ตอนที่แล้วThree of us 04 : ผัวสอง (NC)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThree of us 06 : ไม่ได้ยิ้ม

Three of us 05 : ขอเวลา


Three of us

ตอนที่ 5

ขอเวลา

นับจากวันที่ไปเจอที่ผับแล้ว ชีวิตของวรภพก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเพราะมักจะมีสายโทรศัพท์จากคนที่ไม่อยากทำใจให้คุ้นชินเข้ามาเสมอ...เหมือนเช่นตอนนี้

Rrrrrrrrrr

มือถือที่สั่นบนโต๊ะนั้นทำเอาวอนกรอกตา

"รับสิ หรือจะให้กูรับให้?" กอล์ฟถามเมื่อเห็นว่าเพื่อนที่นั่งคิดงานอยู่นั้นไม่มีทีท่าจะหยิบมัน

"ไม่ต้องๆ.." วอนรีบคว้ามันทันที ขืนให้ใครรับแทนแม่งต้องโผล่กันมาถึงนี่แน่ๆ...

เกือบสามวันแล้วที่ไม่ได้เจอหน้าแต่จะมาแค่เสียงว่าทำอะไรที่ไหน ไม่รู้จะถามทำไมอย่างกับคนจีบกันอยู่...ที่ทำกันแม่งข้ามเส้นนั้นไปไกลละ เขาลุกเดินออกมาจากโต๊ะประจำที่มักจะมานั่งทำงานกัน ก่อนจะเดินออกไปให้ไกลจากเพื่อน ที่นั่งทำงานอาจารย์กันอยู่ แม้รู้ไม่พ้นสายตาของเฟยที่มองมาแต่ก็ถึงเวลาเขาจะบอกพวกมันเอง...

"ว่า?" วอนกรอกเสียงลงไป

("รับสายดีๆอะมีไหม?") เต๋ถามกลับมา

"แล้วให้ตอบไงอะ คร้าบบบบ มีอะไรคร้าบบ งี้อ่อ" เขากรอกตาไปมา

("ได้แบบนั้นก็ดี วันนี้เลิกเรียนแล้วไปไหนหรือเปล่า จะชวนมากินข้าว?")

"ไม่ได้ไปไหน แต่ก็ไม่อยากไปกินข้าวด้วย" เขาบอกตามตรง ...มันออกจะรู้สึกแปลกๆอยู่นะ การกระทำที่ว่า แค่มายืนคุยมือถือกันแบบนี้ก็แปลกจะแย่แล้ว

("วอน") เสียงเรียกนั้นนิ่งและไม่มีอะไรเพิ่ม

"เรียกทำไม?"

("มึงอะวอนแล้ว รออยู่ที่มอนั่นแหละ เดี๋ยวไปรับ") เต๋ว่า

"ไม่ต้อง เดี๋ยวทำงานเสร็จจะไปกับเพื่อน"

("อีก 20นาทีถึง!") เสียงตึงๆนั่นไม่ได้ถามความเห็นเพราะพูดจบเต๋ก็ตัดสายไปทันที

"แม่ง!" วรภพมองสายที่ตัดไปพร้อมด้วยในใจที่สาปแช่งไปไม่หยุด...

อย่างกับมีเจ้ากรรมนายเวร! เชื่อแล้วว่าสุรามีผลต่อการคิดและตัดสินใจ คืนนั้นแม่งทำอะไรลงไปวะ! เขาขยี้ผมไปมาด้วยความเซ็ง

"พี่วอน.." ตอนนั้นเองเสียงเรียกที่คุ้นหูดังมา ทำเอาคนที่ยืนงุ่นง่านอยู่หันไปหาอย่างไว

"เหม.." วรภพเรียกชื่อเด็กผู้ชายตัวบาง ผิวขาวใส ตาโต หน้าตาน่ารักอย่างกับหลุดออกมาจากภาพ Ulzzang Boys ในโซเชียล

"เหมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม?" ปากเรียวเล็กนั่นถาม วรภพมองไปบนจอก่อนที่จะหันไปหาเพื่อนที่นั่งอยู่ด้านหลังไกลออกไป

"เฟย กอล์ฟ เดี๋ยวกูไปก่อนนะ ฝากส่งงานด้วย.." ตะโกนบอกก่อนจะตัดสินใจเดินไปกับคนที่เข้ามาชวน เขากดปิดเสียงและแจ้งเตือนทั้งหมดทันที...

....เอาไว้ก่อนแล้วกัน

....ยังไงก็จัดการเรื่องตรงหน้าก่อน

วอนเดินเคียงไปกับเหม รุ่นน้องคณะนิติที่เขาตามจีบอยู่นาน เพียงแต่นอกจากไม่ได้รับความรักตอบแล้วยังได้ พี่น้อง&ที่ปรึกษา Zone กลับมาด้วย

แม่งแย่กว่าเฟรนด์โซนอีก...

....เราไปกินข้าว ดูหนัง ด้วยกันอยู่ช่วงหนึ่ง จนกระทั่งน้องบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา แค่สบายใจที่จะอยู่ด้วยกันและกำลังดูใจกับรุ่นพี่ ซึ่งเป็นปีเดียวกับวอนแต่อยู่วิทย์กีฬานี่เอง...

....ตื๊อแค่ไหน ดีแทบตาย เอาใจโคตรๆ สุดท้ายก็พ่ายให้แก่หนุ่มผิวแทนมีกล้ามตัวสูงโย่งที่พ่วงด้วยตำแหน่งนักบาสมหาลัย

"จะพาพี่ไปไหนยังไม่บอกเลย" ถามออกไป พร้อมมองเสี้ยวใบหน้าของหนุ่มน้อยที่ดูเศร้า พวกเขาเดินกันไปเรื่อยๆเหมือนจะเลาะไปทางข้างมอที่มีร้านรวงอยู่มากมายแต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนเพราะเหมเอาแต่เงียบ

ยังจำได้ดีหรอกนะว่าหักอกกันจนไปไม่เป็นอยู่เกือบเดือน แล้วยังทักมาแสดงความห่วงใยกัน แล้ววันนี้น้องยังจะมาวนเวียนลากเขาไปไหนก็ได้งี้อีกเหรอ

แล้วถามว่าไปไหม?

ก็เดินตามน้องไปอยู่เนี่ย!

...ไม่รู้ว่าคืนนั้นที่เผลอมีอะไรกับนทีและเต๋ไป ในห้วงความคิดไหนมันทำให้นึกว่าคนพวกนั้นเป็นเหมไปได้ไง ทั้งหน้าตา ขนาดร่างกาย รูปร่าง และนิสัย ไม่มีอะไรใกล้เคียงกันสักนิด

"พี่วอน... ยังโกรธเหมไหมอะที่เหมเคยทำพี่วอนเสียใจ" เสียงใสนั่นถามแต่ไม่ยอมหันมองหน้า

"แกถามอะไรพี่แบบนั้นอะ คนมันไม่รักไม่ได้ผิดอะไรนี่.." ไม่ได้พูดให้สวยหรูแต่น้องมันไม่ได้ผิดอะไรจริงๆ ถ้าผิดคงเป็นใจดีเกินจนให้ความหวังเขา...

เล่นตรงสเปคทุกอย่างขนาดนี้ ตัวบางๆ สะอาดสะอ้าน ไม่ได้หล่อหรือดูหวาน ดูธรรมดา และไม่ใช่คนดื้อดึง ออกจะขี้อ้อน ทุกอย่างกำลังดีและตรงใจ แต่ติดที่เขา 'ไม่ใช่' สำหรับน้อง...

"ฮึกก เหม มะ ไม่รู้จะปรึกษาใคร พี่วอน..." จู่ๆน้องก็ร้องไห้ออกมาทำเอาวรภพตกใจรีบหันซ้ายหันขวาก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัว

"ไม่เอาแบบนี้ดิเหม เดี๋ยวใครหาว่าพี่รังแกเราพอๆ.. ไปกันไปหาที่นั่งคุยกันนะ.." วอนว่าก่อนจูงมือน้องไปทันที

เขาเลือกร้านที่ชอบมานั่งกับเฟยและกอล์ฟ เป็นร้านโปรดที่ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ มันเป็นร้านข้าวตามสั่งและขายชากาแฟแบบบ้านๆที่วอนชอบที่สุด ไม่มีมุมถ่ายภาพ ไม่มีอะไร แต่มันมีสวนธรรมดาๆให้เข้าไปนั่งพักผ่อน ลูกค้าส่วนใหญ่จึงมักเป็นวัยทำงานที่ต้องการที่เงียบสงบ...

"ไหนเล่าให้พี่ฟังซิ... นี่โดนทิ้งมาหรือไงเลยมาซบไหล่พี่อะ.." วอนถามแกมเย้า เหมยกยิ้มน้อยๆก่อนจะเริ่มเล่าออกมา

ใจความก็มีแค่เหมือนจะจับได้ว่าแฟนหนุ่มนั้นไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นหรือนอกใจ แม้จะไม่มีหลักฐานแต่ก็ทำให้ทะเลาะจนบอกเลิกกัน

"ถ้าแกเลือกพี่ไม่มีเสียใจแบบนี้หรอก...เป็นไงล่ะ?" วรภพยังคงเย้าน้อง

"จะย้ำไปถึงไหนอะ อีกอย่างถ้าคบกันแล้วทะเลาะกันเหมจะไปปรึกษาใคร มีพี่วอนแบบนี้ดีที่สุดแล้ว" นั่นไง...ตอกย้ำแม่งเข้าไปอีกหน ที่ปรึกษาโซนของแท้...

"ให้เป็นได้เท่านี้เพื่อมานั่งฟังเราพูดเรื่องอกหักจากผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ โถ่..." คนพี่หยอกก่อนจะเช็ดน้ำตาให้เบามือ มันทำเอาเหมยกยิ้ม...

"พี่วอนดีที่สุดเลย อย่างน้อยเหมได้ระบายแล้ว เพื่อนไม่มีใครฟังเลย...ไม่มีใครชอบแฟนเหมสักคน เล่าแล้วกลัวโดนตอกย้ำ" เด็กหนุ่มว่าพร้อมยู่หน้า

"ถ้าดีจริงเหมต้องตอบตกลงเป็นแฟนพี่ไปแล้วสิ ไม่ต้องมาหลอกให้ดีใจเลย" วรภพว่า

เอาจริงแล้วเขาเป็นเกย์ที่ถนัดจะดูแลคนอื่นมาตลอดด้วยความใช้นรสิงห์เป็นโมเดล เอาสิ่งที่พี่ชายคอยดุคอยดูแลเขามาทำกับคนอื่นๆ วอนมักจะมีแฟนที่ขี้อ้อนและเขาทำตัวอบอุ่นแบบนี้ให้เสมอ...เพื่อนๆบางทีก็ยังแอบมีดูแลแบบนี้เลย...

"แล้วเมื่อไหร่จะมีแฟน ถ้าจะมีบอกเหมเลยนะ เหมช่วยเต็มที่.." เด็กหนุ่มตรงหน้านี้กำลังยกยิ้มกว้าง

"ไม่ต้องเลย ถ้าไม่เป็นให้ก็ไม่ต้องช่วยเถอะ พี่ไม่คุยเรื่องความรักกับแกหรอก...ใครเขาจะใจร้ายเหมือนแกกัน" วอนยังคงแกล้งประชดประชันใส่

"แล้วนั่น..." วอนชี้ไปที่ใต้เสื้อนิสิตที่เปิดขึ้นของน้อง เหมรีบปิดมันทันที...

"เอ่อ..."

"นี่... แกโอเคใช่ไหม? มันทำร้ายหรือบังคับหรือเปล่า แม่งเอ้ย!" วอนสบถออกมา มีที่ไหนทำรอยรักไว้โจ่งแจ้งแบบนั้น นั่งอยู่ตั้งนานก็ดันมองไม่เห็นซะด้วยทั้งที่เด่นออกมาจนดูเหมือนว่าน้องอาจจะไม่สมยอม

"ไม่พี่วอน...เหมโอเค เขาไม่ได้ทำร้าย" คำตอบนั้นยิ่งทำเอาเขาอึ้งกว่าเดิมล่ะไม่ว่า รสนิยมทางเพศมันมองกันไม่ได้จากหน้าตาจริงๆ ชอบรุนแรงเหมือนกันนะนั่น...

...แค่คิดว่าน้องชอบกับสิ่งที่โดนกระทำก็ทำเอาหวนคิดถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมา ใครจะคิดกันว่าเขาจะชอบใจกับการร่วมรักกับคนสองคน

"พี่วอน พี่วอนเป็นอะไรรึเปล่า....พี่วอน!" เหมเขย่าตัวเรียกคนที่หน้าแดงขึ้นมา วอนถูแก้วด้านหน้าไปมาเหมือนคนเหม่อลอยเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยิน

"หืม...ไม่มีอะไร แล้วเราจะเอาไงต่อเนี่ย?" วอนถาม

"พี่วอนว่าเหมจะกลับไปคืนดีกับเขาดีไหม เหมงี่เง่าใช่ไหม?"

"ไม่ซะหน่อย คนเราได้รักแล้วก็แบบนี้แหละ เหตุผลน้อย แต่จะมาถามพี่ไม่ได้นะต้องถามตัวเอง พี่ได้แค่รับฟังแกแค่นั้น" วอนว่าก่อนจะจับมือน้องบีบไปมาให้กำลังใจ

"อื้ออ ขอบคุณนะ ถ้าเหมโทรไปหาพี่วอนเหมือนเดิมได้ไหม?" น้องถามพร้อมหลบสายตา เหมรู้สึกว่าเขากวนวอนมากไป

"ได้สิ ถ้าพี่ไม่ทำเรามีปัญหากับมันพี่คุยได้" วรภพว่า เขาไม่ได้หวังอะไรแล้วแม้ว่าจะเอ็นดูเหมเหมือนเดิมแต่ก็พร้อมจะเป็นคนให้คำปรึกษาน้องมันเช่นกัน

"พี่วอนน่ารักที่สุดเลยว่ะ" เหมหยิกแก้มวรภพไปมาด้วยความเอ็นดูคนที่ดีกับตน

"กลับได้แล้ว ป่านนี้มันมารอง้อคืนดีแล้วมั้ง.." วรภพแซ็วทำเอาเหมยู่หน้าอีกรอบ

สองคนลุกขึ้นออกจากร้าน...ในระหว่างที่กำลังเดินเข้ามถนนไปส่งน้องที่หน้าร้านนั่นเองก็มีรถคันหนึ่งเลี้ยวมาจอดด้านหน้า

ปรี๊นนนน ปรี๊นนนน

เสียงบีบแตรทำเอาเหมมองหน้ารุ่นพี่ แต่วอนที่ไม่รู้ว่าใครก็งงเหมือนกันและความก็กระจ่างเมื่อเห็นคนที่เปิดกระจกลงมานั้นคือ...

"ขึ้นรถ!!"

คนที่เขาเพิ่งโดนตัดสายและบังคับให้มาเจอกันอีก 20 นาทีของสองชั่วโมงที่แล้ว... เต๋เอ่ยด้วยใบหน้านิ่งและวอนหันมองหน้าเหมทันที

"พี่วอนไปเถอะครับ เดี๋ยวเหมข้ามไปขึ้นวินตรงนี้เอง ขอบคุณมากเลยนะ...แล้วเดี๋ยวเหมโทรไป" น้องว่าพร้อมทั้งยกยิ้มร่าให้ว่าตนเองโอเค

"ถึงหอแล้วบอกพี่ด้วยนะ มีอะไรก็โทรมาได้.." วอนว่าก่อนจะโบกมือลา หันมองไปในรถฟิล์มดำที่เต๋ปิดมันไปแล้วก่อนจะเดินอ้อมไปเปิดประตูข้างคนขับแล้วขึ้นไป

"เปิดมือถือดู!" คนขับออกคำสั่งไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าวอน

"...." คนน้องสะดุ้งตัวโยนเพราะตกใจ

"เปิดสิวอน!!" เต๋เสียงเข้มขึ้นก่อนที่เขาจะแล่นรถออกมา คนโดนทวงหายังคงขมวดคิ้วมองเต๋อย่างไม่พอใจ

...แม้จะไม่ชอบใจที่อีกคนมาพูดจาใส่เขาแบบนี้ แต่ก็วรภพก็ยอมยกมันขึ้นมาดูแล้วก็พบว่ามันมีสายเข้ามากมายจากเต๋ รวมถึงข้อความที่ตามหาเขา

"รู้ไหมว่ากูเป็นห่วงแค่ไหน ขับรถวนทั้งมหาลัย...ถามไอ้โต๋แม่งก็บอกไม่รู้ จนมาเจอมึงอยู่กะเด็กนั่นเนี่ยนะ!" เต๋ว่า

"แล้วจะทำไมวะ ก็เหมเป็นรุ่นน้องกูอะ...จะมาด้วยกันแล้วมึงยุ่งอะไรด้วยวะ!" เมื่อร้อนมาเจอกับร้อนมันไม่มีใครยอมกันแน่นอนจนกลายเป็นสงครามน้ำลาย

"นี่เรียกกูว่ามึงหรอ!" เต๋ถามพร้อมตวัดหน้าดุๆมามอง

"มึงยังพูดเลย...แล้วคาดหวังจะให้กูพูดดีๆด้วยเหรอวะ!" วรภพไม่เคยยอมใคร อะไรที่เขาคิดว่าไม่ถูกต้องไม่ถูกใจเขาจะบอกออกมาหมด

เต๋ข่มตาก่อนจะพรั่งพรูลมหายใจออกมา

"เหม... เหมนี่ใช่ชื่อเดียวกับที่มึงเพ้อตอนเอากับกูอยู่ใช่ไหม..." มันเหมือนการพึมพำแต่ก็ต้องการถามอยู่ในทีนึกไปถึงวันที่เจอกันครั้งแรก

"...."

"คืนนั้นตอนเมามึงคิดว่ากำลังเอากับมันอยู่ใช่ไหม.." เต๋คาดคั้น

"ใช่.."

วรภพตอบออกไปทำเอาเต๋เงียบลง

"แล้วที่กูสองคนพูด...ที่บอกว่าอย่าไปมีใครนี่ฟังบ้างไหม?" เต๋ถามอีกครั้ง

"ก็...ก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่ได้กันแค่มีความสุข...มันเป็นแค่เรื่องทางกายปะวะจะมาผูกมัดมารั้งกันไว้ทำไม รู้จักกันดีหรือยังเถอะ!" วอนโพล่งออกไปบ้าง

เคยเจอกันกี่ครั้งเอง

มันจะไปพอให้รั้งกันได้ยังไง

เต๋นั่งเงียบตลอดทาง ก่อนที่รถจะขับมาที่ ETC และไม่มีใครพูดอะไรอีก

"ไปกินข้าว นทีรออยู่.." เต๋ว่าก่อนจะกดลิฟต์ให้วอนขึ้นไปที่ชั้นบนสุดแต่ตัวคนกดเองนั้นแยกเดินไปอีกทาง

วอนไม่ได้สนใจท่าทีนั้น...

จะมาโกรธอะไรเขากัน...

โตป่านนี้แล้วยังรับความจริงไม่ได้หรือไง...

ลิฟต์มาหยุดที่ชั้น 6 วอนเดินเข้าไปในร้านอาหารหรูก่อนที่จะเห็นใครคนหนึ่งนั่งอยู่และกำลังยกมือโบกให้เขาเลยสาวเท้าเข้าไปนั่งลงตรงข้ามกัน...

"มาช้าฉิบ แล้วไอ้เต๋ไปไหน.." นทีถามและอาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟให้ทันทีเหมือนถูกเตรียมไว้

"ไม่รู้.." วอนว่า

"กินเลย...หิวมาใช่ไหม สั่งมาให้แต่ที่กินง่ายๆ.." นทีเอ่ยก่อนที่วอนจะมองหน้า

"...."

"ไม่มียาพิษ ไม่ตายแน่ กินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยถามหรือค่อยด่า.." นทีเอ่ยกลั้วขำเมื่อมองใบหน้าบูดๆนั่น

วอนมองอาหารมากมายตรงหน้า จะว่าๆเห็นแก่กินก็ได้แต่ก็ขอกินก่อนแล้วค่อยคุย นทีไม่ได้ผิดอะไรนี่...คนที่เขามีประเด็นมาด้วยมันคือเต๋ เขาต้องแยกแยะ

Rrrrrrrr

เสียงมือถือของนทีก็ดังขึ้นและเขากดรับทันทีที่เห็นชื่อบนจอ พูดคุยอะไรสักอย่างก่อนที่จะมองมายังวอนด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนไป

"กูจัดการเอง" นทีเอ่ยกับปลายสายแค่นั้นก่อนจะวางลงไป

"โทรมาฟ้องหรือไง?" วอนถามด้วยพอเดาได้ว่าต้องเป็นเต๋ที่โทรมา

"แฟนเหรอ...คนชื่อเหม?"

"เปล่า แม้จะอยากให้เป็นก็เถอะ" วรภพบอกตรงๆ ก่อนจะตักอาหารเข้าปาก

"กินให้เสร็จ เดี๋ยวจะพาไปซื้อของ.." นทีว่า ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันลงมือกินข้าวด้วยกันเงียบๆ

....บรรยากาศมันแปลกๆ แต่สำหรับวอนแล้วแบบนี้ก็ไม่ได้แย่ เขาก็ได้กินฟรีแล้วก็มีคนหน้าตาดีหนึ่งคนนั่งอยู่ตรงหน้า พินิจแล้วพบว่า นทีโคตรจะดูดีเลย ไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีและมีสตางค์ขนาดนี้ใกล้ๆแบบสนิทชิดเชื้อมาก่อน ไม่แน่ใจว่าทำไมวันก่อนมองไม่เห็นมุมนี้นอกจากอีกคนขี้เก๊ก...วอนกินอิ่มแล้วก็เผลอนั่งมองคนที่ยังตั้งหน้ากินอาหารอยู่

คนอะไรกินยังเก๊ก

คิดแล้ววอนก็ส่ายหัวยิ้มๆ

"หลงเสน่ห์แล้วเหรอ?" นทีเงยขึ้นมาถามทำเอาวรภพทำตัวไม่ถูก

"พูดบ้าอะไร.." วอนทำเฉไฉ

"พูดจาให้มันดีๆหน่อย แก่กว่าตั้งหลายปี" นทีทำเสียงดุใส่

"พูดแบบไหนมาก็พูดกลับแบบนั้นแหละ พูดมึงๆกูๆใส่มาจะให้คลานเท้าเข้าไปหานั่งพับเพียบกราบกลับหรือไง..." วอนเอ่ยประชดไปถึงอีกคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้

"หึๆอันนั้นต้องไปเคลียร์กับมันเองนะ มันแค่เสียใจที่ทำเหมืิอนไม่อยากมีมันในชีวิต" พูดแบบนี้วอนรู้ได้ทันทีว่าเต๋คงเล่าคร่าวๆแล้ว...

"เว่อร์ว่ะ ได้กันไม่กี่ทีจะมาอะไรมากมาย ..ยังไม่ได้รู้จักกันขนาดนั้นซักหน่อย" วอนตอบกลับคนนี้บ้าง

"ก็จริง จะคิดแค่ถูกใจแล้วอยากจะรั้งไว้อย่างเดียวก็ไม่ได้ นี่ไง...ก็กินเสร็จแล้วเราไปหาอะไรทำกัน จะได้รู้จักกันมากขึ้น" นทีว่า

...วอนรู้สึกว่าวันนี้นทีนั้นมาแปลก ปกติแล้วคนที่จะดูสบายๆกว่าคือเต๋แต่นทีจะขรึมๆ วันนี้กลับสลับกันไม่รู้ว่าจะมีลูกไม้อะไรหรือเปล่า...

"แล้วจะไปซื้อของอะไร?"

"ไม่รู้ อยากได้อะไรหรือเปล่าล่ะ มือถือใหม่ รองเท้า เสื้อผ้า" คนพี่เลิกคิ้วถามขึ้นมา

"พอเลย ถ้าจะไปทำอะไรไร้สาระแบบน้้นไม่ไปนะ...ไม่มีอะไรที่อยากได้หรือถ้าอยากได้ก็เก็บเงินซื้อเองไม่ต้องมาซื้อให้" วอนชักจะหงุดหงิดขึ้นมาอีก

...มันจะมาเปย์อะไรนัก

...ทำเหมือนกำลังเลี้ยงต้อยกันอย่างนั้น

"งั้นชอบทำอะไร ไปคอร์ทแบดข้างล่างไหม ฟิตเนส? หรือจะไปหาเต๋ที่บ่อน?" นทีแกล้งเย้าในคำถามสุดท้าย

"อยากเล่นแบด ไม่ได้เล่นนานแล้ว.." วอนกรอกตาก่อนจะตอบ

...วรภพนึกสนุกขึ้นมา เขากับนะชอบเล่นแบดเป็นชีวิตจิตใจ แค่คิดภาพว่านทีดวลกับเขาแล้วหอบกินก็รู้สึกชนะขึ้นมาแล้ว

"ทำหน้าแบบนั้นจะท้าหรือไง ไม่ติดนะ..." นทีว่า

....ตอนนี้ทั้งคู่ลงมาอยู่ที่สนามแบดมินตันแล้ว มีคนไม่น้อยมาจับจองสนามที่กินพื้นที่ครึ่งชั้นนี้ วอนเปลี่ยนชุดที่นทีหามาให้พร้อมกับอุปกรณ์ เขาทำหน้าตาจริงจังก่อนจะโยนลูกขนไก่ขึ้นแล้วตบเสิร์ฟ

ลูกแรกมันเร็วมากจนนทีตั้งรับไม่ได้แต่นั่นเพราะเขาไม่ทันตั้งตัว มันทำเอาวอนขำกลิ้งและได้ใจแต่อีกฝ่ายไม่ได้ยอมแพ้ ทั้งคู่ทั้งหวดทั้งโต้กันอยู่นานด้วยสกอร์ที่กินกันไม่ลง นทีนั้นแม้จะไม่เก่งมากแต่ด้วยเป็นคนแข็งแรงก็ทำเอาวอนนั้นเหงื่อ ก่อนที่จะเดินมานั่งกินน้ำที่ข้างสนามกัน...

"อย่างหนุกอะ เป็นไง เก่งอะดิ.." วอนว่ายักคิ้วไปสองทีก่อนจะยกน้ำขึ้นกระดกเกือบหมดขวด

"เก่ง... วันหลังมาเล่นด้วยกันอีกไหม ได้เหงื่อดี" นทีว่าขึ้นบ้างก่อนจะยกน้ำขึ้นกินเหมือนกัน แต่ด้วยน้ำที่ไหลย้อยลงมาจากขวดทำให้มันหยดลงบนตัวที่ชื้นเหงื่อ วอนได้เห็นแล้วถึงกับลอบกลืนน้ำลาย...

โคตรเซ็กซี่...

นทีดูเป็นคนสุขุมที่น่ามีเสน่ห์เย้ายวนใจ...

"แอบมองอ่อ.." คนพี่แซ็วทำเอาวอนทำหน้าไม่ถูก

"...."

"มองได้นะ มากกว่ามองก็ยังได้.." นทีแซ็วต่อจนวอนหยิบไม้แบดขึ้นฟาด สองคนหยอกล้อกันไปมาด้วยการเอาน้ำสะบัดใส่กันแต่วรภพหันไปเห็นสายตาใครอีกคนที่ยืนกอดอกมองมา

เต๋....

...ไม่รู้ทำไมจู่ๆใจก็รู้สึกแย่ขึ้นมาที่ต้องรู้ว่าอีกคนมองมาเจอเขาอยู่กับนทีแบบนี้ ทิ้งอีกคนที่พามาไว้กับความรู้สึกที่เพิ่งทะเลาะกัน ยิ่งตอนที่เต๋หันหลังเดินออกจากโรงยิมนี้ไปนั้นยิ่งวูบโหวงในอก...

ไม่นี่...

ที่ทำมันถูกแล้ว

วอนท่องมันเอาไว้ในใจ

"อย่าโกรธมันนักเลย เริ่มต้นความสัมพันธ์มันก็แย่แบบนี้แหละ มันก็แค่หึงวอนกับเด็กคนนั้น.."

วอน...

ทำไมตอนนทีเรียกชื่อเขาแล้วแม่งทำใจเต้นขนาดนี้วะ เขาคงใกล้เป็นบ้าเต็มทีที่โดนสองพี่น้องนี้เปลี่ยนอารมณ์รางกับมีสวิทช์ไฟ...

"มันจะอยุู่กันได้เหรอความสัมพันธ์แบบนี้อะ.." วอนถามขึ้น เขากับนทีมันขยับขึ้นมารู้สึกดีแล้ว แต่ถ้าคิดว่าสามคนจะต้องเดินไปด้วยกันมันก็...

....มันคิดไม่ออก

"แล้วทำไมจะต้องไม่ได้ด้วย หืม?" นทีถามกลับ

"ไม่รู้ดิ ถ้าไม่นับเรื่องนั้น..ที่มันทำได้ไปแล้ว แต่ชีวิตคนเรามันจะอยู่ด้วยกันสามคนยังไง งี้ไม่แปลกเหรอ?" วอนถามบ้าง

เซ็กส์สามคนไม่ต้องถามว่าได้ไหม

เสร็จกันไปตั้งกี่รอบแล้ว...

แต่อยู่ด้วยกันแบบนี้น่ะ...มันไหวเหรอ

"ใครกำหนดว่าผู้ชายคู่ผู้หญิงหรือความรักต้องมีเป็นคู่? ก็คนคิดกันขึ้นมาทั้งนั้นไม่เห็นผิดอะไรเลยถ้าเราจะบัญญัติมันขึ้นมาใหม่" นทีว่าทั้งยักไหล่

"มันไม่รู้สึกแปลกหรือไงที่พี่น้องได้กับคนๆเดียวกันพร้อมกัน มันจะใจกว้างไปหน่อยไหม.." วอนถามตรงเผง ส่วนตัวเขามันก็แปลกแต่เพราะเต๋และนทีนั้นคือคนอื่นทั้งคู่ ต่างกับมุมของสองคนนั้นที่เป็นคนใกล้ตัวกัน

"ไม่รู้ดิ มีอะไรเราแบ่งกันตั้งแต่เด็ก ของอย่างนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำด้วยกัน ไม่ต้องมองอย่างนั้นเลย...มันก็แค่รักสนุกแล้วรสนิยมมันเหมือนกันทั้งคู่"

"ก็งั้นเดี๋ยวมันก็ผ่านไป มันก็แค่คืนๆนึงไม่ต้องมาทรีตมาตามเอาใจกันเหมือนจะรับผิดชอบก็ได้" วอนว่า

...แม้จะนึกน้อยใจและเสียใจขึ้นมาอยู่หน่อยๆ เมื่อคิดว่าเขาเองอาจจะเป็นแค่คนนึงที่สองพี่น้องนี้จะสนุกด้วยกันชั่วคราว

ทั้งที่ปากบอกมาเองว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าเป็นจริงเขาจะรับได้ไหมยังไม่รู้เลย ถ้าสองคนนี้ไม่ได้มาวอแวหลังจากเกิดเรื่องวันนั้นอย่างนี้...

"ที่พูดมานั่นแน่ใจแล้วใช่ไหม ที่ตื๊อเนี่ยเพราะเห็นว่ารู้สึกดีเหมือนกันหรอก มันไม่ใช่เราจะเดินไปเจอใครแล้วมีอะไรกันแล้วคลิ๊กกันง่ายๆนะ คนที่พอใจเหมือนกัน คนที่ถูกใจ แล้วบังเอิญเราสองคนก็เจอวอนแล้วไง... เจอพร้อมกัน ด้วยกัน.."

ให้ตายเถอะแม่ง...

ตอนนี้วอนไม่รู้ว่าเขาหน้าแดงไปถึงไหน มันร้อนจนเหมือนจะไหม้แล้ว

"อย่าบอกนะว่าไม่ได้รู้สึกดีอะ รู้หรอกว่าถูกใจเหมือนกันแล้วจะหนีทำไม.." นทีว่า

"ขอเวลาได้ไหม.." วอนเอ่ย

"ยังไง?"

"ขอไปทดสอบใจมาก่อนว่าพร้อมกับเรื่องนี้จริงเปล่าอะ.." วอนกลั้นใจตอบออกไป เขาไม่กล้าสบตา...กลัวว่านทีอาจจะเหมือนเต๋จะโมโหหรือเดินหนีกัน

"อืม ได้... แล้วถ้าจะไปจริงๆก็บอกกัน บังคับกันได้ที่ไหนล่ะ.." นทีบอกด้วยใบหน้านิ่งไป

คืนก่อนไม่ได้พูดงี้เหอะ...

ตอนนั้นแม่งบังคับกันชัดๆ

"ขอบคุณนะพี่นัท.." วอนเอ่ยออกไปทำเอานทีตาโตด้วยความอึ้ง

"เรียกแบบนั้นตลอดได้ไหมวอน?" นทีเอ่ยขอ

"ก็ต้องมีเหตุผล พูดดีๆกับวอน...แค่นั้นเอง" เขาเรียกแทนตัวเองเหมือนกับตอนที่ใช้กับนรสิงห์และแม่

ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรนี่...

"ได้สิ ส่วนเรื่องเราวอนไปคิดมาแล้วกัน.." นทีบอกก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วจับมือคนน้องให้ลุกขึ้นตาม

"พี่จะรอ.." นทีว่าทำเอาวรภพตาค้าง

ดาเมจแรงมากกก...

แรงชิบหาย...

วอนมองหน้าอีกคนไปใจก็สั่นไม่เป็นจังหวะ เขาโดนนทีตกเข้าให้แล้ว รีบเดินหนีออกมาไปยังล็อคเกอร์ที่อาบน้ำทันที ใครจะทนเห็นหน้านทีที่ส่งสายตาหวานได้กัน

พี่นัท? ว๊ากกกกกกกก

อยากจะเอาหัวโขกกับกระจก

เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ยังจำได้เลยประสบการณ์ตอนที่เกือบจะต้องเป็นฝ่ายต้องโดนกระทำแล้วมันฝืนตัวเอง เปลี่ยนเป็นรุกเขาแทนเพราะกลัวใจ กลัวเจ็บ กลัวไปหมด...

วันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว..

วอนสะบัดน้ำใส่หน้าตัวเองอย่างแรง ไม่ชินกับความเปลี่ยนแปลงที่ผ่านเข้ามา....

23.10.2020

ตอนที่แล้วThree of us 04 : ผัวสอง (NC)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThree of us 06 : ไม่ได้ยิ้ม
แบ่งปัน
สวัสดีค่า สำหรับใครที่เข้ามาอ่านงานเรา ไม่ต้องคอมเม้นท์เราก็ได้ เข้ามาติดตามกันก็ชื่นใจแล้ว จะพยายามอัพเดทผลงานเรื่อยๆเลยนะ ติชมอยากให้เปลี่ยนแปลงตรงไหนบอกได้เลยพร้อมพัฒนาแก้ไขให้ทุกคน เราตั้งใจเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็น ศศิศิลป์ ศศิ ที่แปลว่าดวงจันทร์ และศิลป์ ที่หมายถึงศิลปะ เพราะส่วนตัวเราชอบคิดเรื่องที่จะแต่งในตอนกลางคืน เกือบทุกเรื่องจะเขียนจบในเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว ศิลปะทางภาษาของเรามักจะทำงานในตอนกลางคืนว่างั้นก็ได้ ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะ ศศิศิลป์
0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด