ตอนที่แล้วตอนที่ 42 บ้าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 44 โหยวเซี่ยง 2

ตอนที่ 43 โหยวเซี่ยง


แม้หญิงสาวจะตะโกนแบบนั้น อู่ฉีก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งสองคนถึงมีปฏิกิริยารุนแรงแบบนั้น แต่เมื่อเห็นหญิงสาวโกรธเหมือนแม่เสือสาวในป่า ไหล่เขาจึงหดลงไปสามนิ้วทันที ลดจุดศูนย์ถ่วงเขาลง ตั้งท่าต่อสู้โดยไม่รู้ตัว

หวังเซิ่งเห็นการตอบสนองของอู่ฉี และดีดตัวขึ้นจากโซฟา เขาเดินไปหาอู่ฉี“ใจเย็นๆ นี่คือน้องสาวฉัน เธอชื่อหวังหยาน”

จากนั้นหวังเซิ่งก็รีบหันไปทำหน้าดุหวังหยานจากมุมที่อู่ฉีไม่สามารถเห็น“เขาชื่ออู่ฉี ฉันคิดจะให้เขาอยู่ในบ้านเราชั่วคราว”

ความเข้าใจผิดถูกแก้ไข และอู่ฉีก็ผ่อนคลาย เขาเพ่งมองหวังหยาน ในที่สุดก็พบว่าหญิงสาวไม่มีกลิ่นอายอันตรายอะไร หากการรับรู้เขาไม่ผิด เธอควรเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา ไร้การเสริมพันธุกรรม

แต่เมื่อหวังหยานสำรวจอู่ฉี เธอกลับรู้สึกไม่สะดวกสบายอย่างมาก เหมือนผิวบอบบางเธอถูกขนนกเย้าแหย่ ดวงตาของอู่ฉีดูร้อนแรงมากในสายตาเธอ และทุกครั้งที่เธอสบกับดวงตาดำคู่งามของอู่ฉี เธอจะสูญเสียท่าทีก้าวร้าวที่ใช้กับหวังเซิ่ง

“อู่ฉี...ได้ ฉันไม่สน หวังเซิ่งจะจัดการทุกอย่างให้นายเอง” หวังหยานพูดรัวก่อนจะเปิดประตูห้องนอนและก้าวเข้าไป

ประตูแสนน่าสงสารปิดถูกปิดอย่างแรง ปล่อยให้หวังเซิ่งและอู่ฉีอยู่ในห้องนั่งเล่น

หวังเซิ่งถอนหายใจโล่งอกและเรียกให้อู่ฉีมานั่งบนโซฟา“ขอโทษที พ่อแม่เราจากไปตอนน้องสาวฉันอายุได้8ขวบ เธอจึงมีแค่ฉันมาตลอด8ปีที่ผ่านมา ใช่ บางครั้งฉันก็ปล่อยปละละเลยเธอจริงๆ ปล่อยให้เธอพูดคำหยาบคายเช่นนี้ แถมฉันยังใช้เวลาทั้งวันกับการทำภารกิจต่างๆ บางครั้งฉันไม่ได้กลับมาเป็นสัปดาห์ ดังนั้น เธอจึงมีนิสัยแบบนี้”

อู่ฉีไม่คิดมาก“คุณคงต้องโอ๋น้องสาวคุณมากแน่ๆ”

หวังเซิ่งส่ายหัว“ไม่ใช่แน่ หากฉันดูแลเธอดี เธอคงไม่ทำแบบนี้กับฉัน อย่างที่นายเห็น เธอตะโกนใส่ฉันแทนที่จะเรียกฉันว่าพี่ชายหวัง หากนายพูดแบบนี้กับเพื่อนๆ ของฉัน พวกเขาคงหัวเราะเยาะฉันแน่ตอนได้ยิน”

อู่ฉีไม่อธิบายว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น เขารู้แค่สิ่งที่รั่วหรงทำกับเขา เธอให้แนวทางเขาและเขาก็สลักพวกมันลงกระดูก เธอให้อาหารเขาและเขาก็กินไม่เหลือ เธอให้ความรู้กับเขาและเขาก็เก็บความทรงจำเหล่านี้ลงในสมอง ความรักที่รั่วหรงมีต่อเขาเหนือกว่าความสงสัย มันทำให้อู่ฉีมีทุกวันนี้ได้

การใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ไร้ความกังวล ไม่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดถึงทำให้มีนิสัยเอาแต่ใจ มันนับเป็นความสุขที่หาได้ยาก

หวังเซิ่งถอนหายใจ จากนั้นก็สะบัดไล่ความรู้สึกแย่ๆ ออกไป“ในที่สุดฉันก็ได้กลับบ้าน แต่ต้องมาเจอเรื่องหดหู่ เห้อ อู่ฉี ไปกัน ฉันจะพานายไปสถานที่ดีๆ” หลังจากนั้น เขาก็ลุกขึ้น หยิบแจ็คเก็ตหนังที่เปียกขึ้นมา

“ไปไหน?”

“ถนนรื่นรมย์” หวังเซิ่งกะพริบตาขวา ยิ้มอย่างมีเลศนัย

...

เมฆเริ่มเบาบาง ฝนหยุดตก ท้องฟ้าเป็นสีเหลืองอ่อน เมฆสีม่วงจางๆ เหมือนผ้าโปร่งใสบนท้องฟ้า ผสมผสานกับท้องฟ้าสีเหลืองอ่อนอันเป็นฉากหลัง เมฆหนาและหมอกก่อนหน้าได้หายไปแล้ว ราวกับพวกมันหนีไปแล้ว

หวังเซิ่งขับรถกระบะพาอู่ฉีขับผ่านบ้านมากมายอยู่15นาที

ไม่นานหลังท้องฟ้าสีเหลืองอ่อนเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม รถกระบะก็ขับไปจอดข้างถนนที่ไฟถนนทั้งสองฝั่งสว่างไสว

หวังเซิ่งออกจากรถและเห็นอู่ฉียังนั่งนิ่งบนรถ เขาจึงต้องเปิดประตูและดึงอู่ฉีลงมา

ดวงตาของอู่ฉีไม่เคยมองไปข้างหน้า ราวกับกังวลบางสิ่ง หวังเซิ่งยิ้มอย่างมีความสุข“เรามาถึงแล้ว นายกังวลอะไร?”

อู่ฉีกล่าว“มันไม่เป็นไรงั้นหรอที่ทิ้งฉีเยวี่ยไว้ในบ้าน?”

“ไม่ต้องห่วง อย่าไปฟังคำพูดน้องสาวฉัน เธอทำงานบ้านเก่งมาก” หวังเซิ่งจำได้ว่ายี่สิบนาทีก่อน พวกเขาเคาะประตูห้องนอนเธอด้วยกัน กอดจิ้งจอกแดงตัวน้อยต่อหน้าหวังหยาน ตอนนั้น ดวงตาของหวังหยานเป็นประกายมาก

หวังเซิ่งชกหน้าอกอู่ฉีเบาๆ จากนั้นก็พาอู่ฉีเข้าไปยังถนนที่อาบด้วยแสงไฟสว่าง

ถนนนี้แตกต่างจากถนนที่อู่ฉีเห็นมาตลอดทางมาก แค่เหลือบมอง เขาก็เห็นคนเดินถนนประมาณ20หรือ30คน ทั้งหมดคือผู้ชาย มีชายวัยกลางคนเสื้อผ้าเสื่อมโทรมมีร่องรอยชราบนหน้า และคนวัยกลางคนที่ทำท่าหิวกระจาย

ไม่มีอาคารใดทั้งสองฝั่งถนนที่ฉาบด้วยสีดำมืด มันเต็มไปด้วยสีแดงสดใส สีชมพูละเอียดอ่อน สีฟ้าเพลิดเพลินและสีสดใสอื่นๆ อาคารส่วนใหญ่สูงสามหรือสี่ชั้น ด้วยโครงเหล็กเป็นสนิทเชื่อมอยู่ด้านนอก มีสายไฟและโคมไฟหลากสีพันรอบโครงเหล็กพร้อมภาพหญิงสาวหุ่นดี ชื่อของร้านบนป้ายสี่เหลี่ยมมักอยู่ในรูปแบบของ’ โรงแรมXX’ และยังมีการตกแต่งที่ดูเหมือนหัวใจถูกลูกศรแห่งรักยิงทะลุ

หลังจากไฟถนนสีเหลืองสดใสสว่างขึ้น หญิงสาวแต่งกายเปิดเผยจำนวนหนึ่งก็เดินออกจากโรงแรม ผิวของพวกเธอไม่ได้ขาวและละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ แต่ละคนสวมชุดบาง เผยให้เห็นแขนขาเรียว กระโปรงสั้นจนเห็นขาอ่อน แต่มีส่วนมืดที่ไม่ได้ถูกบุกรุกด้วยแสงระหว่างต้นขาสองข้าง คอยกระตุ้นเหล่าชายฉกรรจ์

ร่องลึกระหว่างขอบเสื้อผู้หญิงต่ำจนเห็นเนินเขาอวบอิ่ม ซึ่งบางครั้งจะสั่น เป็นอาวุธเพื่อดึงดูดคนเดินผ่าน พวกเธอจะทำท่า ส่งสายตาเย้ายวนคนเดินผ่าน เป็นครั้งคราว คนเดินผ่านที่ทำท่าไม่เต็มใจจะถูกหญิงสาวกอดแขน พาเดินเข้าโรงแรมไปพร้อมกัน

โรงแรมไม่ใช่ทั้งหมดของถนนนี้ ยังมีบาร์ครึกครื้น สีของบาร์เอนไปทางโทนสีน้ำตาลเข้ม การตกแต่งภายในตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง มันเต็มไปด้วยแสงระคายเคืองตา กับกลุ่มคนเมาที่เต้นกันแบบสาดกระจาย ซึ่งมองเห็นได้ผ่านหน้าต่างบานแคบ

เครื่องเล่นเพลงนั้นเล่นเพลงเก่าของยุคอารยธรรม ทำนองล้วนสอดคล้องกับร่างของหญิงสาวและความหลงใหลยามวิกาลนี้ กำแพงของบาร์กันเสียงได้ดี แต่หากอู่ฉีไม่ควบคุมสัมผัสการได้ยิน เขาก็จะยังคงได้ยินเสียงเพลงเหล่านี้

ถนนที่หวังเซิ่งพูดนั้นเหมือนกับย่านบันเทิงของเมืองเล็กๆ ในยุคอารยธรรม

รั่งหรงไม่เคยสอนอู่ฉีให้มาสถานที่แบบนี้

ดวงตาของอู่ฉีกวาดมองผู้หญิงแต่งกายเปิดเผยทั้งสองฝั่งถนน หลังยืนยันว่าผู้หญิงเหล่านี้คือมนุษย์เลือดบริสุทธิ์ไร้ภัยคุกคาม เขาก็ผ่อนคลายเล็กน้อย แต่ทว่า ครั้งนี้ ฝ่ามือหนากลับผลักเขาจากด้านหลัง บังคับให้เขาต้องก้าวไปข้างหน้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด