ตอนที่แล้วตอนที่ 33 บาดแผล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 35 มุ่งสู่ทางเหนือ

ตอนที่ 34 บาดแผล 2


อู่ฉีจัดการอาหารอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พักสูดหายใจ ความหิวยังไม่หายไปหมด แต่พลังงานที่ได้รับก็พอให้ร่างกายสามารถรักษากิจกรรมปกติได้

แต่เมื่อเขากำลังจะลุกออกเตียง เขาก็ถูกห้ามโดยโจวฉิง

“ห้ามเด็ดขาด สัญญาณชีพนายไม่ค่อยดีเลยตลอดสี่วัน มันเพิ่งยืนยันว่านายพ้นขีดอันตรายเมื่อคืนก่อน และอย่าลืมว่านายมีแผลเผาไหม้รุนแรง นายต้องเปลี่ยนผ้าพันแผลจนกว่าแผลจะหายดี”โจวฉิงไม่ยอมให้คนที่เพิ่งฟื้นตัวเดินไปไหน

อู่ฉีเห็นว่าโจวฉิงมีเจตนาดี เขาจึงไม่ต่อต้าน

อู่ฉีอยู่ที่เตียงเป็นเวลาสามวัน ในช่วงเวลาที่เขาไม่สามารถลุกไปไหนได้ เขาก็ไตร่ตรองทุกรายละเอียดของการต่อสู้ วิเคราะห์ซ้ำๆถึงทุกก้าว ทุกการฟัน ทุกการตัดสินของเขาว่าแบบไหนจะดีกว่า โจมตีจากมุมไหนถึงได้ผลสุด การทบทวนคือนิสัยของอู่ฉี

หลังการต่อสู้ทุกครั้งกับสัตว์กลายพันธุ์ที่ทรงพลังในอดีต ไม่ว่าผลลัพธ์ของการล่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว เขามักทำการทบทวน พี่สาวรั่วหรงสอนให้เขาทำเช่นนั้น มันช่วยให้พัฒนาได้แม้จะไม่ได้สู้อยู่ก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น ความทรงจำเขายังดีมาก

สามวันต่อมา โจวฉิงก็มาเพื่อช่วยอู่ฉีถอดผ้าพันแผล เขายังพาคนมาด้วย ซึ่งเป็นทหารรับจ้างจากกลุ่มทหารรับจ้างปืนดำ

“สวัสดี ฉันชื่อหยางตงเฉิน ฉันเป็นทหารแพทย์จากกลุ่มทหารรับจ้างปืนดำ”ตรงหน้าเขา ชายผิวเข้มสูง190เซนติเมตรกล้ามเป็นล่ำยื่นมือใหญ่มาจับกับอู่ฉี

“อู่ฉี นายต้องขอบคุณด็อกเตอร์หยางและหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างปืนดำที่ขอให้ด็อกเตอร์หยางอยู่เพื่อช่วยรักษานาย หากมันไม่ใช่ฝีมือทางการแพทย์ของด็อกเตอร์หยางและอุปกรณ์ทางการแพทย์ขั้นสูงเหล่านี้ พวกเราคงไม่มีทางรักษาแผลนายได้” โจวฉิงกล่าว

“นายก็พูดเกินไป ฉันแค่รู้เรื่องทางการแพทย์มากสุดในทีมเท่านั้นเอ”หยางตงเฉินถ่อมตัวมาก อู่ฉีพบว่ามันแตกต่างจากรูปลักษณ์เขามาก

หากมันไม่ใช่ว่าอู่ฉีได้เห็นฝีมือทางการแพทย์แสนประณีตของหยางตงเฉิน อู่ฉีคงคิดว่าหยางตงเฉินคือทหารรับจ้างผ่านศึกเลือดเย็น

เมื่อหยางตงเฉินและโจวฉิงถอดผ้าพันแผลชั้นสุดท้ายรอบตัวอู่ฉีออกจนหมด พวกเขาก็ตกใจ ไม่มีผิวตายและรอยไหม้หลงเหลือบนตัวอู่ฉี มีเพียงชั้นผิวที่เรียบเนียนประดุจหยกขาว กล้ามเนื้อแข็งแกร่งซ่อนอยู่ใต้ผิวขาวเนียนไร้ที่ติ เต็มไปด้วยพลังเร้นลับ

ในฐานะผู้รอดชีวิตไม่กี่คนของกลุ่มทหารรับจ้างปืนดำ หยางตงเฉินได้ยินถึงการประเมินของหวังเซิ่งว่าอู่ฉีต้องมีการเสริมพละกำลังระดับสอง ความว่องไวระดับสอง และการได้ยินระดับหนึ่งเป็นอย่างน้อย แถมเขายังรู้ถึงลำแสงความร้อนสูงล่วงหน้า ด้านวิสัยทัศน์ของเขาเองก็ต้องไม่ต่ำไปกว่าระดับสอง

แต่จากมุมมองปัจจุบัน เซลล์ของอู่ฉีและความสามารถการป้องกันเขาอาจถึงระดับสองหรือเหนือกว่านั้นไปแล้ว ซึ่งเป็นแค่การประเมินเท่านั้น เพราะไม่มีชายใดที่เสริมการทำงานของเซลล์และความสามารถป้องกันได้จนถึงจุดที่สามารถทนทานลาวาและฟื้นตัวได้อย่างไร้ที่ติเช่นนี้

เขาเป็นคนที่เสริมพันธุกรรมในทุกด้าน?หยางตงเฉินอดคิดไม่ได้ว่าอู่ฉีมีพลังซ่อนเร้นไว้มากแค่ไหน แต่ทว่า ระดับความสามารถมักเป็นความลับสูงสุดของทหารทุกคนในยุครุ่งอรุณ ไม่ว่ามันจะเป็นเหล่าผู้บุกเบิกหรือทหารรับจ้างที่พยายามหาเงินนำมาเสริมพลังตนเองก็ตาม

วินาทีที่หวังเซิ่งสั่งให้เขาอยู่ ความหมายก็ชัดเจนว่าเขาอยากลากตัวอู่ฉีมาเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างปืนดำ เจ็ดวันผ่านไปแล้วตั้งแต่หวังเซิ่งออกเดินทาง และมันก็ใกล้ถึงเวลาที่เขาจะกลับมาเขตปลอดภัยแล้ว

เมฆหนากระจายไปทั่วท้องฟ้า อัดแน่นและมืดมนราวกับจะบีบน้ำออกมา ท้องฟ้ามืดมนไร้ลมหายใจ มีเพียงแสงแดดสีทองเส้นบางๆที่ส่องผ่านช่องว่างแสนหายาก ทำให้โลกสีเทาสว่างเล็กน้อย

ถิ่นทุรกันดารกว้างขวางและรกร้าง เว้นแต่ดินสีแทนและเศษซากปรักหักพังที่กระจัดกระจาย ต้นไม้ตายทอดเป็นแนวยาว ในโลกอ้างว้างแสนโดดเดี่ยว เสียงเครื่องยนต์เก่าๆดังขึ้น รถกระบะสีเหลืองซีดคันเก่าปรากฏขึ้นที่ปลายขอบฟ้า ล้อยางสี่เส้นขับผ่านดินแห้งอย่างรวดเร็ว ดินแห้งเกาะล้อครึ่งหนึ่งและเปลี่ยนเป็นฝุ่นปลิวตรงท้ายรถกระบะ

กระบะหลังของรถปกคลุมด้วยผ้าสีเทาผืนใหญ่ ผ้าสีเทามีห่วงเหล็กวงกลมที่มุมแต่ละด้าน เชือกลอดผ่านห่วงเหล็กเพื่อยึดผ้าสีเทาไว้

บนที่นั่งคนขับ ชายร่างกำยำจับพวงมาลัยด้วยมือเดียว เขาตัวสูง สวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังวัวสีน้ำตาล ม้วนแขนเสื้อขึ้นเผยให้เห็นแขนที่เต็มไปด้วยขนหนาและเส้นเลือด เขายังสวมเสื้อกั๊กสีขาวสะอาดด้านใน ส่วนล่างเป็นกางเกงยีนสีน้ำเงิน ต้นขาใหญ่คล้ายท่อนไม้กำลังเหยียบคันเร่ง

หวังเซิ่งจับพวงมาลัยด้วยมือขวาและถือบุหรี่ในมือซ้าย เขาพ่นควันหนา จ้องดินแดนรกร้างด้านหน้า หนวดเคราเขาไม่ได้โกนมาสักพักแล้ว มันทำให้มีเคราหนาบนคางเขา ดวงตาเขาเผยความเหนื่อยล้าที่ปิดไม่มิด แต่ก็ยังมีแสงแห่งความคาดหวัง

รถกระบะขับไปบนผืนดินอ้างว่างสักพักและโครงร่างของเมืองขนาดเล็กก็ปรากฏตรงกลางผืนดินรกร้าง เมืองนี้มีอีกชื่อก็คือ : เขตปลอดภัยSW0304

รถกระบะลดความเร็วและจอดหยุดตรงประตูของเมืองขนาดเล็ก หวังเซิ่งเหยียดมือขวาออกไปหยิบปืนไรเฟิลจู่โจมตรงที่นั่งข้างคนขับ จากนั้นก็เปิดประตู กระโดดออกจากรถ

ลมแรงพัดจากทิศตะวันตก ทำให้เสื้อแจ็คเก็ตของหวังเซิ่งกระพือ เขาเหลือบมองประตูเหล็กดำและกระแทกประตูอย่างแรง เด็กที่เฝ้าระวังบนหอคอยเดินลงมาอย่างกระตือรือร้น เปิดประตูเหล็กให้หวังเซิ่ง นำเขาตรงไปในเมือง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด