บทที่ 22: การซื้อขายวิญญาณ
บทที่ 22: การซื้อขายวิญญาณ
****หินปราณระดับเซียนเปลี่ยนเป็นหินปราณระดับพระเจ้า นะคะ
ภายในธนาคารแห่งจักรวาลหลี่เซียนเต่าเปลี่ยนเป็นชุดคลุมสีดำและนั่งบนเก้าอี้
เขาดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงออร่าของเขาเปลี่ยนไป ด้วยเสื้อคลุมแบบดั้งเดิมสีดำบนตัวเขา เขาดูสูงส่งจริงๆ
เสี่ยวฉียังช่วยหลี่เซียนเต่าตัดผมทำให้เขาดูหล่อมาก
เสี่ยวฉีกล่าวด้วยความพึงพอใจว่า “ตอนนี้ดูเหมือนเจ้าของธนาคารแห่งจักรวาลทั้งหล่อและมีฝีมือด้วยท่าทางที่สูงส่งแล้วค่ะ”
“เจ้าของเก่าๆไม่เหมือนข้าหรอ ?” หลี่เซียนเต่าถาม
“ไม่ค่ะ พวกเขาปฏิบัติกับข้าไม่ค่อยดีค่ะนายท่าน หลังจากได้รับธนาคารแห่งจักรวาลแล้วพวกเขาก็ถือว่าข้าเป็นของส่วนตัวและสั่งให้ข้าไปรอบๆ พวกเขาไม่เคยถามว่าข้าเต็มใจหรือเปล่าดังนั้นข้าจึงไม่ชอบพวกเขาเลยค่ะ” เสี่ยวฉีส่ายหัว
แม้ว่านางจะเป็นวิญญาณสิ่งประดิษฐ์ แต่นางก็มีบุคลิกของตัวเอง นางเป็นคนสมบูรณ์แบบ แต่นางก็ไม่สามารถออกจากธนาคารแห่งจักรวาลได้
" พวกเขาจะไม่ถามความคิดเห็นของเจ้าเลยหรอ ? " หลี่เซียนเต่ากล่าวด้วยสีหน้าแปลก ๆ เสี่ยวฉีรู้เกี่ยวกับทุกสิ่งที่อยู่ในโลกและภักดีอย่างยิ่งต่อเจ้านายของธนาคารแห่งจักรวาล พวกเขาไม่ได้ถามความคิดเห็นจากนางเช่นนี้หรือ
“ไม่เลยคนเหล่านี้ล้วนเป็นชาวพื้นเมืองของเก้าสวรรค์และสิบแผ่นดินและความคิดของพวกเขาถูกปรับเปลี่ยนได้ยากและดื้อรั้น หลังจากได้รับธนาคารแห่งจักรวาลแล้วพวกเขาก็ทำสิ่งต่างๆตามความคิดของตัวเอง บางคนหยิ่งผยองจริงๆ บางคนก็ไรระเบียบ บางคนก็เดินทางอย่างเดียว บางคนก็......” คำพูดของเสี่ยวฉีเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่ายใจแบบช่วยไม่ได้
หลี่เซียนเต่าจมอยู่ในความคิด
" นายท่านคะ มันอาจเป็นคำพูดที่ดูไม่ค่อยดี แต่จากนายท่านเก่าทั้งเก้าแม้ว่าการฝึกฝนของท่านจะต่ำที่สุดและท่านไม่มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้เลยและแม้ว่าสถานการณ์ของธนาคารแห่งจักรวาลจะเลวร้ายที่สุด แต่ท่านก็เป็นนายที่ดีที่สุด ท่านสามารถให้คำแนะนำได้ดี” เสี่ยวฉีร้องอุทาน
นายท่านไม่กี่คนที่ผ่านมาทำสิ่งที่อยากทำและเสียโอกาสดีๆไปเล็กน้อย ถ้าไม่อาศัยธนาคารแห่งจักรวาลพวกเขาจะตายอย่างง่ายดายได้อย่างไร ?
หลี่เซียนเต่ายิ้ม “ดังนั้นข้าต้องขอบคุณพวกเขาสองสามคน ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาทำเช่นนั้นข้าก็คงไม่ได้เป็นเจ้าของ และได้พบกับเสี่ยวฉีที่งดงามเช่นนี้”
ดวงตาของเสี่ยวฉีส่องสว่าง เธอเป็นหญิงสาวและชอบได้รับการยกย่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเจ้าของธนาคารแห่งจักรวาล.
“นายท่าน ท่านกำลังทำให้ข้าเขินอายนะคะ” เสี่ยวฉีบิดตัวปิดแก้มและทำตัวเหมือนสาวขี้อาย
หลี่เซียนเต่ายิ้ม เสี่ยวฉีและเขาเหมาะสมกันดี
หลังจากยิ้มแล้วหลี่เซียนเต่าก็สงบลง “ตอนนี้เมื่อข้าผสานกับความสามารถของนักพยากรณ์และเปิดใช้งานความสามารถแล้วข้าจะฝึกฝนเทคนิคการบ่มเพาะอะไรได้บ้าง ?”
เสี่ยวฉีส่ายหัว “คลังหนังสือหมื่นประเทศของธนาคารแห่งจักรวาลถูกปิดผนึกไว้และตอนนี้เรายังไม่มีแม้แต่เทคนิคเดียวเว้นแต่นายท่านจะทำลายผนึกได้ค่ะ !”
“มีหนังสือในคลังหนังสือหมื่นประเทศกี่เล่มกัน ?” หลี่เซียนเต่าถาม
" มากมายค่ะ ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันมีเพียงหนังสือชั้นยอดของอาณาจักรที่เรียกว่าจักรวรรดิเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้ามา หมื่นประเทศประเทศระดับจักรวรรดิมีหนังสือของพวกเขาที่นี่ ลองคิดดูสิคะนายท่านว่ามีหนังสือกี่เล่ม ?” เสี่ยวฉีพูดอย่างจริงจัง
" มีหนังสือของพวกนั้นหมดเลยหรอ ? " หลี่เซียนเต่าอุทาน
" ส่วนหนึ่งอยู่ที่นั่น แต่หลายเล่มถูกยืมออกไปซึ่งทั้งหมดนี้หายากมาก แต่ละคนที่ยืมได้รับอนุญาตให้บ่มเพาะถึงจุดสูงสุด ในอนาคตนายท่านต้องนำหนังสือเหล่านี้กลับคืนมาค่ะ ” เสี่ยวฉีส่ายหัว
หลี่เซียนเต่าพยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติเขาต้องเอาสิ่งเหล่านี้ที่เป็นของเขากลับคืนมา
" ราคาเท่าไหร่ที่ต้องจ่ายเพื่อปลดล็อกคลังหนังสือหมื่นประเทศ " หลี่เซียนเต่าถาม
“เส้นลมปราณวิญญาณระดับพระเจ้าค่ะ !” เสี่ยวฉีกล่าว.
“เส้นลมปราณวิญญาณระดับพระเจ้า ?” หลี่เซียนเต่าขมวดคิ้ว เขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน
“เส้นลมปราณวิญญาณระดับพระเจ้าเป็นสิ่งที่หายาก หินปราณระดับพระเจ้าก็มาจากจิตวิญญาณพระเจ้าสูงสุด เส้นลมปราณวิญญาณระดับพระเจ้าสามารถให้หินปราณระดับพระเจ้าได้หนึ่งล้านห้าแสนก้อนดังนั้นขอให้โชคดีค่ะนายท่านและหามันให้ได้เพื่อรับคลังหนังสือหมื่นประเทศ” เสี่ยวฉีชูหมัดขึ้นและส่งเสียงเชียร์หลี่เซียนเต่าราวกับตุ๊กตาที่งดงามยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
หลี่เซียนเต่ายิ้ม “เยี่ยมมากแล้วข้าจะทำงานหนัก แต่ก่อนหน้านี้ข้าต้องจัดการกับโจวเทียนหยู่”
หลี่เซียนเต่ารู้สึกตัว
โจวเทียนหยู่ใช้พู่กันจักรพรรดิสวรรค์เพื่อติดต่อเขา
พู่กันจักรพรรดิสวรรค์แสดงให้เห็นถึงพลังของมันนิกายเทียนต๋ายอมรับความอ่อนแอของพวกเขาและโจวเทียนหยู่ก็แก้แค้นได้สำเร็จ หลี่เซียนเต่ารู้เรื่องเหล่านี้แล้ว หลังจากนั้น พู่กันจักรพรรดิสวรรค์เป็นของเขาและเขาจะสามารถรับรู้ทุกอย่างได้ทันที
ตอนนี้โจวเทียนหยู่สามารถแก้แค้นได้สำเร็จและติดต่อเขา หลี่เซียนเต่าก็สวมหน้ากาก เขาโบกแขนเสื้อของเขาและโจวเทียนหยู่ก็ปรากฏตัวในธนาคารแห่งจักรวาลจากคสามว่างเปล่า
“เจ้าได้แก้แค้นไหม ?” หลี่เซียนเต่าถามอย่างใจเย็น
การแสดงออกของโจวเทียนหยู่นั้นมึนงงและตกใจ หลังจากได้ยินคำพูดของหลี่เซียนเต่าเขาก็พยักหน้า “ข้าได้แก้แค้นแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อคืนพู่กันจักรพรรดิสวรรค์ !”
หลี่เซียนเต่าเอื้อมมือออกไปอย่างไม่เป็นทางการและพู่กันจักรพรรดิสวรรค์บินไปหามือเขาโดยอัตโนมัติก่อนที่จะหายไป
หลี่เซียนเต่ามองไปที่โจวเทียนหยู่ที่มึนงง เขาสูญเสียพรสวรรค์ของเขาไปและพลังของเขาก็หมดไป แต่เขาก็ไม่ควรรู้สึกมึนงงขนาดนี้
" เจ้าแก้แค้น แต่เจ้ารู้สึกว่างเปล่าหรือ ? " หลี่เซียนเต่าถาม
โจวเทียนหยู่หัวเราะอย่างขมขื่น “ใช่ ข้าสูญเสียทุกอย่างข้าไม่รู้ว่าข้าควรใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี”
พ่อแม่ของเขาถูกฆ่าพี่น้องของเขาเสียชีวิตและคู่หมั้นของเขาถูกข่มขืน ครอบครัวของเขาเสียชีวิตทั้งหมด !
การแก้แค้นและหนี้เลือดนี้ช่วยพยุงเขาและทำให้เขามีชีวิตอยู่เพื่อแก้แค้น
แต่ตอนนี้เขาได้แก้แค้นแล้ว เขาได้สังหารทั้งตระกูลของหมิงตู รวมทั้งจ้าวนิกายเทียนต๋าที่ยืนอยู่จุดที่เหนือกว่า
แต่ทันใดนั้นเขาก็สูญเสียเป้าหมายในการใช้ชีวิตไปป
เพื่อแก้แค้นเขาขายพรสวรรค์ของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับการฝึกฝน แต่เขาก็ไม่สามารถปรับปรุงอะไรได้มากนักและจะติดอยู่ที่อาณาจักแสวงเต๋า
มีชีวิตอยู่ต่อ ?
โลกใบนี้กว้างใหญ่มากภายในสี่มหาสมุทรเขาไม่มีญาติและไม่มีใครที่เขาคิดถึง
โจวเทียนหยู่ต้องการที่จะตาย
หลี่เซียนเต่ามองผ่านสิ่งนั้นเขายิ้ม มือของเขาไพล่ไว้ด้านหลังของเขาและเขาก็เดินมาตรงหน้าโจวเทียนหยู่ “เจ้ายินดีที่จะแลกเปลี่ยนอีกครั้งหรือไม่ ?”
โจเวเทียนหยู่มองไปที่หน้ากากทองคำและดวงตาคู่นั้นที่สามารถอ่านใจคนได้ ด้วยเหตุผลบางประการความเต็มใจที่จะตายนั้นน้อยลงมาก
เขาอ้าปากและปิดมันก่อนจะทำเช่นนั้นซ้ำอีกหลายครั้ง เขาพูดเบา ๆ ว่า “ข้าไม่มีอะไรจะแลกเปลี่ยนอีกแล้ว”
ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาถูกแลกเปลี่ยนไปแล้วและตอนนี้เขารู้สึกเหมือนว่าเขาไม่มีอะไรที่ควรค่าแก่การค้า
หลี่เซียนเต่าส่ายหัวและพูดอย่างมีเลศนัย “คราวนี้เราจะไม่แลกเปลี่ยนอย่างอื่น แต่เราจะแลกวิญญาณของเจ้า !”
“วิญญาณ !” โจวเทียนหยู่มองไปที่หลี่เซียนเต่าด้วยท่าทางแปลก ๆ วิญญาณของเขา ?
แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเกี่ยวกับการซื้อขายวิญญาณ แต่โจวเทียนหยู่คิดว่ามันจะคล้ายกับวิญญาณทาสที่ผู้ฝึกฝนเส้นทางปีศาจฝึกฝนมา
ด้วยเหตุผลบางประการเขาไม่ได้ต่อต้านหรือรู้สึกแย่กับเรื่องนี้
เมื่อใครรู้สึกว่ากระดูกของพวกเขาอ่อนแอมากและเมื่อพวกเขาอยู่ในหนองน้ำพวกเขาจะไม่มีอะไรจะเสียและถ้ามีคนยื่นมือมาหาพวกเขาไม่ว่าเขาจะเป็นพระพุทธรูปหรือปีศาจ มันก็จะเป็นแสงสว่างที่ ปลายอุโมงค์
ตอนนี้หลี่เซียนเต่าเป็นแสงสว่างของโจวเทียนหยู่
โจวเทียนหยู่พยักหน้าโดยไม่ลังเล “ข้าจะแลกวิญญาณของข้า !”
" ไม่ว่าจะทำเพื่ออะไรข้าจะแลกมัน ! " โจวเทียนหยู่กล่าวอย่างหนักแน่น