ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2: เครื่องบินตก (สมบูรณ์)

ตอนที่ 1: การแก้แค้น! (สมบูรณ์)


ตอนที่ 1: การแก้แค้น

เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกเครื่องบินโบอิ้ง 747 สีขาวกำลังบินอย่างราบรื่นที่ระดับความสูง 10,000 เมตร

ในห้องโดยสารผู้โดยสารส่วนใหญ่หลับไปนานแล้ว

เฉินโม่นั่งในตำแหน่งริมหน้าต่างมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ

ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตดูบึกบึนและดวงตาแหลมคมที่สะท้อนแสงจากช่องหน้าต่างทำให้สองสาวในที่นั่งถัดไปแอบมองและกระซิบกระซาบ

ในจุดที่ที่ทั้งสองสาวมองไม่เห็นมีไฟแช็กสีเงินที่ไม่ควรผ่านเครื่องตรวจสอบความปลอดภัยกลับปรากฏบนเครื่องบินลำนี้ในมือของเฉินโม่เป็นครั้งคราวและหายไป

นี่คือเที่ยวบินจาก บินไห่ ไปยังลอสแองเจลิส ผู้โดยสารบนเครื่องส่วนใหญ่จะเดินทางไปเที่ยวหรือเดินทางเยี่ยมญาติ แต่เขาเฉินโม่กำลังหลบหนี!

ครึ่งเดือนที่แล้วเฉินจิงเต๋อปู่ของเขาได้ออกไปเดินเล่นตอนกลางคืน แล้วได้เห็นรถฝ่าไฟแดงชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังอุ้มลูกสาวเดินข้ามถนน จนล้มลงไปนอนกับพื้นอย่างแน่นิ่ง!

ลูกของผู้หญิงคนนั้นก็ได้รับบาดเจ็บ นอนร้องให้อยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด แต่เมื่อเด็กคนนั้นได้เห็นแม่ของเธอที่นอนแน่นิ่งไม่ขยับเธอก็ตกใจกลัวจนกรีดร้องเสียงดัง

ในเวลานี้ รถหรูลดหน้าต่างลงทำให้ผู้คนได้เห็นว่าคนขับเป็นชายวัยกลางคนที่ใส่ชุดสูทดูเหมือนคนชนชั้นสูงที่ประสบความสำเร็จในการงาน แต่ใบหน้าของชายคนนี้กลับเป็นสีแดงจากแอลกอฮอล์

"รนหาที่ตาย! ไม่มีตากันรึไง!" ชายคนนี้ด่ากราดอย่างป่าเถื่อนเพราะความเมา

ก่อนหน้านี้ชายคนนี้ที่ชื่อโจวเทียนห่าวเพิ่งไปเข้าร่วมงานเลี้ยงมา จากนั้นโจวเทียนห่าวก็ทิ้งบอดี้การ์ดแล้วขับรถออกมาคนเดียวไปตามถนนอย่างมีความสุข

โจวเทียนห่าวที่ตอนนี้ถูกขัดจังหวะก็ไม่มีความสุขทันที เขาเหยียบคันเร่งและกำลังที่จะขับออกไป เขาไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรที่จะชนใครสักคน อย่างมากเขาก็แค่เสียเงินนิดหน่อย

"นายจะทำอะไร!" เฉินจิงเต๋อหยุดอยู่หน้ารถและพูดอย่างโกรธ  “คุณคิดจะหนีเหรอคุณพึ่งชนคนนะ!”

โจวเทียนห่าวที่เห็นใครบางคนมายืนขวางหน้ารถ เขาก็ตะโกนอย่างโกรธทันที "ไอ้แก่! หลบไปเดี๋ยวนี้! ฉันไม่มีเวลามาเสียเวลากับแก!"

พอพูดเสร็จเขาก็เหยียบคันเร่งค่อยๆพุ่งไปข้างหน้า

แต่เฉินจิงเต๋อไม่หลบ เขายอมรับกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้

"หยุดรถเดี๋ยวนี้!"

เมื่อเห็นว่าเฉินจิงเต๋อยังยืนขวางอยู่ที่หน้ารถโจวเทียนห่าวที่มีอาการเมาก็โกรธขึ้นมา

“ไม่ถอยใช่ไหมได้ ดี! ฉันจะให้แกไปนอนคุยกับถนนด้วยอีกคน!”

รถคำรามเสียงดังและพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

เฉินจิงเต๋อที่ไม่ทันได้หลบก็ถูกชนล้มหัวฟาดพื้นอย่างแรงแล้วก็หมดสติไป

"ฮ่า ๆ ! ไอ้แก่!อวดดีนักตายๆไปซะ!"

เมื่อเห็นเฉินจิงเต๋อที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นโจวเทียนห่าวก็หัวเราะอย่างดุร้ายแล้วเหยียบคันเร่งและจากไป

เฉินโม่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้เขาไม่สามารถระงับเจตนาฆ่าของเขาได้!

ก่อนหน้านี้เมื่อเขาได้ยินเสียงตะโกนของปู่ของเขา เขาก็รีบวิ่งมาและได้เห็นว่าปู่ของเขายืนขวางที่หน้ารถ จากนั้นเขาก็กำลังจะเข้าไปช่วยปู่ แต่ใครจะไปคิดว่ารถจะชนปู่อย่างกะทันหันทำให้เขาไม่สามารถตอบสนองได้ทัน เขาทำได้เพียงเฝ้าดูปู่ล้มลงแน่นิ่งไปกับพื้น

เขามองไปที่รถที่ขับออกไปด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นในมือของเขาก็มีมีดบินปรากฏขึ้นมา

โจวเทียนห่าวที่กำลังขับรถอยู่จู่ๆก็รู้สึกขนลุกไปทั่วร่างกายของเขาราวกับว่าเขาถูกจ้องมองโดยสิ่งที่น่ากลัว แต่ไม่นานความรู้สึกนี้ก็หายไป โจวเทียนห่าวก็รีบเร่งความเร็วออกไป

มีคนสองคนนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นและเด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งร้องไห้อยู่ข้างๆแม่ของตัวเอง เฉินโม่ระงับเจตนาฆ่าและเก็บมีดบิน

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาต้องรีบช่วยชีวิตคนก่อน บัญชีแค้นนี้เขาจะไปชำระในภายหลัง!

......

โรงพยาบาล

ในหอผู้ป่วยหนัก ไอซียู

หลังจากเสร็จสิ้นการผ่าตัดเฉินจิงเต๋อก็ถูกห่อด้วยผ้าก๊อซหนา ๆ ไปทั้งตัว และที่ร่างกายก็ถูกติดเต็มไปด้วยอุปกรณ์ตรวจสอบต่าง ๆ และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจไว้ในปาก

เฉินจิงเต๋อมีอาการกระดูกหักหลายจุดในร่างกาย และที่ร้ายแรงที่สุดก็คือมีอาการเลือดออกในสมองจึงทำให้เขากลายสภาพเป็นผัก แม้แต่การหายใจก็ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

ตอนนี้เป็นการใช้เงินเพื่อต่ออายุในห้องไอซียู ถ้าวันไหนเงินหมดขึ้นมาก็คงต้องถอดปลั๊ก และการที่ถูกถอดปลั๊กก็เท่ากับว่าเขาจะต้องตาย

มีค่าใช้จ่ายหลายพันหยวนต่อวันสำหรับห้องไอซียู และเงินในกระเป๋าของเฉินโม่ ไม่สามารถยื้อได้นานสักเท่าไหร่

แต่คดีที่ร้ายแรงขนาดนี้ศาลกลับปรับโจวเทียนห่าวแค่ไม่กี่หยวนทั้งที่จริงๆแล้วตามกฏหมายจะต้องโดนโทษประหารชีวิต นี่คือสิ่งที่เขารับไม่ได้ที่สุด หนี้เลือดต้องชดใช้!

บัญชีแค้นของเรามันควรจะถึงเวลาต้องชำระแล้ว!

......

สามวันต่อมา

เวลาตีสองเมฆมืดบดบังแสงจันทร์ทำให้คืนนี้มืดสนิท

วิลล่าสุดหรูของโจวเทียนห่าวตั้งอยู่ในเขตชานเมือง

ลมหนาวเย็นเล็กน้อยพัดกระทบยอดใบไม้

ในมุมอับเฉินโม่สวมชุดสีดำสวมหมวกแก๊ปและย่องมาใต้กำแพง

วิลล่านี้มีขนาดไม่เล็กและกำแพงสูงมากกว่าสี่เมตร ซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถปีนข้ามไปได้

เมื่อมองขึ้นไปที่กำแพงสูงเฉินโม่กดหมวกลงบังหน้า แล้วถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วก็วิ่งกระโดดข้ามกำแพง

ระหว่างลอยอยู่ในอากาศมีดบินก็ปรากฏขึ้นในมือ เขามองเห็นหมาพันธุ์ทิเบตันแมสสติฟฟ์ และหมาก็พบเขาเช่นกัน

"โฮ่ ง!"

หมาไม่ทันออกเสียง มีดบินก็เจาะเข้าที่ดวงตาแล้วก็ตัวกระตุก ล้มลงกับพื้น มีเลือดสีแดงผสมกับสมองสีขาวค่อยๆไหลออกมาจากเบ้าตาของหมา

เฉินโม่หันไปมองที่วิลล่า วิลล่ามีสามชั้นที่ห้องนั่งเล่นที่ชั้นหนึ่งมีแสงสว่างผ่านหน้าต่าง เขาเห็นคนสองคนนั่งอยู่บนโซฟาดูทีวี เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวเล็กน้อยเมื่อกี้ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้ตัว

ดึงมีดบินออกจากเบ้าตาของหมาแล้วก็เช็ดเลือดที่ติดกับมีดที่ขนหมา จากนั้นมีดบินก็หายไปจากมือของเขาอีกครั้ง

จากการสังเกตอย่างลับๆของเขา เป็นเวลาสองวันนอกจาก โจวเทียนห่าว ในวิลล่าแล้วควรจะมีบอดี้การ์ดมากกว่าหนึ่งโหล

ท้ายที่สุดเพราะว่าโจวเทียนห่าวได้ทำสิ่งเลวร้ายมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ต้องการชีวิตของมัน ดังนั้นโจวเทียนห่าวจึงระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของตัวเองมาก ทุกวันจะจัดให้มีบอดี้การ์ดสองคนคอยเฝ้าตอนกลางคืนที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่งรวมทั้งหมาทิเบตันแมสสติฟฟ์ในสนาม ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถแอบเข้าไปได้อย่างเงียบ ๆ โดยไม่ถูกตรวจพบ

เฉินโม่ ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดสังเกตทั้งวิลล่าอย่างระมัดระวังและในไม่ช้าเขาก็พบระเบียงที่มีประตูที่ชั้นสองที่ไม่มีคน

เมื่อเห็นคนทั้งสองในห้องนั่งเล่นยังดูทีวีอยู่ เฉินโม่ก็เดินมาที่ด้านล่างของระเบียงอย่างระมัดระวัง เงยหน้าขึ้นมองหาตำแหน่งที่จะกระโดด แล้วก็กระโดดขึ้นไปบนกำแพง คว้าขอบระเบียง ด้วยมือทั้งสองข้างแล้วดึงตัวเองขึ้นที่ระเบียง

จากนั้นเขาก็ค่อยๆเปิดประตูแล้วได้เห็นบอดี้การ์ดสี่คนในห้องที่นอนหลับสนิท

มีดบินปรากฏในมือของเขาอีกครั้ง

จากนั้นเขาก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาคนๆหนึ่งมือซ้ายปิดปาก และมือขวาก็เชือดคอ บอดี้การ์ดดิ้นได้เพียงสองครั้งและแน่นิ่งไป

เขาไม่มีความรู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อยกับการฆ่าคนครั้งแรกนี้ เพราะพวกบอดี้การ์ดเหล่านี้ที่ได้เงินเดือนสูงจากโจวเทียนห่าว ได้ช่วยโจวเทียนห่าวทำสิ่งที่ไม่ดีต่างๆนาๆพวกมันล้วนเป็นคนเลวทั้งหมด!

และการที่เขามาแก้แค้นครั้งนี้ เขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยให้มีคนรอดแม้แต่คนเดียว

ไม่มีอะไรผิดคาดกลางคัน ในไม่ช้าบอดี้การ์ดหลายสิบคนบนชั้นสองก็ถูกสังหารอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีใครรู้

ตอนนี้นอกจากโจวเทียนห่าวที่นอนคนเดียวที่ชั้นบนสุดแล้วก็มีบอดี้การ์ดชั้นล่างเพียงสองคน

เฉินโม่ย่องลงบันไดเข้าหาทั้งสองคนบนโซฟาจากข้างหลัง

ทั้งสองยังคงดูทีวีอยู่ โดยไม่รู้ว่าความตายกำลังคลืบคลานมาที่ข้างหลังแล้ว  จากนั้นมีแสงสีเงินกะพริบสองครั้งหลังจากนั้นทั้งสองก็รู้สึกเจ็บที่ข้างหลังหัวเท่านั้นจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย

ดึงมีดบินออกมาเช็ดทำความสะอาด และค้นหาคนตามห้องอื่น ๆ ทั้งหมดอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าไม่พลาดใครไป จากนั้นเขาก็เดินขึ้นมาที่ห้องใหญ่ที่หรูหราที่อยู่ชั้นบนสุด

โจวเทียนห่าวตื่นขึ้นมาจากฝันดี ก็รู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังทำอะไรบางอย่างเขาก็รีบขัดขืนทันที แต่ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายนั้นมากกว่า แม้ว่าโจวเทียนห่าวจะพยายามขัดขืนสักเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากอีกฝ่ายได้

จากนั้นเขาก็พยายามจะเรียกบอดี้การ์ดมาช่วย แต่เขากลับพบว่าปากของตัวเองถูกปิดด้วยเทป ทำให้เขาไม่สามารถส่งเสียงได้เลย

ในความมืดเขามองเห็นเพียงดวงตาคู่หนึ่งมองมาที่เขาอย่างเย็นชา

โจวเทียนห่าวรู้สึกกลัวอย่างมาก มือของเขาขยับไม่ได้ปากพูดไม่ได้ชีวิตหรือความตายไม่ได้อยู่ในมือของเขาอีกต่อไป เขารู้สึกสิ้นหวังเป็นครั้งแรกในชีวิต!

หนึ่งชั่วโมงต่อมาเฉินโม่หยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่แล้วออกจากวิลล่าไปอย่างเงียบเชียบ  ต่อจากนั้นไม่นานนักไฟก็ลุกโชนสว่างไสวอยู่ด้านหลัง เปลวไฟร้อนทะลุออกมาจากช่องว่างระหว่างประตูและหน้าต่างจากนั้นไฟก็โหมกระหน่ำปกคลุมไปทั้งวิลล่าอย่างรวดเร็ว

เฉินโม่ที่กำลังเดินจากไปไกลทันใดนั้นเขาก็หยุดเดิน ใบหน้าที่เย็นชาของเขาก็ค่อยๆถูกแทนที่ด้วยความประหลาดใจ

เขาใส่ความคิดของเขาลงไปที่จิตวิญญาณของเขา ที่นั่นมีพื้นที่ขนาด 50 ซม. มีมีดบินกระเป๋าสตางค์กุญแจและของอื่น ๆ อีกหลายสิบชิ้นตรงมุมพื้นที่นี้

เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าก่อนหน้านั้นพื้นที่นี้เคยมีขนาดเพียงเพียง 20 ซม. เท่านั้น แต่วันนี้ทันใดนั้นมันก็ขยายใหญ่ขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุ

(สมบูรณ์)

ขอแจ้งก่อนที่จะอ่านไปหลายตอนมากกว่านี้แล้วมาด่าผม  นิยายเรื่องนี้ ต้นทางเรียบเรียงได้ค่อนข้างแย่ บวกกับตอนนั้นตอนที่ผมเริ่มแปลนิยายเรื่องนี้ ตอนนั้นผมแทบไม่มีสกิลใด ๆ ทั้งสิ้น ต้นทางแย่+คนแปลไม่มีประสบการณ์ ก็พอจะนึกภาพออกแล้วใช่ไหมล่ะครับว่าจะออกมาแย่ขนาดไหน ดังนั้นหลังอ่านฟรี 100 ตอนแล้ว จะไปต่อหรือหยุด ผมก็ขอขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน  ขอบคุณครับ