ตอนที่ 54 ซากปรักหักพัง 2
รถหุ้มเกราะขับเข้าซากฐานผ่านรูขนาดยักษ์กว้างสี่เมตรบนกำแพงเมืองตรงมุมตะวันตกเฉียงใต้ อิฐและหินใต้รูยักษ์ถูกเก็บกวาดจนเกลี้ยง พื้นยังแบนราบ ยังมีรอยยางรถซ้อนทับกันมากมายให้เห็น
รูใหญ่เช่นนี้สามารถพบได้ทุกฝั่งของกำแพงที่พัง และมีร่องรอยการสำรวจกว่าร้อยจุดรอบซากฐานG032 ซึ่งทำให้กลุ่มทหารรับจ้างปืนดำสะดวกสบายมาก พวกเขาไม่ต้องมาเก็บกวาดถนนอะไรเองเลย
ภายในกำแพงฐานเกือบเหมือนกับที่จินตนาการไว้ บ้านเกือบทุกหลังพังถล่ม เศษอิฐ หินและเหล็กเส้นกระจายอยู่เต็มพื้น อาคารควบคุมส่วนกลางหลงเหลือความสูงเพียงแค่ครึ่งเดียว มันหลงเหลือเพียงแค่หกชั้นเท่านั้น ส่วนที่สูงกว่านั้นเหมือนถูกลบไป กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกมันกลายเป็นเศษซากที่ตกอยู่ใกล้อาคารกลาง กลายเป็นส่วนหนึ่งของซากปรักหักพัง
รถหุ้มเกราะขับไปบนถนนกว้างสองเมตรที่เศษซากอะไรถูกกวาดออกจนหมดแล้ว ขับไปจนถึงส่วนกลางของซากฐาน ในเศษซากของบ้านนับไม่ถ้วน แผ่นคอนกรีตแตกกระจายอยู่ทั่ว ยังมีเหล็กเส้นยื่นออกจากกองเศษหินและรอยแตกใหญ่บนคอนกรีตสีเทาก็เหมือนใยแมงมุมที่แผ่ออกไปทุกทิศทาง ในเศษซาก มีหัวท่อน้ำเหล็กหลายหัวโผล่ขึ้นจากพื้น ส่วนท่อที่อยู่ใต้ดินได้หักไปแล้วภายใต้แรงกระแทกรุนแรง ท่อได้เสียการไหลของน้ำ ทำให้รังพวกแมลงกลายพันธุ์แห้งเหือด
ท่ามกลางซากพื้นที่อาศัยของพลเมืองทั่วไป มันหลงเหลือเพียงกำแพงที่เต็มไปด้วยร่องรอยต่างๆ บางกำแพงยังมีตะไคร่ขึ้น ต้นวิลโลว์หลายต้นหักล้มอยู่เต็มพื้น ทุกคนนั่งอยู่ในรถ ขับผ่านถนนขรุขระอยู่ประมาณ15นาที แต่ไม่พบเห็นผู้รอดชีวิตหรือศพเลย
สิ่งที่ได้รับผลกระทบสุดคงไม่เว้นอาคารกลางที่หลงเหลือเพียงหกชั้น หากมันไม่เจอกับหายนะ สิ่งที่พวกเขาเห็นควรเป็นเมืองแสนเจริญรุ่งเรืองของฐานG032 แต่ตอนนี้กลับไม่มีความแตกต่างระหว่างเมืองที่เคยรุ่งเรืองนี้กับถิ่นทุรกันดาร อย่างมาก มันก็แค่มีที่กำบังกับผลิตภัฑณ์พลาสติกให้เก็บนำไปใช้
จากมุมมองปัจจุบัน ซากฐานนี้ไร้ซึ่งผู้รอดชีวิต
อู่ฉี ผู้นั่งอยู่บนรถไม่ยอมปล่อยให้รายละเอียดใดเล็ดลอดสายตาเขา วิสัยทัศน์เขา ซึ่งเทียบได้กับการเสริมวิสัยทัศน์ระดับสองทำให้ตาเขาเห็นและจดจำทุกรายละเอียดได้เหมือนเครื่องจักร แต่ทันใดนั้น หูเขาก็กระดิกเล็กน้อย เขารีบตบด้านหลังของเบาะคนขับอย่างแรง
“พี่ชายหวัง ดับเครื่อง มีบางสิ่งเกิดขึ้น!”
หวังเซิ่งรีบเหยียบเบรกและดับเครื่อง เสียงเครื่องยนต์หนักหายไปจากสภาพแวดล้อม อู่ฉีเปิดประตูรถทางซ้ายและโน้มตัวออกไป
ลมจากทางใต้พัดกลิ่นฝุ่น กลิ่นดินและกลิ่นเลือดบางๆมา สภาพอากาศดี อุณหภูมิสูง ความชื้นต่ำ อู่ฉีรีบตรวจสภาพแวดล้อมด้านนอกรถ จากนั้นก็นั่งยองๆเพื่อฟังเสียงที่มาจากพื้น
“หนึ่ง สอง สาม พบเจอสามเป้าหมาย ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 200 เมตร น้ำหนักอยู่ที่ระหว่าง 60 และ 70 กิโลกรัม เดินด้วยสองเท้า”อู่ฉีระบุข้อมูลที่เขาได้ยินอย่างรวบรัด หวังเซิ่งและคนอื่นพากันแปลกใจ สัมผัสการได้ยินของอู่ฉีน่าทึ่งมาก เขากลับสามารถระบุรายละเอียดเช่นนั้นได้แม้เสียงจะอยู่ห่างไป 200 เมตร
บางทีอู่ฉีเองก็เป็นนักสอดแนมได้ บางคนคิดแบบนั้น ไม่เว้นแม้แต่กั๋วไป่ไป่
กั๋วไป่ไป่เริ่มกระตุ้นความสามารถ ในตัวเธอ มีเซลล์นับไม่ถ้วนหลากรูปทรงที่ไหลผ่านเลือดและอวัยวะต่างๆของร่างกาย การทำงานของเซลล์เหล่านี้แข็งแกร่งกว่าเซลล์มนุษย์ทั่วไป 40%-60% มีเพียงแต่ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ถึงจะสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวความเร็วสูงของไวรัสในเซลล์ได้ ไวรัสเหล่านี้บางชนิดเป็นรูปสี่เหลี่ยม บางชนิดมีลักษณะเป็นเข็ม บางชนิดเป็นแถบและสีก็ไม่เหมือนกัน ผ่านอากาศ น้ำและอาหาร พวกมันจะบุกเข้าเซลล์ธรรมดาของมนุษย์ ใช้ชีวิตในนั้นและทำลายพันธุกรรมในเซลล์ ส่งเสริมการจัดโครงสร้างใหม่และวิวัฒนาการพันธุกรรมที่ถูกทำลาย แทนที่จะตายและสลายตัวภายใต้’การกัดกิน’ของไวรัสเหนือธรรมชาติ เซลล์กลับวิวัฒนาการและเกิดใหม่พร้อมการทำงานที่แข็งแกร่งขึ้น มีระบบมากขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไป
เซลล์เช่นนั้นจะไม่ถูกเรียกว่าเซลล์มนุษย์อีกโดยหมู่นักวิทยาศาสตร์ของยุครุ่งอรุณ แต่มันถูกเรียกว่า’เซลล์บุกเบิก’ เซลล์บุกเบิกส่วนใหญ่จะก้าวกระโดดจากการเปลี่ยนแปลงเชิงปริมาณไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ เสริมสร้างและเปลี่ยนการทำงานของเนื้อเยื่อและอวัยวะมนุษย์ สำหรับวิธีใช้อวัยวะที่วิวัฒนาการเหล่านี้ มันขึ้นอยู่กับผู้ใช้เอง
ความสามารถสุดยอดสัมผัสถูกใช้โดยกั๋ว ไป่ไป่ ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเธอตื่นตัวขึ้นพร้อมกัน ข้อมูลสภาพแวดล้อมที่ส่งกลับมายังสมองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนกับกลุ่มแสงที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในความมืด การมองเห็น การได้ยิน กลิ่น รส สัมผัส โลกที่กั๋ว ไป่ไป่รับรู้ได้ขยายขึ้น1.5เท่าภายใต้ความสามารถ และความสามารถรวมกันของทุกอย่างก็ทำให้ผลลัพธ์นั้นเกิน1.5เท่า
ในเวลาเดียวกัน กั๋ว ไป่ไป่เองก็สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวอย่างที่อู่ฉีบอก แต่เธอรู้แค่นั้น เธอไม่สามารถระบุรายละเอียดได้แบบอู่ฉี เธอสงสัยว่าอู่ฉีสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำขนาดนั้นได้ยังไง สิ่งนี้ทำให้เงาของอู่ฉียิ่งลึกลับขึ้นเข้าไปอีก
หวังเซิ่งและทหารรับจ้างคนอื่นหยิบปืนที่พาดอยู่บนตัวขึ้นมา เล็งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างออกไป 200 เมตรนั้นคืออาคารสูง 6 ชั้น หน้าต่างบนกำแพงชั้นนอกของอาคารสูงพังยับเยิน มีร่องรอยของการทรุดตัวและความเสียหายระหว่างกำแพง
เกาหยวนไม่ได้ขยับกระเป๋าปืน ระยะห่างสองร้อยเมตรสั้นไปสำหรับเขา ดวงตาเขาหรี่ลง และหลังผ่านไปสามวินาที เขาก็เห็นเงาร่างมนุษย์สีฟ้าเทาปรากฏจากกระจกหน้าต่างที่แตกละเอียดบนชั้นหนึ่ง มันยื่นแขนยาวออกจากหน้าต่าง ค่อยๆนำร่างมันปีนออกมาอย่างยากลำบาก หลังปีนออกหน้าต่างมาได้ อมนุษย์สีฟ้าเทาก็ล้มลงกับพื้นสกปรก ยันกายขึ้น เผยให้เห็นรูปลักษณ์มันเต็มๆ
มันสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ตัวมันไม่มีชุดเสื้อผ้าอะไร แขนขามันเรียวยาว ชั้นหนังกำพร้ามันเน่าเปื่อยจนเห็นเส้นใยกล้ามเนื้อสีฟ้าเทาภายใต้ผิว บนหน้า จมูก ตาและปากเองก็ยังเน่าเปื่อยเช่นกัน เผยให้เห็นเนื้อเยื่อใต้ผิวที่ดูน่าเกลียดมาก
นี่คือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตทั่วไปสุดของถิ่นทุรกันดาร ซอมบี้ แม้ส่วนความคิดของสมองจะถูกทำลาย ร่างก็ยังขยับได้ หัวใจในช่องอกยังคงเต้นอย่างมีชีวิตชีวา ภายใต้ร่างเน่าเปื่อย มีไวรัสเหนือธรรมชาติรุนแรงนับไม่ถ้วนกำลังวิ่งแล่น ทหารรับจ้างมากประสบการณ์รู้ดีว่าร่างกายทรุดโทรมนั่นอาจระเบิดพลังที่ไม่สมส่วนออกมาได้ทุกเมื่อ
ซอมบี้ไม่ใช่สัตว์กลายพันธุ์ แต่เป็นสายพันธุ์แพร่ระบาด