เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 21: พนันมือข้างหนึ่ง
大姐大 บทที่ 21: พนันมือข้างหนึ่ง
“แกจะทำอะไร ทำไมแกเอามีดมาโรงเรียน” ชิวหยีเจนอาจจะไม่มีเหตุผลแต่เธอก็ยังไม่เอามีดมาโรงเรียน
เจี่ยนอีหลิงไม่ได้ตอบคำถามของชิวหยีเจน เธอหยิบมีดขึ้นมาด้วยมือข้างซ้ายแล้วจี้ไปที่มือข้างขวาของตนเอง
“พนันมือข้างหนึ่ง”
บ้าไปแล้ว พนันรึ เธอบ้าไปแล้วหรือยังไง
หลังจากที่หยุดไปชั่วขณะ เจี่ยนอีหลิงก็กล่าวต่อว่า “เอาหลักฐานมา มือข้างนี้ตัดให้เธอ ถ้าไม่มี ตัดมือเธอให้ฉัน”
เสียงของเจี่ยนอีหลิงแม้ว่าจะยังเป็นเสียงเด็กๆ และมีธรรมชาติที่ค่อนข้างนุ่มนวล แต่สิ่งที่เธอพูดนั้นน่ากลัวจริงๆ
เธอถือมีดผ่าตัดในมือซ้ายอยู่เหนือข้อมือขวาประมาณสิบเซ็นติเมตร ราวกับว่าเธอพร้อมจะตัดมันออกได้ทุกขณะจิต
แม้ว่าฟังเสียงของเธอจะนุ่มนวลและอ่อนแอ แต่กลับทำสิ่งต่างๆด้วยพลังใจอันแข็งแกร่งที่ชิวหยีเจนไม่มี
“เธอบ้าแล้ว” ชิวหยีเจนรู้สึกว่าเจี่ยนอีหลิงเป็นบ้า
คนอื่นๆต่างก็พากันประหลาดใจจนลืมตาโพลงเช่นกัน พฤติกรรมของเจี่ยนอีหลิงช่างน่ากลัวเกินไป
เพื่อนร่วมโต๊ะของเจี่ยนอีหลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดก็ยิ่งหวาดกลัวมากกว่าใคร
“ถ้าเธอมีหลักฐาน ก็อย่ากลัว คนมือขาดคือฉัน หรือว่าเธอไม่มีหลักฐาน รู้สึกผิดบ้างไหม”
เจี่ยนอีหลิงมองไปยังชิวหลีเจนด้วยดวงตาที่แจ่มกระจ่าง
ชิวหยีเจนมองดูดวงตาคู่นั้นและก็พลันรู้สึกเสียววาบ
นี่เป็นสถานการณ์อะไรกัน
เจี่ยนอีหลิงก็ยังคงเป็นเจี่ยนอีหลิงคนเดิม และเมื่อเทียบกับการคุกคามคนอื่นก่อนหน้านี้ ตอนนี้เจี่ยนอีหลิงพูดสุภาพกว่าเดิมมาก
แต่ทำไมชิวหยีเจนซึ่งไม่เคยรู้สึกใจสั่นไหวไปกับเจี่ยนอีหลิงมาก่อน จึงรู้สึกทำนองนี้กับเจี่ยนอีหลิงที่เยือกเย็นแบบนั้น
“ฉัน…” ชิวหยีเจนพูดตะกุกตะกัก รู้สึกรำคาญใจ มองเห็นว่ามีสายตามากมายดูอยู่ ถ้าเธอพูดว่าเธอไม่กล้า เธอย่อมต้องเสียหน้า
แต่จริงๆแล้วเธอต้องการที่จะพนันกับเจี่ยนอีหลิงและพ่ายแพ้ในท้ายที่สุด นั่นจะไม่ยิ่งเสียหน้ากว่านี้อีกหรือถ้าเธอไม่ทำตามเดิมพัน
เธอจะทำให้คนอื่นเชื่อฟังเธอได้อย่างไรต่อไปในอนาคต
“พี่หญิงชิว เราอย่าไปเดิมพันกับเธอเลย เราไปรายงานให้กับโรงเรียนกันดีกว่าว่าเธอนำมีดเข้ามาในโรงเรียน”
ลูกน้องที่อยู่ถัดจากชิวหยีเจนให้ประกายความคิดแก่ชิวหยีเจน
เมื่อชิวหยีเจนได้ยินอย่างนั้น เธอรู้สึกว่ามันเข้าท่า
เธอเกือบตกหลุมพรางของเจี่ยนอีหลิง
ดังนั้นชิวหยีเจนจึงถอยกลับไปพร้อมกับผู้ติดตามของเธอ
พวกเธอจากไปอย่างเร่งรีบ ในขณะที่นักเรียนที่อยู่ในห้องแปดของโรงเรียนมัธยมยังคงตกอยู่ในสภาพตกตะลึง
แค่นั้นนะเหรอ
ชิวหยีเจนยอมรับความพ่ายแพ้เหรอ
จากนั้นพวกเขาต่างก็มองไปที่เจี่ยนอีหลิงด้วยความสงสัย
ที่กล่าวว่าเด็กหญิงคนนี้เป็นคนทำให้เจี่ยนหยุ่นน่าวบาดเจ็บจริงแล้วใช่เธอเหรอ
หลังจากที่ชิวหยีเจนจากไปแล้ว เจี่ยนอีหลิงก็เก็บมีดเข้ากระเป๋าอย่างใจเย็น
ไม่นานนักหัวหน้าฝ่ายการสอนก็เข้ามา
หัวหน้าฝ่ายเป็นชายวัยกลางคนในวัยห้าสิบผมบาง เส้นผมของเขายาวเกือบถึงกลางหัว
เขามีรูปร่างเล็กและตาตี่
เขามีฉายา “ผีเห็นผีหลีก” ฝังอยู่ในใจของนักเรียนทุกคนในโรงเรียน และเขาเป็นที่รู้จักว่าเคร่งครัดและ “หลีกเลี่ยงเขาทุกวิถีทาง”
นักเรียนในห้องแปดพลันกลับคืนสู่ที่นั่งของตนเองเมื่อพวกเขาเห็นหัวหน้าฝ่ายด้วยกลัวว่าจะถูกหัวหน้าฝ่ายจับได้ว่าทำอะไรผิด
ชิวหยีเจนและคนอื่นๆ ติดตามหัวหน้าฝ่ายมา
มันเป็นช่วงเวลาการศึกษาด้วยตนเองในตอนนี้ และเสียงอ่านในตอนเช้าก็ได้ยินมาจากห้องอื่น แต่ห้องแปดนั้นเงียบสนิท
“นักเรียนเจี่ยนอีหลิง ครูได้ยินว่าเธอนำมีดมาโรงเรียน”
หัวหน้าฝ่ายหรี่ตามองไปที่เจี่ยนอีหลิงด้วยสีหน้าบึ้งตึง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจี่ยนอีหลิงเป็นเรื่องใหญ่ในโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัว เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่ครูจะไม่รู้
เพียงแต่ว่าตระกูลเจี่ยนได้บอกกับโรงเรียนว่าลูกของพวกเขาป่วยและต้องการที่จะพักผ่อน ดังนั้นจึงไม่เหมาะสมที่โรงเรียนจะไล่เลียงต่อไป