ตอนที่แล้วตอนที่ 177-178
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 181-182

ตอนที่ 179-180


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 179 : อารยธรรมแห่งไฟได้ลุกโชนแล้ว!

เซี่ยหยวนกลับออกไปแล้ว หยิงอู๋จี้ก็ออกตามไปเช่นกัน

กู่หยุนซีและคณะยังไม่คิดยอมแพ้

บางทีอาจเป็นเพราะเผชิญสถานการณ์นี้จึงเป็นตัวจุดจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ขึ้นมา!

“เคยอ่านมาบ้าง ว่าอัคคีเพลิงเกิดขึ้นได้จากแรงเสียดทาน!” คนหนึ่งกล่าวคำขึ้น

“แรงเสียดทาน? ได้ยินว่ามีหมู่บ้านในป่าเขาที่อาศัยวิธีการนั้นจุดไฟจริง!” อีกคนหนึ่งเผยดวงตาเป็นประกายขึ้นมา

“อย่างนั้นก็ต้องลองดู!”

ถัดจากนั้นศิษย์ทั้งเจ็ดคนจึงร่วมมือกัน

บางคนไปรวบรวมไม้ ขณะที่บางคนก็พร้อมทดลองทำแล้ว

เซียวเฉิงถือแท่งไม้ไว้ในมือ ท่าทีคล้ายยังไม่คิดเริ่ม

“เซียวเฉิง ทำได้หรือ?” กู่หยุนซีขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะพบเห็นอีกฝ่ายลังเล

“ต้องได้สิ!” เซียวเฉิงรับคำพร้อมเผยดวงตาเบิกกว้างท่าทีจริงจัง

ด้วยเป็นบุรุษ ถูกถามเช่นนี้ก็มีแต่ต้องทำได้!

ถัดจากนั้นเซียวเฉิงจึงนำแท่งไม้หมุนอย่างรุนแรงกับแผ่นไม้แห้งเพื่อพยายามจุดไฟ

“ข้าว่า ไม่ได้เรื่องกระมัง?” เจียงเหวิ่นฉางอดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออก เพราะขณะนี้พบเห็นเซียวเฉิงหลั่งเหงื่อรุนแรง

“ต้องได้สิ!” เซียวเฉิงตอบคำกลับ

ขณะนี้เขาคล้ายได้กลิ่นของไม้ไหม้ขึ้นมาหน่อยแล้ว

ขณะนี้เองที่ผู้อื่นต่างมารวมตัวรับชม

“ควัน! มีควันลอย!”

“รีบใส่เชื้อเพลิง!”

“ระวังด้วย! อย่าทำไฟมอด!”

ทุกคนต่างเร่งรีบ

ผ่านไปครู่จึงปรากฏกลุ่มควันลอยตัว

พบเห็นอัคคีเพลิงถูกจุดขึ้นมาได้ เซียวเฉิงจึงรู้สึกภาคภูมิขึ้นมา

อัคคีเพลิงนี้เขาเป็นคนจุดขึ้นด้วยตนเอง!

ด้วยสายตานับถือจากศิษย์อื่น มันเป็นผลให้เขารู้สึกว่าตนเองมีค่าอย่างมหาศาลมากล้ำ

ถัดจากนั้นจึงได้เวลาย่างปลา

ทุกคนต่างเร่งรีบด้วยความตื่นเต้นยินดี

กลิ่นปลาย่างหอมลอยฟุ้งในอากาศ คนหนุ่มสาวเหล่านี้ต่างพูดคุยกันพลางหัวเราะอย่างสนุกสนาน

ทางด้านเซี่ยหยวนที่ออกจากโหมดทั่วไป ขณะนี้กลับไปอยู่ห้วงมิติเริ่มต้นแทน

ครั้งนี้เขาคิดอยากได้เห็นการฝึกสอนทำอาหาร!

เลือกเข้าไปแล้ว สภาพแวดล้อมจึงแปรเปลี่ยนเป็นห้องครัว

เซี่ยหยวนนิ่งงันไปครู่ “เป็นห้องครัว!”

ถัดจากนั้นจึงเลือกหน้าต่างตัวเลือกพร้อมสุ่มรายการอาหารออกมาอย่างหนึ่ง

ได้พบเห็นตนเองในร่างผู้อื่นผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่ง เซี่ยหยวนเกิดสับสนไม่ใช่น้อย

แต่ไม่ช้าจิตใจเขาก็สงบลงได้

เหมือนว่ามันจะเป็นความพิเศษอย่างหนึ่งของระบบฝึกสอนทำอาหาร

เซี่ยหยวนรับชมสภาพแวดล้อมรอบด้าน

มันเป็นเทือกเขา

ขณะนี้ตัวเขาอยู่เหนือเทือกเขาเหล่านั้น

ที่เบื้องล่างคือกระทิงสีเข้มน้อยอใหญ่ที่จับจ้องมาทางนี้!

เซี่ยหยวนต้องประหลาดใจ

เขาทราบว่าสัตว์อสูรเหล่านี้คืออะไร

กระทิงคราม เป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง

ตามคำบอกเล่า พวกมันถือครองสายเลือดสัตว์โบราณอย่างกิเลน!

พิจารณาจากพลังที่กระทิงครามเปล่งออกมา กำลังของมันย่อมเหนือล้ำยิ่งกว่าขอบเขตทดสอบเต๋า!

เซี่ยหยวนเผยอาการตื่นตะลึง

อย่าได้บอกว่าถัดจากนี้จะเกิดศึกล่าอาหารกันขึ้นระหว่าง “ตัวเขา” กับกระทิงครามเหล่านี้?

“แรกเริ่ม ก่อนการจะย่างเนื้อได้จำเป็นต้องล่ากระทิงครามเสียก่อน”

เซี่ยหยวนตกใจทันทีที่ได้ยินเสียงคำอธิบาย

นี่มันเรื่องอะไร?

เนื้อย่างงั้นหรือ?

เซี่ยหยวนค่อยนึกออกตอนนี้ ว่าตนเองกำลังรับชมวิธีการทำอาหาร!

นี่เริ่มตั้งแต่การหาวัตถุดิบเลยงั้นหรือ?

ด้วยสูดลมหายใจเข้าลึก เซี่ยหยวนสะกดข่มความแตกตื่นไว้ภายในใจก่อนจะตั้งใจรับชม

เขาจึงได้เห็น “ตัวเอง” ยืดมือขวาออกไปอย่างเชื่องช้า

ที่ถืออยู่ในมือ มันคือมีดทำครัวสีเงินเป็นประกาย!

ตอนที่ 180 : คณะผู้ล้างแค้นมาเยือน

เซี่ยหยวนกล่าวได้ถูกต้องแล้ว!

ที่ “ตัวเขา” กำลังถืออยู่ในมือคือมีดทำครัว!

เผชิญหน้ากระทิงคราม ใช้เพียงมีดทำครัวอย่างนั้นหรือ?

เซี่ยหยวนถึงกับตั้งคำถามสงสัยต่อชีวิต

กระทิงครามร้องคำราม “เซี่ยหยวน” ได้ผ่าร่างมันออกในการลงมือเพียงครั้งเดียว

มีดนี้ราวกับแม้เป็นห้วงมิติและเวลาก็สามารถผ่า!

ร่องรอยความสิ้นหวังปรากฏในดวงตาของกระทิงคราม

ลมหายใจของมันกำลังหายไป!

แม้กระทิงครามยังคงยืน ทว่าลมหายใจแห่งชีวิตก็สูญหายไปแล้ว

มันถูกเชือดเป็นที่เรียบร้อย!

กระทั่งเซี่ยหยวนยังตื่นตะลึง!

เขากล่าวกระซิบกับตนเอง “มีดเล่มนี้...”

เซี่ยหยวนพบเห็นว่ามีดเล่มนี้ผ่าไม่ใช่เลือดเนื้อ ทว่าเป็นจิตวิญญาณ!

เขาถึงกับต้องมองวิธีการใช้มีดทำครัวเสียใหม่!

ขณะเซี่ยหยวนตะลึงงัน ตัวเขาก็เข้าสู่สภาวะอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว!

สภาวะศักดิ์สิทธิ์คือโอกาสพิเศษที่ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนแห่งทวีปเทียนหลันต่างเฝ้ารอทว่าไม่อาจได้พบเจอ!

ผู้ฝึกตนบ่อยครั้งจะเกิดความก้าวหน้าแข็งแกร่งอย่างมหาศาลเมื่อได้รู้แจ้งถึงอะไรบางอย่าง!

ขณะนี้เองที่ลั่วฉวนซึ่งนอนอาบแดดตรงหน้าประตูได้ตระหนักถึงในร้านพร้อมมองไป

เหยาซือหยานเองก็ให้ความสนใจทางด้านเซี่ยหยวน

ภายในร่างของเซี่ยหยวน ออร่าอันลึกลับได้ก่อตัวขึ้น

“โอกาสที่ดีนัก!” เหยาซือหยานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

……

ขณะเวลาเดียวกัน

ที่ภายนอกนครจิ่วเหยา

กลุ่มคนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้อย่างเชื่องช้า

เป็นจ้าวตำหนักจันทราสีเงิน ฉู่หยางผิง!

วันเดียวกันกับที่ลั่วฉวนปะทะกับภาพฉายจิตวิญญาณ มันก็เป็นผลให้นครจิ่วเหยาเกิดความตื่นตัวครั้งใหญ่

ขณะนี้ฉู่หยางผิงมาเยือนนครจิ่วเหยาด้วยตนเองเพื่อล้างแค้นแก่บุตรชายฉู่หยุนเฟย!

อีกทั้งยังมีชายชราสี่คนเคียงข้างฉู่หยางผิง

เหล่านี้ล้วนมีกำลังที่ขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุด!

กล่าวได้ว่าเว้นแต่ผู้อาวุโสขอบเขตทดสอบเต๋าคนหนึ่งที่อยู่โยง กำลังอันสูงสุดของตำหนักจันทราสีเงินต่างมาอยู่ที่นี่แล้ว!

“มันทำลายภาพฉายจิตวิญญาณข้า สังหารบุตรชายข้า แม้หลบซ่อนตัวในนครจิ่วเหยาก็ต้องปลิดชีวิตมันให้จงได้!”

ฉู่หยางผิงเผยใบหน้าดำมืดกล่าวออกราวเสียงกระซิบจากห้วงนรก

“เข้าเมือง!”

“ขอรับ!”

คนทั้งห้าเดินทางเข้าสู่นครจิ่วเหยา ออร่าขอบเขตทดสอบเต๋าอันรุนแรงแผ่กระจายทั่วทิศ

กับผู้ฝึกตนที่อ่อนแอขณะนี้ต้องรู้สึกแน่นที่หน้าอกขนาดแทบกระอักเลือดออก!

พวกเขาแทบไม่กล้าเงยหน้าขึ้น!

เพราะทวีปเทียนหลัน กำลังคือตัวตัดสินผู้เหนือกว่าอย่างแท้จริง!

ขณะเดียวกันนี้พวกเขายังได้เห็นตราสัญลักษณ์ที่หน้าอกของคนทั้งหน้า เป็นดวงจันทราสีเงิน!

“คนของตำหนักจันทราสีเงิน? ไฉนจึงมาเยือนนครจิ่วเหยาอีกแล้ว?”

“ไม่นานก่อนหน้านี้ภาพฉายจิตวิญญาณนั้นเป็นจ้าวตำหนักจันทราสีเงินไม่ใช่หรือ? วันนี้ตำหนักจันทราสีเงินมาเยือน ทั้งยังเป็นยอดยุทธ์!”

“เหมือนว่าชายคนนั้นจะคล้ายภาพฉายจิตวิญญาณไม่ใช่น้อย!”

“ชู่! เงียบเสียงเจ้าลง! ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือยังไง...”

“โอ้! น่าเกรงขามนัก! นครจิ่วเหยาแห่งนี้ถึงกับมีขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุดมาเยือนอีกแล้ว...”

รับชมแผ่นหลังคนทั้งห้าเดินเข้าสู่ภายในเมือง เสียงกระซิบจึงดังตามหลังไม่ขาด

ไม่ช้าข่าวคราวนี้จึงแพร่กระจายสู่ทั่วทั้งนครจิ่วเหยา

ทหารยามประจำนครต่างมองคนทั้งห้าเดินเข้าเมือง พวกเขาไม่กล้าห้ามปราม

ด้วยผู้ฝึกตนขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุดเช่นนี้ถึงห้าคนเดินทางเข้าเมือง เรื่องราวย่อมต้องเกิดขึ้นเป็นแน่!

“เจ้าอยู่ที่นี่เฝ้าประตูเมืองเอาไว้ ข้าจะไปรายงานองค์เหนือหัว!” หัวหน้าทหารยามกล่าวคำขึ้น

“ขอรับ!”

……

“จ้าวตำหนัก ศัตรูพวกเราอยู่ที่ใดกัน?” หนึ่งในผู้อาวุโสกล่าวถาม

ฉู่หยางผิงหรี่ดวงตาลงเล็ก “ตำแหน่งที่ภาพฉายจิตวิญญาณข้าเลือนหายในวันนั้นคือทางตะวันออกของนครจิ่วเหยา ส่วนตำแหน่งแน่ชัดนั้นไม่ทราบ”

“อย่างนั้นพวกเราหาตัวมันอย่างไรดี?”

“ไปยังพระราชวังหลวง” ฉู่หยางผิงหันสายตามองสู่ศูนย์กลางนครจิ่วเหยา “จี้อู๋ฮุยสมควาทราบว่าคนก่อเรื่องอยู่ที่ใด หากไม่กล่าวออกมา เช่นนั้นต่อให้เป็นจักรพรรดิก็ใช่ว่าข้าจะปล่อยไปโดยง่าย!”

ด้วยมาเยือนนครจิ่วเหยาก็ยังกล้ากล่าวคำเหล่านี้ออกมา

ยอดฝีมือขอบเขตทดสอบเต๋าทั้งห้าคนเหล่านี้มาเพื่อเปิดศึกอย่างแท้จริง!

เหล่าผู้ฝึกตนในจักรวรรดิเทียนชิงมีมากมายก็ใช่

ทว่าฝั่งนครจิ่วเหยานั้นมีเพียงแต่เหล่าไป่และจี้อู๋ฮุยที่ต้องแบกรับ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด