ตอนที่ 27 - นายทาสบ้าระห่ำ
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ปฏิเสธเดิมพันงั้นหรอ?
ทันใดนั้นเย่เทียนก็รู้สึกว่าตัวเองดูคนผิด, เขาไม่คิดเลยว่าพวกผู้ดีจะปฏิเสธเดิมพันซะเอง, ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาคือปอมปีย์ 1 ใน 3 ยักษ์ใหญ่ในอนาคต.
แต่พอเขาคิดว่า 1 ทาเลนตั้มมันมีค่ามากแค่ไหนแล้ว เขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที!, ว่าไอ้ระยำนี่ไม่มีทางที่จะมีเงินมากขนาดนั้นได้.
แต่ทว่า, การปฏิเสธเดิมพันของนายทาสที่แข็งแกร่งที่สุดจะง่ายแบบนั้นหรอ?
ตอนนี้, เขาคือว่าที่ลูกเขยในอนาคตของตระกูลจูเลียสซีซาร์และไม่นานเขาก็จะได้กลายเป็นชนชั้นสูงเต็มตัว. ถึงชนชั้นสูงจะมีแบบแผน, แต่เขาก็มีคนหนุนหลังที่ใหญ่อยู่ - ตระกูลจูเลียสของซีซาร์, ตระกูลออเรเลียสค็อตต้าของออเรเลีย และกาอิอุส มาเรียส.
ขนาดซีซ่าที่เป็นลูกรักของทั้ง 3 ตระกูลนี้ เย่เทียนยังกล้าแต่หัวเขาเลย แล้วนับประสาอะไรกับปอมปีย์.
“เจ้าจะเอายังไง?”
เย่เทียนลุกขึ้นแล้วมองไปทางปอมปีย์อย่างเยือกเย็น. ร่างกายของเขาแผดออร่าแห่งน่ากลัวออกมา. ปอมปีย์รู้สึกกลัวและถอยหลังกลับไปแล้วเขารู้สึกว่าตัวเองเสียหน้า เย่เทียนจึงตะคอกออกไป.
“หึ, ชนชั้นสูงพ่นคำสวะออกจากปากได้ด้วยสินะ. สิ่งที่เจ้าพูดมันช่างน้ำลายสอแถมยังหล่นกลับมาใส่หน้าเจ้าอีกด้วย แต่ถ้าเจ้าคิดจริงๆว่าจะพึ่งพาชื่อของชนชั้นสูงและปฏิเสธเดิมพันได้, เจ้าพลาดครั้งใหญ่แน่!”
เย่เทียนยิ้มกว้างแล้วพูดอย่างเยือกเย็น น้ำเสียงข่มขู่.
“เจ้ารู้ไหมว่ากำลังพูดอะไร? เจ้ากำลังลบหลู่ชนชั้นสูง! เจ้ากำลังหาเรื่องตายนะ!”
ปอมปีย์ตะโกนออกมาอย่างดังแต่เสียงของเขาก็ถูกเสียงรอบๆกลบไปหมด ถ้าไม่งั้นแล้วคนอื่นคงหันมาสนใจนานแล้ว.
“ข้าไม่ได้ลบหลู่ชนชั้นสูง, ข้าแค่พูดความจริง. แน่นอนว่าเว้นซะแต่ เจ้าคิดว่าศีลธรรมของเจ้ากับตระกูลปอมปีย์ดีพอที่จะเป็นข้ออ้างให้ชนชั้นสูงทั้งหมดในโรมได้ล่ะนะ!”
เย่เทียนยิ้มมุมปาก, แขนของเขาก็กำลังกอดคอปอมปีย์อยู่ด้วย เหมือนกับว่าเพื่อนเก่าสองคนที่ไม่เจอกันนานกำลังกอดรัดฟอดเหวี่ยงกันอยู่.
แต่ทว่า แขนของเย่เทียนนั้นแข็งแรงมากมันบีบคอเขา ทำให้เขาหายใจไม่ออกเปิดปากไม่ได้และตอนเขากำลังดิ้นอยู่นั้นก็โดนมืออีกข้างของเย่เทียนก็ขวางเอาไว้.
“ไอ้บ้า!”
“ไอ้คนป่าเถื่อนนี่!”
“ข้าจะตายหรอ?”
“ไม่นะ!”
“ข้ายังไม่อยากตาย!”
…
ปอมปีย์แทบจะหายใจไม่ออกแล้ว สมองของเขาเริ่มขาดอ๊อกซิเจน เขากรีดร้องอยู่ในใจ. เขาไม่อยากจะตาย, เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมาตายตอนหนุ่มๆแบบนี้. เขายังไม่ได้ทำงาน เป็นกงศุลหรือเหยียบไปสู่จุดสูงสุดของโรมเลย.
แต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับคนบ้าที่อยากจะฆ่าเขาจริงๆ.
เขาเริ่มได้ยินเสียงดังรอบๆตัวเขาค่อยๆจางหายไป.
“ให้เงิน, ข้าจะให้เงินเจ้า!”
ปอมปีย์ตะโกนออกมาอย่างทุลักทุเล แต่เขาหายใจแทบไม่ได้แล้ว เสียงคงไม่มีเลยมั้ง.
“เจ้าบ้าไปแล้ว! เจ้าจะฆ่าเขาจริงๆ!!”
ออเรเลียเห็นปอมปีย์กำลังจะตายแล้วเลยรีบดึงแขนเย่เทียนออกมา. กำลังของเย่เทียนนั้นมหาศาลมาก นางจึงพยายามสุดความสามารถที่จะอ้าแขนเย่เทียนออก ถึงแม้ทั้งตัวเธอจะแนบกับตัวของเย่เทียนก็ตาม แต่เธอไม่สนใจเรื่องนั้นเลย.
“ถ้าเขาตาย ข้าเองก็ช่วยเจ้าไม่ได้!!”
พอเห็นเย่เทียนเริ่มบ้าคลั่ง ออเรเลียพูดด้วยความโกรธกับเย่เทียน.
“ท่านหมายถึง ถ้าเขาไม่ตาย ก็โอเคใช่ไหม?”
เย่เทียนค่อยๆถาม.
“เจ้าได้รอเขาแก้แค้นแบบบ้าๆแน่!”
ออเรเลียใกล้จะระเบิดความโกรธออกมาแล้ว.
“งั้นมันน่าจะดีกว่าถ้าข้าบีบคอมันให้ตายแล้วเข้ากองทัพไปซ่อนตัว!”
เย่เทียนยิ้ม แล้วมองมาทางออเรเลียอย่างจริงจัง.
“ข้าสัญญาได้แค่ว่าตระกูลเขาจะไม่เข้ามาพัวพันกับเรื่องของพวกเจ้า…”
ออเรเลียรีบสัญญากับเย่เทียนทันที. ถ้าปอมปีย์ตายไปจริงๆ, เธอก็หนีไม่พ้น.
“งั้นการเดิมพันของเรายังมีอยู่ใช่ไหม? ถ้าใช่ กะพริบตาเร็วๆ!”
เย่เทียนถาม, ในตาของเขามีความอำมหิตแว่บมาแถมยังดูบ้ามากๆอีกด้วย.
“...”
อย่างกับได้ยินเสียงของพระเจ้า ปอมปีย์รีบกะพริบตารัวๆ.
เจ้าบ้า!
มันเสียสติไปแล้วจริงๆ!
มันคือนายทาสที่บ้าระห่ำ.
“อา...ฮาา...ฮาา..”
เย่เทียนปล่อยปอมปีย์ไป ไม่งั้นเขาคงตายจริงๆถ้าเย่เทียนรัดแน่นกว่านี้.
จะฆ่ามันจริงๆหรอ?
เย่เทียนไม่ได้โง่ขนาดนั้น เพราะเขามั่นใจว่าออเรเลียจะหยุดเขาและจัดการเรื่องนี้ให้เขาได้อย่างดี. ถึงยังไงเขาก็ถูกพามาที่นี่เพราะออเรเลียกับซีซาร์. ถ้าปอมปีย์ตาย นางก็หนีร่างแหไม่พ้นแม้แต่ซีซาร์เองก็จะพัวพันไปด้วย.
ออเรเลียเป็นคนฉลาดและนางรู้ว่าจะต้องทำยังไง.
ถ้าหากออเรเลียเป็นคนโง่ เขาก็คงไม่กล้าบ้าบิ่นขนาดนี้.
เขาหวังพึ่งออเรเลีย, ไม่ก็กำลังบังคับเธอ.
ตอนนี้ พวกเขาเท่าเทียมกันแล้ว.
“นายน้อยปอมปีย์สินะ, ท่านเป็นอะไรรึป่าวครับ? พอเห็นท่านแล้วข้าอดตื่นเต้นไม่ได้จริงๆ. ตอนข้ากอดท่าน กำลังของข้าคงเยอะไป สงสัยข้าหนักมือไปหน่อย…”
พอเห็นหลายคนมองมาทางพวกเขา เย่เทียนลูบหลังปอมปีย์เบาๆและค่อยๆปลอบปอมปีย์, ในตาของเขาช่างเต็มไปด้วย ‘ความห่วง’.
“*ัสเอ๊ย…”
ปอมปีย์อยากจะสบถออกมา แต่ก็ไม่ได้ตะโกนออกไปเพราะตอนนี้กำลังสูดหายใจลึกๆอยู่. ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขารู้สึกว่าอากาศดูล้ำค่าขนาดนี้มาก่อน และก็ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองใกล้ตายมากขนาดนี้เลย. เมื่อกี้นี้เขารู้สึกว่าเทพเจ้าแห่งความตายกำลังกวักมือเรียกเขาอยู่จริงๆ.
แน่นอนว่าถ้าเขาพูดได้ตอนนี้เขาก็คงไม่กล้ายั่วยุเย่เทียนอีกครั้งแน่. นายทาสมันบ้าระห่ำถึงขนาดกล้าฆ่าเขาเลย.
ปีศาจ, เจ้านายคนนี้มันคือปีศาจจริงๆ!
ซาตาน!
นั่นมันชื่อของปีศาจไม่ใช่เหรอ?
จากผู้แปล: พอผมแปลมาถึงตอนนี้ ผมขอบอกทุกคนไว้เลยครับว่า หลังจากนี้มันเริ่มจะบ้าขึ้นเรื่อยๆ และอาจจะลงเอยแบบดันเจี้ยนพรีเดเตอร์ก็ได้…..