ตอนที่ 47 สมาชิกใหม่ 2
อู่ฉีมองตากั๋ว ไป่ไป่อย่างแปลกใจ เขาไม่คิดว่าผู้บุกเบิกคนแรกที่เขาพบในชีวิตนี้จะเป็นกั๋ว ไป่ไป่ตรงหน้าเขา แม้ความสามารถสุดยอดการรับรู้จะไม่ใช่สายต่อสู้ มันก็ไม่ได้อ่อนแอ ไม่เพียงมันจะเสริมประสาทสัมผัสทั้งห้า แต่หากมันวิวัฒนาการเป็นความสามารถระดับสอง ผลโดยรวมจะดีกว่าการเสริมประสาทสัมผัสเดี่ยวของยาเสริมพันธุกรรมมาก
ระหว่างทางกลับจากองค์กรซีเรียส หวังเซิ่งบอกเขาถึงการจำแนกความสามารถและการเสริมพันธุกรรม ความสามารถและการเสริมพันธุกรรมเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ความสามารถระดับแรกเทียบเท่ากับการเสริมพันธุกรรมระดับสอง แต่ทว่า ความสามารถทุกอันจะแสดงถึงการวิวัฒนาการของร่างกายโดยไวรัส ไม่ว่าจะเป็นความสามารถประเภทไหนที่วิวัฒนาการ มันก็ยังส่งผลต่อสภาพร่างกายพื้นฐาน หรือพูดได้ว่า ผลของสุดยอดการรับรู้ระดับหนึ่งนั้นเทียบเท่ากับการรับรู้อันตรายระดับสอง วิสัยทัศน์ระดับหนึ่ง การได้ยินระดับหนึ่ง การได้กลิ่นระดับหนึ่งและยังเสริมความแข็งแกร่งร่างกายพอสมควร
อู่ฉีนึกถึงเหล่าสมาชิกทหารรับจ้างปืนดำ มีเพียงเขาและเกาหยวนที่มีการเสริมประสาทสัมผัส แต่ไม่มีใครเชี่ยวชาญการสอดแนมสักคน หากกั๋ว ไป่ไป่สามารถเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างปืนดำได้ เธออาจเข้ามารับตำแหน่งหน่วยสอดแนมที่ยังว่างอยู่
“ฉันจะไปคุยกับหัวหน้า โอ้ หัวหน้าเป็นคนพาฉันมาที่นี่ ฉันเดาว่าเขาคงอยู่ในตึกนี้แหละ”อู่ฉีกล่าว
แสงในดวงตากั๋วไป่ไป่สว่างขึ้น รอยยิ้มแห่งความสุขปรากฏบนมุมปากเธอ เธอกำหมัดน้อยๆแน่น ไม่รู้ว่าจะเหวี่ยงไปทางไหน
เธอพูดว่า“ในเมื่อการเจรจาจบลงแล้ว งั้นเพื่อนทหารในอนาคตจะช่วยฉันปลดริบบิ้นนี้ได้ไหม?”เธอยื่นมือหาอู่ฉี ริบบิ้นบนข้อมือเธอมัดเป็นโบใหญ่
อู่ไม่พูดพล่าม ช่วยกั๋ว ไป่ไป่คลายปมทั้งข้อมือและเท้า สุดท้าย ริบบิ้นสีแดงสดที่ยาวกว่าสิบเมตรก็ไหลหลุดลงมา
ครั้งนี้ กั๋วไป่ไป่เปลือยกายจริงๆ เมื่อผิวเธอสัมผัสกับอากาศ เธอก็ถอนหายใจโล่งอก นำผ้าห่มมาม้วนรอบตัวแน่นอีกครั้ง
“จะว่าไป นายคงไม่อยากทำอะไรกับเพื่อนทหารในอนาคตใช่ไหม?”แม้กั๋ว ไป่ไป่จะรู้ว่าอู่ฉีไม่คิดทำร้ายเธอ เธอก็ยังกังวลเล็กน้อย
แต่อู่ฉีกลับหัวเราะ“ไหนเธอบอกว่าจะมอบหัวใจให้ฉัน จะกลายเป็นผู้หญิงของฉันไง?ลืมไปแล้วงั้นหรอ?”
กั๋วไป่ไป่หน้าแดง“นายปฏิเสธข้อเสนอฉันไปแล้วนี่?นายลืมหรือไง?” “ฮ่าๆๆๆ”อู่ฉีหัวเราะลั่น เมื่อเขาหัวเราะจบ เขาก็พบว่าเขาได้ทำสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาตลอด16ปี เขาเคยเห็นคนทำเช่นนี้ แต่เขาไม่เคยหัวเราะมาก่อน เขาไม่รู้วิธีหัวเราะด้วยซ้ำ
กั๋ว ไป่ไป่เห็นสีหน้าของอู่ฉีเปลี่ยนไปเหมือนเขากำลังคิดถึงบางสิ่งและถาม“มีอะไรงั้นหรอ?” “ทำไมคนถึงหัวเราะ?”อู่ฉีถามคำถามที่ไม่เข้ากับบรรยากาศ
“มันเพราะคนเรามีความสุขนะสิ”กั๋ว ไป่ไป่ยิ้มหวาน หลังได้รับคำตอบจากปากอู่ฉี เธอก็เหมือนหลุดพ้นจากพันธนาการ ความเขินอายเริ่มหายไปจากผิวและหน้าเธอ ทำให้ผิวเธอขาวบริสุทธิ์ขึ้น
สำหรับทั้งสอง มันเป็นการแก้ไขความขัดแย้งกันได้อย่างสมบูรณ์...
...
เช้าวันต่อมา ดวงอาทิตย์ยามเช้าส่องแสงผ่านเมฆ ส่งความอบอุ่นลงมาทุกมุมของฐานG011 มันยังกระจายมายังถนนรื่นรมย์ ส่องเข้ามาในห้อง E7 ผ่านหน้าต่างโปร่งใสและม่าน
หวังเซิ่งและสาวงามเปลือยกายนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน
ผ้าห่มคลุมเอวเขา เผยร่างส่วนบนแข็งแกร่ง แขนเขาเหยียดอยู่ใต้คอของสาวสวยข้างตัว ทำหน้าที่เป็นหมอนรองหนุน ไหล่เปลือยของสาวข้างกายเผยออกมานอกผ้าห่ม เธอหันหน้ามาทางหวังเซิ่ง ซบแขนของหวังเซิ่งเหมือนนกตัวน้อย
มันดูเหมือนว่าเมื่อคืนหวังเซิ่งจะได้พิชิตสาวไปอีกหนึ่งคน
ดวงตาที่ปิดของหวังเซิ่งสั่นเล็กน้อย จากนั้นก็ลืมขึ้น ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของเขาคือ อู่ฉีเป็นอย่างไรบ้าง?
เขาดึงแขนซ้ายออกจากคอของสาวงามข้างกายอย่างเบามือ สาวงามตกอยู่ในความฝัน ขยับหัวโดยไม่รู้ตัว ทิ้งหัวลงบนหมอนนุ่มและหลับต่อ
หวังเซิ่งลุกออกจากเตียง สวมเสื้อผ้า หยิบแจ็คเก็ตหนังจากที่แขวนมาสวมเป็นชิ้นสุดท้าย หลังล้างหน้าแบบลวกๆในห้องน้ำ เขาก็เปิดประตู เดินออกจากห้องไป
หลังเดินบนทางเดินสีขาวหิมะไปไม่กี่ก้าว หวังเซิ่งก็มาถึงประตูห้องE2 มุมปากเขายกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เคาะประตู
“อู่ฉี ตื่นหรือยัง?เมื่อคืนสนุกไหม?”
สามวินาทีต่อมา ประตูก็เปิดและอู่ฉีก็ทักทายด้วยใบหน้าบูดบึ้ง หวังเซิ่งสำรวจหน้าและคอของอู่ฉี แต่ก็ไม่เห็นร่องรอยอะไร เขาเลียปาก“คงเป็นเพราะครั้งแรกสินะ”
อู่ฉีกล่าว“พี่ชายหวัง สิ่งดีๆที่คุณบอกเมื่อวานคือพาผมมาหาผู้หญิงเนี่ยนะ?”
หวังเซิ่งหัวเราะ“ไม่ต้องอาย พวกเราคือผู้ชาย ฉันพานายมาที่ถนนรื่นรมย์แห่งนี้ แต่นายกลับไม่รู้ว่าฉันพานายมาทำอะไรเนี่ยนะ?ไม่ต้องห่วง เมื่อคืนเป็นครั้งแรกของนาย ในอนาคตนายจะเก่งขึ้นเอง”
อู่ฉีเปิดประตูกว้าง ขยับตัวหลบ ปล่อยให้หวังเซิ่งเห็นห้อง กั๋ว ไป่ไป่สวมกระโปรงยาวสีขาว มีสายรัดสองสายบนไหล่เปลือย และเสื้อด้านบนก็แค่ปกปิดเนินเขาอวบอิ่มไว้ กั๋ว ไป่ไป่ยืนตรงหน้าเตียง ยิ้มอ่อนๆ จากนั้นก็ก้มหัวให้หวังเซิ่ง
“ฉันกั๋ว ไป่ไป่ ยินดีที่ได้พบพี่ชายหวังเซิ่ง”
หวังเซิ่งตกตะลึง“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
อู่ฉีอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้เขาฟัง
“ว่าไงนะ?นายไม่ได้ทำอะไรกับเธอเลย!”หวังเซิ่งคำรามด้วยความโกรธ
อู่ฉียักไหล่“แต่ผมได้คัดเลือกพลสอดแนมให้คุณแล้ว เธอคือผู้บุกเบิก ซึ่งแตกต่างจากทหารเสริมพันธุกรรมอย่างเรา”
หวังเซิ่งหรี่ตา เดินเข้าไปในห้องอย่างไม่พอใจ เขากวาดตามองรอบห้องและพบกล่องยาวสีชมพูกับริบบิ้นสีแดงสดยาวกว่าสิบเมตรที่มีร่องรอยขาด
หวังเซิ่งสามารถบอกได้ว่าบทเพลงที่เขาเล่นเมื่อคืนเร่าร้อนแค่ไหน แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคืออู่ฉีจะตายด้านขนาดนี้ เขาแทบอดใจไม่ไหวที่จะถอดกางเกงของอู่ฉีซะเดี๋ยวนี้!
“ได้ หากนายไม่อยากทำมัน ฉันก็จะไม่บังคับนาย แต่ฉันมีปัญหา”หวังเซิ่งหันไปจ้องกั๋วไปไป่ มองเธอขึ้นลงและถาม“สาวน้อย ในเมื่อเธอมีพลังเหนือธรรมชาติ ทำไมถึงไม่เลือกเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้าง แต่กลับมาทำอะไรแบบนี้?”
“เพราะฉันกลัวการต่อสู้และการฆ่า แม้องค์กรทหารรับจ้างซีเรียสจะทรงพลังและกว้างขวาง อัตราการตายของทหารรับจ้างที่ต่ำกว่าระดับ5ก็สูงถึง65%ต่อปี ฉันเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ ไร้ความสามารถป้องกันตัวเอง การเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างมีแต่จะเสี่ยงอันตราย ไม่ว่าจะเป็นศัตรู สภาพแวดล้อมหรือแม้แต่เพื่อนร่วมทีมก็สามารถคุกคามชีวิตฉันได้ทั้งนั้น”กั๋ว ไป่ไป่คิดคำพูดมาอย่างดี ทำให้หวังเซิ่งรู้สึกว่าเขาไม่มีที่ให้ปฏิเสธเลย
“เธอพูดถูก งั้นก็ตามเรามา”หลังจากนั้น หวังเซิ่งก็หมุนตัวเดินออกห้องไป ตอนที่เขาเดินผ่านกล่องยาวสีชมพู เขาเตะมันและพึมพำ
“เสียของจริงๆ”
อู่ฉีหัวเราะ แม้รั่วหรงจะไม่สอนเขาให้ปกป้องร่างกายตัวเอง เธอก็ยังบอกเขาว่าอย่ามีความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการกับผู้หญิง เว้นแต่อีกฝ่ายจะเป็นคนที่ยึดครองหัวใจเขาได้
ในยุคสมัยนี้ มนุษย์ส่วนใหญ่ได้ทำลายกรงที่กักขังความโลภและตัณหาพวกเขาไปจนหมดสิ้น พวกเขาไม่สามารถรับรองได้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่เพื่อดูดวงอาทิตย์ของวันใหม่ และภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งก็ทำให้พวกเขาไม่กลัวการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์
แต่อู่ฉีไม่เชื่อว่าเขาจะต้องเป็นเหมือนคนเหล่านั้น