ตอนที่ 26 จนตรอก 3
แต่ทว่า สิ่งที่อู่ฉีรอไม่ใช่กิ้งก่าฉลามและยีราฟ แต่เป็นอมนุษย์กว่า 30 ตัวกับอมนุษย์ยักษ์สูง 2.4 เมตร
สายพันธุ์แพร่ระบาดชนิดนี้มาจากอุโมงค์ลึก เดิมมันก็เหมือนพวกตัวทั่วไป แต่กะโหลกมันบวมผิดปกติ มันไม่เพียงจะเป็นอิสระจากการคุ้มกันของเปลือกหัวสีเนื้อ แต่ยังมีความสูง 2.4 เมตร กลายเป็นหัวกลมบวมคล้ายบอลลูนยักษ์ ผิวของกะโหลกเต็มไปด้วยชั้นหนังกำพร้าสีเขียว ซึ่งอาจเกิดจากการกลายพันธุ์ ชั้นหนังสีเขียวไม่ได้เป็นสีมรกต แต่เป็นสีเขียวเข้ม ผิวบนหัวมันยังมีเงาสีแดงเลือดน่าเกลียดและเส้นเลือดดำบิดเบี้ยว...ส่วนตัวที่เคยเป็นผิวสีเนื้อยังปนเปื้อนด้วยสีเขียว เส้นเลือดดำคล้ายงูยังเผยออกมาภายใต้ผิวหนังมัน
‘หัวเขียว’ก้าวช้าๆ เดินมาทางรถบรรทุกหุ้มเกราะ ต่อให้การก้าวมันจะช้า แต่ด้วยความสูง 2.4 เมตร อู่ฉีประเมินว่ามันต้องใช้เวลาประมาณ6วินาทีก่อนจะมาถึงรถ
อู่ฉี ผู้อยู่ข้างสนามรบรู้สึกหนาวสั่นจากหัวใจ มันยังเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกไม่อยากฟันเจ้าสิ่งนี้
นิ้วเรียวของเกาหยวนผลักกระสุนเจาะเกราะผิวเรียบแต่หัวแหลมใส่ไปในรังเพลิงของปืน ด้วยเสียงกริ้ก กระสุนถูกบรรจุ ขนาดของสัตว์ประหลาดตัวใหญ่จนมือซุ่มยิงฝึกหัดก็สามารถหลับตายิงได้ แต่ทว่า รูม่านตาสีน้ำตาลเข้มด้านหลังลำกล้องก็ยังกระเพื่อมเหมือนระลอกน้ำ แสดงถึงความสามารถของการเสริมวิสัยทัศน์ระดับสอง
ดวงตาเขาจับจ้องหัวคล้ายบอลลูนยักษ์น่าเกลียด มีก้อนทรงรีสีเขียวมรกตซ่อนอยู่ในชั้นหนังสีเขียวเข้ม
“มันถูกส่งมาเป็นโล่ อย่ายิงด้วยปืนกล ฉันจะจัดการเอง”เกาหยวนบอกผู้บังคับปืนกลหนักข้างเขาและจากนั้นก็เล็ง
“ปัง!”
กระสุนเจาะเกราะเปลี่ยนเป็นเส้นสีทองยาวเหยียด มันจมไปในกะโหลกของ’หัวเขียว’ และจากนั้นก็ทะลุหลังไป หัวเขียวระเบิดทันที ชั้นหนังสีเขียวเข้มน่าเกลียดกระจายเป็นเศษหนังตายนับไม่ถ้วน ของเหลวเขียวหนืดภายในหัวเขียวพ่นออกมาเหมือนน้ำพุ แต่โชคดี พวกมันยังอยู่ห่างไกลจากรถหุ้มเกราะพอสมควร เลือดที่พุ่งกระฉูดจึงโดนแค่พวกของมันเอง
กรี้สสส—
ไอน้ำสีขาวโชยขึ้นจากตัวของพวกอมนุษย์ที่โดนของเหลวสีเขียวกระเด็นใส่ พวกมันปล่อยเสียงร้องแหลมแทบจะทันที
นี่ไม่ใช่เรื่องร้องข่มขู่ แต่เป็นเสียงร้องจากความเจ็บปวด ผิวแข็งสีเนื้อที่ถูกของเหลวสีเขียวพลันหลุดลอก กลายเป็นของเหลวผสมของแข็งสีขาวเหลือง
นี่คือของเหลวที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง และยังเป็นพลังกลายพันธุ์ของสายพันธุ์แพร่ระบาดตนนี้
ความตายของหัวเขียวทำให้อู่ฉีคลายความตึงเครียด ความเข้าใจของเขาที่มีต่อสายพันธุ์ระบาดเปลี่ยนไปอีกครั้ง ไวรัสเหล่านี้ทำให้เกิดการกลายพันธุ์อย่างรุนแรงในรูปแบบต่างๆ แทบจะไม่เป็นไปตามการเลือกสรรโดยธรรมชาติ
หัวใจของอู่ฉียังมีคำถาม พันธุกรรมของสัตว์ประหลาดที่กลายพันธุ์โดยไวรัสจะทำซ้ำได้จริงๆไหม?กิ้งก่าฉลามและยีราฟกลายพันธุ์จะสืบพันธุ์กันได้ตามธรรมชาติไหม หรือพวกมันมีแค่ตัวเดียว?
แต่ทว่า ผ่านไปนับสิบนาที อู่ฉีก็ยังไม่เห็นกิ้งก่าฉลามหรือยีราฟอีก อมนุษย์กว่า 120 ตัวถูกพวกทหารรับจ้างฆ่าจนหมด อมนุษย์เหล่านี้ไม่คิดยอมแพ้เลย พวกมันสู้จนตายกันหมดและไม่ให้โอกาสใครได้พักเลย
ในที่สุดการต่อสู้ก็จบลง ทุกคนที่ต่อสู้กันจนแทบขาดสติก็ฟื้นคืนสติกลับมาอีกครั้ง
วินาทีนี้ความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าต่างประดังกันเข้ามา
ใบหน้าของหวังเซิ่งเปื้อนไปด้วยเลือดและเกราะทหารคุณภาพสูงก็ยังถูกฉีกด้วยฟันแหลมของพวกอมนุษย์ ทั่วร่างเขาเต็มไปด้วยคราบดินและฝุ่น ดวงตาเขาซึ่งเดิมเต็มไปด้วยความเผด็จการกลับหม่นแสงลง เขาเปิดปาก แต่เสียงเขาไม่ดังเหมือนระฆังอีกต่อไป มันกลับแหบแห้ง
“รองหลิว รายงานจำนวนผู้เสียชีวิต”
รองหลิวเองก็มีรอยแผลทั่วตัว เสื้อผ้าเขาฉีกขาด เผยให้เห็นผิวที่มีร่องรอยถูกกัด เขายืนขึ้นด้วยความสูง 1.9 เมตร น้ำตาแห่งความเศร้าเห็นได้ชัดในตาเขา และเขาก็กล่าวด้วยความเจ็บปวดใจ“ทหารรับจ้างปืนดำ บาดเจ็บในการต่อสู้ 9 นาย ตายในการต่อสู้ 1 นายครับ”
คนที่ตายคือเฒ่าฮู้ หลังฝืนทนอยู่นานกว่าสิบนาที เขาก็ตายจากการทนพิษบาดแผลไม่ไหว
กระสุนเองก็ถูกใช้ไปมาก กระสุนเจาะเกราะเกือบหมด โดยเฉลี่ย พวกเขาเหลือซองกระสุนทั่วไปกันแค่คนละสองซอง ส่วนปืนกลหนักเหลือกระสุนอีกแค่กล่องเดียวเท่านั้น ด้วยกระสุนที่ร่อยหรอ มันไม่ฉลาดนักที่จะรุกคืบต่อไปในอุโมงค์
อันยี่ที่บาดเจ็บนั่งอยู่ส่วนหลังของรถบรรทุกหุ้มเกราะ เขาเองก็พบกับการสูญเสียเช่นกัน คนทั้งหมดที่เขานำมาต่างบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนที่ตายคือต้าหยงและเฒ่าหลี่
เพื่อปกป้องอันยี่ ต้าหยงยอมเอาตัวเข้าบังฝนกรวดจนบาดเจ็บ ในการลอบโจมตีของยีราฟกลายพันธุ์และการต่อสู้หลังจากนั้น ทุกคนเห็นแค่ต้าหยงล้มลงเพราะบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาตายไปนานแล้ว เฒ่าหลี่ถูกพวกอมนุษย์จับกดและรุมกัดจนตาย ร่างเขาเต็มไปด้วยรอยกัดกับแขนขาที่หักบิดผิดรูป
อันยี่เงียบ หัวใจเขาถูกคลื่นแห่งความเศร้าถาโถม ต้าหยงติดตามเขามานาน ทั้งสองผ่านอะไรด้วยกันมามาก ต้าหยงไว้ใจเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ เชื่อว่าจะมีชีวิตที่ดีหากอยู่กับเขา เชื่อว่าอันยี่ต้องคอยปกป้องเขา แม้อายุของทั้งคู่จะห่างกัน แต่พวกเขาก็รักกันเหมือนพี่น้อง เมื่ออันยี่ตัดสินใจทำภารกิจสำรวจนี้ด้วย ต้าหยงยังติดตามมาโดยไม่ลังเล
เฒ่าหลี่แก่กว่าเขาสี่ปี และเคยทำงานกับหัวหน้าเขตปลอดภัยคนก่อน เฒ่าหลี่เป็นคนพูดน้อย เป็นพี่ชายที่พึ่งพาได้ บางครั้งเฒ่าหลี่จะหักหน้าเขาและเตือนเขา เฒ่าหลี่ช่วยเหลือเขามาตลอดตอนที่เขายังไม่กลายเป็นหัวหน้าเขตปลอดภัย เมื่อเขาโตจนแกร่งกล้าพอ เฒ่าหลี่ก็ยอมเป็นลูกน้องเขาโดยไม่ปริปาก
ตอนนี้ ทั้งสองจากเขาไปตลอดกาลแล้ว
แม้กระทั่งชายเลือดเหล็กอย่างเขาก็ยังไม่อาจสะกดกลั้นน้ำตาได้เมื่อเห็นการตายของพี่น้อง น้ำตาของลูกผู้ชายที่หลั่งได้ยากยิ่งกว่าเลือด
“เห้อ-”หวังเซิ่งถอนหายใจยาว และร่างกายร้อนรุ่มเขาก็เย็นตัวลง