ตอนที่ 8 การโจมตีของหมาป่าโลกันตร์ 2
“รายงานหัวหน้าอัน ทุกคนรอดกันหมดครับ”
สมาชิกทีมทั้งห้ารายงานความปลอดภัย ซึ่งทำให้อันยี่ถอนหายใจโล่งอก ในอดีต หากหมาป่าทำร้ายจุดสำคัญเช่นขา ท้อง ตาคนเหล่านี้จะตายทันทีหรือตายจากบาดแผล ทีมเขาพากันหายไปแบบนั้นทีละคน
ครั้งนี้ โจวฉิงกล่าวอย่างประหม่า“หัวหน้าอัน แขนคุณบาดเจ็บสาหัส คุณควรรีบรักษามันนะครับ”
อันยี่มองโจวฉิง และยิ้ม“ไม่ต้องกังวลเสี่ยวโจว เราคือมนุษย์เลือดบริสุทธิ์ เราไม่กลัวพวกไวรัส เรายังต้องโทษภูมิคุ้มกันบ้านี่ที่ทำให้เราไม่สามารถพัฒนาและแข็งแกร่งขึ้นได้”
เฒ่าคังตบไหล่อันยี่จากด้านหลังและกล่าว“เสี่ยวโจวเป็นห่วงนายจริงๆ และอย่าพูดเล่นแบบนี้สิ ทุกคนรู้ว่าเราไม่กลัวไวรัส แต่กลัวแบคทีเรียกลายพันธุ์”
สมาชิกทีมอื่นพยักหน้า พวกเขาไม่บาดเจ็บสาหัส แต่หัวหน้าอันผู้คอยปกป้องทุกคนนั้นบาดเจ็บสุด
อันยี่ยังยิ้ม เขาเจ็บ แต่ในฐานะหัวหน้า เขาต้องทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย เขาเชื่อว่าเขาจะจัดการกับมันได้ทันทีที่กลับไปและด้วยโชคเขา เขาคงไม่ติดเชื้อแบคทีเรียกลายพันธุ์
ขณะกำลังเก็บกวาด โจวฉิงเสนอตัวพาอันยี่กลับ และขณะที่พวกเขาเดินได้ประมาณสิบเมตร พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องตกใจของทหารรับจ้างที่กำลังลากศพหมาป่าด้านนอกประตูเหล็ก
“นายเป็นใคร ทำไมถึงมาที่นี่?”
อันยี่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน
มนุษย์?ในถิ่นทุรกันดารแบบนี้?
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคนหนุ่มด้านนอกประตู
“ผมขอเข้าไปได้ไหม?”
เด็ก?อันยี่ได้ยินความอ่อนเยาว์ในน้ำเสียง ซึ่งดูเหมือนจะผ่านลมฝนมา แต่ก็มีเสียงแตกหนุ่มเพียงเล็กน้อย อันยี่ผลักโจวฉิงออกไปและเดินไปที่ประตูเหล็ก
“ใคร?”เขากล่าว และจากนั้นก็เห็นเด็กหนุ่มสูง 180 เซนติเมตร
เด็กหนุ่มสวมชุดคลุมที่ทำจากเถาวัลย์ สะพายกระเป๋าใบโต และยังมีวัตถุยาวห่อหุ้มด้วยหนังสัตว์ แม้ใบหน้าเขาจะเปื้อนฝุ่น มันก็ยากจะปิดซ่อนความขาวเนียน เค้าโครงใบหน้าเขาได้รูป ดวงตาโตเหมือนหินดำที่สวยงาม สะท้อนตัวเขาในนั้น
เขานับว่าหล่อเหลามาก ไหล่กว้างของเขารองรับเสื้อผ้าบนไหล่เป็นอย่างดี มือเขาที่เปิดเผยออกมานอกผ้าคลุมดูหยาบกร้าน เด็กหนุ่มไม่ขยับตัว ยืนนิ่งเหมือนก้อนหิน ไม่เหมือนพวกคนในเขตปลอดภัย
สิ่งที่น่าแปลกยิ่งกว่าคือเด็กหนุ่มคนนี้มาจากป่า ไม่กี่นาทีก่อน หมาป่าทั้ง 15 ตัวมาจากป่านอกเขตปลอดภัย แต่เขากลับยังปกติดี แถมตอนนี้ มีกองศพหมาป่าอยู่ แต่เด็กหนุ่มที่ดูอายุราวๆ 16 ปีคนนี้กลับไม่มีความกลัวในดวงตาเลย?
ลมหนาวพัดจากด้านนอกประตูเหล็กของเขตปลอดภัย มันเริ่มสายแล้วและอุณหภูมิก็ลดลงมาก เห็นได้ชัดว่าด้านนอกประตูเหล็กไม่ใช่สถานที่ที่ดีในการพูดคุย อันยี่มองเด็กหนุ่มจากป่าและปล่อยให้เขาเข้ามา
“เขตปลอดภัยไม่ใช่อะไรที่สามารถเข้าออกได้ง่ายๆ เพื่อความปลอดภัย เราต้องตรวจสัมภาระนาย”อันยี่ยื่นมือออกไปและกล่าวกับอู่ฉี
อู่ฉีมองชายวัยกลางคนด้านหน้ากลุ่มชายถือปืนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำ พูดตามตรง นี่คือครั้งแรกที่เขาเห็นมนุษย์คนอื่นยกเว้นรั่วหรง อีกฝ่ายดูเหมือนเขา มีกลิ่นคล้ายเขา อู่ฉีนั้นมีสัมผัสกลิ่นดีเลิศ กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นที่ไม่มีอยู่ในป่าและภูเขา
อู่ฉีพยักหน้า ถอดกระเป๋าเป้อย่างเชื่อฟังและวางลงพื้น เขาเปิดกระเป๋าและเสียงร้องเบาๆก็ดังออกมา มันคือเสียงของสัตว์บางชนิดและทหารรับจ้างทั้งหมดก็ตื่นตัว
อู่ฉีถูมือเย็นๆของเขาและหลังเกิดความร้อนเล็กน้อย เขาก็ยื่นไปอุ้มจิ้งจอกแดงตัวน้อยออกมา แขนขาของจิ้งจอกแดงกอดแขนแข็งแรงของอู่ฉีไว้อย่างเชื่อฟัง ขนสีแดงนุ่มของมันช่วยลดความหนาวเล็กน้อย มันเลียคางอู่ฉีเหมือนลูกจิ้งจอกติดแม่ ขนหางฟู่ฟองของมันถูกับหลังมือเขา ดวงตากลมคู่เล็กกระพริบปริบๆและหลังแสดงความรักต่ออู่ฉี มันก็หันไปมองรอบๆ
กลิ่นมนุษย์รอบตัวมันแตกต่างจากอู่ฉี มันได้กลิ่นอันตรายแปลกๆ สภาพแวดล้อมภายนอกไม่อบอุ่นเท่าภายในกระเป๋า กลิ่นเลือดและควันดินปืนทำให้จมูกมันรู้สึกไม่สบาย จิ้งจอกแดงแยกเขี้ยวขู่อันยี่และคนอื่น
“จิ้งจอกแดง?”อันยี่และคนอื่นผงะ และก็ยิ่งรู้สึกว่าเด็กหนุ่มจากป่านั้นลึกลับขึ้น ในยุคสมัยนี้ มันยากสำหรับมนุษย์ที่จะปกป้องตัวเอง นับประสาอะไรกับการเลี้ยงสัตว์ไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์กลายพันธุ์ยังทรงพลังและป่าเถื่อนมาก โอกาสที่จะเลี้ยงดูพวกมันให้เชื่องจึงต่ำ
“มันชื่อฉีเยวี่ย มันเป็นสัตว์เลี้ยงของผม คุณไม่ต้องกังวลว่ามันจะทำร้ายใคร”อู่ฉีลูบหลังของฉีเยวี่ย ลมหายใจที่มั่นคงของเขาและอุณหภูมิอบอุ่นที่เขามอบให้ทำให้ฉีเยวี่ยรู้สึกปลอดภัย ราวกับมันเข้าใจอู่ฉี มันหยุดหยุดขู่ สงบลงและปีนขึ้นไปบนไหล่ของอู่ฉี
ต่อหน้าฉากเช่นนี้ แม้กระทั่งอันยี่ในวัย 32 ก็ยังตกใจ จากนั้นเสียงของเฒ่าคังก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาศ
“หัวหน้า ดูนี่เร็ว กระเป๋าของเด็กนี่เต็มไปด้วยหนังสัตว์ชั้นดีและชิ้นส่วนสัตว์กลายพันธุ์!”
นั่นทำให้ทุกคนตกใจ และความอยากรู้ของทุกคนก็ถูกจุดประกาย พวกเขามองไปในกระเป๋า มันเต็มไปด้วยของล้ำค่าเช่นหนังสัตว์ที่อู่ฉีลอกจากมังกรเสือหัวจระเข้และผ้าห่มขนสัตว์ที่เขาใช้มาหลายปี อู่ฉีอาจรู้คุณค่าของเหล่านี้ แต่เขาไม่คิดว่าจะทำให้พวกเขาแปลกใจกันมากขนาดนี้
อันยี่ลูบขนสัตว์แสนอบอุ่น นี่ต้องเป็นขนของสัตว์กลายพันธุ์ที่ดุร้ายมาก มันต้องมีขนาดไม่น้อยกว่าหมาป่าเหล่านี้ เพียงเมื่อเขาอยากจะลูบคลำหนังสัตว์เพิ่ม ฝ่ามือหยาบกระด้างก็เข้าสู่สายตาเขาและคว้ากระเป๋าออกไป
ใบหน้าของอู่ฉีเย็นชา และกล่าว“ผมอนุญาตให้ตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่ให้มารื้อของกันแบบนี้”
อันยี่ถอนมือออกมาอย่างขมขื่น และยิ่งอยากรู้ถึงต้นกำเนิดของอู่ฉี เขาชี้วัตถุยาวที่ห่อด้วยหนังสัตว์บนหลังอู่ฉีและถาม“นั่นคืออะไร?”
“มันคือดาบ”
ทหารรับจ้างเดินอ้อมไปด้านหลังอู่ฉี เคาะและลูบคลำ จากนั้นก็กล่าวกับอันยี่“มันเป็นดาบจริงๆครับ”
อันยี่รู้สึกผ่อนคลาย ในเมื่อมันเป็นดาบ ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล อาวุธเย็นแบบนี้จะไปดีกว่าปืนได้ยังไง?ตราบเท่าที่คนๆนี้ไม่สั่นคลอนอำนาจของหน่วยทหารรับจ้างพวกเขาในเขตปลอดภัย งั้นพวกเขาก็สามารถหาแรงงานเพิ่มได้
“ยินดีต้อนรับสู่เขตปลอดภัยSW0304 นายชื่ออะไร?”อันยี่ยื่นมือออกมาจับกับอู่ฉี ความลึกลับของอีกฝ่ายและความแปลกใจที่อีกฝ่ายนำมาให้ทำให้เขาเคารพ และเขาก็ปฏิบัติต่ออู่ฉีอย่างเคารพ แถมหนังสัตว์ในกระเป๋าของอู่ฉีเองก็น่าสนใจมาก
อู่ฉีคิดสักพักก่อนตอบ“อู่ฉี”