ตอนที่ 6: ชมิธ (สมบูรณ์)

ตอนที่ 6: ชมิธ

ในโลงหินมีโครงกระดูกที่ผุพัง

ในมือข้างนึงถือดาบยาว ส่วนอีกด้านก็ถือลูกบาศก์คริสตัลใส

แต่เมื่อสายตาของเขากวาดไปเห็นสิ่งหนึ่งลูกตาดำของชมิธที่ก็หดตัวลงในทันที เพราะในโลงศพนี้ยังเต็มไปด้วยระเบิด!

ทหารที่เห็นระเบิดด้วยก็รีบผลักสมิธหลบไปทันที แต่ก็ยังคงสายเกินไป

"บูม!" เสียงระเบิดดังสนั่น ตัวโบสถ์สั่นไปมาอย่างรุนแรง และตามมาด้วยไฟอันร้อนแรงกับควันพวยพุ่งออกมาจากโบสถ์ทุกทิศทุกทาง

แม้ชมิธจะพยายามหลบ แต่ก็ไม่ทันเขาถูกเปลวไฟของระเบิดกลืนไปทั้งตัว ตามมาด้วยคลื่นกระแทกอันทรงพลัง ที่พัดชมิธกระเด็นออกไปพร้อมกับหน้ากากที่ถูกฉีกขาด เผยให้เห็นใบหน้าสีแดงเลือดอย่างสมบูรณ์ ทำให้ได้รู้ว่าชายคนนี้เป็นผู้นำของไฮดรา โยฮันน์ ชมิธ

ชมิธกระแทกเข้ากับผนังโบสถ์อย่างแรง และยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้เพราะแรงระเบิดนี้ก็ยังได้พัดพาเศษหินจากโลงศพ ปลิวพุ่งเข้ามายังร่างของชมิธ จนทำให้เลือดไหลออกมาตามบาดแผล จนรวมตัวกันเป็นแอ่งเลือดที่พื้นอย่างรวดเร็ว

หลังการระเบิด จู่ๆก็มีร่างของคนคนหนึ่งร่วงลงมาจากด้านบนของโบสถ์ และตามมาด้วยแสงสีเงินกะพริบ มันคือมีดบิน! และมีดบินนี้ก็แทงเข้าที่ลำคอของ ชมิธ เข้าอย่างจัง!

หลังถูกระเบิดกับเศษหินโจมตีก่อนหน้านี้ ชมิธ ก็ทำได้เพียงนอนอยู่บนพื้นอย่างอ่อนแรงแต่อย่างน้อยเขาก็ยังรอดมาได้ แต่เขาโล่งใจได้ไม่นานเพราะจู่ๆ เขาก็ถูกโจมตีด้วยมีดบิน ทำให้เลือดพุ่งออกมาจากคอ

ชมิธที่เสียเลือดไปเยอะก็เริ่มรู้สึกเวียนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก่อนที่จะตายเขาอยากจะเห็นหน้าของคนที่มันมาฆ่าเขา และเมื่อเขาพยายามยกหัวขึ้นไปมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

เขาก็กลับต้องตกใจ!

เพราะคนตรงหน้าเขาสวมชุดเหมือนกับตัวเขาเอง และแม้แต่ใบหน้าก็ยังเหมือนเขาทุกประการ

ชมิธคิดถึงแผนของอีกฝ่ายได้ในทันที ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าต้องการที่จะฆ่าเขาและเข้ามาแทนที่

แต่ก็น่าเสียดายที่ถึงแม้ว่าชมิธจะรู้แผนแล้วมันก็ไม่ช่วยอะไร เพราะเฉินโม่ ขว้างมีดบินอีกสองเล่มมาหา

เขาวางแผนมาขนาดนี้แล้วเขาจะให้โอกาสอีกฝ่ายรอดไปได้อย่างไร?

เมื่อ ชมิธ ต้องเผชิญกับมีดบินที่กำลังพุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว เขาก็พยายามที่จะหลบมัน แต่เพราะเขาเวียนหัวอย่างแรง จึงทำให้ร่างกายตอบสนองได้ช้า มีดบินทั้งสองเล่มแทงเข้าไปที่ดวงตาทั้งสองข้าง และยังทะลุเข้าไปในสมอง

บอสจอมวายร้ายที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้เพิ่งปรากฏตัว แต่ก่อนที่จะได้พูดมากกว่านี้ ก็ถูกเฉินโม่ฆ่าอย่างง่ายดาย ในความเป็นจริงไม่ใช่ว่าชมิธอ่อนแอเกินไป แต่เป็นเพราะเฉินโม่คุ้นเคยกับพล็อต ดังนั้นเขาจึงตั้งกับดัก

ตัวชมิธเองก็คงไม่มีทางคิดอยู่แล้วว่า ในคริสตจักรที่ตั้งอยู่ในที่ห่างไกลขนาดนี้ จะมีคนวางกับดักระเบิดรอเขา แต่แค่ตัวระเบิดเองนั้นไม่สามารถฆ่าเขาได้อยู้แล้ว ดังนั้นเฉินโม่ จึงมีแผนสอง นั่นก็คือการใช้มีดบินปลิดชีพ

ตอนนี้ ชมิธ มีทั้งความไม่เต็มใจและความแค้นอย่างสุดซึ้ง จากนั้นร่างของ ชมิธ ก็ตกลงไปที่พื้นทำให้ฝุ่นปลิวไปทั่ว เพื่อประกาศถึงจุดสิ้นสุดของชมิธตัวจริง และเรื่องราวในอนาคตต่อจากนี้ไป เฉินโม่จะเขียนแทนเอง!

ก่อนที่จะเกิดแผนนี้ เฉินโม่ได้เห็นภาพถ่ายของ โฮเวิร์ด สตาร์ค ในหนังสือพิมพ์ซึ่งหน้าตาของโฮเวิร์ดคนนี้ เหมือนกับในหนัง ที่เขาเคยดูมาก่อน จึงทำให้เขากล้าเดาอย่างกล้าหาญว่าตัวละครหลักอื่น ๆ ก็น่าจะเหมือนกัน ดังนั้นเขาผู้ซึ่งรู้พล็อตต่างๆอย่างชัดเจน จึงเกิดแผนที่กล้าหาญนี้ในการสังหารชมิธ และสวมรอยเข้ามาแทนที่

ศพของชมิธถูกเก็บเข้าสู่พื้นที่ จากนั้นเขาก็ไปตรวจเช็กอีกครั้งว่ามีใครรอดไหม หลังเช็คแล้วสรุปได้ว่าทุกคนในโบสถ์แห่งนี้ตายกันทุกคน ดังนั้นต่อจากนี้ไปก็จะไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เมื่อควันของระเบิดค่อยๆสลายไป ทหารไฮดรากลุ่มหนึ่ง ก็รีบพุ่งเข้ามา

เมื่อทหารเห็นเฉินโม่ยืนอยู่พวกเขาก็ทำความเคารพทันที และไม่มีใครกล้าถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าชมิธขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายอย่างมาก ดังนั้นถ้าชมิธไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีใครกล้าถามเพราะพวกเขาจำแค่ต้องตามคำสั่งเท่านั้น

เฉินโม่พยักหน้าด้วยความพอใจ ดูเหมือนว่าชมิธจะสร้างไฮดรามาดี ดังนั้นมันจึงช่วยแก้ปัญหาเขาได้หลายอย่าง

จากนั้นเขาก็หันไปมองที่ผนังโบสถ์โดยไม่สนใจทหารพวกนี้ การระเบิดอย่างรุนแรงทำให้ภายในโบสถ์ยุ่งเหยิงไปหมด ภาพจิตรกรรมฝาผนังก็ยังแตก

เฉินโม่เดินมาถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังต้นไม้โลก เขาพบงูยักษ์ ที่เกาะอยู่ที่รากของต้นไม้ และกดไปที่ดวงตาของงู จากนั้นกล่องไม้ก็โผล่ออกมา

เฉินโม่ค่อยๆเปิดกล่องอย่างช้าๆ จากนั้นแสงสีน้ำเงินพราวก็ส่องแสงออกมาจากกล่อง

ภายในกล่องนี้มีก้อนสีเหลี่ยมสีฟ้าอยู่ข้างใน และภายในก้อน ๆ นี้ดูเหมือนว่าจะมีดวงดาวที่ไม่มีที่สิ้นสุดทั้งสวยงาม และดูเหมือนจะว่ามีความลึกลับไม่สิ้นสุด ทำให้ผู้คนที่ได้เห็นมันไม่อาจละสายตาออกจากมันไปได้

สิ่งนี้ก็คือลูกบาศก์จักรวาลที่มีอินฟินิตี้ สโตนส์ อยู่ภายใน เฉินโม่ฟื้นจากอาการหลงไหล และหันหลังเดินกลับออกไป แต่ทันใดนั้นก็มีแสงสีเงินที่สว่างวาบผ่านมุมตาของเขา

เขาหันไปมองทันที และได้เห็นว่าที่หัวมุมมีดาบยาวสีเงินที่ถูกเสียบลึกเข้าไปในเสาหิน ส่วนปลายดาบก็ทะลุเสาหินโผล่ออกมาอีกด้านของเสา

เขาเดินตรงไปที่เสาหินจับด้ามดาบ แล้วดึงมันอย่างแรง หลังเกิดเสียงเสียดสี ดาบก็ถูกดึงออกมา

นี่คือดาบสองมือที่มีความยาวใบมีดเกือบหนึ่งเมตรแค่ตัวด้ามยาวก็มากกว่า 20 เซนติเมตร รูปทรงดาบเป็นแบบไม้กางเขนมีน้ำหนักค่อนข้างมาก เขาไม่รู้ว่ามันสร้างขึ้นมาจากวัสดุอะไร เพราะมันทั้งหนักและคมมากกว่าเหล็กปกติ แถมยังไม่เป็นสนิม แต่น้ำหนักแค่นี้สำหรับเขามันไม่ได้หนักเลยสักนิด

เขาถือดาบด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ แล้วก็ตัดเสาหินจนขาดได้อย่างง่ายดาย

ดูเหมือนว่าดาบของกษัตริย์ในโลงศพนี้น่าจะมีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดา สงสัยเขาคงต้องใช้เวลาศึกษามันทีหลัง

แผนการแทนที่ ชมิธ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีและยังได้ลูกบาศก์จักรวาล แถมยังได้กำไรที่ไม่คาดคิดอีก ดังนั้นเขาจึงเดินออกจากโบสถ์อย่างอารมณ์ดี

หลังเดินออกมาเขาก็เห็นรถถังขนาดใหญ่ เขาต้องชื่นชมว่าระดับเทคโนโลยีของไฮดรานั้นล้ำยุคจริงๆ และตอนนี้ทั้งหมดนี้ก็กลายเป็นของเขาแล้ว

เวลาทั้งหมดของเขาก่อนหน้านี้ ถูกใช้ไปกับการปรับปรุงความสามารถของตัวเองโดยไม่สนใจบทบาทของอำนาจจนกระทั่ง ปู่ของเขา บาดเจ็บสาหัส ตอนนั้นเองที่เขาตื่นขึ้นมา

การเป็นคนที่แข็งแกร่งมันก็ดี แต่เมื่อไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอำนาจมากพอ บางทีมันก็ยากที่จะบรรลุเป้าหมายบางอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว ถ้าก่อนหน้านี้เขามีอำนาจมากอย่างตอนนี้ โจวเทียนห่าวจะกล้าทำอย่างนั้นได้อย่างไร

ดังนั้นความคิดที่จะสร้างอำนาจของตัวเองจึงฝังรากลึกอยู่ในหัวใจของเขาตั้งแต่นั้นมา ดังนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้เขาคิดที่จะแทนที่ ชมิธ

การควบคุมไฮดรานี้ ช่วยให้แผนต่อไปในการสร้างกองกำลังของตัวเองในโลกแห่งความจริงได้อย่างมาก

(สมบูรณ์)