ตอนที่ 55 ซากปรักหักพัง 3

หลังซอมบี้ตัวแรกปรากฏ ตัวที่สองก็ปีนออกจากหน้าต่างตามมา ผมของมันผลัดออกอย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถเดาได้ว่าซอมบี้ทางซ้ายนั้นคือเพศหญิงผ่านก้อนเนื้อสีฟ้าขนาดใหญ่สองลูกบนหน้าอก

“ยิงเลยไหม?” จางไป่ถาม

หวังเซิ่งส่ายหัว และส่งสัญญาณมือแบบทหาร

ซอมบี้ทั้งสามค่อยๆ ลากร่างมาหาพวกเขาอย่างเชื่องช้า ขณะที่หวังเซิ่งและคนอื่นยืนรออย่างเงียบๆ ใกล้รถ เมื่อซอมบี้ตัวแรกอยู่ห่างจากพวกหวังเซิ่งได้50เมตร ซอมบี้ทั้งสามก็เปิดปากขึ้นพร้อมกัน กล้ามเนื้อปากฉีกผิวหน้าเน่าเปื่อย เผยให้เห็นเส้นใยกล้ามเนื้อที่ยืดออก พวกมันคำรามเสียงแหบ และพลันเร่งความเร็วขึ้นเป็น 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียงสองวินาที!

ในเวลาเดียวกัน อู่ฉีผู้นั่งยองๆ รอมานานแล้วก็พลันกระโจนออกไปเหมือนลูกศรที่หลุดจากคันศร ขาแข็งแกร่งภายในชุดรบซีเรียสประเภท 4 ออกแรงถีบอย่างแรง เร่งความเร็วเป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลบเศษซากที่ขวางทางอย่างคล่องแคล่ว กระโจนเข้าหาซอมบี้ทั้งสามผ่านเส้นทางที่รวดเร็วสุด

อู่ฉีชักดาบที่สะพายอยู่บนหลังขึ้นมา ดาบยาว 90 เซนติเมตรเขาไม่ได้ถูกห่อด้วยหนังสัตว์อีก แต่แทนด้วยฝักดาบสีดำสั่งทำ ดาบยาวเปล่งกลิ่นอายหนาวเย็นทันทีที่หลุดออกจากฝัก วาดอากาศเป็นครึ่งวงกลม สะท้อนแสงแดดร้อนแรง!

ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายลดลงเป็น 0 ในชั่วพริบตา อู่ฉีปาดดาบเป็นแนวยาว พุ่งผ่านซอมบี้ทั้งสามไปห้าเมตร

อู่ฉียืนนิ่งหลังพุ่งผ่านซอมบี้ไปห้าเมตร สะบัดเลือดสีฟ้าบนดาวยาวที่ปล่อยควันเขียว

รอยฟันแนวยาวปรากฏบนหน้าของซอมบี้ทั้งสามพร้อมกันและจากนั้นหัวครึ่งหนึ่งของพวกมันก็เลื่อนตกลงไป ในระหว่างนั้น ขาของซอมบี้ยังวิ่งอย่างบ้าคลั่งอยู่ และในที่สุดก็หยุดหลังผ่านไปสองวินาที ล้มกระแทกพื้นอย่างแรง

ส่วนที่ถูกตัดของกะโหลกเผยให้เห็นสมองมนุษย์จริงๆ สมอง น้ำเมือกและเลือดยังเกาะติดตามขอบของส่วนที่ถูกตัด กลิ่นเหม็นเปรี้ยวถูกขับออกมาเมื่อต้องอากาศ

สายพันธุ์แพร่ระบาดนั้นมีพลังชีวิตแข็งแกร่งกว่าสัตว์กลายพันธุ์มาก การทำลายสมองคือวิธีที่มีประสิทธิภาพสุดในการฆ่าศัตรู สำหรับพวกมัน บางทีการทำลายหัวใจก็ยังสามารถทำให้มันขยับตัวต่อได้อีกนาน

หวังเซิ่งยิ้ม อู่ฉีถือเป็นคนที่ต่อสู้ระยะประชิดได้เก่งสุดในหมู่พวกเขา เขาสามารถฆ่าศัตรูได้โดยไม่ส่งเสียงแบบอาวุธปืน ทำให้พวกเขาลดความเสี่ยงลงได้มาก

ซอมบี้ทั้งสามตายแล้วและทุกคนก็มารวมกันรอบซอมบี้เพื่อตรวจสอบ กั๋วไป่ไป่หน้าเปลี่ยนสีทันทีที่เข้าใกล้ซอมบี้ได้30เมตร เธอรีบเบือนหน้าหนีขณะอาเจียนออกมา จางไป่รีบเข้าไปช่วยกั๋วไป่ไป่ทันที กั๋วไป่ไป่หน้าซีดเซียวหลังอาเจียน แต่เธอไม่บ่น เธอกัดฟัน และเดินต่อไป พิสูจน์ว่าเธอไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ

แต่เธอก็ยังไม่สามารถทนกลิ่นเน่าเหม็นได้ หลังเดินไป 7-8 ก้าว ท้องไส้เธอก็ปั่นป่วน ครั้งนี้เธออาเจียนเอาอาหารเช้าออกมาจนหมด ดวงตาคู่งามเต็มไปด้วยน้ำตา เธอดูน่าสงสารอย่างมาก

หวังเซิ่งไม่พูดอะไร สัมผัสของกั๋วไป่ไป่อ่อนไหวกว่าคนทั่วไป และเธอก็ไม่มีประสบการณ์บนสนามรบ มันเป็นปกติที่เธอจะอาเจียนตอนได้กลิ่นฉุนรุนแรงของซากศพ ตราบเท่าที่เธอมุ่งมั่น จิตใจของเธอจะแข็งแกร่งขึ้นผ่านประสบการณ์เอง

อู่ฉีทำการตรวจสอบศพซอมบี้ สัมผัสรับกลิ่นเขาเองก็ดีมาก แต่เขาสามารถกลั้นหายใจได้นาน เขาจึงไม่ได้รับผลกระทบโดยกลิ่นของศพเลย

หลังตรวจสอบ เขาก็ยืนขึ้นและกล่าว“กล้ามเนื้อทั้งตัวอ่อนแอมาก แต่การระเบิดความเร็วเมื่อสักครู่กลับเทียบเท่าเสือชีตาห์ มีถุงกรดอยู่ใกล้กระเพาะอาหาร และเลือดทั่วตัวมันก็เป็นกรด กลิ่นจึงเปรี้ยวมาก”

ข้อสรุปคือการเก็บตัวอย่างมันไปนั้นไม่มีค่าอะไร

“ดูเหมือนว่าเราคงต้องทำการค้นหากันต่อ” หวังเซิ่งพูดขึ้น

มีอาคารทิ้งร้างนับไม่ถ้วนในซากฐานขนาดใหญ่แห่งนี้ พวกเขาไม่รู้ว่ามีสัตว์ประหลาดซ่อนตัวอยู่ในอาคารร้างเหล่านี้มากแค่ไหน พวกเขาทำได้แค่ค่อยๆ สำรวจ

ในเวลาเดียวกัน บนดินแดนรกร้างห่างจากฐานG032ไป 15 กิโลเมตร รถหุ้มเกราะหนักสีดำ 4 คันขับมากันเป็นขบวน พวกมันวิ่งด้วยความเร็ว 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนพื้นดินแห้ง เคลื่อนไปทางฐานG032

รถหุ้มเกราะ 12 ที่นั่ง 4 คันใช้เกราะป้องกันแบบรถถังเป็นส่วนประกอบ ความแข็งมันสูงกว่าเกราะเหล็กทั่วไปถึง 40% ความหนาสูงถึง 25 มิลลิเมตร ตัวรถยังได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา บนหลังคารถหุ้มเกราะแต่ละคันจะมีปืนกลต่อต้านอากาศยานยุครุ่งอรุณที่ยิงด้วยอัตราที่มากถึง 900 นัดต่อนาที เมื่อพวกมันสำแดงพลัง มันจะพ่นไฟยาวต่อเนื่องหนึ่งเมตร พวกมันจะทำลายทุกสิ่งภายในระยะการโจมตี ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต หรือกำแพงหนาหลายเมตร

รถหุ้มเกราะทั้งสี่เต็มไปด้วยทหารรับจ้างอาวุธครบมือ พวกเขาล้วนมีอุปกรณ์ป้องกันชั้นยอด ภายใต้หมวกป้องกันแรงระเบิดที่ยกขึ้น มันคือใบหน้ามุ่งมั่น ไม่แยแส มอบความรู้สึกที่ว่าพวกเขาคือทหารจริงๆ ไม่ใช่พวกที่เห็นแก่เงิน ปืนSCAR-Hพาดอยู่บนหน้าอกของทหารรับจ้าง จำนวนของทหารรับจ้างในรถหุ้มเกราะทั้งสี่คันมากถึง 43 คน พวกเขาล้วนมาจากกลุ่มทหารรับจ้างเดียวกัน

รถหุ้มเกราะที่ขับอยู่ทางซ้ายของขบวนนับว่าพิเศษสุดในหมู่ทั้งสี่คัน มันแตกต่างจากรถหุ้มเกราะลายทหารของคันอื่น เห็นได้ชัดว่าการตกแต่งของรถหุ้มเกราะคันนี้เป็นไปตามความชอบของผู้ใช้มัน เครื่องปรับอากาศในรถคอยรักษาอุณหภูมิให้อยู่ที่ 24 องศา ซึ่งตรงข้ามกับอากาศร้อนอบอ้าวด้านนอกกระจกกันกระสุน ที่นั่ง 12 ที่บนรถถูกถอด แปลงเป็นโซฟานั่งทางซ้ายและขวา ยังมีโต๊ะ ตู้เย็นรวมถึงตู้ไวน์ไม้แท้สีกาแฟ ซึ่งบรรจุขวดไวน์ไว้หลายขวด แต่ละขวดมีค่ามากกว่าพันหยวน ไม่ว่ามันจะเป็นในยุคอารยธรรมหรือรุ่งอรุณ มันนับว่าหรูหรามาก

หลอดไฟแปดดวงบนหลังคาเปล่งแสงสีเหลืองอ่อน มีทหารรับจ้างสวมชุดรบเต็มตัวนั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับของรถหุ้มเกราะแสนหรูหรานี้ ควบคุมพวงมาลัยด้วยทักษะขับอย่างมั่นคง มีคนสองคนกำลังนั่งอยู่บนโซฟาหนังสองตัว

ชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงกลางโซฟาทางซ้าย เขาสวมชุดทหารแบบตะวันตกสีน้ำเงิน สัญลักษณ์นกอินทรีและดวงอาทิตย์สีทองส่องแสงแวววาว เขานั่งเขย่าขาอย่างสบายใจ ถือแก้วไวน์ด้วยสองนิ้ว หมุนวนไวน์สีแดงเหมือนพวกผู้ดี บางครั้งตัวรถจะสั่นสะเทือนเล็กน้อย ทำให้ไวน์สีแดงกระเพื่อม

ผมสีบลอนด์หยิกดูเนียนนุ่มน่าสัมผัส ชายคนนั้นลืมตาสีฟ้าทะเลขึ้น ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบและแย้มยิ้มเหมือนแวมไพร์ที่เพิ่งดื่มเลือดเด็กสาว

เขาคือชาร์ล็อตต์ เลอรอย