ตอนที่ 17 คำเชิญเข้าร่วมรายการ Running Man
“อื้อ ดีแล้ว ลู่เฟย อนาคตนายสดใสแน่นอน เดี๋ยวกับไปบ้านโทรหาผู้กำกับรายการรันนี่แมนก่อนนะ
ฉันจะเล่าเรื่องนี้ให้ผู้กำกับเฉินฟัง” เบบี้ยิ้มอย่างพึงพอใจ ปากเชอร์รี่ที่เต็มไปด้วยความงดงามนั่นก็ขยับพูดจาเคลื่อนไหวอย่างน่ารัก ร่องรอยความมีเสน่ห์แบบนี้ทำเอาลู่เฟยขยับตัวยุกยิกทันทีที่เห็น
“ได้เลยเบบี้ แล้วก็ขอบคุณมากนะ” ลู่เฟยพยักหน้าอย่างพอใจ
“อย่ามาสุภาพกับฉันน่า เราเป็นเพื่อนซี้กันนะ ฉันก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว แต่ว่าเพราะนายเพิ่งเริ่มต้นเข้าวงการ ค่าตัวนายอาจจะยังมีไม่สูงนัก แต่หลังจากนายเข้าวงการเต็มตัวแล้วค่าตัวนายก็จะมากขึ้นเอง
นายรู้ไหม มีคนดังหลายคนเลยที่อยากเข้าร่วมรายการรันนิ่งแมนโดยไม่รับค่าตัว เพียงเพื่อที่จะได้ออกกล้องต่อหน้าผู้ชมน่ะ” เบบี้เอ่ยเตือนกับลู่เฟย
“ไม่มีปัญหา ฉันไม่ได้สนเรื่องค่าตัวนัก ต่อให้ค่าตัวเป็น 0 ฉันก็ยินดีเข้าร่วม ตราบใดที่ฉันเข้าร่วมกับเธอได้ ฉันไม่มีปัญหาทั้งนั้นแหละ” ลู่เฟยแล้วคิดในใจ
ฉันจะไม่ยอมถอยหรอก ตอนนี้เขาเพิ่งก้าวเข้าสู่วงการเขาไม่ต้องการค่าตัวเขาจะสูงเสียดฟ้า ต่อให้เขาได้ค่าตัวเริ่มที่ 1,000 หยวน เขาก็ไม่บ่น
“อื้อ โอเค เราตัดสินใจร่วมกันแบบนี้ก็มีความสุขดีนะ ฮิฮิ ฉันหาสาวน้อยหนีหนี่ดูว่าเธอจะกลับมาได้ยัง?”
“ตามนั้น”
จากนั้นเบบี้ก็โทรหาหนีหนี่ พอวางสายเสร็จเธอก็บอกก็บลู่เฟยว่า : “เธอกำลังมาแล้ว ลู่เฟย นายทำอาหารได้เล้ย อิอิ เรารออยู่”
“ได้ จัดให้”
แล้วลู่เฟยก็เข้าครัว 15 นาทีต่อมา หนีหนี่ ก็ถึงบ้าน หลายวันที่ไปมาหาสู่กัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาสามคนก็เป็นมิตรกันมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ดูเหมือนพวกเขาจะกลายเป็นซี้ที่ดีมาก ในใจของลู่เฟย เบบี้ และ หนีหนี่ เป็นเพื่อนคนสำคัญ ที่สำคัญที่สุด
เวลาประมาณ 3 ทุ่ม เบบี้ แหละ หนีหนี่ ก็ออกจากบ้านลู่เฟย กลับบ้านของเบบี้
ลู่เฟยรอจนกระทั่งเบบี้และหนีหนี่ออกไป เขาก็อาบน้ำไม่นานเขาก็ไปพักผ่อน เดิมทีเขาก็ไม่ใช่คนชอบนอนดึก ก่อนจะข้ามโลกมาเขาต้องไปทำงานทุกวันตั้งแต่ ตี 5 ถึง 3 ทุ่ม เขาต้องเข้านอนเร็วและตื่นเช้า (งานไรของเอ็งฟร่ะ)
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากลู่เฟยซัดข้าวเช้าเสร็จ เขาก็เริ่มเล่นเว่ยป๋อของตัวเองตามลำพัง มีแฟนบนเว่ยป๋อมากขึ้นเรื่อยๆ และชื่อเสียงของเขาบนเน็ตก็เติบโตไม่หยุด Sina Weibo มีแฟนมากกว่า 3 แสนคน Tencent Weibo (ใครไม่รู้จักให้ย้อนไปอ่านตอนที่ 14 นะครับ) มีมากกว่า 4 แสนคน เขาจะไม่มีความสุขได้ยังไง เมื่อความสนใจของเขาได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เขาก็เรียนรู้วิธีที่จะปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ บ่อยขึ้นบนเว่ยป๋อ
เวลาค่อยๆ คืบคลานมากเป็นตอนเที่ยง ตอนนั้นเองก็มีเสียงเรียกเข้าจากมือถือของลู่เฟย ปรากฏว่ามันเป็นเบอร์ที่เขาไม่คุ้น ดูจากเบอร์ก็น่าจะมาจากหางโจว พอเห็นเบอร์นี้แล้วเขาก็เดาได้ไม่ยากว่าทางสถานีโทรทัศน์โทรมา
“ฮัลโล สวัสดีครับ” ลู่เฟยรับโทรศัพท์
“สวัสดีครับคุณลู่ สะดวกคุยไหมครับ?” เสียงของชายคนหนึ่งฟังดูมีอายุประมาณ 30 กว่าปี ถือว่าอาวุโสกว่าลู่เฟย
“สะดวกคุยครับ คุณคือ?”(แบบสุภาพ)
“สวัสดีครับ ผมขอแนะนำตัวก่อนนะ ผมเป็นหัวหน้าผู้อำนวยการกลุ่มของเจ้อเจียงทีวี รายการรันนี่แมน ผมชื่อเฉินซิง”
“โอ้ ปรากฏว่าเป็นผอ.เฉินนี่เอง แล้วผอ.เฉินมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?” ลู่เฟยรู้ดี เขาคิดว่าเบบี้คงแนะนำเขากับผอ.เฉินแล้ว
“ใช่แล้วครับคุณลู่ คืออย่างนี้ครับ รันนิ่งแมนประจำซีซั่นสองเขาเรา จะอัดและออกอากาศล่วงหน้าครับ แต่ หวังเป่าเฉียน สมาชิกในทีมคนหนึ่งได้ถอนตัวไป
ทีนี้ทีมผู้กำกับของเราเพิ่งได้รับคำแนะนำจากเบบี้หยางอิ่ง จึงมีการประชุมฉุกเฉินขึ้น ในการประชุมทุกคนตกลงที่จะเชิญคุณเข้าร่วมรายการรันนี่แมนซีซั่นที่สอง ผมสงสัยว่าคุณลู่สนใจจะเข้าร่วมกับเราหรือไม่ครับ” เฉินซิงพูดเข้าเรื่องทันที
“ขอบคุณสำหรับคำเชิญของผอ.นะครับ ที่จริงผมก็ติดตามรายการเรียลลิตี้โชว์ของคุณมาโดยตลอด ผมยินดีเข้าร่วมแน่นอนครับ ผมอยากเป็นสมาชิกในทีมรันนิ่งแมน” ลู่เฟยตอบรับด้วยรอยยิ้ม
“อ่า ครับ เยี่ยมไปเลย คุณลู่ครับ เราได้คุยกับทีมงานรายการเราเกี่ยวกับค่าตัวเริ่มต้นของคุณ ซึ่งค่าตัวจะอยู่ที่ 2 แสนหยวน คุณคิดว่าไงครับ?”
“อ้อ สบายมากครับผอ. ผมทราบดีว่าผมเป็นผู้มาใหม่ ผมยังต้องการคำแนะนำอีกมากจากผอ.เฉินในอนาคต” ลู่เฟยตอบอย่างนอบน้อม แต่ใครจะรู้ว่าเขามีความสุขมาก
เขาเองก็ไม่ได้คาดหวังมากว่าจะมีค่าตัวสักเท่าไหร่ กลับกลายเป็นว่าค่าตัวเริ่มต้นของเขาคือ 2 แสน เทียบกับโลกก่อนของเขาได้เดือนละไม่กี่พันหยวน 2 แสนนี่ทำให้เขารู้สึกเป็นคนรวยขึ้นมาเลย
“คุณหยวนก็สุภาพเกินไปครับ ตอนนี้คุณกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเชื่อว่าคุณจะเป็นนักร้องชายที่ดังที่สุดในประเทศในอนาคตอันใกล้นี้ ผมก็หวังว่าคุณจะไม่ลืมเจ้อเจียงทีวีของเรานะครับ
ในเมื่อคุณเข้าร่วมรายการรันนิ่งแมนแล้ว ผมขอไปรายงานกับผู้ใหญ่ของสถานีก่อนนะครับ พวกเขาให้ความสำคัญกับคุณมาก พี่น้อง อนาคตคุณจะไปได้ไกลกว่านี้ อย่าลืมรากเง่านะครับ” (ผู้แปล:จริงๆ ประโยคนี้ใช้สำนวนจีน แต่กลัวคนไม่เข้าใจ เลยใช้คำนี้แทนครับ)
หัวหน้าผู้อำนวยการเฉินซิงมีความในใจ พอพูดถึงเรื่องนี้ ความหมายของเขาก็ชัดเจนมาก เพื่อให้ลู่เฟยรู้ว่าใครทำให้เขาโด่งดังขนาดนี้ ถ้าลู่เฟยไม่สนใจพวกเขา พวกเขาจะเก็บลู่เฟยทันที(เก็บในที่นี้หมายถึงซ่อนไม่ให้พระเอกเราโชว์ตัวครับ)
ลู่เฟยก็ไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีมันหมายถึงอะไร
“ผอ.เฉิน ผมจะจดจำความเมตตาอันยิ่งใหญ่ที่ทางทีวีดาวเทียมเจ้อเจียงมีต่อผมตลอดไปครับ ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ว่าผมจะไปไหนในอนาคต ผมไม่มีวันลืมทีวีดาวเทียมเจ้อเจียงครับ” ลู่เฟยตอบอย่างเคร่งขรึม แม้ว่าการพูดเช่นนี้จะทำให้เขาหดหู่ใจมาก แต่เขาก็ต้องพูด มันจำเป็น…
=================