ตอนที่ 19 ปกป้องเทพธิดาสงครามแห่งเฉิงตู
เวลาประมาณบ่ายสาม
ลู่เฟยรีบไปสำนักงานใหญ่ของ เจ้อเจียงทีวี ที่นี่ลู่เฟยได้เจอกับหัวหน้าผู้อำนวยการเฉินซิง พอเจอกันพวกเขาก็เริ่มเซ็นทันที ลู่เฟยได้รับบัตรธนาคารที่มีเงินฝากอยู่ 2 แสนหยวนอย่างรวดเร็วเป็นค่าธรรมเนียมเริ่มต้น(ค่าตัว)
ผอ.เฉินซิงมองลู่เฟย : “ลู่เฟย ทางโรงแรมจัดห้องไว้ให้คุณแล้วนะครับ คุณน่าจะไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้เช้าสมาชิกคนอื่นๆ ในทีมรันนิ่งแมนจะเดินทางถึงหางโจวแล้วครับ พอตกบ่ายเราก็จะไปเฉินตูกัน ตอนแรกของซีซั่นสองจะถ่ายทำที่เฉินตู่วันมะรืนนี้”
“ได้ครับผอ.”
“ครับ มีอย่างหนึ่งที่ผมต้องเตือนคุณก่อน อย่าเพิ่งเปิดเผยเรื่องการเข้าร่วมรายการรันนิ่งแมนซีซั่น 2 ต่อหน้าสาธารณชนนะครับ ถึงผมจะเชื่อว่าชาวเน็ตจะเผยเรื่องนี้
แต่เราก็จะยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ จนกว่าจะครบ 2 เดือน หลังจากนั้นเมื่องานแถลงข่าว Running Man เปิดขึ้น เราถึงจะเผยต่อหน้าสื่อมวลชนว่าคุณเข้าร่วมรายการรันนิ่งแมนซีซั่น 2” ผอ.เฉินเอ่ยเตือนลู่เฟย
“ได้ครับผอ.ผมทราบแล้ว” ลู่เฟยยิ้มตอบ เขาเข้าใจการตัดสินใจของผอ.ดี
“ถ้างั้น ผมจะให้ผู้ช่วยพาคุณไปพักที่โรงแรมเลยละกันครับ แล้วก็คุณกับสมาชิกคนอื่นในทีมรันนิ่งแมนจะอยู่โรงแรมเดียวกันนะครับ ใกล้ๆ กับสถานีโทรทัศน์ เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวครับ”
“ดีครับ”
แล้วลู่เฟยก็ไปโรงแรมที่ผู้ช่วยพาเขาไป ได้อยู่ห้องสุดหรู!
เช้าวันรุ่งขึ้น เบบี้ก็มาถึงหางโจวแต่หัววัน พอมาถึงทีมงานรันนิ่งแมนก็พาเธอไปพักที่โรงแรมเลย ลู่เฟยได้เจอหยางอิ่งเป็นคนแรกด้วย
“เบบี้ ในที่สุดเธอก็มาถึงซักที” ลู่เฟยเข้าไปในห้องที่หยางอิ่งพัก ห้องเธออยู่ตรงข้ามกับห้องเขาเลย ลู่เฟยดี๊ด๊ามาก
“ฮิฮิ ฉันกลัวว่านายจะเหงาอยู่ที่นี่คนเดียว ฉันเลยมาแต่เช้าเลยล่ะ” หยางอิ่งยิ้มพร้อมเธอวางกระเป๋าสัมภาระลง
“โอ้ว.. มันเหงานิดหน่อยที่ต้องอยู่คนเดียวอ่า ฮ่ะ ๆ” ลู่เฟยสลวน วันนี้หยางอิ่งสวมชุดลำลอง เบื้องล่างเป็นกางเกงขายาวรัดรูป ชุดเธอดูสวยและทันสมัยมาก คนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นความงามที่ทำให้สตั๊นได้จริงๆ
“หนีหนี่ถูกทิ้งไว้ที่บ้านคนเดียวอีกพักหนึ่ง ฉันว่าเธอน่าจะเหงากว่านายแน่นอน ฮ๋าฮ่า” หยางอิ่งหัวเราะไปด้วย หน้าม้าบนหน้าผากของเธอไหวเบาๆ ช่างดูอ่อนโยนและสง่างาม
“ก็ไว้โทรไปหาเธอบ่อยกว่านี้หน่อยนะ” ลู่เฟยถอนหายใจ
“ได้ๆ ว่าแต่สมาชิกในทีมคนอื่นล่ะ พวกเขามาถึงกันยัง?”
“อ่า น่าจะยังนะ ฉันว่าคงจะถึงเร็วๆ นี้แหละ เห็นผอ.บอกว่าเราต้องรีบไปเฉิงตูกันตอนบ่าย รายการตอนแรกจะถ่ายทำที่โน่น” ลู่เฟยเปรยพลางคิดว่าเดี๋ยวคงได้เจอพวกดาราดังๆ เขารู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยเกี่ยวกับดารา..
“อ่า ฉันไม่รู้ว่าแขกรับเชิญคนแรกเป็นใคร ฉันได้ยินมานะว่า 2 ตอนแรกเขาจะเชิญรุ่นใหญ่มา 2 คน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร ทีมงานไม่เปิดเผยให้เรารู้ก่อนเลย” หยางอิ่งถอนหายใจพลางกล่าว
“ฉันรู้ มีจื่อปิงปิง(ฟ่านปิงปิง) และหานเกิง(ฮันคยอง Superjunior)” ลู่เฟยแฉความลับ เขาเคยดูซีซั่นสองก่อนจะข้ามโลกมา ดังนั้นเขายังพอจะรู้อยู่บ้าง
“เอาจริงดิ นายรู้ได้ไง?” เบบี้ถามด้วยความสงสัยพลางกระพริบตาคู่งาม
“ความลับ.. เบบี้ อย่าบอกใครนะ นี่เป็นความลับของเราสองคน”
“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว” เบบี้ยิ้มอย่างมีเลิศนัย
เช้าในวันเดียวกันนั้น สมาชิกคนอื่นๆ ในทีมรันนิ่งแมนก็ทยอยมาถึง เติ้งเชา หวังซู่หลาน เจิ้งข่าย หลี่เฉิน และ เฉินเฮ่อ มาถึงโรงแรมทีละคน
หลังจากถามถึงโรงแรมพวกเขาก็ได้รู้ว่าสมาชิกคนใหม่คือลู่เฟย เบบี้แนะนำลู่เฟยกับคนอื่นๆ อีก 5 คนที่เหลืออย่างรวดเร็ว ลู่เฟยเองก็ไม่คิดว่าพวกเขาทั้ง 5 จะรู้จักเขาทันทีที่แนะนำตัว
ทุกคนรู้ว่าลู่เฟยเข้าร่วมรายการ The Voice China แต่ถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้อยู่แล้วว่าลู่เฟยเป็นสมาชิกคนใหม่ในทีม Running Man แต่พอเริ่มถ่ายตอนแรกก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ เพราะนี่เป็นกฏของผู้กำกับ
พอตกบ่ายโมง เที่ยวบินจากสนามบินนานาชาติเสี่ยวชาน ไปยังสนามบินเฉิงตูอย่างรวดเร็ว ห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาสเต็มไปด้วยผู้คนจากรายการ Running Man ลู่เฟยและหยางอิ่งนั่งข้างกัน เติ้งเชาและเฉินเฮ่อนั่งอยู่ด้านหน้า ข้างหลังมีหวังซู่หลานและหลี่เฉินนั่งอยู่ ด้านซ้ายคือหัวหน้าผู้อำนวยการของรายการเฉินซิง และสมาชิกที่เหลือนั่งอยู่ด้วย
“ไฮ่ เบบี้ ลู่เฟยพวกคุณสองคนมีความสัมพันธ์กันยังไง ผมอ่านข่าวบางสื่อบอกคุณเป็นเพื่อนซี้กัน บางสื่อก็บอกว่าพวกคุณเป็นแฟนกัน คุณช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิ” เฉินเฮ่อถามด้วยรอยยิ้ม
“นั่นสิ ไม่จำเป็นต้องปิดหรอกทุกคนเข้าใจนะ” เติ้งเชาก็เห็นด้วย
“ลู่เฟยเป็นเพื่อนชายคนสนิทของฉันกับหนีหนี่ค่ะ พวกเราเป็นเพื่อนซี้ย่ำปึก เรื่องมันก็แค่นี้แหละค่ะ” เบบี้ไม่เห็นด้วย รีบอธิบาย
“ใช่ครับ เราเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก” ลู่เฟยเอ่ยต่อจากด้านข้าง
เจิ้งข่ายรู้สึกไม่พอใจเล็กๆ พอได้ยินเรื่องนี้ : “เบบี้เรื่องมันมีแค่นี้จริงหรอ ถ้างั้นพวกเราก็เป็นเพื่อนที่ดีกันมากๆ ทำไมคุณไม่บอกว่าเราเป็นเพื่อนซี้มั่งล่ะ”
“ช่าย 55 ฉันสามารถเป็นเพื่อนซี้เธอได้นะเบบี้” หวังซู่หลานพูดแทรกทันที
“ไปไปเลยนะ ทำไมฉันต้องมีเพื่อนซี้ที่เป็นผู้ชายหลายคนด้วยล่ะ? แค่คนเดียวก็พอแล้ว แค่ลู่เฟยเท่านั้น” เบบี้จ้องเขม็งหาทุกคน ใบหน้าขาวหยกของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย
“อย่าคุยกันเรื่องนี้เลย” ผอ.เฉินถอนหายใจด้วยรอยยิ้ม
“ได้ครับ ผอ.เฉินพูดแล้ว เราเลิกคุยเรื่องนี้กัน … น้องชายลู่ คุณร้องเพลงได้ดีจริง ดีกว่าฉันอีก เพลง ‘ท้องฟ้าและทะเลกว้าง’ ของคุณมันช่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง คุณช่วยร้องให้ทุกคนฟังหน่อยได้ไหมครับ ฉันอยากฟังการร้องเพลงแบบสดๆ ของคุณจริงๆ” เติ้งเชาถามเมื่อเขามองกลับมาทางลู่เฟย
“ใช่เลย ยืนหนึ่งเลยเพลงนี้ ‘ท้องฟ้าและทะเลกว้าง’ น่าทึ้งสุดๆ อัจฉริยะโดยแท้ 2 วันมานี้ผมฟังหลายรอบแล้ว” กระทิงดำใหญ่หลี่เฉินเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว
สมาชิกคนที่เหลือหลายคนก็เห็นด้วย พวกเขาอยากฟังลู่เฟยร้องเพลง
“งั้นผมจะร้องสักสองสามคำนะครับ”
ลู่เฟยทำอารมณ์สัก 2-3 วิฯ จากนั้นก็เริ่มร้องเพลง ‘ท้องฟ้าและทะเลกว้าง’ แม้ว่าจะไม่มีดนตรีประกอบ เพลงของเขาก็ยังคงไพเราะมาก ทุกคนในห้องโดยสารชั้นหนึ่งเพียงได้ยินประโยคแรกก็ตกใจ เหล่าแอร์โฮสเตสที่งดงามหลายคนก็เข้ามาชมด้วย ความงามเฉิดฉายของพวกเธอให้ความรู้สึกประหลาดใจ
! ! !
วันนี้ฉันเฝ้าดูหิมะโปรยปรายในคืนที่หนาวเหน็บ
ลอยไปไกลด้วยหัวใจที่เย็นชา
ไล่ตามลมและฝน
ท้องฟ้ากว้างใหญ่คุณและฉันเปลี่ยนได้ (ที่ไม่เปลี่ยน)
กี่ครั้งแล้วที่ต้องเผชิญกับสายตาเย็นชาและการเยาะเย้ย
อย่ายอมแพ้อุดมคติในใจฉัน
รู้สึกหายไปในช่วงเวลาแห่งความมึนงง
ความรักในใจของฉันได้จางหายไปโดยไม่รู้ตัว (ที่เข้าใจฉัน)
ยกโทษให้ฉันสำหรับความรักและอิสระในชีวิตของฉัน
...
...
! ! !
=================