บทที่ 193
พายุกรรโชกโหมกระหน่ำ หิมะปลิวว่อนเต็มท้องฟ้า ปกคลุมต้นไม้ใหญ่จนขาวโพลนประดุจดั่งภาพวาด ร่างกายสัมผัสความหนาวเย็นจนต้องโคจรลมปราณและดื่มสุราขจัดความหนาว เสียงสัตว์อสูรร้องคำรามข้ามเขาหลายลูก ภายในเมืองหลวงเด็กน้อยสวมชุดกันหนาวที่ทำจากขนสัตว์ ต่างออกมาวิ่งเล่นท่ามกลางหิมะ หลายคนปั้นก้อนหิมะเป็นรูปร่างต่างๆ ด้านหน้าสำนักพยัคฆ์ขาวมีเหล่าศิษย์สำนักและกลุ่มต่างๆยืนอยู่เต็มบริเวณ ชั่วน้ำเดือดชายชราสวมชุดสีขาวหน้าตาหล่อเหลาผมสีดอกเลา รูปร่างสูงโปร่ง เดินนำหน้าเข้ามาพร้อมผู้อาวุโสติดตามอีกนับสิบคนออกมาที่ด้านหน้า
“คารวะท่านเจ้าสำนักและผู้อาวุโส”
เสียงเอ่ยวาจาคารวะดังสนั่นไปทั่วบริเวณ หลายคนจดจ้องมาที่เจ้าสำนักหลิวปัง ตอนนี้กลุ่มของเนี่ยฟงใหญ่โตไม่น้อยโดยรวมกับกลุ่มของฟางจวินซีศิษย์สำนักวารีสวรรค์ และกลุ่มของจงเหรินป้าศิษย์สำนักพยัคฆ์สายลม ส่วนกลุ่มขององค์ชายสี่หาได้เข้าร่วมในภารกิจในครั้งนี้ เกือบหนึ่งเค่อที่เจ้าสำนักเอ่ยวาจาปลุกใจไม่นานทั้งหมดก็ออกเดินทาง โดยแต่ละกลุ่มทางสำนักจะมอบนกยักษ์สำหรับเดินทางโดยจะมีผู้อาวุโสนำทางสองคน ทั้งหมดออกเดินทางขึ้นไปทางเหนือ เกือบชั่วยามทั้งหมดก็ลงมาลานกว้างขนาดใหญ่ที่ราบลุ่มใต้เขา
ผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะได้รับป้ายหินสำหรับเข้าพื้นที่ มีผู้อาวุโสสามคนด้วยกันที่เป็นผู้ใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์ใช้พลังปราณเปิดวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดง เนี่ยฟงหันไปมองรอบด้าน พบเห็นหลายคนจ้องมองมาทางตนอยู่ไม่น้อย จึงเอ่ยวาจาแจ้งแก่หยางเวยที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“หยางเวย แจ้งคนของกลุ่มเราหากพบเจอผู้คนน่าสงสัยให้ระวังตัวเอาไว้ ภารกิจในครั้งนี้ไม่แน่เราอาจจะต้องปะทะกับคนเกือบครึ่งที่อยู่ที่นี่”
“เหอะ หวังว่าจะเป็นจริงดั่งที่เจ้ากล่าวออกมา หวังว่าคนพวกนั้นจะนำสมบัติติดตัวมาไม่มากก็น้อย”
เนี่ยฟงได้แต่ยกยิ้มให้หยางเวย หลังจากหยางเวยแจ้งข่าวมีหลายคนด้วยกันเริ่มที่จะมีอาการหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงถูกแก้ไข เสียงป่าวประกาศดังลั่นไปทั่วบริเวณ หลายคนพุ่งทะยานหายเข้าไปในวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดง กลุ่มของเนี่ยฟงเองก็เช่นกันหลังจากผ่านไปเกือบยี่สิบลมหายใจก็เริ่มเคลื่อนไหว วูป ทั้งหมดถูกส่งตัวผ่านวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏอยู่บริเวณลานกว้างใกล้แม่น้ำใหญ่ เสียงคำรามของสัตว์อสูรดังสนั่นไปทั่วบริเวณ เสียงสะบัดมือดังลั่นหลายคนต่างกำชับอาวุธคู่ใจในมือแน่น เสียงย้ำเท้าหนักๆก้าวเดินเข้ามา พร้อมกับกลิ่นเหม็นสาบโชยมาตามลม
สัตว์อสูรรูปร่างสูงใหญ่คล้ายจระเข้ตัวสีดำทมิฬด้านหลังมีหนามแหลมสีดำ หางของมันมีลักษณะเป็นลูกตุ้มมีหนามขนาดใหญ่ มันก้าวเดินออกมาจากด้านข้างของชายป่าจ้องมองพวกเนี่ยฟงด้วยดวงตาสีแดงก่ำ หยางเวยเอ่ยวาจาออกมาพร้อมกับโคจรลมปราณเอาไว้ที่มีดอันแปลกประหลาด
“แม่นางเสี่ยวจู ฝากจัดการรอบๆด้วยขอรับ”
สิ้นเสียงกล่าวหยางเวยก็ถีบเท้าพุ่งทะยานเข้าหาอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงหันไปมองจงเหรินป้าและฟางจวินซี
“รบกวนพวกท่านเฝ้าดูรอบนอก มีสัตว์อสูรอีกหลายตัวแอบซุ่มอยู่ ส่วนตัวนี้ข้าและหยางเวยจัดการเอง”
เสียงสะบัดมือขวากำชับดาบสีดำในมือ เกราะสายฟ้าปรากฏออกมาหมุนวนรอบกาย เสียงปราณมีดสีม่วงปะทะร่างกายสัตว์อสูรเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เปรี้ยง เกราะสายฟ้าสามอันเข้าต้านรับหางลูกตุ้มขนาดใหญ่ที่ถูกฟาดหวดเข้าหาหยางเวย เปรี้ยง ดาบสีดำถูกซัดออกจากมือขวาพุ่งทะยานขึ้นฟ้า วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏออกมาที่พื้นใต้ลำตัวของสัตว์อสูร ไม่นานก็มีเถาวัลย์สีฟ้าพุ่งออกมารัดตัวสัตว์อสูรเอาไว้ หยางเวยเองเมื่อเข้าประชิดตัวเร่งโคจรลมปราณไปที่มีดวาดผ่านลำตัว เสียงคมมีดวาดผ่านเกราะอันแข็งแกร่งเสียงดังลั่น แต่ก็ต้องรับถีบเท้าออกมาเพราะแรงกดดันระดับสีดำขั้นกลางที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากสัตว์อสูร
“หยางเวยขึ้นไปที่ศีรษะของมัน”
หยางเวยพยักหน้าตอบรับเนี่ยฟงรีบเก็บมีดเอาไว้สวมใส่ถุงมือไหม ถีบเท้าพุ่งเข้าประชิดอีกครั้ง เนี่ยฟงสร้างเกราะสายฟ้าเป็นฐานเหยียบให้หยางเวย เถาวัลย์สีฟ้าดูดกลืนพลังปราณของสัตว์อสูรรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม ดาบสีดำพุ่งลงมาจากฟ้าจ้วงแทงไปที่ลำตัวด้านหลังจนมิดด้าม เลือดสีแดงพุ่งกระฉูดสัตว์อสูรร้องคำรามเสียงดังสนั่น พ่นก้อนน้ำขนาดใหญ่เข้าหาหยางเวยที่พุ่งทะยานเข้ามา เปรี้ยง เพราะสายฟ้าปรากฏออกมาต้านรับได้อย่างทันท่วงที ส่วนพวกจงเหรินป้าและฟางจวินซีก็แบ่งกันเข้าปะทะกับสัตว์อสูรจระเข้ตัวเล็กหลายสิบตัว โดยมีเถาวัลย์สีเขียวมีหนามแหลมของเสี่ยวจูช่วยจัดการ
หยางเวยทันทีที่เหยียบที่ศีรษะของสัตว์อสูรได้ ก็หาได้สนใจสิ่งใด ระเบิดพลังปราณสีดำขั้นต้นออกมา กระหน่ำต่อยหมัดทั้งซ้ายและขวาไปที่ศีรษะ ก่อนหมัดเข้าปะทะมีวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าขนาดเล็กปรากฏออกมา เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เนี่ยฟงสะบัดมือขวาบังคับดาบสีดำพุ่งทะยานออกมาจากด้านหลังสัตว์อสูรใช้มือขวาคว้าจับพุ่งไปทางส่วนหาง คมดาบสีดำวาดผ่านส่วนหาง ฉับ ส่วนหางที่เป็นลูกตุ้มหนามถูกฟันจนขาดกระเด็นร่วงลงพื้น เสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
เกือบชั่วยามทั้งสองก็จัดการสังหารสัตว์อสูรได้ หยางเวยถึงกับต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เพราะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงของสัตว์อสูร ส่วนคนที่เหลือก็จัดการสัตว์อสูรที่เหลือลงจดหมดหาได้มีใครได้รับบาดเจ็บ เพราะได้รับการช่วยเหลือจากเสี่ยวจูและฟางจวินซีที่อยู่รอบนอก ไม่นานทั้งสองก็จัดการแบ่งแก่นพลังปราณและเนื้อสัตว์อสูร หยางเวย เนี่ยฟงและเสี่ยวจู รับเพียงเนื้อสัตว์อสูรเท่านั้นหาได้รับแก่นพลังปราณ หลังจากจัดการทุกอย่างรวมไปถึงทานอาหารจนอิ่ม จงเหรินป้าและหยางเฟยก็นำกลุ่มของตนออกสำรวจบริเวณใกล้เคียง
ระหว่างนั้นเองฟางจวินซีเองก็ได้ให้เนี่ยฟงและเสี่ยวจูจัดการระบบในกลุ่มของตนใหม่ โดยจะให้กลุ่มของฟางจวินซีโจมตีรอบนอกคอยช่วยเหลือกลุ่มของจงเหรินป้าที่ส่วนใหญ่เน้นเข้าปะทะ เกือบสามเค่อก็ได้ยินเสียงการปะทะเสียงดังสนั่นใกล้เข้ามา เนี่ยฟงยกมือชี้นิ้วขึ้นฟ้าหลายคนเมื่อพบเห็นก็แยกย้ายออกไปรอบๆ ไม่นานก็เห็นจงเหรินป้า หยางเฟยพร้อมกับศิษย์สำนักวิ่งหนีการตามล่าเข้ามาในบริเวณ ปราณฝ่ามือสีแดงและปราณดาบปลิวว่อนติดตามมาจากด้านหลัง พร้อมกับเสียงหัวเราะด้วยความสะใจติดตามมาด้วยเช่นกัน
เนี่ยฟงสะบัดแขนขวาสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าไว้ที่พื้นด้านหน้า บริเวณเส้นทางที่พวกจงเหรินป้าพุ่งทะยานเข้ามาเช่นเดียวกับเสี่ยวจูเองก็สร้างเอาไว้เช่นกันแต่เป็นบริเวณรอบนอก ทันทีที่พวกจงเหรินป้าพุ่งทะยานผ่านไปมีกลุ่มชายฉกรรรจ์แปดคนพุ่งติดตามมาพร้อมกับฟาดฟันดาบในมือแล้วซัดฝ่ามือออกไปหวังทำร้ายพวกจงเหรินป้า เนี่ยฟงแสยะยิ้มหันไปมองหยางเวย
“หยางเวยสังหารให้หมด”
หยางเวยยกยิ้มยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาถู ถีบเท้าพุ่งทะยานออกไปขว้างพวกคนทั้งแปดเอาไว้พร้อมกับเร่งโคจรลมปราณระเบิดพลังปราณพิษออกมา ตูม ควันสีม่วงฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เถาวัลย์สีฟ้าและสีเขียวพุ่งหายเข้าไปในกลุ่มควันสีม่วง หยางเวยกำหมัดในมือแน่น พุ่งหายเข้าไปในกลุ่มควันด้วยเช่นกันเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังลั่นออกมา พร้อมกับเสียงหมัดปะทะร่างกายดังสนั่น เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ไม่ถึงสิบลมหายใจหยางเวยรีบถีบเท้าถอยออกมา เถาวัลย์สีเขียวสามเส้นถูกทำลายลง ปราณฝ่ามือสีแดงพุ่งติดตามหนางเวยออกมา เนี่ยฟงสะบัดมือขวาเกราะสายฟ้าปรากฏออกมาต้านรับปราณฝ่ามือสีแดง เปรี้ยง
หยางเวยยกยิ้มหันไปมองเนี่ยฟง พร้อมกับเก็บถุงมือไหมเอาไว้กำชับมีดอันแปลกประหลาดไว้ในมือ ชายหนุ่มสามคนพุ่งทะยานออกมาจากกลุ่มควันสีม่วงซัดฝ่ามือเข้าหาหยางเวย ปราณฝ่ามือสีแดงสามฝ่ามือพุ่งเข้าหา หยางเวยกำชับมีดในมือแน่นฟาดฟันออกไป ปราณมีดสีม่วงพุ่งทะยานเข้าปะทะ เปรี้ยง ทำลายสามปราณฝ่ามือจนสิ้น หยางเวยพุ่งเข้าปะทะชายฉกรรจ์ทั้งสามเกือบสองเค่อ หยางเวยก็แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พิษร้ายเริ่มแสดงอาการชายฉกรรจ์ทั้งสามเริ่มมีอาการผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด คมมีดวาดผ่านศีรษะชายฉกรรจ์ทั้งสาม เลือดสีแดงพุ่งกระฉูด ศีรษะกระเด็นร่วงลงพื้นสายลมพัดกลุ่มควันสีม่วงจางหายชายฉกรรจ์ห้าคนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น