Three of us 25 : เติบโต
Three of us
ตอนที่ 25
เติบโต
"ดูดีหรือยังนะ? หล่อไหม? " วอนถามแล้วทำท่าทางกวนโอ๊ยโชว์พี่ชาย
"งั้นๆอะ แล้วนี่จะไปฝึกงานหรือไปทำอะไร? " นรสิงห์มองน้องชายมี่ไม่ได้ดูกดดันกับการไปทำงานวันแรกเลย
"ทำงานสิ แต่ก็ต้องพร้อมไปโปรยเสน่ห์ให้คนรักเยอะๆไหมล่ะ จะได้ทำงานราบรื่น..." น้องชายบอกด้วยความทะเล้นก่อนจะเดินตามกันไปขึ้นรถ
...ความจริงนรสิงห์เขาตื่นเต้นกว่าใคร
....ยิ่งกว่าแม่ที่โทรมาถามสามเวลาหลังอาหารว่าพร้อมไหมที่จะไปฝึกงานไหม
.....ก็ถึงขั้นจะต้องมาส่งเองให้ได้ และอยากจะมาส่งทุกวันถ้าเป็นไปได้ด้วยตนเอง
"แล้วนี่เจ้านายใหม่ว่าไงบ้าง? อย่าไปสนิทสนมกันมากในที่ทำงานนะ คนอื่นเขาจะหมั่นไส้หรือหาเรื่องเอาได้" นะพูดไปถึงเต๋ แม้แต่แม่ก็ย้ำเสมอว่าต้องวางตัวให้ดี และต้องไม่เด่นให้เป็นภัย ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ไม่ขี้เกียจ ไม่สาย... ย้ำหลายทีจนวอนท่องได้แล้ว
3❥ (3)
Nathee : อยากไปส่ง
tthe : รีบมานะ ท่านประธานรออยู่
Nathee : อย่าเยอะเต๋
: ห้ามวอแวน้องด้วย
: คนเขาจะหมั่นไส้น้องเอา
tthe : กูรู้เหอะนัท เงียบไปเลยมึง
Warning : นะกำลังไปส่ง
: เถียงกันอีกล่ะ เบื่อ
Nathee : กล้าเบื่อหเรอ
tthe : เงียบๆ เมียกูเบื่อมึง
Nathee : เมียมึงคนเดียวหรอ สะเหล่อ
Warning : ขอทีเหอะ?
Nathee : ทีเดียวเองเหรอ
tthe : กามแต่เช้า ได้นอนรึยังนัท?
Warning : อะไร ไปไหนทำอะไรมาเมื่อคืน?
tthe : oops! หลุดปากโทษว่ะ
Nathee : สันดาน! @tthe
: @warning อย่าฟังมัน
: แค่นั่งดื่มกับลูกค้าเฉยๆ
Warning : อือ
tthe : อือก็มาว่ะ
วอนไม่ได้ตอบอะไรอีกและไม่ได้โกรธนทีด้วยซ้ำ ยิ่งใกล้ถึง EL security บริษัทของเต๋เท่าไหร่ก็ยิ่งตื่นเต้นจนหัวใจทำงานหนักเท่านั้น...
....ที่ผ่านมาทั้งคู่ไม่เคยพาเขาไปที่นั่นมาก่อน ให้เหตุว่าถ้าหากวันนึงต้องเข้ามาต้องเป็นวันที่พร้อมเปิดเผยและมั่นใจแล้ว ไม่อยากจะเอาวอนไปเดินข้างในบริษัทให้เป็นที่พูดถึงจากหลายปากเพราะพวกเขาเป็นผู้บริหารใหญ่และน้องจะเสียหายด้วย ซึ่งไม่คิดว่ามันจะเป็นผลดีกับวันนี้ วันที่วอนต้องมาที่นี่ในฐานะเด็กฝึกงาน...
"นี่ตั้งแต่ถามไปจะได้คำตอบไหม? " นรสิงห์ถามขึ้นมา
"ห้ะ? ถามว่าอะไรนะ? " วรภพลืมไปด้วยซ้ำว่าอยู่บนรถกับพี่ชายด้วย เขาหูดับไปตั้งแต่เข้าไปในบทสนทนาในจอนั่น...
"ช่างมันเถอะ....ถึงแล้วเนี่ย ตั้งใจทำงานนะ มีอะไรก็ทักมาหาได้...โทรมาก็ได้" นะบอกน้องชายก่อนจะโยกหัวไปมา
"นะ...ตื่นเต้นจังอะ" วอนบอกเสียงอ่อน
"ลงไปได้แล้ว...ไปลองใช้ชีวิตจริงๆดู จะได้รู้จักรสชาติมัน...อาจะขมๆหน่อยนะแต่กลับบ้านไปแล้วก็มีพี่ชายให้กอดเหมือนเดิม"
คนเป็นน้องได้ฟังแล้วก็เกือบจะร้องไห้ออกมา ด้วยความซึ้ง แต่นะก็ผลักหัวหยอกไปทีให้อารมณ์น้องชายเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งแล้วกุมศีรษะไว้แทน
"...ห้ามร้อง ทำอย่างกะเข้าโรงเรียนอนุบาล ลงไปได้แล้วโน่น ประธานมารอรับแล้วมั้งนั่น..." นะโบ้ยไปทางหน้าบริษัทขนาด 4 ชั้นขนาดกว้าง 4 ห้องคูหา
อาคารตรงหน้าตกแต่งสไตล์ลอฟต์...มีสวนและการตกแต่งที่ดูดีจนดูเหมือนร้านคาเฟ่ดีๆเสียมากกว่า ถ้าไม่มีป้ายว่ามันเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีคนใส่ชุดสูทลงจากรถมา ซึ่งท่านธานบริษัทที่ว่าก็แอบมองมาทางนี้ก่อนที่จะเดินหายเข้าไป...
เต๋ปรายตามามองแค่เสี้ยววิพร้อมยกยิ้มมุมปาก มันทำเอาเขาอยากลากร่างตัวเองกลับบ้านตอนนี้เลย...
"....เกลียดว่ะ มาบิ๊วให้ใจบางไม่อยากลงไปทำงานแล้วเนี่ย จะร้องไห้!" วอนบ่นพี่ชายก่อนจะเปิดประตูลงไป เขายืนโบกมือลานรสิงห์ทันทีก่อนจะจัดการเสื้อผ้าตัวเองซึ่งใส่ที่ดูดีที่สุดแทบจะในชีวิตมาแล้วมั้งเนี่ย... วันนี้เป็นก้าวสำคัญของชีวิตเลย
"สวัสดีค่ะ ใช่น้องที่มาฝึกงานหรือเปล่า? " หญิงสาวหน้าล๊อบบี้ทักทายวอนอย่างรู้งาน
"ใช่ครับ" วอนตอบกลับหันมองรอบตัว
"คุณรติมาพอดีเลย น้องฝึกงานมาแล้วค่ะ อีกคนก็มาแล้วนะคะอยู่ด้านบนแล้ว..." เธอหันไปทักทายอีกคนที่เดินมาด้านหลังเขา เป็นหนุ่มอายุไม่น่าจะเกิน 35 หน้าตาและรูปร่างสมส่วน ใส่แว่นสายตาทันสมัย ดูท่าทางน่าจะเป็นคนระดับหัวใหญ่ของที่นี่...
....น้องฝึกงานอีกคนที่ว่าคงเป็นเฟยที่ต้องทดลองงานที่นี่ด้วย อย่างน้อยเขาก็มีเพื่อน แม้ว่าจะทำคนละแผนกก็ตาม เพราะตลอดทางมาที่นี่เอาแต่คิดเรื่องเต๋และนทีทำเอาเขาเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย เพิ่งจะคุยกับมันอยู่เมื่อคืนนี้เอง...
"...อ๋อ สวัสดีครับ ไปกันเลยไหมข้างบนน่าจะเตรียมห้องไว้พร้อมแล้ว..." รติบอกด้วยรอยยิ้มบางๆ เขาดูเป็นคนเคร่งๆอยู่ในทีเพียงแต่แสดงออกสบายๆเพราะเป็นการเจอกันครั้งแรกให้วอนไม่เกร็งไปก่อนมากกว่า
ให้มายืนเทียบกับเต๋ที่เป็นเจ้าของที่นี่ วอนคงคิดว่าคุณรติคนนี้สิเหมือนเจ้าของมากกว่า...
นึกแล้วก็ขำ
...ตลอดเวลาในลิฟต์นั้นวอนอึดอัดเอามาก แม้รติจะพยายามชวนคุยเล็กๆน้อยๆถึงเรื่องสายการเรียนและถามถึงเฟยที่ต้องมาฝึกด้วยกัน แต่มันเกร็งจนวอนมีเหงื่อซึมออกมาก่อนลิฟต์จะมาจอดเปิดประตูอยู่ที่ชั้นบนสุดของตึก อีกคนพาวอนเดินมาที่ห้องหนึ่ง...มีเพื่อนสนิทนั่งอยู่ในนั้นแล้วและกำลังคุยกับเต๋อยู่ด้วยท่าทีสำรวม ....ก็แหง ในห้องนั้นมีคนอื่นอยู่ด้วย ไม่ใช่สถานที่คุ้นเคยอย่างที่พวกเขาไปนั่งกินเหล้ากันบ่อยๆ...
"....สวัสดีครับบอส พาเด็กใหม่ขึ้นมาด้วยครับ" รติทักทายเต๋ก่อนจะผายมือให้วอนนั่งข้างเฟยที่ว่างอยู่
"...สวัสดีครับคุณวรภพ" เต๋เอ่ยยิ้มส่งให้เขา ส่วนวอนก็ยกมือไหว้สวัสดีด้วยท่าทีสวยงาม เขาแอบเห็นว่าเฟยมันอมยิ้มขไอยู่...
เออคือกูก็เขิน...
ต้องมารับบทไม่รู้จักกับผัวตัวเองเนี่ย... ถึงได้อยากไปฝึกงานที่ The 1 มากกว่าไง
"เริ่มกันแล้วไหมครับ? " รติถามออกมา ในห้องมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนที่แต่งตัวทันสมัย และมีพี่ผู้ชายที่แต่งตัวจี๊ดจ๊าดอย่างรู้ได้เลยว่าตัวแม่ของที่นี่...
"ยังเลยค่า ทางนี้ก็รอคุณรตินั่นแหละ" คนที่ตอบออกมาคือคนที่วอนต้องตาที่สุด
เอาล่ะ... พี่คนนี้ต้องสร้างบรรยากาศสนุก 1 อาทิตย์ที่นี่ให้เขาได้แน่ วอนพยายามส่งยิ้มให้ และเขาคนนั้นก็ขยิบตากลับมา
"โอเคงั้นเริ่มจากแนะนำตัวไหมครับ? " รติเสนอออกมา
"ครับ ผมศาตนันท์ หรือเต๋นะ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของที่นี่" เต๋แนะนำตัวออกมาด้วยมาดนี้ที่วอนไม่เคยเห็นมันมาก่อน ทั้งที่คนนั่งในตำแหน่งนี้มันควรจะต้องดูเป็นคนมีอายุ ไม่ใช่คนอายุเท่าเต๋เลย... แต่เต๋ก็ได้ไม่ขัดตา เพียงแต่ว่าท่าทีเหล่านั้นมันดุดันผิดไปจากทุกวันที่เขานอนกอดกันเท่านั้นเอง
"ส่วนพี่ชื่อพี่จริญ เป็นหัวหน้าสายงานการตลาด ที่จะต้องทำงานโดยตรงกับน้องเฟย" หญิงสาวคนเดียวในห้องแนะนำตัวด้วยเสียงที่น่าฟัง อายุมากแล้วแม้น่าจะไม่เกิน 45 ทว่ายังดูเฟี้ยวฟ้าวสุดๆ
"...พี่ชื่อตรีวิทย์ เรียกสั้นๆว่าพี่ตรีได้ รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์" เขาคนนี้แนะนำตัวด้วยความนิ่งผิดกับบุคลิกภายนอกจนวอนเจื่อนลง นึกปลงแล้วว่าหน้าตาและการแต่งกายไม่ได้ช่วยให้เขามองคนออกเลย หลงคิดไปเองว่าพี่คนนี้จะใจดี...ที่หยิบตาส่งมาให้กันเมื่อกี้ขอส่งกลับคืน
"ส่วนผมชื่อรติ เป็นเลขาคุณศาตนันท์ และเป็นกรรมการตรวจสอบ ขออนุญาตแจ้งทั้งสองถึงเรื่องที่ต้องรู้คร่าวๆในวันนี้...นะครับ" รติเอ่ยออกมา
ก่อนคุณเลขาที่ชื่อรติจะเริ่มเล่าว่าความจริงที่ว่าโครงสร้างและบริษัทแม่แบบจริงๆมาจากบริษัทของอนุภัทรที่ต่างประเทศทซึ่งยกอำนาจการลงนามให้เต๋ทำแทนทั้งหมด บริษัทนี้มาเริ่มเปิดที่นี่ได้เพียง 5 ปีก่อน มีการบริหารงานที่เรียกได้ว่างัดแผงแบคกราวจัดการโดยบริษัทแม่แบบของอนุภัทรทั้งหมด...แต่ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบตามแม่ข่ายในประเทศที่ต้องอาศัยบารมีในการดำเนินการจากบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งอีกที เพราะฉะนั้นที่นี่คณะผู้บริหารหลายคนจึงเป็นชาวต่างชาติ แต่เฮดสำคัญก็คือศาตนันท์หรือเต๋ที่นั่งทำหน้าเท่ๆอยู่หน้าพวกเขาอีกที
มันเป็นอะไรที่ซับซ้อนกว่าที่จะเข้าใจได้ในวันเดียว...
"เรื่องนั้นรู้ไว้คร่าวๆก็พอว่ามีความเป็นมายังไง แต่ส่วนของเนื้องานแน่นอนว่าคุณอิทธิพัฒน์ต้องไปเรียนรู้งานสายการตลาด มีที่ต้องสับสนเล็กน้อยคือของคุณวรภพที่ความจริงแล้วต้องทำที่ The1.."
"ครับ.." วอนรับคำเก้อๆ เหมือนจะสื่อว่าเขามาผิดที่เลยแฮะ ไอ้เฟยน่ะฝึกแล้วทำที่นี่จนฝึกจบเลย มีแต่เขาที่คงต้องเอ้อระเหยฆ่าเวลากว่าที่จะได้เริ่มทำจริงๆอีกที่นึง...
"The 1 ดูแลบัญชีให้เราอยู่แล้วและเรามีการบริหารร่วมกัน เพียงแต่ตำแหน่งคุณที่โน่นเห็นว่าจะต้องไปทำผู้ช่วยที่ปรึกษาเรื่องการวางแผนฯ แต่อยู่ที่นี่...คุณต้องเป็นผู้ช่วยผมไปก่อน ผมจะสอนทำ research assist แล้วกัน ช่วยหาข้อมูลเรื่องการลงทุนไปก่อน อาจจะช่วยฝึกสอนเบื้องต้นไปได้บ้าง"
วอนที่ได้ฟังคำที่แทบจะแรปนั้นมึนไปพักใหญ่ ก่อนจะพยักหน้ารับไปส่งๆ
"งั้นทางนี้ขอพาตัวน้องไปก่อนแล้วกันนะคะ จะได้ไปทำความรู้จักกับคนอื่นๆอีก..." จริญออกปากขอตัวพาเฟยไป
....คนอื่นๆไปกันหมดแล้ว เฟยแอบพยักหน้าเอาใจช่วยเขาทิ้งท้ายไว้ด้วย ตอนนี้จึงเหลือแค่ วอน รติและเต๋ ในห้องที่ชวนอึดอัด
"ไม่ต้องกดดันตัวเองมากนะค่อยเป็นค่อยไป ผลการเรียนคุณจัดว่าดีเลย เอาที่เรียนมาใช้ผสมกับการทำงานแล้วกัน ไม่น่าจะยากสำหรับคุณ" รติเอ่ยเหมือนจะให้กำลังใจแต่วอนกลับผูกคิ้วขมวดไว้ยิ่งกว่าเดิม
"แล้วผมต้องนั่งทำงานตรงไหนครับ คุณรติไม่โหดใช่ไหม? " คำถามที่สมเป็นวอนทำประธานแอบขำออกมาน้อยๆ
"...ไม่หรอกครับ คุณจะเรียกว่าผมว่าพี่ก็ได้นะ ดีไหม...เผื่อจะสนิทกัน ส่วนเรื่องโต๊ะทำงานผมเตรียมแล้ว เราอยู่กันที่ห้องถัดไปนี่เอง...ต้องอยู่ชั้นเดียวกับประธานคงไม่อึดอัดนะ" รติถามด้วยรอยยิ้ม
....ไม่เลยพ่อคุณเอ้ย
....จะอึดอัดยังไงเล่านอนด้วยกันกอดกันแน่น อึดอัด จริงๆก็เจอมาหมดแล้ว... แต่ถ้าจะต้องอึดอัดกับใครตอนนี้กับคุณพี่นี่แหละ พี่จะจริงจังไปไหน...
"วอนเรียกว่าคุณรติดีกว่าครับ แต่คุณรติเรียกผมว่าวอนได้นะ..." เขาอยากมีระยะกับคนที่จะเป็นเหมือนครูคนต่อไปของเขา และรติเองก็พยักหน้าเป็นอันว่าตกลง...
"ค่อยเป็นค่อยไปแล้วกันนะครับ ดูท่าจะต้องกลัวคุณกว่าผมเสียอีกสิ ยังไงเดี๋ยวพาไปทำความเข้าใจกันแล้วคุณวรภพไปพบผมที่ห้องหน่อยก็แล้วกัน ....อ้อ นาฬิกาสวยดีนะครับ" คำทิ้งท้ายของเต๋ก่อนลุกขึ้นไปนั้นทำเอาวอนเกือบหลุดสีหน้าดุกลับไป...
นี่เต๋ก็บ้าไปแล้วหรือไง...
เกิดหลุดแล้วทำรติสงสัยขึ้นมามาจะทำไง...
จะชมว่าเขาใส่นาฬิกาที่ตัวเองซื้อให้มาทำงานสินะ กลับไปจะต้องสอนท่านผู้บริหารให้ระวังการวางตัวเสียหน่อยละมั้ง...
วอนได้ไปรู้จักที่นั่งของตนเองในห้องของเหล่ากรรมการบริหารแล้ว จากที่คิดว่าจะมีคนอายุเยอะหลายคน ซึ่งความจริงแล้วก็...ใช่ แต่กลุ่มคนเหล่านี้นั้นน่ารักและไม่ได้อึมครึม ออกจะเฟี้ยวฟ้าวโกงวัยและต่างพากันเอ็นดูเขาไปทั้งหมด มีพี่คนหนึ่งที่อายุเกือบเท่าแม่แต่ให้เรียกแกว่า "พี่" แถมยังมีการประกาศให้วอนเป็นลูกรักเธอเสียแล้วตั้งแต่วันแรก...
"รู้จักกันแล้วขอตัวให้น้องไปพบบอสก่อนนะครับ พอดีมีเรียกพบส่วนตัว..." รติเอ่ยออกมาทำเอาทุกคนฉงน
"....อะไรกันคุณรติ แปลกตั้งแต่จะพบเด็กฝึกงานเองแล้ว ร้อยวันพันปีมีที่ไหน ตายจริงลูกเอ้ย...พี่สุว่างานนี้มีเหนื่อย" สุรีย์คนที่ตั้งตัวเป็นแม่ของวอนซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ชุดทำงานอาวุโสคนเก่งบอกออกมา
"ไม่มีอะไรหรอกครับพี่ น้องกลัวหมดแล้ว...คงเพราะทางคุณแต้วฝากฝังมาน่ะครับให้เทรนด์ก่อนไปที่โน่น คงมีอะไรอยากจะพบพูดคุย..." รติช่วยชีวิตเขาเอาไว้แล้วยังแก้ต่างให้นาย
....พ่อเอ๊ยที่คุณสุรีย์เขาบอกน่ะถูกแล้ว
เข้าไปในห้องนั้นต้องมี เหนื่อย แน่
"เดี๋ยวมานะครับทุกคน" วอนยกยิ้มให้ทุกคนด้วยความแจ่มใสก่อนที่จะเดินตามรติไปหาประธานใหญ่ที่ว่า
"...คุณรติวันนี้ผมว่าง คุณช่วยหาเอกสารย้อนหลังและระเบียบการข้อเรียนรู้ต่างๆมาให้ที่ห้องหน่อยนะ ผมจะให้วรภพเขาเรียนรู้งานกับผมที่นี่แหละ คุณมีเอกสารที่ต้องจัดการอีกเยอะไม่ใช่หรือไงเดี๋ยวเสร็จแล้วก็ไปทำต่อเถอะ..." เต๋เอ่ยบอกกับเลขา
"จะดีเหรอครับบอส? " รติถามอย่างแปลกใจ
มันต้องแปลกแล้วใจไหม กับคนอย่างเต๋ที่จะเข้าบริษัทมาตัดสินใจแค่เนื้อใหญ่ๆงานเท่านั้นน่ะเหรอจะเอาเวลาส่วนตัวมาช่วยแบ่งเบางานเขา...ไม่เคยมีหรอกจะมาขลุกกับเด็กฝึกงาน แถมหลังๆเข้าบริษัทบ่อยๆที่ไหน วันนี้เกิดอยากจะมาดูงานเองแล้วจะไม่ให้แปลกใจได้ยังไงก่อน...
"ดีสิ ทำตามที่ผมว่านะ.." เต๋บอกพร้อมยกยิ้ม
วอนเองก็ยิ้มแห้งๆให้รติที่ตอนนีี้มีสีหน้ากังวลใจแทนเขาขึ้นมาแล้ว 'อย่ากดดันน้องนะครับ' ก่อนจะเดินหายออกไปรติยังทิ้งท้ายกลัวว่าประธานใหญ่จะทำเขาเสียกำลังใจอีก...
"ทำอะไรเนี่ย แบบนี้ไม่ดีหรอกมั้ง..." วอนครวญออกมาด้วยไม่รู้ว่าเต๋ต้องการทำอะไร การที่ประธานใหญ่จะสอนงานเด็กฝึกงานมันไม่ใช่วิสัยปกติแน่ๆ
"เฉยๆไว้ก่อน.." เต๋ว่าก่อนที่รติจะเดินหอบเอาแฟ้มเข้ามาพร้อมไอแพดขนาดใหญ่กว่าปกติมาวางไว้หน้าวอน มันเป็นอุปกรณ์ที่ออกจะเกินจริงแต่ก็เพราะวอนต้องเรียนงานที่เยอะกว่าฝึกงานทั่วไปเป็นพิเศษ... รติคิดว่าวอนเป็นการฝึกเกรดพรีเมี่ยมที่แต้วกำชับมาท่านประธานเลยต้องสละเวลามาสอนเอง
"ผมเตรียมทุกอย่างไว้ในนี้แล้ว ถ้าบอสจะสอนก็อิงจากในนี้เลยครับ..." รติบอกยังคงลอบมองหน้าของเจ้านายที่เรียกสั้นๆว่าบอสซึ่งก็ยังไม่แสดงอาการอะไรออกมานักนอกจากการทักทายเด็กใหม่วันแรกด้วยการให้เขาหอบของมาให้จนหอบแฮ่กไปหมด
"ขอบคุณครับ...คุณไปดูด้านนอกต่อเถอะทางนี้ผมจัดการเอง" เต๋ว่าออกมาก่อนรติจะเดินมางงๆ คุณผู้ช่วยถอนหายใจอยู่หลายทีก่อนที่จะเดินไปทำงานที่มีให้เสร็จ... มันคงต้องเรียบร้อยวันนี้เลยเพื่อตอบแทนที่บอสที่แสนดีสละเวลาที่ต้องฝึกงานให้น้องมาให้เขาแล้วเอาน้องไปสอนเอง...
"เต๋...ไม่ทำแบบนี้สิ คนอื่นเขารู้เขาจะว่าเอานะ" วอนบ่นออกมาทันทีที่อยู่กันสองคน
"เครียดใช่ไหม...คุณรติเขาดุนะ เฮี้ยบด้วย เต๋กลัวคนดีไม่ไหวเดี๋ยวเต๋สอนก่อน แล้วพรุ่งนี้เป็นต้นไปคนดีค่อยไปเรียนงานด้านนอกนะ..." เต๋บอกเสียงหวานหลุดมาด
....เขาเห็นว่าน้องไม่เป็นตัวเองไปหมดแล้ว
กลัววอนจะไม่ไหวเสียก่อน เลยอยากจะได้สอนงานให้เอง... รติคงคิดไปไกลว่าเขาจะเอาน้องไปเทรนงานโหดๆ รายนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคนที่โหดคือตัวเอง...
"แบบนี้ไม่ดีเลย...วอนไม่อยากมีทางลัด มันไม่แฟร์กับคนอื่นอะ...เต๋อย่าทำแบบนี้อีกนะ" วอนเอ็ดออกไป
"...เต๋รู้ แต่คนดีดูไม่ไหวจริงๆนี่ มานั่งนี่มา" คนที่นั่งบนเก้าอี้ใหญ่เรียกเขาไปนั่งที่ตักทำเอาวอนหน้าบึ้งกว่าเดิม
"เต๋ ปล่อยวอนไปหาคุณรติเลย" วอนออกคำสั่ง
"...คนดี สิ่งที่เต๋พูดไปแล้วมันก็เป็นคำขาดแล้วเหมือนกัน จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ยังไง คนดีมานั่งนี่ก่อนเร็ว...มา!" เต๋เรียกน้องอีกรอบแต่ว่าวอนก็ยังไม่ยอมลุก
"....วอนครับมานี่เร็ว โอเคๆเดี๋ยวเต๋จะสอนงานในนี้ให้แค่ครึ่งวัน แล้วอีกครั้งวันเต๋ให้คุณสุรีย์กับคุณรติสอนต่อนะ มาเร็วเข้า.." เต๋ย้ำอีกรอบก่อนจะตีไปบนตักตัวเอง
วอนไม่ชอบเลยสิ่งที่กำลังทำ...
เขากำลังรู้สึกโกงคนอื่นอยู่ในที
ไม่อยากมาทำแบบนี้...มันเหมือนใช้เรื่องส่วนตัวผลักดันให้ตัวเองก้าวหน้าในงานหรือมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น....
วรภพนั่งลงบนตักแกร่ง ก่อนจะได้ยินเสียงล๊อคประตูและทุกทางเข้าออกเบาๆจากการที่เต๋กดปุ่มลงจากคอนโทรลข้างคอม มันไฮเทคจนวอนแอบตื่นตา
"ไหนใครเครียด ละลายพฤติกรรมหน่อยไหม.." เต๋จูบไปบนไหล่น้องจากด้านหลังก่อนจะกอดไว้หลวมๆ
"จะทำได้ไหมไม่รู้..." วอนพึมพำออกมา มองเอกสารและไอแพดด้านหน้าที่กำลังโชว์ตัวเลขและสถิติขึ้นมาพร้อมด้วยข้อมูลมากมายที่เขาต้องรู้
"ทำได้สิ ไหนคนดีมองหน้าเต๋หน่อย.."
"..." วอนมองท่าที่ท่านประธานจับเขาหันหน้ามาก่อนที่จะบังคับสบไปในตาที่สั่นไหว
"คุณวรภพของเต๋ทำได้อยู่แล้ว จะทำได้ดีมากด้วย มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ หืม....จุ๊บ" เต๋กดจูบลงบนปากนิ่ม
"เต๋..." วอนยอมสวมกอดตอบกลับไป
ลืมไปก่อนตำแหน่งหน้าที่...
การมีใครสักคนอยู่ตรงนี้มันดีที่สุดเลย...
...วอนกอดเต๋จนอุ่นใจขึ้นมา ก่อนที่จะลุกขึ้นออกจากตัวท่านประธานแล้วคว้าเก้าอี้มานั่งข้างกัน...
"พร้อมแล้วไหม? เต๋จะเปลี่ยนโหมดแล้วนะ" เต๋ถามและวอนพยักหน้ารับ
....ท่านประธานที่มีนามว่าศาตนันท์ค่อยๆสอนเด็กฝึกงานวรภพถึงเนื้องานที่จะต้องทำในเบื้องหน้า ก่อนจะสอนเรื่องการวิเคราะห์ต่างๆเบื้องต้น...ทำหน้าที่เป็นครูและตัดเรื่องความสัมพันธ์ออกไปหมดสิ้นจริงๆดังที่บอกกับรติไว้ สอนอย่างตั้งใจและดุดัน
...วรภพถึงกับอึ้งกับเต๋ในโหมดการทำงานที่ทั้งเก่ง ความรู้แน่น และยังแอบโหดหน่อยๆด้วยตอนที่เค้นและถามเขาถึงความเข้าใจวอนถึงกับไปไม่เป็น หาดไม่เข้าใจเต๋จะให้วอนทบทวนอีกรอบจนกว่าจะตอบคำถามได้...แต่นั่นก็ยังสบายใจกว่าถ้าหากอาจจะต้องเรียนเรื่องที่ว่านี่จากคุณรติคนนั้น เต๋สอนมันซ้ำไปมาอยู่นานจนกระทั่งเที่ยงวัน...
"ไปกินข้าวด้วยกันไหม หิวหรือเปล่า?" เต๋ถามตอนที่น้องลุกขึ้นยืนบิดไปมาเล็กน้อย
"...ไม่เอาอะจะไปกินกับเฟย บอกแล้วไงครับคุณศาตนันท์ว่าที่นี่เราไม่สนิทสนมกัน ท่านประธานที่ไหนจะมาชวนเด็กฝึกงานไปกินข้าว" วอนเย้า
"ไหนเล่นบททำรักกับเด็กฝึกงานหน่อยไหม..." เต๋สาวเท้าเข้าไปหาก่อนจะทำหน้าหื่นๆแกล้งน้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูขัดจังหวะขึ้นมาก่อน ก่อนที่เต๋จะรีบนั่งลงกลับมาบนเก้าอี้ และวอนยืนตัวตรงถือสมุดบันทึกในมือที่ข้างโต๊ะด้วยใจระทึก ท่านประธานรีบกดปลดล๊อคจากปุ่มบนโต๊ะอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามา ประตูส่งเสียงสัญญาณอนุญาตก่อนคนที่เคาะจะเปิดออกแล้วเดินเข้าม่
"พี่นัท.." วอนพึมพำก่อนถอนใจโล่ง นึกว่าใครที่ไหน...เป็นนทีนั่นเองที่เข้ามา
"ทำอะไรกัน? ท่าทางไม่ปกติ.." นทีหรี่ตามองสองคนอย่างจับผิด
"เปล่า" เต๋ตอบปัดแล้วทำเป็นหันไปสนใจที่หน้าจอ
"....มึงนี่มันน่าโดนจริงๆนะ วอนออกไปกินข้าวกับเฟยไหมเพื่อนรออยู่ด้านล่างน่ะ พี่ขอคุยกับเต๋หน่อย" นทีบอกกับน้อง เขารักษามาดเสมอแม้จะไม่เจอว่ามีใครคนอื่นอยู่ในห้องด้วย และเพราะเรื่องนี้แหละที่จะมาคุยกับน้องชาย...
"อย่าทะเลาะกันนะ" วอนเตือนก่อนจะเดินออกไป
"มีอะไรมึง?" เต๋บ่นออกมาเมื่อวอนเปิดประตูเดินออกไปแล้ว
"กูจะมาดูว่ามึงจะทำอะไรตามใจหรือเปล่า แล้วมึงก็ทำจริงๆ ....เต๋มึงบ้าไหมเนี่ย เอาน้องเข้ามานั่งทำงานด้วยในนี้ผู้บริหารบ้านไหนเขาทำกัน....คนเขาก็ได้จ้องน้องกันหมด" นทีบ่นเสียงจริงจังเอามือเท้าเอวมองน้องชายที่ทำหน้าไม่ทุกข์ร้อน
"กูก็สอนจริงๆไงไม่ได้ทำอะไรไม่ดี มึงไม่รู้หรอเว่าน้องกดดันแค่ไหน....กูรู้จักรติดี รายนั้นเฮี้ยบยิ่งกว่าอะไร! " เต๋บ่นกลับบ้าง
ก็เขารักของเขานี่...
อยากจะดูแลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้..
"ถึงบอกไงว่ามึงบ้า...เจ้แต้วนะเจ้แต้ว เอาน้องมาทิ้งไว้กับมึงตั้งวีคนึง มึงจะมาอ้างความเห็นใจโดยใช้เรื่องส่วนตัวที่นี่ไม่ได้นะเต๋ คนที่เสียไม่ใช่แค่มึงแต่เป็นวอนด้วย...มึงต้องระวัง"
"เออกูรู้แล้ว...เมียก็บ่น มึงก็บ่น ไม่เป็นมึงจะรู้อะไรล่ะ เมียนั่งหงอยตัวลีบแบบนั้นกูก็อยากสอนเองอยากให้เรียนกับกูเอง แล้วกูก็สอนแบบจริงจังด้วยไม่ได้โอ๋..."
"มึงกำลังโอ๋ไอ้เต๋ ถ้ามึงไม่โอ๋ต้องปล่อยให้น้องเจอชีวิตเอง นี่มึงทำตัวเหมือนพ่อที่ไปเฝ้าลูกที่รร.อนุบาล ไปเรียนด้วยไปกล่อมให้นอน...น้องมันจะโตเหรอ...เขาจะได้รู้โลกเหรอ" นทีบ่นออกมา
"กูรู้แล้วไหม ...เดี๋ยวเที่ยงนี้ก็ปล่อยให้ไปเรียนกับรติแล้ว แล้วกูไม่ได้เห็นเป็นลูกที่ไปโรงเรียนด้วย กูเห็นเป็น..." เต๋เงียบไป
"อะไร?" นทีจ้องหน้าเอาคำตอบ
"มึงมันไม่รู้อะไรไอ้นัทว่าตอนเห็นเมียตัวเองเป็นพนักงานออฟฟิศแล้วมึงเป็นประธานน่ะมันเร้าอารมณ์ขนาดไหน?"
"ไอ้ห่านี่" นทีทำท่าจะเข้าไปเตะคนที่เอาแตาคิดอกุศลทว่ามันวิ่งหลบหัน
"กูรู้อยู่แล้วว่ามึงต้องจัญไร..." นทีบ่นด่าเสียงไม่ดังมากไล่หลังเต๋ที่หนีออกไปด้านนอกแล้วทิ้งให้เขายืนคิดภาพตาม
วอนในชุดพนักงานออฟฟิศ...
ตอนที่ถือเอกสารเดินไปเดินมา...
หรือตอนที่เรียกเราว่าบอสนะเหรอ...
ไม่นะไอ้นัท อย่าบ้าจี้ตามไอ้เต๋...
ไม่สิ..
ไม่โว้ยยยย
ไม่ทันแล้ว.... คิดไปแล้ว
และไม่ได้การแล้ว!! ต้องไปบอกเจ้แต้วรีบจัดการพาน้องแยกจากมัน ให้อยู่ที่นี่ไม่ได้แน่!เรื่องเมื่อเช้าที่มันขยี้จะให้ผิดใจยังไม่เคลียร์ ต้องไปเป่าหูเจ้แต้วว่ามันดูแลเด็กฝึกงานผิดที่ผิดทางผิดวัตถุประสงค์หน่อยแล้ว!! สรรหาแต่เรื่องทราม!!! ไม่ใช่เมียมึงคนเดียวนะไอ้เต๋!!
03.11.2020