ตอนที่ 8: ศูนย์ศิลปะการต่อสู้จีนในบรุกลิน (สมบูรณ์)
ตอนที่ 8: ศูนย์ศิลปะการต่อสู้จีนในบรุกลิน
ในช่วงเวลาที่อยู่ในฐาน เฉินโม่ ก็ได้ใช้อุปกรณ์ทดสอบที่มีภายในฐานเพื่อทดสอบความสามารถด้านต่างๆของตัวเอง
เขามีพละมีกำลังมากถึง 500 กิโล และสามารถวิ่งระยะ 100 เมตรได้ภายใน 9.1 วินาทีและไม่แค่นี้เพราะเขายังสามารถวิ่งด้วยความเร็วระดับนี้ติดต่อกันได้เป็นเวลานาน ส่วนการระเบิดพลังวิ่งในระยะสั้นๆสามารถทำความเร็วได้ถึง 19 เมตรต่อวินาที และในด้านการกระโดดเขาก็สามารถกระโดดได้สูงถึงสามเมตร และจุดตกอยู่ห่างออกไปหกเมตรโดยไม่ต้องใช้สปริงบอร์ดช่วย
โดยรวมแล้วทั้งความแข็งแกร่ง และความเร็วในการฟื้นตัวของเขามากเป็นสี่เท่าของคนธรรมดา
ส่วนในแง่ของความเร็วในการตอบสนอง เขาก็ยังสามารถมองเห็นวิถีกระสุนได้ แต่แม้ว่าร่างกายจะไม่สามารถตอบสนองได้ทันทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงกระสุนได้อย่างสมบูรณ์ แต่อย่างน้อยๆก็ยังสามารถหลีกเลี่ยงจุดสำคัญได้
ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของ เฉินโม่ นั้นอ่อนแอกว่ากัปตันอเมริกาเพียงเล็กน้อย ดังนั้นถ้าเขาเครื่องบินตกอย่างกัปตันอย่างน้อยเขาก็จะยังคงรอดมาได้
แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงไม่พอใจอย่างมาก เพราะในหนังมันเป็นการบังคับลงจอดกลางหิมะจึงทำให้ลำตัวเครื่องบินยังคงสมบูรณ์ แต่ในสถานการณ์ที่เขาต้องเผชิญนั้นอันตรายกว่ามาก เพราะตัวเครื่องบินถูกทำลายโดยทะเลจนแตกเป็นเสี่ยงๆไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องการความแข็งแกร่งที่มากขึ้นกว่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะสามารถอยู่รอดได้ในการตกครั้งนั้นที่จะต้องเจอเมื่อกลับสู้โลกแห่งความจริง
ดังนั้น เซรั่มซูเปอร์โซลเจอร์ จึงเป็นสิ่งที่ เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้
ตามพล็อตดั้งเดิมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไฮดราที่ซุ่มซ่อนอยู่ในสหรัฐอเมริกา ถูกขัดขวางโดยกัปตันอเมริกาที่เพิ่งฉีดเซรั่มใหม่จึงทำให้แผนแรกในการชิงเซรั่มกลับมาล้มเหลว ทำให้ต้องใช้แผนสองนั่นก็คือการฆ่า ดร.เอิลสไกน์ผู้ที่สร้างเซรั่มขึ้นมา และหลังจากที่ ดร.เอิลสไกน์ เสียชีวิตลงก็ไม่มีใครสามารถผลิตเซรั่มได้อีกต่อไป ทำให้กัปตันอเมริกากลายเป็นซูเปอร์โซลเจอร์เพียงคนเดียว
หลังจากช่วงเวลาของการปรับเปลี่ยนองค์กรและการโยกย้ายบุคลากร ทำให้สถานการณ์โดยทั่วไปของ ไฮดรา ได้รับการควบคุมโดย เฉินโม่ เกือบสมบูรณ์ และทั้งการก่อสร้างฐานลับ และการวิจัยทั้งหมดก็เริ่มมาถูกทางแล้ว
แต่เพื่อที่จะได้รับเซรั่มที่สำคัญ แผนการที่ยาวนานต่อไปนี้ เขาจึงตัดสินใจที่จะออกไปลงมือด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตามเพราะเวลาในการออกเดินทางครั้งนี้จะค่อนข้างใช่เวลาพอสมควร ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ไฮดราที่นี่ถูกคนอื่นชิงควบคุม เขาจึงใช้เวลาหลายเดือนในการเสริมสร้างการควบคุมไฮดรา ทำให้หลายคนที่ต่อต้านต่างก็ถูกกำจัดอย่างลับๆ หรือถูกส่งไปยังฐานที่ถูกทิ้งในยุโรป
ส่วนคนที่ยังอยู่ในนอร์เวย์ต่างก็เป็นคนที่ภักดีต่อเขา อย่างบ้าคลั่ง และยิ่งเมื่อพวกเขาได้เห็น เฉินโม่ทดสอบความสามารถของตัวเอง พวกเขาที่ได้เห็นเองกับตาถึงความสามารถที่เหนือมนุษย์ของเฉินโม่ จึงยิ่งคลั่งไคล้มากกว่าขึ้นกว่าเดิม บางคนถึงกับบูชาเฉินโม่ในฐานะพระเจ้า
ในช่วงเวลาที่ปรับเปลี่ยนบุคลากรนี้ เขาเองก็ไม่ได้ไม่ได้อยู่เฉยๆ เพราะมีอาวุธต่างๆมากมายอยู่ภายในฐานแห่งนี้ ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาว่างในการฝึกการยิงปืน ทั้งปืนพกปืนไรเฟิล และปืนซุ่มยิง ด้วยความสามารถในการเรียนรู้ที่รวดเร็วทำให้ความคืบหน้าในการเรียนรู้การยิงปืนของเขาก้าวหน้าอย่างมาก จนตอนนี้ทักษะการยิงของเขาไม่ได้ด้อยกว่าทหารคนใดในฐานแห่งนี้
แต่ปืนที่เขามุ่งเน้นที่สุดก็คือปืนพก เพราะปืนพกมีความยืดหยุ่นสูงใช้งานได้จริง และยังใช้เวลาในการเปลี่ยนแม็กได้ในเสี้ยววิจึงทำให้มีอำนาจในการยิงแบบแทบไม่มีที่สิ้นสุด
ส่วนปืนพกที่เขาเลือกก็คือ m1911 ที่ใช้งานง่ายทั้งทรงพลัง และมีเสถียรภาพในการใช้งาน ทักษะปัจจุบันของเขาสามารถยิงเข้าจุดสำคัญของเป้าหมายที่เคลื่อนที่ภายในระยะ 50 เมตรได้อย่างแม่นยำ
ดังนั้นตอนนี้นอกจากมีดบินในพื้นที่แล้ว เขาก็ยังมีกองอาวุธปืนมากมายภายใน
ส่วนทำไมเขาไม่ทิ้งมีดบินไป เพราะในการลอบสังหารอย่างเงียบ ๆ มีดบินสามารถใช้งานได้ดีกว่าปืนพก แต่มีดบินก็ไม่ใช่อย่างเดียวที่ใช้ได้ เพราะส้อมตะเกียบปากกาเหรียญหรือแม้แต่กิ่งไม้ก็สามารถกลายเป็นอาวุธสังหารได้หากมาอยู่ในมือของเฉินโม่
ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของเขา มีดบินแบบเดิมๆนั้นเบาเกินไปสำหรับเขาแล้ว และหลังจากที่พื้นที่ขยายแล้วก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาขนาดมีดบิน ดังนั้นเขาจึงสร้างมีดบินใหม่ที่ทำจากโลหะผสมพิเศษซึ่งมีความยาว 25 ซม. และกว้าง 3 ซม. ความหนา 5 มม. น้ำหนัก 200 กรัมไม่ว่าจะใช้ขว้างหรือใช้เป็นกริชก็สะดวกกว่ามีดบินรุ่นแรก ดังนั้นเขาจึงพอใจกับมีดบินใหม่นี้มากจนสร้างมีดบินนี้หลายร้อยเล่มเก็บไว้ในพื้นที่เพื่อพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา
ส่วนดาบเงินยาวที่เขาได้มาจากโบสถ์นั้น เขาก็ได้ส่งคนไปตรวจสอบ และหลังจากการเปรียบเทียบข้อมูลตามตำนานต่างๆสรุปได้ว่าดาบเล่มนี้น่าจะเป็นดาบในตำนานของราชาอาเธอร์
ตามตำนานเล่าว่าดาบเดิมของราชาอาเธอร์ได้หักลงระหว่างการต่อสู้ แต่ต่อมาก็ได้ดาบใหม่จากพ่อมดเมอร์ลิน ส่วนเหล็กที่ใช้ทำดาบใหม่พ่อมดบอกว่าได้รับมาจากเทพธิดาองค์หนึ่งในทะเลสาบอีกทีหนึ่ง
แต่ก่อนที่ราชาอาเธอร์จะสิ้นพระชนม์เขาได้สั่งให้อัศวินโต๊ะกลมโยนดาบนี้ลงไปในทะเลสาบ แต่เบดเวลไม่เต็มใจที่จะโยนมันทิ้งไปดังนั้นเขาจึงโกหกราชาอาเธอร์ว่าเขาได้ขว้างมันทิ้งไปแล้ว และหลังจากที่ราชาอาเธอร์ได้ทราบรายงานจากเบดเวล เขาก็หลับตาและสิ้นพระชนม์ในที่สุด
ดาบเล่มนี้มีความสอดคล้องกับคำอธิบายในประวัติศาสตร์ทั้งในแง่รูปร่าง และลักษณะเฉพาะ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่า เบดเวล ไม่ได้โยนมันลงไปในทะเลสาบในตอนนั้นจริงๆ หรือมีคนแอบไปเอาอาบเล่มนั้นออกมาจากทะเลสาบในเวลาต่อมา จนท้ายที่สุดมันก็ตกมาอยู่ในมือของราชวงศ์นอร์เวย์
และตอนนี้ดาบในตำนานของราชาเล่มนี้ก็ได้ตกมาอยู่ในมือของเฉินโม่ การที่บอกว่าดาบเล่มนี้เป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ในตำนานก็คงไม่เกินจริงนัก เพราะดาบเล่มนี้สามารถตัดเสาเหล็กหนาๆได้อย่างง่ายดาย โดยที่ใบมีดไม่ได้รับความเสียหายใดๆทั้งสิ้น
ดร.โซลาร์ได้ศึกษาข้อมูลของมันไม่และได้ข้อสรุปว่ามันใช่องค์ประกอบโลหะที่มีอยู่บนโลก ดังนั้นมันน่าจะเป็นอุกกาบาตที่ตกลงไปในทะเลสาบตามที่พ่อมดเมอร์ลินได้พบ วัสดุอุกกาบาตนี้ทรงพลังอย่างมาก ทั้งในแง่ความแข็ง และความเหนียว มากเกินกว่าโลหะผสมทั้งหมดในปัจจุบันที่จะเทียบได้ เฉินโม่ เดาว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นโลหะไวเบรเนี่ยมชนิดหนึ่ง ที่คล้ายกับโลหะผสมของ ไวเบรเนี่ยม และ อดาแมนเที่ยม และมันอาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ
ตอนนี้เขาชอบดาบเล่มนี้มาก เพราะมันทั้งใช้งานง่ายมากและแข็งแกร่งอย่างมาก
กันยายน 2485
บรุกลิน นิวยอร์ก
คนเดินเท้าไปมาบนท้องถนนในตอนเช้า จู่ๆก็พบว่ามีศูนย์ศิลปะการต่อสู้แบบจีนมาเปิดที่ริมถนน
ที่ตั้งศูนย์ศิลปะการต่อสู้ที่เพิ่งเปิดใหม่นี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย และมีทั้งคนที่มุ่งร้ายและโล�
เพราะมันตั้งอยู่ในอาคารสามชั้นสำหรับครอบครัวเดี่ยว ที่มีพื้นที่ภายในขนาดใหญ่และยังใกล้กับถนนหลัก ทำให้มันมีราคาแพงอย่างมาก แต่ตอนนี้อาคารทั้งหลังกลับถูกเปลี่ยนให้เป็นศูนย์ศิลปะการต่อสู้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเจ้าของใหม่รวยอย่างมาก ในยุคนี้การที่ชาวจีนมีความมั่งคั่งมากมายก็เป็นเหมือนแกะอ้วนในสายตาของหลาย ๆ คนอย่างไม่ต้องสงสัย
เวลานี้ในศูนย์ศิลปะการต่อสู้ เฉินโม่กำลังฝึกอยู่ในห้องซ้อม กับชายร่างท้วมหลายคนที่สวมเสื้อคลุมซอมซ่อ
ทักษะของหลาย ๆ คนนั้นแข็งแกร่งกว่าเฉินโม่อย่างเห็นได้ชัด แต่พวกเขากลับถูกกดโดยเฉินโม่ที่มีพลังมากกว่า ทำให้พวกเขาไม่สามารถปราบเฉินโม่ลงได้
เฉินโม่สกัดหมัดของคู่ต่อสู้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็ชกเข้าที่หน้าท้อง จนชายคนนั้นลงไปนอนกองกับพื้น
ตอนนี้นอกจาก เฉินโม่ แล้วก็ไม่มีใครสามารถยืนอยู่ได้
(สมบูรณ์)