ตอนที่ 60 หลบหนี
เกาหยวนในสายตาหวังเซิ่งไม่ใช่พลซุ่มยิงที่สงบและสมบูรณ์แบบอีก แต่เป็นคนธรรมดาหรือแม้กระทั่งสัตว์ร้าย ดวงตาเขาดูเหมือนจะอยากฆ่าเจ้าของกระสุนปืนนี้ให้ตายทั้งเป็น
นี่ทำให้เกาหลานมั่นใจว่าเกาหยวนต้องรู้ว่าคนที่โจมตีเขาคือเธอ เกาหยวนรู้ว่าเธอใช้กระสุนอะไร และเธอก็ไม่คิดปกปิด
เกาหยวนกัดฟันแน่น บังคับให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลง และถอยออกจากรถ เพราะความโกรธ กล้ามเนื้อทั่วตัวเขาจึงรัดแน่นและบาดแผลที่เลือดหยุดไหลไปแล้วจึงเริ่มไหลใหม่ แต่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย
ตั้งแต่วินาทีที่เกาหยวนออกจากรถ สายตาของอู่ฉีก็หยุดที่เขา
อู่ฉีมีความทรงจำดีเป็นพิเศษ เขาตอบสนองต่อความผิดปกติทางสิ่งแวดล้อมหรือทางชีวภาพได้ดีมาก เขาเชื่อมโยงความผิดปกติของอาคารสูงต่างๆกับปัจจุบันโดยสัญชาตญาณ ส่งสัญญาณมือให้ทุกคนเงียบ ราวกับกำลังหลีกเลี่ยงการรับรู้ของใครบางคน
แถม ตอนนี้ เกาหยวนกำลังบีบกระสุนปืนในมือขวาแน่น นิ้วเขาออกแรงบีบจนแม้แต่ถุงมือก็ไม่สามารถปกปิดอาการกระตุกของนิ้วได้
เขาโกรธมากตอนเห็นกระสุนนี้ และยิ่งโกรธเจ้าของกระสุนกว่า
“เกาหยวน คุณรู้ว่าใครคือคนที่ลอบยิงเราสินะ?”
เกาหยวนได้ยิน เงยหน้าขึ้นสบตากับอู่ฉี จากนั้นเกาหยวนก็สูดหายใจลึก
“ฉันรู้ แต่ตอนนี้ เราต้องหาทางหนีกันก่อน”
คำตอบนี้ทำให้ทุกคนแปลกใจ เว้นแต่อู่ฉีที่ยังคงสีหน้านิ่งสงบ ทันใดนั้น เท้าของอู่ฉีก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นเล็กน้อยจากพื้น เขามองไปทางใต้ ที่ปลายถนนของย่านอุตสาหกรรมแห่งนี้ มีรถหุ้มเกราะสองคันกำลังขับมา!
“นั่นคือ....”กลุ่มคนมองตามสายตาอู่ฉีไปที่ปลายถนนทางใต้ และก็เห็นรถหุ้มเกราะสองคันที่ดูเหมือนป้อมปราการ
รถหุ้มเกราะสีดำวิ่งมาด้วยความเร็ว 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ล้อรถที่หมุนอย่างรวดเร็วทำให้กลุ่มทรายขาวนับไม่ถ้วนถูกดีดขึ้นฟ้า อุณหภูมิของสภาพแวดล้อมยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นอากาศรอบรถหุ้มเกราะจึงดูบิดเบี้ยว มันพุ่งออกจากกลุ่มฝุ่น กระจกกันกระสุนด้านหน้ายังเคลือบการหักเหแสงไว้ คนด้านนอกจึงไม่สามารถเห็นภายในรถได้
“พวกมันกำลังมาทางเรา หนีเร็ว!”เกาหยวนกัดฟัน ความโกรธเขาพุ่งทะยานไปอีกระดับเมื่อเห็นรถหุ้มเกราะสีดำ
“รถเราใช้งานไม่ได้แล้ว”หวังเซิ่งตะโกน คอนโซลรถหุ้มเกราะพวกเขาถูกทำลายด้วยกระสุนปืนซุ่มยิง และพวงมาลัยก็ไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลย มันสายเกินไปที่จะซ่อม
และยังมีพลซุ่มยิงระดับสูงกำลังเล็งพวกเขาที่ระยะห่างออกไปสองพันเมตร เมื่อรถหุ้มเกราะสีดำสองคันนั้นมาถึง พวกเขาจะถูกล้อม
“ฟังฉัน ขึ้นไปบนรถกันเดี๋ยวนี้!”เกาหยวนคำราม ดูเหมือนจะไม่ใช่เกาหยวนคนเดิมอีก ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือการพูด ขณะวิ่ง เขาก็นำระเบิดควันสองลูกออกมาจากกระเป๋าชุด ดึงสลักและโยนพวกมันลงพื้น ระหว่างที่โยนระเบิด เขาก็ได้วิ่งไปทางซ้ายของรถแล้วและขึ้นตำแหน่งคนขับ
“ขอแค่คันเร่งและเบรกยังทำงาน เราก็จะฝ่าออกไปได้!บนถนนเปิดโล่งนี้ เราไม่มีโอกาสรอดเลย!”
เขาตะโกนเสียงแหบ และยังมีความกลัวซ่อนอยู่ในดวงตานั้นที่กำลังกวาดตามองกลุ่มทหารรับจ้างปืนดำ เขากระวนกระวายมาก อยากลากขาเขาไปหาเพื่อนๆและลากขึ้นรถมา
“ฟังเขา”ในช่วงเวลาวิกฤต หวังเซิ่งออกคำสั่งและขึ้นไปที่นั่งข้างคนขับ
ทีมไม่สามารถมีผู้นำได้สองคน ต่อให้ไม่แน่ใจว่าคำสั่งไหนจะทำให้พวกเขารอดชีวิต แต่เมื่อทีมแบ่งแยกกันและลังเล โอกาสที่ทุกคนจะตายกันหมดก็จะเพิ่มเป็นสองเท่า
อู่ฉีและคนอื่นตอบสนองทันทีและรีบขึ้นรถ ตอนนี้เอง ควันสีขาวปล่อยออกจากระเบิดควันสองลูก ปกคลุมรอบรถหุ้มเกราะด้วยรัศมี 7 เมตร และยังสูงกว่าสองเมตรครึ่ง กลายเป็นทะเลควันเล็กๆปกคลุมตัวรถไว้มิดชิด
หลังทุกคนขึ้นรถและปิดประตู เกาหยวนก็เหยียบคันเร่งสุดแรง รถหุ้มเกราะพลันส่งเสียงคำราม ล้อทั้งสี่เริ่มหมุน แม้ตัวชี้วัดความเร็วจะหายไปแล้ว ทุกคนก็ยังรู้สึกได้ถึงความเร็วของรถหุ้มเกราะที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
รถประเภทนี้ที่ต้องวิ่งทางไกลและต้องหลบหนีจากสัตว์กลายพันธุ์ให้ทันย่อมถูกปรับให้ความเร็วออกตัวเพิ่มขึ้น มันใช้เวลาแค่สามวินาที และรถหุ้มเกราะก็พุ่งไปไกลกว่า 30-40 เมตรแล้ว ขับแหวกกลุ่มควันเล็กๆขึ้นไปทางเหนือ!
หลังขับไปไกลกว่าสองร้อยเมตร อู่ฉีกับจางไป่ที่นั่งอยู่แถวหลังก็หันไปมองกระจกกันกระสุนด้านหลังรถ ศัตรูทั้งสองคันยังอยู่ในสายตา และความเร็วก็สูงมาก ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายร่นเป็น 500 เมตร
ข่าวดีข่าวเดียวคือพลซุม่ยิงที่อยู่ห่างออกไปสองพันเมตรไม่ได้ยิงเป็นครั้งที่สอง
บนชั้นหกของอาคารกลาง เกาหลานกึ่งหมอบและซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงร้าว ถือปืน Barrettหนักและดุร้ายด้วยมือสองข้าง พลซุ่มยิงระดับสูงต้องหลบซ่อนหรือเปลี่ยนตำแหน่งหลังยิงและเกาหลานก็ไม่เว้น มันแค่ว่าเธอไม่ได้ออกจากจุดสูง แต่กลับเลือกหลบซ่อน
หลังเกาหลานหดตัวกับปากกระบอกปืนมาหลบหลังกำแพง สัญชาตญาณของพลซุ่มยิงเธอก็สัมผัสได้ถึงเข็มร้อนสองเข็ม เช่นเดียวกับเกาหยวนที่ตอบสนองโดยสัญชาตญาณตอนเกาหลานใช้’สายลมบันดาล’ เกาหลานเองก็ไวต่อสายตาร้อนแรงและโกรธแค้นของเกาหยวน ไม่ว่าจะดวงตาคู่นั้นจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม
นี่อาจเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสัมพันธ์ทางสายเลือดของสองพี่น้อง แต่ทั้งสองกลับคิดว่ามันเป็นความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่ที่ไม่สามารถเข้าใจกันได้
ความรู้สึกที่เหมือนโดนเข็มทิ่มครั้งแรกเป็นไปตามที่เกาหลานคาดเดาไว้ แต่เข็มที่สองกลับทำให้เธอแปลกใจ เกาหลานเข้าใจทันทีว่ามีอีกคนในกลุ่มเกาหยวนที่มีการเสริมวิสัยทัศน์ระดับสอง และคนคนนี้ก็ต้องมีสัญชาตญาณรับรู้อันตรายที่ไม่ธรรมดา มันเห็นได้ชัดว่าเธอหลบซ่อนตัวได้ทัน ไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้ แต่อีกฝ่ายก็ยังพบเธอ
เกาหลานถอดคอมพิวเตอร์พับแบบพกพาออกจากเข็มขัด(แท็บเล็ต) และป้อนชุดคำสั่งลงไป หน้าจอสีขาว-ฟ้ากว้างสี่นิ้วแสดงข้อมูลของกลุ่มทหารรับจ้างปืนดำที่ลงทะเบียนในฐานข้อมูล นิ้วเรียวจิ้มบนหน้าจอ และเธอก็เลื่อนดูข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถของสมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างปืนดำ
เกาหยวน การเสริมวิสัยทัศน์ระดับสอง การประสานอย่างแม่นยำระดับสอง....พลซุ่มยิงระดับสอง
หวังเซิ่ง การเสริมพละกำลังระดับสอง ความเร็วระดับสอง และการป้องกันระดับหนึ่ง
กั๋วไป่ไป่ สุดยอดการรับรู้ระดับหนึ่ง...ผู้บุกเบิกระดับหนึ่ง
...
อู่ฉี การเสริมพละกำลังระดับสอง ความเร็วระดับสาม