Ep.335 - ต้องการเงินรึเปล่า
3/4
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.335 - ต้องการเงินรึเปล่า
ฉินเฟิงแน่นอนไม่คิดเฉลย ว่าไอ้คำถามเมื่อครู่ มันถูกจัดการเรียบร้อยแล้วโดยไป๋หลีจักรพรรดิสัตว์ร้ายมิติ
“กิ้งก่าทรายเลเวล D พวกนี้ มันบูชายัญตัวเองอัญเชิญรอยแยกมิติขนาดใหญ่เข้ามา แต่น่าเสียดายที่ไม่อาจคงรูปเอาไว้ได้ พังทลายลงในที่สุด” ฉินเฟิงกล่าวเฉไฉเลื่อนลอย
หูเหลียงจับพิรุธจากประโยคนี้ได้อย่างชัดเจน
“ถ้างั้นแล้วพวกสัตว์ร้ายเล่า?”
สีหน้าของฉินเฟิงเรียบเฉย กล่าวอย่างภาคภูมิ “พวกที่หลุดรอดออกมาเป็นแค่สัตว์ร้ายเลเวล E คุณคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของผม จะไม่สามารถรับมือกับพวกมันได้หรือ? บนผืนทรายนี่เป็นหลักฐานอย่างดี นี่คือเศษซากจากเทคนิคแมกมาของผมเหลือทิ้งไว้”
“อ้อ” แม้ปากจะตอบรับ แต่หูเหลียงกลับยังมีข้อสงสัยอยู่ในจิตใจ ถึงเขาจะไม่รู้กระบวนการที่เกิดขึ้น ทว่าผลลัพธ์ที่ได้มันชัดเจน ไม่ว่าฉินเฟิงจะใช้วิธีอะไรก็ตาม โดยสังเขปแล้วรอยแยกมิติขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรในทะเลทรายทะเลเหนือ นั่นถือเป็นเรื่องที่ดี
“นายพลหู ราชันย์สัตว์ร้ายเพิ่งถูกสังหารลงที่นี่ กลิ่นอายของมันเลยยังคงอยู่ในสนามรบ ดังนั้นสัตว์ร้ายตัวอื่นๆไม่น่าจะปรากฏตัวขึ้นในระยะเวลาอันสั้น แต่ถ้าเรายังยืนเฉยกันแบบนี้ต่อไปล่ะก็ …” ฉินเฟิงกล่าวชวนให้คิด
สีหน้าของหูเหลียงแปรเปลี่ยน
“ฉันเข้าใจแล้ว ครั้งนี้มิสเตอร์ฉินทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมนัก กำจัดราชันย์สัตว์ร้าย ทางเราจะมอบรางวัลที่เหมาะสมแก่คุณ”
ฉินเฟิงพยักหน้าและกล่าว “ระหว่างทางที่กำลังต่อสู้ แฟนผมบังเอิญช่วยชีวิตกลุ่มผู้หญิงจากรังใต้ดินของกิ้งก่าทรายเอาไว้ ฝากคุณให้การช่วยเหลือพวกเธอด้วย”
หูเหลียงแม้ไม่ทราบสถานการณ์ แต่ก็ยังพยักหน้ารับ เขาสั่งให้ฮอลศึกออกไปค้นหาผู้คนที่ไป๋หลีช่วยชีวิตไว้ก่อนหน้านี้
“มิสเตอร์ฉิน ยังคิดจะอยู่ที่นี่อีกหรือ ตอนนี้ฟ้าก็ใกล้จะมืดแล้ว” หูเหลียงกล่าว
“ผมยังมีบางอย่างต้องทำ เชิญนายพลหูเดินทางกลับก่อนได้เลย ผมจะตามไปทีหลัง” ฉินเฟิงกล่าว พลางผายมือเชิญอีกฝ่ายจากไปอย่างสุภาพ
ในสมองของหูเหลียงเริ่มปั่นความคิด ไม่นานก็ตระหนักได้ว่าฉินเฟิงคิดจะรั้งอยู่เพื่ออะไร!
อีกฝ่ายเพิ่งสังหารราชินีกิ้งก่าทรายลง อีกทั้งเขายังเจอรังของกิ้งก่าทราย ซึ่งภายในรังล้วนอุดมไปด้วยผลึกเพชรเพลิง เป็นสมบัติล้ำค่า!
แต่ช่างน่าเสียดาย ที่ผลึกเพชรเพลิงเหล่านี้ เจ้าของๆพวกมันดันเป็นฉินเฟิง ฉะนั้นยังจะมีใครอีกเล่ากล้ายื่นมือไปฉกชิง
แม้จะไม่รู้ว่ารอยแยกมิติสงบลงได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆก็คือ ราชินีกิ้งก่าทรายถูกสังหารลงโดยฉินเฟิง
คนที่สามารถต่อกรกับราชันย์ได้ นั่นหมายความว่าคนๆนั้นเองๆ ก็อยู่ในระดับราชันย์เช่นกัน
บนฮอลศึก เหล่าเลเวล D ที่ร่วมเดินทางมา ในแววตาของบางคนฟุ้งไปด้วยความอิจฉา บ้างก็ถอนหายใจ
“ดูเหมือนแก่นอบิลิตี้จักรพรรดิสัตว์ร้ายจะไม่ได้ซื้อมาเปล่าๆซะแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเปลี่ยนให้เจ้าหนูนี่กลายมาเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับราชันย์!”
“มันจะเป็นการซื้อเปล่าๆไปได้ยังไง นั่นมันราคามากกว่า 100,000 ล้านเลยนะ!”
“อย่างพวกเรา สมมิตว่าทำเงินได้ปีละ 10,000 ล้านเหรียญ ยังต้องใช้เวลากว่า 10 ปีถึงจะซื้อแก่นอบิลิตี้จักรพรรดิได้ แต่สู้ทุ่มเทหาเงินถึงขนาดนี้ ถึงตอนนั้นพวกเราไม่กลายเป็นเลเวล C ไปแล้วหรอ?”
“ยังไงก็ตาม ดูฉินเฟิงสิ ตอนนี้ไม่เพียงหารังของกิ้งก่าทรายเจอ แต่เขายังสามารถกำจัดราชินีกิ้งก่าทรายได้อีก! เงินที่เขาได้ในคราวนี้จะมหาศาลสักเท่าไหร่กัน ลองคิดดู!”
“คิดไปก็ไร้ค่า ยังไงเงินก็ไม่มีทางถึงมือพวกเรา เขาร้ายกาจเกินไป พยายามไม่ล่วงเกินจะดีกว่า แค่เรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ อย่าถึงขั้นต้องไปหาเรื่องระดับราชันย์เลย!”
“แต่ผลประโยชน์นี่มันไม่ใช่น้อยๆเลยนะ!”
“ผลประโยชน์จะมากมายแค่ไหน ถ้าต้องแลกด้วยชีวิตเพื่อได้มันมาก็ไม่คุ้มค่า!”
ทุกคนผลัดกันยกเหตุผลต่างๆนาๆ แม้จะสนทนากันยืดยาว แต่ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าฉินเฟิงได้กลายเป็นการดำรงอยู่ที่ให้พวกเขาอิจฉาและเกลียดชังไปซะแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ฉินเฟิงกับไป๋หลีลัดเลาะไปตามเส้นทางที่เติ้งกงหลบหนี แต่เมื่อพลังสมาธิของฉินเฟิงแผ่ขยายออกไป เขากลับพบว่าเป้าหมายดันย้อนกลับลงไปในรังกิ้งก่าทราย
ราวกับนึกได้ว่าเพราะอะไร มุมปากของเขายกสูงขึ้น
ไม่กี่นาทีต่อมา ตามทางลอดอุโมงค์ใกล้ทางออกสายหนึ่ง ปรากฏร่างเงาวิ่งเตลิดสุดฝีเท้า
มิใช่ใครอื่น เป็นเติ้งกง
“อ๊า!” เติ้งกงกรีดร้องเสียงหลง เมื่อเห็นร่างของฉินเฟิงและไป๋หลีดักอยู่เบื้องหน้า
เติ้งกงหันหลังกลับ หมายจะวิ่งไปอีกทาง
ฮึ่ม!
เสียงคำรนคำหนึ่ง ตามด้วยกำลังภายในที่ระเบิดออก กระแสอำนาจอันน่าเกรงขาม ห่อหุ้มกายของเติ้งกงเอาไว้
ตุบ!
สองเข่ากระแทกลงกับพื้น แรงกดดันกำลังภายในมันมากเกินไป เติ้งกงไม่สามารถยกศีรษะขึ้นมาได้เลย ทำได้เพียงหมอบคลาน
“แกนี่มันหน้าเงินจริงๆเลยนะ ไม่คิดรักชีวิตตนเองแล้วหรือไร?” ฉินเฟิงกล่าวเสียงเย็น
เติ้งกงฟุ้งไปด้วยอาการตื่นตระหนก ในหัวใจหวาดกลัวไม่แพ้กัน “ท่านผู้ใหญ่ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรมาอยู่ที่นี่ สมบัติของประมุขเผ่า … สมบัติในรังของกิ้งก่าทราย ยกให้ท่านทั้งหมดเลย!”
“ของพวกนี้ ไม่ใช่ว่ามันควรจะเป็นของฉันอยู่แล้วหรือ?”
หน้าผากของเติ้งกงผุดพรายไปด้วยเม็ดเหงื่อ
ฉินเฟิงกล่าวเสียงหม่น “เติ้งกง แกมาทำข้อตกลงที่นี่ กลุ่มอินทรีทรายรู้เรื่องรึเปล่า?”
เติ้งกงทำได้แค่ผงกหัวรับคำ และกล่าว “รู้สิ พวกเขารู้!”
“แล้วโกวเกิงรู้เรื่องนี้ด้วยรึเปล่า”
“ท่านผู้ใหญ่ หากไม่มีคำสั่งลงมา ฉันจะสามารถติดต่อกับพวกกิ้งก่าทรายได้อย่างไร”
จริงด้วยสิ ความแข็งแกร่งของเติ้งกงอยู่ในเลเวล E เท่านั้น สำหรับกิ้งก่าทรายแล้วเทียบได้กับเด็กน้อย อาศัยเพียงฝีมือของเติ้งกง ย่อมไม่อาจทำธุรกิจนี้ได้
“ถ้างั้น คำถามสุดท้าย ตอนนี้โกวเกิงอยู่ที่ไหน?”
เติ้งกงรีบตอบคำอย่างรวดเร็ว “ท่านผู้ใหญ่ ลูกพี่-- ไม่ ไม่สิ โกวเกิงน่าจะอยู่ในเมืองวังเป่ย มันเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ติดกับเมืองใหญ่ฉีหาน แต่เขามักจะเปลี่ยนสถานที่อยู่บ่อยครั้ง ฉันกับเขามักติดต่อกันผ่านข้อความ ถ้าท่านผู้ใหญ่ต้องการตามหาโกวเกิง ฉันสามารถติดต่อให้ท่านได้ในทันที!”
กร๊อบ!
ฉินเฟิงย่ำเท้าลงเหยียบข้อมืออีกฝ่ายทันใด อุปกรณ์สื่อสารแตกเป็นเสี่ยงๆไปพร้อมกับข้อมือของเติ้งกง
“อ๊าาาาาา!” เติ้งกงโหยหวนลั่น
“ไม่จำเป็น ฉันจะไปหาเขาเอง ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ยังไงฉันก็จะหาให้พบ!”
ว่าจบ ฉินเฟิงก็ยื่นฝ่ามือออกไป กำลังภายในเริ่มว่ายวน ตกลงบนกายของเติ้งกงทันที
ทักษะลับกลืนดาราระเบิดออก มันดูดซับพลังจากทั้งกายของเติ้งกง
ดวงตาของเติ้งกงฉายชัดถึงความหวาดกลัว เจ้าตัวสัมผัสได้ว่ากำลังภายในในตันเถียนกำลังเหือดหายอย่างบ้าคลั่ง แต่มิอาจเอ่ยคำใดได้แม้สักคำ
ฉินเฟิงยกมือขึ้น มีดกษัตริย์ครามลุกเป็นไฟ ปาดเข้าใส่ต้นคอของเติ้งกง
เมื่อไร้ซึ่งกำลังภายในคอยปกป้อง ทั้งยังถูกจำกัดการเคลื่อนไหวด้วยแรงกดดัน เติ้งกงก็ทำได้เพียงเฝ้ามอง มิอาจหลบเลี่ยง ตกตายอย่างไม่ยุติธรรม!
หัวศัตรูถูกเก็บเข้าไปในอุปกรณ์รูนมิติของฉินเฟิง ฉินเฟิงวาดมือออก เพลิงโลกันต์ตกลงบนร่างของเติ้งกง เผาไหม้ศพอย่างรวดเร็ว
หลังจากเผาศพแล้ว อุปกรณ์รูนมิติก็โผล่ออกมา
ฉินเฟิงหยิบมัน ถ่ายเทพลังสมาธิลงไป และพบว่าภายในแหวนมิติของเติ้งกง มันเต็มไปด้วยกล่องผลึกเพชรเพลิง
ความมั่งคั่งของกิ้งก่าทราย ทั้งหมดตกมาอยู่ที่นี่แล้วอย่างแน่นอน!
“ช่วยลดเวลาได้เยอะเลย พวกเราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเก็บกวาดอีกแล้ว กลับกันเถอะ” ฉินเฟิงกล่าว
“ระหว่างหลบหนีเขาชิงของดีอะไรมาบ้าง? พวกเราน่าจะยังไม่รวบรวมสมบัติทั้งหมดมาได้นะ อย่างเครื่องประดับหัวของราชินีกิ้งก่าทรายเองก็งดงามมากเลย” ไป๋หลีกล่าว
ฉินเฟิงผุดยิ้มมุมปาก “นั่นคืออัญมณีที่ดีที่สุดของผลึกเพชรเพลิง มันสามารถใช้แทนแก่นอบิลิตี้ของสัตว์ร้าย กลายเป็นของสำหรับอุปกรณ์รูน แต่ถ้าเธอชอบมัน ก็เอาไปทำเครื่องประดับหรืออุปกรณ์เสริมเล็กๆน้อยๆก็ได้”
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณค่ะที่รัก” ไป๋หลีคว้าจับมือของฉินเฟิง กล่าวอย่างขี้เล่น
“ขอบคงขอบคุณอะไรกัน?เธอต่างหากที่เป็นฮีโร่ในครั้งนี้ ฉันต่างหากที่ต้องซึ้งน้ำใจเธอ”
เป็นไป๋หลีที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา ก้าวไปด้วยกันบนถนนแห่งการถือกำเนิดใหม่ ช่วยให้ในชีวิตนี้ฉินเฟิงไม่เหงาอีกต่อไป ตรงกันข้าม มันมีแต่ความสุขมากมาย
…
ฮอลศึกรุ่นเมฆครามนั้นรวดเร็วมาก แม้ฉินเฟิงจะกลับลงไปยังอุโมงค์ใต้ดินของกิ้งก่าทรายอีกครั้ง แต่ในตอนที่ถึงปราการ เขากับกลุ่มของหูเหลียงดันถึงในเวลาเดียวกัน
ทันทีที่เมฆครามกลับมา มันก็ถูกพบเห็นโดยผู้คนจำนวนมาก
ฉินเฟิงไม่ลงจอดบนลานพิเศษ เขาเลือกขับไปลงจอดบนดาดฟ้าของตึกผู้ใช้พลังโดยตรง เพราะยังไงเขาก็มีพื้นที่มิติเหลือเฟืออยู่แล้ว!
หลังจากเก็บฮอลศึกเมฆคราม ฉินเฟิงก็เดินเข้าสู่ตึกผู้ใช้พลัง
ก้าวขึ้นไปยังชั้นสอง หน้าเคาท์เตอร์พนักงาน ฉินเฟิงส่งบันทึกวิดีโอบนอุปกรณ์สื่อสารออกไป
“รบกวนช่วยตรวจสอบความถูกต้องด้วย!”