Three of us 03 : ปิดบัง
Three of us
ตอนที่ 3
ปิดบัง
"ไปถึงไหนมากลับมาซะป่านนี้.." นะ คนเป็นพี่ชายทักทายขณะที่วรภพเดินเข้าบ้านมาในตอนเย็นของวันอาทิตย์
"หนักไปหน่อย.."
ไม่ได้โกหกเพราะมันหนักจริง...หนักจนสภาพที่เดินเข้ามาติดๆขัดๆทำพี่ชายหรี่ตามอง เพียงแต่ไม่ได้หนักที่ปาร์ตี้แต่หนักที่...อย่างอื่น
"ใครมาส่ง?" นรสิงห์มองตามรถคันที่แล่นออกไปด้วยความสงสัย รถใครมันจะยี่ห้อหรูหราแบรนด์นอกแบบนั้นได้...ถ้าเพื่อนน้องชายเขาจำได้ทุกคัน
"แกร๊บ" วรภพไม่ได้โกหก....เพราะสองคนนั้นพยายามที่จะมาส่งแต่เพราะเขาดื้อหัวชนฝาก็เลยได้เรียกแกร๊บกลับมาเองอย่างนี้ ดันเจอพี่แกร๊บดูดีทั้งคนทั้งรถที่มาขับฆ่าเวลาแล้วก็พาให้ได้คุยกันระหว่างทางพลางๆพอให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้น
"ไปนอนไป สภาพยังไม่สร่างเลย" นะคงจะเข้าใจผิดไปหน่อยที่ว่าน้องชายยังไม่สร่างจากสุรา ที่จริงแล้วสภาพที่แบกกลับมาเพราะยังซมจากพิษไข้ต่างหาก
และวันนั้นวอนก็ได้นอนเหมือนคนที่ไม่เคยนอนมาก่อน เขาตัวร้อนจนไม่สามารถลุกไปกินข้าวได้จนพี่ชายต้องมาเคาะห้องแล้วเอาข้าวกับยามาให้ถึงเตียง
"ทำไมมันขนาดนี้ หนักขนาดนั้นเลยเหรอวอน?" น้ำเสียงติดไปทางดุของนรสิงห์ถามน้องชายด้วยใบหน้าจริงจัง
"อือ ดวลกับเพื่อนด้วยอะ" เขาหมายถึงโต๋...ไม่ได้โกหกแต่ทั้งที่ก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดเพื่อที่จะยกความสบายใจนั้นไว้กับตัวเอง ใครจะกล้าบอกกันว่าพนันในบ่อนด้วยการกินเหล้าแล้วจบลงที่เอากับผู้ชายสองคนมา!
"อย่าให้มันเยอะไปนะ โตแล้วคงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร อย่าให้ต้องดุเหมือนเด็ก..." เพราะพี่ชายเป็นคนที้คอยดูแลและช่วยแม่ทั้งเลี้ยงทั้งสั่งสอนตั้งแต่พ่อเสียไป ทำให้นรสิงห์วางตนเหมือนคนเป็นพ่อของน้องเสมอ...
"นะอย่าบ่นนนน... ก็มันป่วยเนี่ยมันห้ามกันได้ที่ไหน" วอนเอ่ยเอามือปิดหู
"ให้เช็ดตัวให้ไหม? ไหนมาดูซิ.." นรสิงห์พยายามที่จะเปิดผ้าห่มออกแต่เพราะวรภพเขาเปลี่ยนเป็นเสื้อตัวโคร่ง ถ้าหากเลิกเสื้อเปิดออกมาต้องเห็นรอยแน่ ไหนจะกางเกงขาสั้นที่คงเห็นไปถึงโคนขาที่มีรอยซึ่งคนซาดิสม์สองทิิ้งไว้เลยยื้อผ้าห่มให้แน่นที่สุด
"ไม่ต้องงงง... ทำแกงเขียวหวานให้กินหน่อยดิ อยากกินอะ.." น้องชายพยายามเฉไฉเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวพี่จะจับผิดได้ หน้าตาท่าทางตอนนี้ก็คงสงสัยมากแล้ว ถ้าไม่หาเรื่องน่าสนใจอื่นนรสิงห์ต้องเค้นเขาได้แน่ ..
"กินแซนวิชแล้วกินยาไปก่อน แกงเขียวหวานพรุ่งนี้เช้าค่อยกิน แล้วนี่จะไปไหวเหรอมออะ?" พี่ชายถามพร้อมมองหน้าคาดโทษ วรภพรู้ว่าพี่จะโกรธแน่ที่ตนปาร์ตี้มาแล้วเอาข้ออ้างที่ว่ามาทำให้ขาดเรียน
"ไหวดิ...ไปได้ พรุ่งนี้มีควิซบ่ายยังไงก็ต้องไป" โคตรเวรกรรมเลยที่เพิ่งคิดได้ว่าพรุ่งนี้จะต้องไปสอบแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วตอนนี้ยังอยู่ในสภาพนี้...
เช้าวันต่อมาวรภพได้กินฝีมือแกงเขียวหวานที้ว่าของพี่ชายสมใจอยาก...นะทำทิ้งไว้ให้ก่อนออกไปทำงาน พี่ชายเขาน่ะทั้งกวนประสาทกัน ดุบ้างอ้างว่าห่วงใยแต่ก็เป็นพี่ชายที่ประเสริฐกว่าใครโลกสำหรับวอน...
มีบ้างที่ไม่ลงรอยแต่วอนรู้ดีว่านะรักและห่วงเขาในบางครั้งยิ่งกว่าแม่เสียอีก จนบางทีแม่ยังบอกให้ปล่อยปละไปบ้าง แต่นะก็จะอ้างว่าหากไม่ดุก็อาจจะไม่เข้าร่องเข้ารอย...
"แล้วกินยาด้วย นอนสักงีบค่อยออกไปก็ได้ แต่อย่านอนยาวนะวอน" นรสิงห์เอ่ยทิ้งท้ายไว้แบบนั้น ทำให้วรภพตื่นมาก็ในตอนเที่ยงของวันแล้ว เขาสวมชุดนิสิตที่ปีนี้ขึ้นปี 3 ของคณะเศรษฐศาสตร์ยังไม่ทันที่จะก้าวออกจากบ้านก็มีเสียงร้องของมือถือดังขึ้น
เบอร์ที่ไม่รู้จัก
วรภพกดรับสายด้วยใบหน้าสงสัย เขาไม่ใช่พวกไม่ไว้ใจใครจนไม่รับเบอร์แปลก ถ้ามิจฉาชีพหก็แค่ด่าแล้ววาง แต่บางครั้งมันก็เป็นเบอร์ของแมสเซนเจอร์
("อยู่ไหน?") เสียงทักทายแรกทำเอาเขาขมวดคิ้วก่อนจะวางจอลงมาดูเบอร์อีกรอบ
"ใครครับ?" วอนกรอกเสียงตอบไป
("ลืมกันลงได้ไง..")
"..."
วอนยังไม่ตอบอะไรกลับไปเช่นเคย
("พี่เต๋พูด อยู่ไหนวอน?") เต๋ยอมแนะนำตัวเองในที่สุดแต่วรภพกลับกดตัดสายไป
"เอามาได้ไงวะ.." ต้นสายขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนที่รถคันหนึ่งจะมาจอดที่หน้าบ้าน
"ว่าไงลวกเพียะ!! ขึ้นมาครับ!" เสียงตะโกนของเพื่อนคนสนิทอย่าง กอล์ฟ เรียกวอนให้ขึ้นไปบนรถเก๋งของเขา
"มาช้าชิบ!" วอนบ่นก่อนจะเผลอนั่งลงบนเบาะแรงไปหน่อยจนต้องเบ้หน้า
"บ่นกูจังนะ...ให้มารับก็แล้วยังมีหน้ามาบ่น เฮ้ยแล้วเป็นไร'ไมหน้าเป็นงั้น?" กอล์ฟถามหันมองหน้าเพื่อนในตอนที่ออกรถมาจากหน้าบ้านที่มาประจำ
"เปล่า ล้มในห้องน้ำเลยเจ็บๆ แล้วนี่ไอ้เฟยอะ?" วอนเอ่ยถามเพราะไม่เห็นอีกคนมาด้วย
"วันนี้มันเอาบิ๊กไบค์ไป แล้วนี่ป่วยเหรอเห็นในสตอรี่" กอล์ฟถามไม่พอยังเอาหลังมือมาอังหน้าผากอีกคนด้วย
(*สตอรี่ คือฟังก์ชันหนึ่งของแอพลิเคชันอินสตาแกรม ที่โชว์เรื่องราวที่จำกัดเวลาแสดงผลแค่ 24 ชม.)
"เออสัสไม่น่าเลย วันเสาร์กูไปงานเลี้ยงกับแม่มา เจิมผับใหม่กับไอ้โต๋แม่งเดี้ยงเลย.." คำบอกเล่าที่ไม่ได้จริงทั้งหมดถูกส่งต่อโดยคนที่พยายามจะนั่งให้ไม่ปวดบั้นท้ายที่สุดในตอนนี้
"เฮ้ยอย่าบอกว่าที่ ฯลฯ นะ เชี่ยไม่ชวนกู..." กอล์ฟบ่นพลางทำท่าทางยุกยิกไปมา
น่ารักมากมั้งมึง
อันนี้วอนก็แอบด่ามันในใจ... ท่าทางออกมาดูจัญไรมากกว่า
"ไว้วันหลังค่อยไป" วอนว่าพลางส่ายหน้าขำ นึกฉุกใจว่าควรบอกหรือไม่ว่าที่นั่นมันมีชั้นใต้ดินลับลงไปเป็นบ่อนแต่ก็เก็บงำไว้ไม่ได้พูด ของแบบนี้ไปเห็นเองน่าจะดี...แต่ไปทีแล้วได้กลับมาสองก็อย่าลงไปเลย
Rrrrrrrrr
ในขณะที่วอนมานั่งอ่านหนังสือกับเพื่อน เสียงมือถือของเขาก็สั่นอีกรอบบนโต๊ะ มันเป็นรอบที่ 2-3 ของวันเห็นจะได้ เป็นเบอร์เดิมที่โทรมาก่อนเขาจะออกจากบ้าน...เสียงแนะนำของปลายสายยังจำฝังในหัวและนั่นทำเอาเจ้าตัวกดปิดอย่างไวแล้วเบือนหน้ามาอ่านหนังสือดังเดิม
"ใครวะ?" เฟย เพื่อนสนิทซึ่งหนุ่มหน้าเข้มถามพร้อมทั้งขมวดคิ้ว
"พวกก่อกวนอะ อย่าสนใจ.." วรภพพยายามไม่อยากจะไปวุ่นวายกับสิ่งรบกวนเหล่านั้น
"มึงมีไรปะ?" กอล์ฟจับผิดทันทีเพราะเพื่อนเขาเหมือนมีอะไรปิดบังอยู่
"จะมีอะไรอะ ไม่มี" วอนยังเฉไฉ
Rrrrrrrrrrrr
คราวนี้ไม่รอให้มันสั่นนาน เฟยคว้ามันขึ้นมาก่อนที่จะกดรับในขณะที่เจ้าของเครื่องนั้นห้ามไว้ไม่ทัน
"ฮัลโหลครับ?" เด็กหนุ่มที่มีหนวดน้อยๆกรอกเสียงไปในขณะวอนลุ้นว่าคนที่โทรมาจะตอบกลับว่าอะไร
('ขอสายวอน..') ปลายสายบอก
"นั่นใคร วอนไม่ว่างรับ นี่เฟยพูดครับ.."
('บอกวอนว่านทีโทรมา โทรกลับด้วย') ปลายสายบอกแค่นั้นก่อนจะวางสายไป
"ใครวะ?"
กอล์ฟถามเพื่อนที่ทำหน้าย่นคิ้ว
"ชื่อนที บอกให้โทรกลับ...ใครวะวอน?" เฟยถามด้วยเพราะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
"ไม่รู้.." วอนไม่อยากจะไปคิดให้สะกิดเรื่องวันนั้นขึ้นมาอีกจึงส่ายหน้าแล้วทำทวนลม
"เออๆไม่เล่าก็เรื่องมึง อ่านก่อนแล้วกัน.." กอล์ฟว่าก่อนจะหันหัวของเฟยที่ยังคงจับจ้องหาพิรุธของเพื่อนที่นั่งเงียบไปให้กลับไปสนใจที่ชีทสรุปด้านหน้าแทน
"เฮ้ออ กูเกือบตายในนั้น" กอล์ฟว่าหลังจากที่พวกเขาสามคนเดินออกมาจากห้องสอบ
"ดีนะแม่งยังอ่านมาตรงบ้าง ไม่งั้นกูจะเอาอะไรไปเรียนจบ" วอนบ่น เขาเครียดจนปวดขมับไปหมด
"อย่าบ่นนักเลย กูทำไม่ได้ยังไม่พูด" เฟยว่ากอดคอวรภพ
"งั้นคืนนี้ไปแดกกันหน่อยไหม ไม่ได้ไปนานแล้ว...ไปนะ" กอล์ฟบอกชวนทุกคน โดยเฉพาะวอนที่โดนจับคางเชยไปมา
"ไม่ค่อยอยากอะ เหนื่อย" วอนปัดมือเพื่อนออกไป
"ร้านไหน?" เฟยถาม
"ETC ก็มึงบอกกูเองนี่วอนว่าเดี๋ยวเราไปกัน อ้าวนั่น ไอ้โต๋มานี่ๆ" กอล์ฟหันพููดพร้อมหันไปกวักมือเรียกเพื่อนอีกคนที่เดินมา
"ออกกันเร็วจังวะ กูทำตั้งนาน" โต๋ที่เดินมาพร้อมกับเพื่อนคนอื่นบอกด้วยใบหน้าเซ็ง
"พวกกูสรุปชีทกันมาก่อนแล้ว .." เฟยบอกแกมหัวเราะ
"เออลืมไปไงว่าตัวนี้มีเรียนเหมือนพวกมึงไม่งั้นเมื่อเช้ามาเร็วๆมานั่งอ่านก่อน" โต๋บอกด้วยความเสียดายก่อนจะหันมองหน้าวอนแล้วนึกขึ้นได้
"วอน วันนั้-" ยังไม่ทันจะพูดอะไรก็โดนปิดปากเอาไว้แน่น
"มีไรวะ?" เฟยถามทันทีแต่วรภพกลับลากเพื่อนต่างสาขาเดินออกไป
"เชี่ยไรเนี่ย นี่มึงอุดปากกูทำไม?" โต๋โวยวายในตอนที่โดนลากออกมาไกลจากกลุ่มเพื่อน
"มึงจะพูดอะไร?" คนร้อนตัวถามออกไป
"แค่จะถามว่าวันนั้นมึงกับพี่กูยังไง แม่งหายไปเลย นึกว่าเฮียจะไปนอนบ้านกลับไปก็ไม่เจอ กูก็เป็นห่วง โทรหาแม่งก็บอกมึงโอเค" โต๋บ่นออดแอด
"ก็เออ..เขาก็ไปส่งกูที่บ้าน" วรภพโกหกคำโต
"ที่บ้านก็ที่บ้านไง มึงจะทำตัวมีพิรุธลากกูออกมาทำไม?" โต๋หรี่ตาก่อนที่โทรศัพท์ของมันจะดังขึ้น
"โหล ว่า?" อีกคนรับสายเสร็จก็พูดคุยอะไรสักอย่างจากนั้นก็หรี่และขมวดคิ้วมองมายังวอน
"ไหนมือถือมึง?" โต๋ถามวรภพ
"นี่ไง.." วอนชูมันขึ้นมา
"เอออยู่ด้วยกัน ก็มันไม่อยากรับสายไง แล้วไปเอาเบอร์มาได้ไง... ไม่รู้โว้ย กูจะไปบังคับมันได้เหรอ เออๆๆ" โต๋บ่นกับปลายสายก่อนจะวางไปแล้วหันมาจับผิดวอนแทน
"มึงไปทำไรมา ทำไมเฮียกูวิ่งวุ่นตามหา หรือว่า..." โต๋ทำตาโตและนั่นทำเอาวอนลุ้นจนตัวเกร็ง
"มึงไปแพ้พนันมันมาเหรอ กูว่าแล้วไง!! บอกแล้วว่าอย่าไปเข้าวังวนมัน" คำของเพื่อนทำเอาวรภพถอนหายใจโล่ง
"ไม่ใช่ แต่เออ....มึงจะคิดงั้นก็ได้.." วรภพว่า ถ้าบอกว่าไม่ได้ติดค้างอะไรมันก็จะถามเอาได้ว่าแล้วคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นต่อ จะให้เล่ายังไงว่าได้กับพี่มันทั้งสองคน...
"คุยเสร็จยัง? ไปหาอะไรกินกัน" กอล์ฟเดินเข้ามาหาเพื่อนที่ปลีกตัวออกมานานแล้ว
"เฮ้ยเดี๋ยวๆ มันบอกให้มึงรับโทรศัพท์ไม่งั้นมันจะมาหาที่นี่" โต๋รีบบอกวอนทันทีถึงสาส์นที่พี่ชายเขาฝากมาส่ง
"แล้วจะมาหาทำไม ไปกันเถอะ" วอนไม่เข้าใจว่าแค่ความสัมพันธ์คืนเดียวทั้งเต๋และนทีจะเข้ามาวุ่นวายอะไรนัก ให้มันจบไปก็สิ้นเรื่อง...
"งั้นกูไปด้วย" โต๋ว่าก่อนจะโบกมือลาเพื่อนอีกกลุ่มแล้วมารวมกับกลุ่มนี้
ทั้งสามมากันที่ร้านอาหารในห้าง เลือกกินอาหารญี่ปุ่นของโปรดของกอล์ฟเพราะไม่มีใครเลือกได้สักที โต๋กำลังเล่าถึงความอลังการของตึกใหม่ที่วรภพไปเห็นมันมาแล้วอย่างเมามันส์ ในขณะที่เฟยและกอล์ฟก็ตั้งใจฟังอย่างมาก
"แม่งเสียดายกูไม่ได้ร่วมทุนด้วย" โต๋กำลังบ่นเรื่องผลประกอบการที่อาจจะได้รับจากตึก ทำเอาพวกเขาหัวเราะร่วน
"ยังไงนะ คือพี่มึงสามคนเขาร่วมทุนกัน แล้วมึงมีเท่าไหร่จะไปร่วมด้วย?" กอล์ฟว่า
"ทั้งตัวกูมี 3000 อะ มึงว่าไม่พอเหรอ?" โต๋เอ่ยและนั่นทำเอาทุกคนขำก๊าก
"ตลกชิบหาย ว่าแต่แม่งคงมหาศาลมากเลยนะ พี่สาวมึงก็มีบริษัทบัญชีใช่ไหม กูได้ยินอาจารย์ก่อกิจพูดอยู่ แล้วงี้พี่ชายจะขนาดไหนวะ?" กอล์ฟว่า
"คนนั้นชื่อแต้ว ถ้าพวกมึงจะไปฝึกงานบอกกูได้...เขาทำบริษัทบัญชีเล็กๆอยู่ ส่วนเฮียเต๋มันทำหลักทรัพย์กับเฮียนุที่เป็นโบรกเกอร์อยู่เมืองนอก" โต๋อธิบายเหมือนมันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรแต่ที่เหลือนั่งอ้าปากค้างกันไปหมดแล้ว
"เชี่ย งี้มึงก็รวยอะดิ?" เฟยถามยกยิ้ม
"รวยอะไรล่ะกูก็ยังเกาะพ่อแม่แดก ล่าสุดเพิ่งโดนด่าจะลดเงินเดือนกูอยู่เลย" โต๋ว่า
"แล้วที่ชื่อนทีอะ?" วรภพเอ่ยถามขึ้นมาอย่างสนใจ ทำไมไม่ได้ยินชื่อเลย...
"มึงไปรู้จักได้ไง?" กอล์ฟฉงน
"อ๋อวันนั้นมันไปเปิดตัวตึกด้วยไง เฮียนัทน้องของเฮียนุ หุ้นใหญ่สุดของ ETC เลยรายนั้น .."
ชื่อพ่อของโต๋นั้นค่อนข้างคุ้นหูคนในวงการตำรวจเพราะมียศใหญ่อยู่ มันเล่าว่าที่มันมีกินมีใช้ได้เพราะปู่ของมันที่เป็นตาของนทีนั้นมีฐานะ ทำให้พอปู่ตายก็ได้รับการเลี้ยงดูต่อจากบ้านนั้นซึ่งมีลูกสาวคนเดียวคือป้าอ้อ
แต่รุ่นต่อมาคนที่ทำให้บ้านนี้กลับมาฟื้นฐานะได้คือพ่อของนทีที่เป็นเจ้าของบริษัทอสังหา เป็นคนที่เก่งมาก...สามารถพลิกเงินที่ตาของนทีให้ตั้งตัวได้จนกลายมาเป็นเศรษฐี ไม่แปลกที่ลูกๆจะเอาดีทางด้านนี้จนได้ดีกันหมด
"คืองั้นคนชื่อนทีก็มาบริหารต่อที่ทำให้บริษัทบูมมาพักนึงใช่ไหม กูไม่แปลกใจแล้วทำไมมึงมาทางนี้แล้วเรียนคณะนี้" กอล์ฟเอ่ยอย่างอึ้งๆหลังจากที่ได้ฟังโต๋เล่าเรื่องที่บ้าน
"ใช่ แม่งเก่งมากจนพ่อเขาวางมือเลย แล้วพี่ชายอีกคนก็สุดกว่า กูเกิดมาแบบนี้อะ...แต่แม่งกูโง่สุดเลย" โต๋ว่าทำเอาคนอื่นหัวเราะ ก่อนที่มันจะเล่าถึงเรื่องบริษัทที่คิดว่าจะเลือกเข้าฝึกงาน อีกสองคนตั้งใจฟังกันใหญ่เพราะสนใจกิจการของครอบครัวมัน
แต่คนที่ตอนนี้นั่งเงียบและอึ้งกว่าใครนั้นคงเป็นวรภพ เขาเอาแต่เฝ้าคิดว่านี่เขาได้ทำอะไรลงไปกับคนที่อยู่ระดับนั้นทั้งสองคนเลยหรือ
...แล้วจะเอาไงต่อไป ยิ่งมองโทรศัพท์ที่สั่นขึ้นมาอีกแล้วยิ่งทำตัวไม่ถูก คนธรรมดาอย่างเขาทำไมต้องมาพัวพันกับบ้านนี้ตั้งแต่รุ่นแม่ด้วย
"แล้วมึงสนใจไหมวอน กูจะได้ไปถามๆมาให้?" โต๋ถามขึ้น วอนไม่ได้ตั้งใจฟังข้อความก่อนหน้าด้วยซ้ำ ว่าพวกมันพูดถึงอะไรกันเพราะเอาแต่เหม่อ
"สนใจอะไรนะ?"
"มึงไหวไหมเนี่ย เหม่อจังเลยไอ้เวร! โต๋มันจะหาที่ฝึกงานให้ เป็นบริษัทพี่มัน...ถ้ามึงสนใจเทอมหน้าจะได้ไม่ต้องคิดเยอะ" กอล์ฟว่า
"อืม ขอคิดดูก่อน.." ถ้าต้องไปทำงานแล้วเจอหน้าใครสักคนจากทั้งสองคนนั้นขอคิดดูก่อนยาวๆ ใครมันจะทำใจพูดคุยเรื่องงานกับคนที่เคยสวิงกันได้วะ
"พวกกูสนใจทั้งหมดนี่แหละ" เฟยคิดให้แทนเพื่อน ยังไงซะการมีคอนเนคชันไว้ก่อนก็ดีกว่าต้องมานั่งเครียดทีหลัง
ส่วนโต๋นั้นจับสังเกตอาการของเพื่อนอย่างสนใจ ยังไงคืนนั้นมันต้องมีอะไรแน่ๆ...
Thruuuuuuu
"โหล... อยู่ xxx ไม่รู้ เฮียต้องการอะไรวะ ไอ้วอนมึงคุยกับมันซิ กูรำคาญ" โต๋กดรับโทรศัพท์พูดคุยกับปลายสายสองสามคำก่อนที่จะยื่นมันให้เพื่อนสนิท วอนรับมางงๆ มองที่จอที่แสดงชื่อพี่ชายของคนที่ยื่นมา
("วอน..เป็นอะไรทำไมไม่รับสาย!") เสียงของเต๋ดังลอดออกมา
"แล้วทำไมต้องรับ มีธุระอะไรนัก?" วอนนึกโมโหที่อีกคนมาขึ้นเสียงใส่
("ก็จะคุยกันให้รู้เรื่องไง รับสายคุยซะก็จบ") เต๋ว่า วอนหันมองหน้าเพื่อนร่วมโต๊ะที่มองเป็นตาเดียว
"ก็ไม่มีอะไรจะคุย.." วอนกระซิบบอกผ่านมือถือ
("คืนนี้มาหาที่ ETC ถ้าไม่มาเดี๋ยวรู้เรื่องแน่!") เต๋พูดขู่ด้วยเสียงเข้มก่อนจะวางสายไปทำเอาวรภพลมออกหู
"เฮ้ยมีไรวะ ทำไมดูครุกกรุ่น" กอล์ฟถามมองอาการของเพื่อน
"มึงไป ETC กับกูหน่อยคืนนี้.." วอนเอ่ยด้วยความหงุดหงิด
"มึงมีอะไรกันแน่ มึงแน่ใจนะว่าหลังคืนนั้นไม่มีอะไรอะ? มึงไปพนันอะไรมาเปล่า ปกติมึงพูดตรงๆนี่ไอ้วอน บอกกูเหอะ" โต๋โพล่งออกมาทำเอาเพื่อนอีกสองคนตาเบิกกว้างด้วยอยากรู้กว่าเดิม
"นี่มึงติดพนันเหรอ?" เฟยถามด้วยใบหน้าจริงจัง
"กูเปล่า แต่ถ้าพี่มึงอยากเจอนักกูก็จะไป.." วอนบอกด้วยใบหน้าขึงขังจนโต๋ทำตัวไม่ถูก
ใครจะกล้าบอกกันวะว่าไปได้กับแม่งมาแล้วมาตามโทรหาทั้งยังตามมาขู่แบบนี้ แต่คนอย่างวรภพไม่กลัวอยู่แล้ว จะคุยก็คุย...คุยให้รู้เรื่องไปเลย!
@ ETC
เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มออกมาจากนอกตัวร้านชั้นล่าง พร้อมผู้คนที่คราค่ำในช่วงดึกของวัน ตอนนี้กอล์ฟและเฟยกำลังยืนอึ้งอยู่ที่หน้าตึก โดยมีโต๋เดินออกมาตีมือทักทาย
"เชี่ยย กูเพิ่งเคยมาเห็นนี่เอง...ครบชิบหาย!! ต่อไปกูมาฟิตเนสที่นี่ดีกว่า...ไอ้เฟยเราไปอยู่ไหนมาวะ?" กอล์ฟถามกอดคอกับเพื่อน
"ถ้าทำงานบริษัทเฮียกู มีสิทธิ์ใช้ทุกร้านในตึกแบบครึ่งราคาด้วย กูบอกแล้วคุ้ม!" โต๋ชักชวนอีกสองคนสุดฤทธิ์
"ชื่นชมเสร็จยัง มึงเข้าไปข้างในกันได้ล่ะ" วอนบอก...ตอนนี้เขากำลังข้องใจอยากเจอคนที่นัดมาเต็มที่แล้ว
"เออๆไปกันกูจองโต๊ะไว้แล้ว พี่ไทมาด้วยนะมึงไอ้วอน..บ่นหามึงด้วย" โต๋ว่ายกยิ้มแซ็ว เพราะจำได้ว่าคืนนั้นไทและวอนคุยกันอย่างสนุกสนานถูกคอ แต่ตอนนี้วรภพนั้นกลับมีสีหน้าไม่สนุกเอาเสียเลย
"มึงจะบวกกับพี่ไอ้โต๋เปล่า ถ้าจะมีเรื่องก็อยู่ใกล้กับกูเอาไว้ ถ้าแม่งข้องกับเพื่อนกูมากกูไม่สนอยู่แล้ว อยู่ข้างมึงนะไอ้เวร..." เฟยว่า เขาพยายามเดินรั้งท้ายเพื่อกระซิบกับเะื่อนด้วยความห่วงใย เฟยไม่ต้องการให้โต๋ได้ยินเรื่องนี้เท่าไหร่ จะยังไงอริของวรภพคืนนี้ก็พี่ชายของอีกคน
"กูชื่อวอนไอ้สัส! ขอบใจมึงนะเฟย...แต่ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก" วอนเอ่ยตอบกลับไปยังเพื่อนสนิทที่สุด
...เฟยเป็นคนถึงไหนถึงกันอยู่แล้ว และที่สำคัญมันเป็นชายแท้ที่ไม่สนโลก ใครๆก็แปลกใจว่าคนแบบเฟยกลับคบกับเกย์อย่างวอนได้ตั้งแต่มัธยมปลายที่เรียนชายล้วนด้วยกันมา เคยถามมัน...มันบอกว่าตอนแรกมาเป็นเพื่อนกันเพราะไม่รู้มาก่อนเพราะวอนนั้นไม่ได้แสดงออกทางเพศว่าเป็นแบบไหน เผินๆก็เหมือน Straight ทั่วไป...
แต่พอมารู้ทีหลังก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคบกันที่นิสัยไปแล้ว ต่างคนต่างจริงใจและไม่สนโลก จนมาเจอกับกอล์ฟตอนมหาลัย...รายนั้นเป็นไบเซ็กชวลที่ออกตัวชัดเจน เฮฮาไปทุกที่ มาบาลานซ์ความเป็นพวกเราได้ดี และที่ไปด้วยกันได้คงเพราะความชัดเจนทางการแสดงออกของพวกขาตามวัยที่มันลงล๊อคกันพอดี ไม่มีใครก้าวก่ายกันเรื่องรสนิยมทางเพศ...
"มึงมีอะไรต้องบอกกูนะ กูไม่เคยถามจู้จี้แต่มึงก็ไม่เคยปิดบังกูเหมือนกัน.." เฟยบอกย้ำในตอนที่เขาเข้ากันมาในร้าน คำกระซิบเพื่อให้ได้ยินชัดท่ามกลางดนตรีจากเพื่อนทำเอาวอนกลืนน้ำลายลงคอ
นี่ก็ดุอย่างกับพี่ชายเขาอีกคน มันคงเป็นห่วงและกังวลที่ไม่ยอมพูดตรงๆกับมันแบบที่ไม่เคยเป็น
เมื่อพากันมานั่งที่โต๊ะแล้ว คนที่สร้างบรรยากาศสนุกเป็นใครไม่ได้นอกจากพี่ไทเช่นเคย รายนั้นทั้งชงทั้งหาเรื่องสนุกมาคุยจนกอล์ฟขอเป็นลูกศิษย์กันไปแล้ว
"กูไปเข้าห้องน้ำนะ.." วอนเอ่ยกับเพื่อน เขามองหาแล้วก็ไม่เจอคนที่เรียกให้มาคุยวันนี้ นั่งดื่มจนปวดฉี่แล้วเนี่ย...
"ให้ไปเป็นเพื่อนไหม?" กอล์ฟถาม
"ไม่อะ กูโตแล้ว" วอนเอ่ยกลับกวนๆก่อนจะปลีกออกมา เดินมาเข้าห้องน้ำเสร็จก็มิวายหันไปเห็นทางเข้าที่ฝังในใจ กำลังช่างใจว่าควรจะเข้าดีไหม..แต่แล้วก็ตอบตัวเองว่าไม่ดีกว่า
เขากดโทรหาทั้งนทีและเต๋ที่บันทึกชื่อไว้แล้วเพราะโทรมาจะได้รู้ว่าใครเป็นใครแต่กลับไม่มีใครรับสายสักคน
เสียเวลาชะมัด...
กลับมาถึงโต๊ะแล้วก็ต้องพบว่าโต๋เจ้าภาพนั้นหายไปอีกแล้ว ในโต๊ะสมาชิกนั้นก็มากขึ้นด้วยเพราะเพื่อนที่โทรตามๆกันมาจนไม่มีที่นั่ง
"เอ้ามึง มานั่งนี่ก่อนวอน.." เฟยว่าตีลงไปที่ตักตนเองนั่นทำเอาไทขมวดคิ้ว
"งี้ก็ได้เหรอ ถ้างั้นตักพี่ยังว่างนะ..." ไทว่าตบมือไปที่ตักตัวเองบ้าง
"ไม่เป็นไรพี่ ตักเพื่อนคุ้นกว่า" วอนตอบกลับกวนๆก่อนจะนั่งลงบนตักของเฟยที่ชงแก้วใหม่ให้แล้ว
"อย่าบอกนะว่า..." ไทมองหน้าสองคนสลับกัน แต่แทนที่วอนจะปฏิเสธกลับก้มลงไปจุ๊บไหล่ของเฟยอย่างต้องการแกล้งทำเอาไทอึ้งไปแต่ทั้งโต๊ะคนอื่นชอบใจกันใหญ่
"กวนส้นตีน" เฟยว่าไม่จริงจังนักเพราะพวกเขาหยอกล้อกันแนวนี้อยู่ประจำและรู้ว่าคนทำไม่ได้คิดมากอะไร เพราะสนิทกันมากนั้นทำให้สองคนถึงเนื้อถึงตัวกันออกบ่อยไป
วรภพคงไม่ทันได้นึกว่ามีใครคนหนึ่งที่ิ 'คิด' นั้นกำลังมองภาพความสัมพันธ์ของพวกเขาจากมุมหนึ่งของร้านด้วยความไม่ค่อยพอใจ
22.10.2020