ตอนที่แล้วตอนที่ 52 ออกเดินทาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 54 ซากปรักหักพัง 2

ตอนที่ 53 ซากปรักหักพัง


แสงแดดส่องบนพื้นดินอ้างว้างไร้สิ้นสุด อากาศช่างอบอ้าว ลมที่พัดจากทางใต้ร้อนจนแสบผิว พัดฝุ่นบนพื้นแห้งให้ลอยขึ้น

อู่ฉีไม่สามารถเห็นสิ่งใดได้นอกจากพื้นดินแห้งแล้งผ่านหน้าต่าง ทิวทัศน์เช่นนี้ช่างน่าเบื่อ ซ้ำซากจำเจ แต่อู่ฉีก็ชอบความเงียบของมัน

ทันใดนั้น มือนุ่มก็แตะหลังมือขวาเขา อู่ฉีหันไปมอง เห็นกั๋ว ไป่ไป่กำลังมองเขาด้วยรอยยิ้ม

“มีอะไรงั้นหรอ?’ อู่ฉีถาม

“นายเหม่ออยู่อย่างนั้นกว่า 20 นาทีแล้ว นายกำลังคิดอะไรอยู่งั้นหรอ?” กั๋วไป่ไป่ถาม แม้เธอจะสวมชุดรบสีเทาเข้มที่ปกปิดผิวขาวนวลเนียนไว้ ใบหน้างามและผมยาวนุ่มสลวยของเธอก็ไร้สิ่งปกปิด ดวงตาโตคู่งามกะพริบ ปล่อยเสน่ห์ออกมาตลอดเวลา

อู่ฉีส่ายหัว“ก็แค่มองทิวทัศน์”

“ฉันไม่เชื่อ พื้นดินแห้งแล้งแบบนั้นน่าดูยิ่งกว่าฉันอีกงั้นหรอ?” กั๋ว ไป่ไป่บ่น

“แค่ก” หวังเซิ่งผู้กำลังขับรถถึงกับสำลัก

อู่ฉียังสวมหน้าตายเหมือนเดิม ราวกับเขาไม่เข้าใจความหมายของกั๋ว ไป่ไป่

อู่ฉีกล่าว“หลับไปสิ เมื่อเธอไปถึงจุดหมาย เธอจะไม่มีเวลาให้พักอีก”

ใบหน้าของกั๋วไป่ไป่แสดงถึงความเบื่อหน่าย เธอกล่าว“ฉันอยากคุย นายช่วยคุยกับฉันหน่อยไม่ได้หรอ?”

“อู่ฉี คุยกับเสี่ยวกั๋วหน่อยสิ พวกเราอายุเยอะแล้ว ไม่ค่อยเข้าใจภาษาวัยรุ่นหรอก” เสียงของหวังเซิ่งลอยมาจากแถวหน้า

หยางตงเฉินยิ้ม ขณะที่จางไป่ลอบมองกั๋วไป่ไป่อยู่บ่อยครั้งพลางลูบเคราบนคาง ปัดผมที่บดบังหน้าราวกับกำลังตรวจสอบว่าเขาอยู่ในสภาพที่หล่อสุดหรือไม่ เกาหยวนเงียบเช่นเคย เขาหลับตากอดกระเป๋าปืนคู่ใจตั้งแต่ขึ้นรถมา

อู่ฉีเรียบเรียงความคิด จากนั้นก็ถาม“เธอพาพี่สาวเธอกลับไปหรือยัง?”

มุมปากของกั๋วไป่ไป่ยกขึ้นอย่างมีความสุข“ใช่ ฉันพาเธอกลับไปแล้ว ฉันบอกพี่สาวฉันว่าในที่สุดฉันก็กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยกล้ามาก่อน ในอนาคต เธอจะได้ไม่ต้องคิดไปทำอะไรแบบนั้นอีก พี่ชายหวังเซิ่งยังจ่ายค่าตอบแทนให้ฉันล่วงหน้าเพื่อที่ครอบครัวเราจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินไปอีกสองเดือน”

“อืม”

“….”

“….”

อู่ฉีและกั๋วไป่ไป่จ้องตากันปริบปริบ ไร้หัวข้อพูดคุย หวังเซิ่งเห็นว่าบรรยากาศผิดปกติและรีบกล่าวแทรก“เสี่ยวกั๋ว จริงๆแล้ว อู่ฉีเป็นคนพูดน้อยมาก”

กั๋วไป่ไป่หันไปมองหวังเซิ่ง“แต่คืนนั้นเขาพูดเก่งมาก”

จากนั้นเธอก็หันมาจ้องหน้าอู่ฉี เพ่งตาโตราวกับกำลังใช้พลังจิตบีบบังคับให้ริมฝีปากของอู่ฉียกขึ้น

“คืนนั้น?” อู่ฉีจำได้ว่าเขาไม่ได้สนใจกั๋วไป่ไป่เลย แต่หลังเธอพูดถึงเรื่อง’ พี่สาว’ เขาจึงพูดขึ้น

“ใช่ อู่ฉี นายทำแบบนี้ได้ยังไง นายเห็นร่างกายฉันหมดแล้วแต่ไม่คิดสนใจกันเลยงั้นหรอ?” กั๋วไป่ไป่แสร้งทำเป็นโกรธ อยากแกล้งอู่ฉีเล่น

แต่เธอยังประเมินอู่ฉีต่ำไป อู่ฉีไม่รู้สึกอายอะไรเลยที่ต้องพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าทุกคน เขาไม่รู้จักความอายด้วยซ้ำ เขาพูดด้วยใบหน้าตายด้านว่า“เธอคิดมากไป”

กั๋วไป่ไป่ถึงกับสำลัก เธอพูดต่อ“งั้นนายก็แอบไม่พอใจที่ฉันไม่ยอมนายสินะ?”

อู่ฉีจำทุกคำพูดที่เขาพูดกับกั๋วไป่ไป่คืนนั้นได้ แม้เขาจะไม่ใส่ใจนัก ความทรงจำเขาก็ดีมาก

“เธอแต่งเรื่องขึ้นเอง นี่ไม่จริงเลย”

กั๋วไป่ไป่แทบอยากกระโจนไปกัดปากเขา แม้อู่ฉีจะดูดี การแสดงอารมณ์ของเขาก็ตายด้านเกินไป เหมือนกับก้อนน้ำแข็ง มันกลายเป็นว่ามีสาเหตุที่ทำให้เขาถามว่า’ ทำไมคนถึงหัวเราะ’ คนคนนี้ขาดการแสดงความรู้สึก และกั๋วไป่ไป่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นมาตั้งแต่กำเนิดหรือยังไง

“ฮึ่ม นายมันน่าเบื่อ” กั๋วไป่ไป่โกรธ เธอกอดอกและสะบัดหน้าหนี สิ่งที่เธอคิดในใจคืออู่ฉีนั้นดูดีแต่ไม่รู้วิธีพูดคุย มันช่างเสียของจริงๆ

แต่ทว่า คนอื่นไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น ประโยคที่พวกเขาได้ยินปะติดปะต่อกัน และความหมายก็เป็นในเชิงลบมาก คำพูดของกั๋วไป่ไป่เต็มไปด้วยความโกรธที่อู่ฉีไม่สนใจเธอ

สีหน้าหวังเซิ่งกลายเป็นแปลกไป และหยางตงเฉินก็เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่อยากแสดงความคิดเห็นใดๆ จางไป่นั้นตกตะลึงไปตั้งแต่กั๋วไป่ไป่พูดว่า’ นายเห็นร่างกายฉันหมดแล้วแต่ไม่คิดสนใจกันเลยงั้นหรอ?’

จิ้งจอกแดงตัวน้อยกระโดดไปมาระหว่างอู่ฉีกับกั๋วไป่ไป่ หันซ้ายทีขวาที และส่งเสียงครางหงิงๆ มันน่าเสียดายที่ไม่มีใครเข้าใจภาษาสัตว์และไม่รู้ว่าฉีเยวี่ยกำลังพูดอะไร

มีเพียงอู่ฉีกับกั๋วไปไป่ถึงไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำลงไป

....

รถขับในดินแดนอ้างว้างอยู่ 2 ชั่วโมง 15 นาที แต่ก็ไม่พบสัตว์กลายพันธุ์หรือสายพันธุ์แพร่ระบาดระหว่างทางเลยระหว่างทาง ไม่นานนัก ซากฐานG032ก็ค่อยๆ ปรากฏตรงหน้าทุกคน

ท้องฟ้าสีครามกำลังแผดเผา ทะเลเมฆกำลังขับขาน และภายใต้แสงยามเช้านี้ บนดินแดนรกร้างที่แห้งแล้งเนื่องจากขาดน้ำ ซากฐานได้ตั้งอยู่เงียบๆ มีเพียงส่วนน้อยของกำแพงเมืองที่ยังสูง 40 เมตรเช่นเคย เท่าที่ตาเห็น กำแพงเมือง 80% พังพินาศ เศษอิฐกองอยู่เต็มพื้น ปืนกลต่อต้านอากาศหรือป้อมปืนหนักบนกำแพงเมืองก็ไม่เว้นจากการถูกทำลาย และส่วนใหญ่น่าจะเป็นผลงานของพวกสัตว์กลายพันธุ์บินได้

มีเหล็กเส้นยื่นจากซากกำแพง ดูจากสภาพเหล็กเส้นแล้ว กำแพงและเหล็กเส้นภายในนั้นต้องแตกหักจากแรงปะทะเพียงครั้งเดียว

มันสามารถจินตนาการได้ว่าเดือนก่อน ยักษ์สูง 70 เมตรคงทุบกำแพงฐานG032ด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาดและหนักเหมือนขุนเขา ด้วยร่างกายใหญ่โตเช่นนั้น มันคงเหยียบย่ำกำแพงหนาได้ง่ายๆ

จากนั้น กลุ่มสัตว์กลายพันธุ์นับพันก็บุกกรูกันเข้าไปในช่องโหว่ของกองทัพ เข่นฆ่าทหารรับจ้างที่ไม่พร้อมสู้และพลเมืองตาดำๆ เวลา 32 วินาทีนั้นสั้นเกินไป สั้นจนทหารรับจ้างไม่มีเวลาหยิบอาวุธขึ้นมาสู้ สั้นจนศูนย์บัญชาการของฐานส่งทหารไปควบคุมป้อมปืนไม่ทัน สั้นจนพลเมืองไม่สามารถอพยพหนีไปไหนได้

หายนะเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ไม่หลงเหลือความหวังให้กับอดีตฐานแห่งนี้เลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด