าจะกำชับนัทว่าห้ามรังแกและให้ดูแลอย่างดีเลยโอเคไหม?" อ้อบอกออกมาให้นรสิงห์มั่นใจแล้วยกยิ้มให้น้อยๆ
"...ป๊าว่าว้นนี้นัทพาน้องไปนอนที่บ้านดีกว่า อยู่คอนโดจะไปสะดวกอะไร" พ่อของนทีเสนอบ้าง
"แต่..." วอนจะแย้ง
"เอางั้นก็ได้ครับ...ไปนอนที่บ้านพี่ นะจะได้สบายใจด้วย" นทีตอบตกลงให้ทุกฝ่ายโอเคถ้วนหน้า
แล้วค่อยหาวิธีให้เต๋ไปคุยที่บ้าน
มันอลหม่านไปหมดแล้วตอนนี้....
06.11.2020