Guild Master ตอนที่ 51 รับเอง
ตอนที่ 51
รับเอง
"คุณกวีจะเอาตัวเจ้าโจรนี่ไปขึ้นเงินรางวัลเองเหรอครับ"หัวหน้าเรดที่ไม่ทราบเปลี่ยนมาเรียกกวีว่าคุณตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบเอ่ยปากถามออกมาหลังจากทำการจับพวกโจรเสร็จแล้ว
"ใช่ พวกเรากำลังจะเดินทางไปที่เมืองการ์กันพอดีผมก็เลยอยากจะจ่ายเงินส่วนของทุกคนให้ก่อนแล้วจะพาเจ้านี่ไปขึ้นเงินรางวัลเอง"กวีตอบพลางเอามือจับไปที่หัวหน้ากลุ่มโจรที่ตอนนี้มีสภาพแทบไม่ต่างจากก้อนไหมพรมเท่าไร เพราะพวกผู้เล่นมีเลเวลห่างจากเจ้าโจรคนนี้มาก หากไม่ใช่คนของปาร์ตี้กวีละก็คงรับมือไม่ได้แน่ ๆ ทำให้พวกผู้เล่นที่รับหน้าที่มัดตัวหัวหน้ากลุ่มโจรเอาไว้พยายามมัดให้แน่นหนาที่สุด จนกระทั่งออกมาเป็นก้อนไหมพรมอย่างที่เห็น
"แต่ แบบนั้นมัน….."พวกผู้เล่นคนอื่น ๆได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าทีลังเลกันเล็กน้อย แม้จะได้รับค่าตอบแทนเหมือนเดิม แต่การนำตัวผู้ร้ายไปส่งมอบให้เมืองนั้น ๆนอกจากจะได้เงินรางวัลแล้วยังได้ชื่อเสียงต่อเมืองนั้น ๆอีกต่างหาก และการมีชื่อเสียงกับเมืองนั้น ๆแล้วนอกจากจะทำให้ NPC สนิทสนมกับผู้เล่นคนนั้น ๆได้ง่ายแล้วยังมีโอกาสได้รับเควสพิเศษจาก NPC บางคนอีกด้วย
".........."กวีเองที่ทำแบบนี้ก็เพราะอยากได้ค่าชื่อเสียงของเมืองการ์กันด้วยเช่นกัน แต่หากทำแบบนั้นออกจะเป็นการข้ามหน้าข้ามตาหัวหน้าเรดหรือเปล่า แต่กวีที่เป็นคนเตือนเรื่องชาวบ้านร่วมมือกับโจรและเป็นคนสั่งการนั้นก็มีคุณสมบัติพอจะเป็นคนรับรางวัลตรงนี้เช่นกัน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยอมก็คงต้องโต้เถียงกันเท่านั้น
"ก่อนจะไป พวกเราขอถ่ายรูปกับน้องไอช่าสักรูปได้หรือเปล่าครับ"หัวหน้าเรดถามออกมาด้วยท่าทีอาย ๆก่อนจะมองไปทางไอช่าที่ยืนอยู่ด้านหลังกวีนิดหน่อย พวกเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องรางวัลชื่อเสียงของเมืองการ์กันหรอก แต่พวกเขาเสียดายที่จะต้องจากน้องไอช่าไปต่างหากทั้ง ๆที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับไอดอลขนาดนี้แล้วแท้ ๆ
"ได้เลยค่ะ"ไอช่าได้ยินเช่นนั้นก็ตอบรับด้วยท่าทีร่าเริงทันที เรื่องโดนขอถ่ายรูปเป็นเรื่องปกติธรรมดาของไอช่าอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ไม่ได้เป็นดาราหรือไอดอลอีกแล้ว การถ่ายรูปกับใครก็เป็นเรื่องอิสระมากขึ้น
“ผมด้วย....”แทบจะทันทีที่ไอช่าบอกว่าได้ เหล่าคนในเรดก็ตรงมาขอถ่ายรูปกันถ้วนหน้าไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงในเรด เล่นเอาเรื่องที่กวีจะเอาหัวหน้ากลุ่มโจรไปขึ้นเงินรางวัลด้วยตัวเองทำไมโดนลืมไปเลย
.
.
.
“เกือบลืมไปเลยนะว่าน้องไอช่าเป็นไอดอลนี่นะ”เจหัวเราะออกมาหลังจากทั้งปาร์ตี้ออกมาจากหมู่บ้านแล้ว ดูเหมือนหัวหน้าเรดเองก็พอรู้ว่ากวีอยากได้ค่าชื่อเสียงของเมืองการ์กันก็เลยอยากเอาหัวหน้ากลุ่มโจรไปส่งกองทหารด้วยตัวเอง แต่พวกเขานอกจากจะได้กวีช่วยไม่ให้ต้องโดนโจรฆ่าแล้วยังหาทางเอากำไรจากเรื่องนี้อีกต่างหาก เพราะงั้นเรื่องชื่อเสียงที่กวีต้องการทำไมจะให้ไม่ได้
“ก็ตอนนี้ไอช่าไม่ใช่ไอดอลแล้วนี่นา”ไอช่ายิ้มรับพลางเอานิ้วจิ้มหัวหน้าโจรที่มีสภาพเป็นมัดไหมพรมด้วยท่าสงสัย ไม่รู้ว่าเชือกพวกนี้หนาแค่ไหน แต่จิ้มไปแล้วหัวหน้ากลุ่มโจรก็ไม่มีท่าทีจะรู้สึกอะไรเลย
ติ๊ง....
ระหว่างกวีกำลังเดินทางร่วมกับพวกเจไปยังเมืองการ์กันที่ติดป้ายประกาศจับตัวหัวหน้ากลุ่มโจรนั้น อยู่ ๆก็มีข้อความจาก ไอซ์ เข้ามาอีกรอบ คราวนี้ไอซ์ไม่ได้แจ้งข่าวอะไรแต่กลับส่งรูปไอเทมจำนวนหนึ่งมาแทน โจรพวกนี้ปล้นผู้เล่นโดยอาศัยเควสหลอก ๆของคนในหมู่บ้านเป็นประจำ คนที่โดนฆ่าต่างโดนขโมยของไปหลายชิ้นก็เลยมีไอเทมกองในรังโจรไม่น้อย แน่นอนว่าของทั้งหมดกวีสั่งให้ไอซ์เก็บมาหมดแล้ว เพียงแต่ไอเทมส่วนใหญ่ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไรเพราะมีแต่ของคนเลเวลค่อนข้างน้อยทั้งนั้น แต่นั่นก็มากพอจะให้กวีได้รับกำไรจากเงินที่จ่ายคนในเรดก่อนหน้านี้ไปแล้ว
“จะว่าไป หมู่บ้านฟรอยนี่เป็นหมู่บ้านที่พวกโจรสร้างขึ้นเลยหรือเปล่าเนี่ย รถผ่านทางก็ไม่มี”มายด์ถามพลางถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีเหนื่อย ๆ ขามาก็ทีนึงแล้วต้องเดินเท้ามาตลอดทางเลย นี่จะเดินทางไปเมืองการ์กันก็ต้องเดินเท้าอีก ปกติระหว่างเมืองจะมีทั้งบริการรถประจำทาง รวมถึงระบบวาร์ปสำหรับคนมีเงินอีกต่างหาก แต่หมู่บ้านฟรอยนอกจากจะไม่มีวาร์แล้วยังไม่มีรถผ่านอีกด้วย แบบนี้เสียเวลาไปหน่อยมั้ง
“ก็จริงนะ คงต้องซื้อรถเอาไว้เดินทางบ้างแล้ว เมืองการ์กันข้างหน้าเป็นเมืองใหญ่คงมีขายบ้างล่ะ”เมฆตอบด้วยท่าทีเห็นด้วย ก่อนหน้านี้เมฆจะมีมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เอาไว้เดินทางเสมอ ด้วยระบบของโลกผสมระหว่างเวทมนตร์และเทคโนโลยีทำให้มอเตอร์ไซค์คันนั้นสามารถเดินทางบนเขาชันได้สบาย ทำให้การเดินทางง่ายขึ้นเยอะ แต่นั่นก็ต้องใช้เงินไม่น้อยเพื่อจะได้มา แต่สำหรับกวี ไอช่า และ เมฆแล้วก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร
“เอาแบบที่พวกเรานั่งไปด้วยกันได้หมดแล้วกัน”กวีพยักหน้าก่อนจะเปิดระบบสื่อสารเพื่อจะติดต่อเรย์ แต่ยังไม่ทันติดต่อ อยู่ ๆกวีก็ได้ยินเสียงเหมือนกิ่งไม้ดังมาจากข้างทางเสียก่อน
“เฮ้ พวกนายนี่ท่าทางรวยไม่เบาเลยนี่นา”เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมาจากต้นไม้ข้างทาง แถมพอมองไปแล้วยังได้เจอผู้เล่นคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่บนกิ่งไม้ ที่ใบหน้ามีผ้าสามเหลี่ยมพันปิดส่วนปากเอาไว้ เสื้อผ้าและมีดที่อยู่ในมือนั้นล้วนแล้วเหมือนกำลังจะบอกว่าตนเองเป็นโจรไม่มีผิด
“หวา...เจอโจรอีกแล้วงั้นเหรอ”ไอช่าเห็นชายคนนั้นก็ตัดพ้อออกมาทันที คราวนี้เป็นโจรแบบผู้เล่นสินะ
“อย่าว่างั้นงี้เลยนะ ส่งของมีค่ามาซะดี ๆ”ผู้เล่นโจรคนนั้นพูดพลางชี้มีดมาทางพวกกวี ดูจากมีดแล้วท่าทางชายคนนี้จะเลเวลไม่น้อยเลย เพียงแต่กวีกลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยสักนิด
“แล้วถ้าไม่ให้ละครับ”กวีถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายใจอย่างกับมีดในมือโจรเป็นมีดหั่นเนื้อในร้านอาหารเสียอย่างนั้น
“ไม่เอาน่า อย่าทำให้ยุ่งยากเลย พวกนายใส่อุปกรณ์เลเวลต่ำแบบนี้ก็คงเลเวลไม่เกินสามสิบใช่ไหมล่ะ ถ้าไม่ให้ของมีค่ากับโจรคนนี้ละก็พวกนายเจ็บตัวแน่ ๆ”โจรคนนั้นตอบพลางยกมีดขึ้นด้วยใบหน้าเหมือนกำลังยิ้มอยู่แต่เพราะปิดใบหน้าเอาไว้ก็เลยไม่เห็น เพียงแต่กวีไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเท่าไร ตอนนี้เขากลับสนใจเรื่องรูปบนผ้าที่ชายคนนั้นเอามาทำผ้าปิดปากมากกว่า
“บนผ้านั่น....รูปหมีงั้นเหรอ”กวีขมวดคิ้วมองรูปหมีบนผ้าด้วยท่าทีสนใจ มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์อะไรบางอย่างไม่มีผิด
“แบบนี้ก็ไม่ต้องเกริ่นเรื่องยาวสินะ ข้าเป็นคนของแก๊งหมีใหญ่แห่งเมืองการ์กัน ถ้าคิดจะขัดขืนละก็อาจจะมีเรื่องตามมาก็ได้นะ”ชายคนนั้นขู่พลางเดินเข้ามาหาพวกกวีด้วยท่าทีไม่หวาดกลัวเลยสักนิด แน่ล่ะสำหรับเขาแล้วพวกกวีดูไม่มีพิษไม่มีภัยเลยนี่นา
“แก๊งหมีใหญ่ เมฆรู้จักหรือเปล่า”กวีถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทีสงสัย กวีเคยเห็นสัญลักษณ์ต่าง ๆของแต่ละกิลด์หรือแต่ละแก๊งมาไม่น้อย แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่ามีแก๊งแบบนี้ด้วย
“ไม่”เมฆส่ายหน้าช้า ๆเป็นการปฏิเสธ น่าเสียดายเมฆเองก็ไม่รู้จักเช่นกัน
“ฮ้า ๆ ๆ แก๊งเรายิ่งใหญ่แค่ไหนพวกบ้านนอกแบบพวกแกคงไม่รู้หรอก......”ชายคนนั้นพูดด้วยท่าทีลำพองก่อนจะมองไปทางพวกผู้หญิงในปาร์ตี้ของกวี ทั้งไอช่า มายด์ และ มีน ต่างเป็นสาวสวยกันทั้งนั้น พอเห็นแต่ละคนดวงตาของชายคนนั้นก็เปลี่ยนไปทันที
“แต่ไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร แต่ให้น้อง ๆไปกับข้าก็พอ ว่าแต่น้องคนนี้หน้าตาเหมือนไอดอลเหมือนกันนะ”ชายคนนั้นว่าพลางยิ้มกว้างก่อนจะก้มมองไปทางไอช่าด้วยท่าทีน่าขยะแขยง
“ออกไปจากพวกเธอนะ”เจเห็นแบบนั้นก็รีบเข้าไปขวางทันที แต่เพราะแบบนั้นผู้เล่นที่ทำตัวเป็นโจรก็เลยเห็นหัวหน้ากลุ่มโจรที่อยู่บนหลังของเจเสียก่อนทำเอาเขาหลุดหัวเราะออกมาแทบจะทันที
“อะไรเนี่ย ทำไมมัดคนมาแบบนั้น น่าขำเกินไปแล้วนี่พวกนายคงไม่ได้จะทำให้เป็นลูกบอลใช่ไหม”ชายคนนั้นหัวเราะก่อนจะชี้ไปทางหัวหน้าโจรด้วยท่าทีขำจนตัวงอ
“พวกนายนี่แปลกชะมัด แต่ก็เอาเถอะมีแต่สาว ๆสวย ๆทั้งนั้นมากับพี่มา”ชายคนนั้นว่าพลางหันมามองพวกสาว ๆอีกครั้ง แต่คราวนี้เมฆ กับ กวี ก็เข้ามาขวางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ขอโทษทีนะ...แต่พวกเราคงทำตามไม่ได้”กวีว่าพลางยกไม้เท้าขึ้นมาขวางระหว่างชายคนนั้นกับพวกสาว ๆเอาไว้
“คิดจะสู้งั้นเหรอ”ชายคนนั้นถามพลางหัวเราะออกมาด้วยท่าทีขำ ๆ ถึงจะมีกันหลายคนแต่พวกเลเวลต่ำพวกนี้คิดว่าจะสู้กันได้งั้นเหรอ
“รู้เอาไว้ด้วยนะ ถ้าพวกนายคิดจะสู้ก็คงไม่ชนะหรอก แถมหลังจากพวกนายไปเกิดแล้วแก๊งหมีใหญ่ของเรายังจะล่าตัวพวกนายอีกต่างหาก ถ้าอยากเล่นเกมสงบ ๆก็ทำตามที่บอกซะ”ชายคนนั้นว่าพลางดันไม้เท้าของกวีออกให้พ้นทาง แต่ทันทีที่จับไปที่ไม้เท้าอยู่ ๆมือของเขาก็รู้สึกร้อนวาบขึ้นมาทันที
“อะไรกัน.....”พริบตานั้นบนตัวของกวีก็ปรากฏแสงสีแดงสว่างขึ้นมาเพราะทำการโจมตีผู้เล่นด้วยกันทันที แทบไม่ต้องถามเลยว่ากวีใช้พิษที่ติดอยู่บนไม้เท้าโจมตีอีกฝ่ายนั่นเอง
ตูม!!
ยังไม่ทันได้ตอบอะไร ร่างของโจรคนนั้นก็ลอยออกไปเพราะแรงระเบิดจากเวทมนตร์ของกวีทันที แต่เพราะเลเวลของเขาก็ไม่ใช่น้อย ๆก็เลยยังไม่ตายเท่านั้น
“แก.....”ยังไม่ทันพูดอะไรต่อ ร่างของเมฆก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของชายคนนั้นพร้อมท่วงท่าใช้งานสกิลที่เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว
ตูม!! เปรี้ยง!!! ตูม!! เปรี้ยง!!
ทั้งเวทมนตร์ของกวีทั้งดาบของเมฆโจมตีใส่ชายคนนั้นอย่างต่อเนื่องชนิดไม่ให้หยุดพัก พริบตาเดียวผู้เล่นสายความเร็วก็ตายลงอย่างง่ายดายทำให้บนตัวของกวีและเมฆมีแสงสีแดงซึ่งเป็นบทลงโทษจากการสังหารผู้เล่นขึ้นมาทันที แต่โทษไม่กี่นาทีนี้พวกกวีไม่ได้สนใจเลย
“พี่กวี แบบนี้จะไม่เป็นเรื่องเหรอครับ”เจถามด้วยท่าทีกังวล ชายคนนั้นพึ่งบอกไปเองว่าเป็นคนของแก๊งหมีใหญ่ไม่ใช่เหรอ
“ก็ต้องมีอยู่แล้วสิ”กวียิ้มด้วยท่าทีเหมือนเดิมไม่มีผิด การมีเรื่องกับคนอื่นมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ