ตอนที่ 21 สายพันธ์ุแพร่ระบาด 2
‘กิ้งก่าฉลาม’ไม่ขยับ ราวกับกำลังเลือกเป้าหมายโจมตี ขณะนั้นเอง โจวฉิงก็พลันตัวสั่นสะท้าน นิ้วชี้ขวาเขาจับขมับตลอดเวลา การกระทำเช่นนี้ก็สามารถกระตุ้นความสามารถรับรู้อันตรายได้ดีขึ้น
ในโลกการรับรู้ดำมืดของเขา สิ่งมีชีวิตที่อันตรายปรากฏในสภาพแวดล้อมเลือนรางและแผ่ความอันตรายไปทั่ว หากหมาป่าโลกันตร์คือภาพของกลุ่มไฟสีเทาในโลกแห่งการรับรู้ของเขา งั้นสิ่งมีชีวิตแสนอันตรายตนนี้ก็คือน้ำขุ่นสีม่วงเข้ม วินาทีที่มันปรากฏ มันก็ทำให้อากาศหนาวเย็น
“ข้างบน!”วินาทีที่ความสามารถรับรู้ของโจวฉิงส่งข้อมูลกลับมายังสมอง เขาก็ตะโกนลั่น
แต่เขาพูดช้าเกินไป ขาทั้งสี่อันทรงพลังของกิ้งก่าฉลามระเบิดความเร็ว120กิโลเมตรต่อชั่วโมงในชั่วพริบตา เร็วพอจะเผยร่างที่ผสานเข้ากับความมืด ในช่วงเวลาที่มันดีดตัวลงมา มันก็เปิดปากคล้ายฉลามขึ้น พร้อมงับหัวโจวฉิง เหมือนนักล่าชั้นสูง
วินาทีที่อู่ฉีหันหัวเขามา เขาก็เห็นแค่ภาพติดตาสีม่วงเข้ม ด้วยระยะทางที่เขาไม่อาจยื่นมือช่วยเหลือทัน เขาทำได้แค่มองปากโพรงเขี้ยวแสนน่ากลัวและหัวของโจวฉิงที่กำลังจะรวมเป็นหนึ่ง!
ปึก!
เลือดไหลกระฉูดจากผิวหนังที่ฉีกขาด แรงปะทะนั้นรุนแรงพอจะทำให้เลือดเปลี่ยนเป็นลูกศรเลือดแหลม พุ่งสาดไปไกลถึงห้าเมตร
หวังเซิ่งและทหารรับจ้างปืนดำรีบหันมา ภายใต้หมวก ดวงตาของเหล่าทหารรับจ้างเผยแววตกใจ แต่ความเป็นมืออาชีพก็บังคับให้พวกเขายกอาวุธขึ้น เล็งปากกระบอกปืนใส่กิ้งก่าฉลามตนนั้น
โจวฉิงยังไม่ตาย แต่ทรุดลงกับพื้นด้วยความผวา ในเวลาความเป็นความตาย อันยี่กระแทกเขาออกไป ไปยืนตรงจุดเขาและช่วยชีวิตเขาไว้ แขนแข็งแกร่งสองข้างของอันยี่ไขว้กันเป็นท่อนซุง ปากของกิ้งก่าฉลามกัดเจาะลึกไปในเนื้อ เหลือฟันที่ยังไม่จมเข้าไปแค่ประมาณ2-3เซนติเมตร
เพราะมันคือการตั้งท่าป้องกัน อันยี่จึงคว้าฟันยาวสองซี่ของกิ้งก่าฉลามไว้ได้ในนาทีวิกฤต ทำให้มันยากที่กิ้งก่าฉลามจะตั้งท่ายืนแบบสัตว์เลื้อยคลานได้อย่างเหมาะสม ฟันของมันแหลมจนเจาะไปในเนื้อเขา ความเจ็บปวดทำให้เลือดลมตีขึ้นหน้า ดวงตาเขาแดงก่ำ วิสัยทัศน์เริ่มเลือนราง ในเวลาเดียวกัน กรงเล็บแหลมของเท้าหน้าทั้งสองมันก็ยังข่วนแขนเขาอย่างบ้าคลั่ง แทบจะลอกหนังออกจนหมด
บูม!
เสียงคำรามสอดแทรกมาในฉากนองเลือด กระสุนปืนลูกซองยิงอัดไปในหัวของกิ้งก่าฉลามในระยะประชิด ปากกระบอกปืนลูกซองที่ถือโดยต้าหยงเหมือนพลุไฟ ดวงตาเขาดูหวาดกลัว ทั้งหน้าและแขนเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
กิ้งก่าฉลามกรีดร้องเสียงแหลม ทั้งร่างของมันสั่นสะท้าน เลือดดำไหลจากรูเล็กๆมากมาย แรงกัดมันลดลงมาก และอันยี่ก็มีโอกาสสวนกลับ พละกำลังมหาศาลเขาระเบิดออกมา กล้ามเนื้อเขาเกร็งจนส่งเสียงปริแตก ออกแรงกระชากฟันยาวของมันและผลักมันออกไป
วินาทีที่ร่างของกิ้งก่าฉลามตกลงบนพื้น หางยาวและขาทั้งสี่ก็เริ่มตอบสนองตามสัญชาตญาณ มันพยายามหลบหนี แต่ทว่า เหล่าทหารรับจ้างปืนดำก็รอเวลานี้อยู่นานแล้ว พายุกระสุนเข้ากลืนกินร่างของมัน พวกเขาสาดกระสุนกันไป30นัดภายในสองวินาที ร่างของกิ้งก่าฉลามถูกยิงจนกระเด็นไปไกลกว่าหกเมตร
“บัดซบ!”อันยี่ถ่มน้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดออกมา ร่างแข็งแกร่งทรุดลงกับพื้น รูเลือดบนแขนหนาทั้งสองข้างเขาหลั่งเลือดเหมือนกับน้ำพุ
มันสามารถเห็นได้ว่าฟันกิ้งก่าฉลามจมเข้าไปลึกแค่ไหน
ทหารรับจ้างปืนดำส่วนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา หวังเซิ่งไปเดินหาศพกิ้งก่าฉลามและก้มสังเกตมันอย่างอึมครึม หลังจากนั้น เขาก็หันหัวไปมองคนอื่น
หวังเซิ่ง ผู้มาจากฐานทหารที่มีทรัพยากรและความปลอดภัยสูงมักเชื่อว่าเขตปลอดภัยแห้งแล้งนั้นไม่แตกต่างจากป่า คนของที่นี่คงหมดสิ้นความเป็นมนุษย์ไปแล้ว เพื่อเอาชีวิตรอดพวกเขาต้องสามารถทรยศมิตรสหายได้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ที่เขาเห็นภาพอันยี่เสียสละตัวเองเพื่อปกป้องโจวฉิง ความคิดเขาจึงเปลี่ยนไป
อันยี่ ชายคนนี้มีความเป็นคนมากกว่าพวกคนชั้นต่ำของสังคม
หวังเซิ่งยืนขึ้น เผยความเคารพต่ออันยี่มากขึ้นกว่าเดิม สมาชิกหน่วยทหารรับจ้างของเขตปลอดภัยรีบนำผ้าพันแผลและยาแก้อักเสบออกจากกระเป๋าเป้ พวกเขาอยากใช้ยาหายากเหล่านี้กับอันยี่ แต่หวังเซิ่งกลับก้าวเข้ามาใกล้และกล่าวด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์
“รองหลิว นำสเปรย์ห้ามเลือดออกมา”
รองหลิวชะงักงัน จากนั้นก็เข้าใจความหมายของหวังเซิ่ง เขานำสเปรย์ห้ามเลือดออกจากรถ นี่คือขวดสเปรย์ที่มีกลิ่นอายจากยุคอารยธรรม ด้วยข้อความสีดำบนพื้นหลังสีขาวและเครื่องหมายการค้าสีแดงจากบริษัทยา ที่ฐานG011 ราคาของสเปรย์ขวดนี้อยู่ที่400หยวนและผลการรักษาของมันก็สมชื่อมัน
หน่วยทหารรับจ้างพากันแปลกใจ โดยเฉพาะอันยี่ ผู้เป็นทหารรับจ้างที่เคยอยู่ในฐานมาก่อน เขารู้ราคาของสเปรย์ห้ามเลือดดี ขณะเฝ้าดูรองหลิวพ่นยาจำนวนมากจากขวดสเปรย์ใส่บาดแผลเขา แผลลึกถูกปิดหนึกด้วยหมอกยาเย็นที่แข็งตัว
“โอกาสติดเชื้อบาดทะยักจะลดลงมาก สำหรับไวรัสของพวกแพร่ระบาด มันขึ้นอยู่กับโชคของนาย”รองหลิวเก็บสเปรย์ไปและอธิบายให้อันยี่ฟัง เห็นได้ชัดว่าการเอาตัวเข้าแลกของอันยี่เองก็ทำให้ทัศนคติของรองหลิวดีขึ้นเช่นกัน
เมื่อเห็นเจตนาอันดีของเหล่าทหารรับจ้างปืนดำ อันยี่ก็คลายความระมัดระวังลง ดวงตาเขาเผยความขอบคุณ เขาไม่ได้แสร้งประจบประแจงเหมือนก่อน แต่นี่เป็นความรู้สึกจากใจจริง“โอ้ โอ้!ขอบคุณพี่ชายหลิว ขอบคุณพี่ชายหวัง”
“เอาละ เก็บเจ้าตัวนี้ลงไปในกล่องตัวอย่างซะ”หวังเซิ่งชี้พรรคพวกเขาและโบกมือ เมื่อเขาหันไป เขาก็พลันพบว่าอู่ฉีกำลังนั่งยองๆอยู่
“เขาเข้ามาตอนไหน?ทำไมถึงไม่มีเสียงเลย?”ปากของหวังเซิ่งกระตุก จากนั้นอู่ฉีก็ลุกขึ้นจ้องหวังเซิ่ง ดวงตาคู่ดำเต็มไปด้วยพลังงาน
“มองข้างบนสิ สายพันธุ์แพร่ระบาดตัวนี้โผล่มาจากเพดาน หูผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ผิวเหี่ยวย่นมันยังใช้ขุดไปตามดินได้อย่างเงียบเชียบ เกรงมันคงเป็นเหมือนหน่วยสอดแนมในกลุ่มมัน”
หวังเซิ่งมองตามนิ้วของอู่ฉีไป แต่เขาไม่ได้เสริมพันธุกรรมด้านสายตาหรือสวมแว่นมองกลางคืน ดังนั้นเขาจึงเห็นได้ไม่ชัด เขาเห็นแค่โพรงแนวตั้งเล็กๆที่ก็ปรากฏบนเพดานคอนกรีตราบเรียบ