ตอนที่ 13 การแก้แค้นของราชาหมาป่า 2
ปืนลูกซองแผดเสียงดัง กรงเล็บของหมาป่าเสียดกับกระเบื้อง เกิดเสียงปะทะระหว่างมนุษย์กับหมาป่าภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ค่ำคืนนี้ถูกลิขิตให้ต้องมีการนองเลือด
อีกด้าน โจวฉิงวิ่งสุดแรง ด้วยมือหนึ่งที่จับขมับ พยายามใช้ความสามารถเขาเพื่อรับรู้อันตราย ในระยะสัมผัสเขา เขารู้สึกถึงหลายลมหายใจที่ทำให้เขาขนลุกและรีบวิ่งไปที่พักอาศัยของย่านC
โจวฉิงมองผ่านประตูห้อง 202 และเด็กหนุ่มก็ยืนอยู่ด้านนอก เขาสวมเสื้อที่ทำจากหนังสัตว์สีน้ำตาลเหลือง กางเกงขายาวสีดำ แบกกระเป๋าเป้ปูดๆและมือขวาก็ถือดาบยาวสีดำไว้
“อู่ฉี รีบลงไปเร็ว!เกิดเรื่องแล้ว!”โจวฉิงตะโกน
อู่ฉีตบราวบันไดด้วยมือหนึ่ง และกระโดดลงจากชั้นสองโดยตรง สูดดมกลิ่น จากนั้นก็นำหูแนบพื้นเพื่อฟังเสียง
“อู่ฉี นายกำลังทำอะไร?ตามฉันไปทางเข้าเมืองเร็ว ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง”โจวฉิงกล่าว
“น้ำหนักของแต่ละตัวประมาณ130-150กิโลกรัม มีประมาณ 30 ตัว ตัวหนึ่งใหญ่เป็นพิเศษ น่าจะหนักเกิน200กิโลกรัมและพวกมันก็ล้วนเคลื่อนที่ด้วยสี่ขา กระจัดกระจายจากตะวันออกไปตก ตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ลมที่พัดจากทางเหนือมีกลิ่นพวกมันผสม กลิ่นนี้คุ้นมาก มันเหมือนกลิ่นเมื่อวาน มันคือหมาป่าโลกันต์”
อู่ฉีดีดตัวขึ้นและพ่นชุดคำที่ทำให้โจวฉิงตะลึงงัน
“ฉันเสริมยีนรับรู้อันตรายและก็ยังไม่รู้อะไรชัดขนาดนี้ นายทำได้ยังไง...ไม่สิ นายบอกว่าหมาป่าโลกันต์บุกเมืองเรางั้นหรอ?!”
ดวงตาโจวฉิงเบิกกว้าง
“ใช่ เพื่อลดการสูญเสียประชากร รีบตามผมมาเร็ว!”เสียงของอู่ฉีเหมือนก้อนน้ำแข็ง ไร้ร่องรอยของอารมณ์ รวมถึงการรายงานข้อมูลและตำแหน่งผู้บุกรุกก่อนหน้านี้ มันเหมือนจะเป็นแค่สัญชาตญาณการตอบสนองในฐานะนักล่าเท่านั้นเอง
ร่างกายอายุ 16 ปีของเขาดูคล้ายเสือชีตาร์ เขาดีดตัวทะยานออกไปหลังสะสมพลัง โจวฉิงชักปืนและวิ่งตามอู่ฉีไป แต่ก็ถูกทิ้งห่างกว่าสิบเมตรภายในแค่สามลมหายใจ
“เร็วมาก!ต่อให้ฉันจะน้ำหนักขึ้น อย่างน้อยฉันก็เป็นทหารรับจ้าง สภาพร่างกายของเขาน่ากลัวมาก!”โจวฉิงเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ในเวลาไม่กี่วินาที เขาก็เริ่มเห็นยอดเขาน้ำแข็งแสนน่าตกใจของอู่ฉี
แต่ในความเป็นจริง นี่ไม่ใช่ยอดภูเขาน้ำแข็งด้วยซ้ำ
ในไม่ช้า อู่ฉีก็สังเกตเห็นว่าโจวฉิงตามเขาไม่ทัน เขาจึงชะลอความเร็วลง โจวฉิงไม่รู้ว่าทำไมอู่ฉีถึงลดความเร็วลงและเห็นอู่ฉีเลี้ยวเข้าไปในซอยทางขวา
โจวฉิงตามอู่ฉีไป เลี้ยวซ้ายขวาอยู่หลายครั้ง เขาวิ่งอยู่กว่าหนึ่งนาทีในซอยมืด โจวฉิงยังไม่ลืมที่จะใช้ความสามารถของเขาเพื่อรับรู้อันตราย ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาแปลกใจ เพราะเส้นทางที่อู่ฉีเลือกใช้นั้นจะหลีกเลี่ยงหมาป่ารอบตัวพวกเขาเสมอ
เพียงเมื่ออู่ฉีกำลังจะเลี้ยวไปทางขวาอีกครั้ง เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นจากซอยทางซ้ายของโจวฉิง ตามด้วยเสียงคำรามของหมาป่า สีหน้าของโจวฉิงเปลี่ยนไปและหยุดวิ่ง
โจวฉิงร้องตะโกน“หยุดก่อน มีคนเจอกับหมาป่า เราต้องไปช่วย ไม่งั้นเขาจะตาย”
อู่ฉีไม่ลังเล เขากล่าวเสียงเย็น“ด้วยทหารรับจ้างไม่กี่คนและพลังของผม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดหมาป่าทั้งหมดที่ลอบเข้าเมืองมา สัตว์เหล่านี้ฉลาดมาก พวกมันจะรังแกคนอ่อนแอและกลัวพวกแข็งแกร่ง เมื่อพวกมันเจอนักล่า พวกมันจะหลีกหนี และฆ่าเมื่อพบเหยื่อ ดังนั้น เพื่อลดความสูญเสีย ทางเดียวคือต้องจับตัวราชา”
“แต่”โจวฉิงกล่าวอย่างยากลำบาก“มีคนกำลังจะตาย...”
ฝีเท้าของอู่ฉีขยับอีกครั้ง เขากล่าว“หากคุณอยากไป ก็ไปคนเดียว แต่คุณคนเดียวอาจถูกพวกมันฆ่าตาย”
ร่างของอู่ฉีหายลับไป โจวฉิงตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ท้ายที่สุดเขาก็กัดฟันและวิ่งตามไป
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองก็วิ่งออกจากซอยสู่ถนนกว้าง ฉากน่าหวาดกลัวตรงหน้าพลันทิ่มแทงตาพวกเขา ถนนสกปรกนี้กลายเป็นที่อาศัยของพวกหมาป่าและมีศพของประชากรเต็มไปหมด หลายคนนอนจมกองเลือด มือและเท้าขา่ดหายไป ส่งกลิ่นคาวเหม็นเน่า ดวงตาพวกเขายังเบิกกว้าง ราวกับเจออะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่าดาบมาปลิดชีพ
ความรู้สึกสะอิดสะเอียดพุ่งจากท้องของโจวฉิง ทำให้เขาอยากคายมันออกมา แม้เขาจะชินกับการเห็นศพมนุษย์ แต่นี่เป็นครั้งแรกของเขาที่เห็นศพมนุษย์มากขนาดนี้ถูกฉีกกระชากโดยพวกหมาป่า ท่ามกลางศพ มีศพสองศพนอนอยู่ข้างตู้โทรศัพท์ เขาเพิ่งเห็นทั้งคู่เมื่อวาน มันคือสองแม่ลูกที่ทำงานอย่างหนักทุกวันเพื่อให้ได้อาหารแสนน้อยนิด เขาเห็นทั้งคู่ในจัตุรัสแจกจ่ายอาหาร และหลังขับไล่การโจมตีของพวกหมาป่า เขาก็ยังแบ่งอาหารของเขาเพื่อช่วยแม่ลูกคู่นี้
แต่ตอนนี้ เด็กหนุ่มมีแผลฉีกขนาดใหญ่บนท้อง แม่เขาใช้แขนเล็กๆเพื่อปกป้องลูก แต่หมาป่าก็กัดคอเธอ
“ไอพวกสุนัขขี้เรื้อน อ้ากกก!”โจวฉิงคำราม กำหมัดและเส้นเลือดก็ปูดบนแขนกับขมับเขา เขาอยากมาให้เร็วกว่านี้ ใช้ปืนในมือฆ่าพวกมันเพื่อปกป้องแม่ลูก
อู่ฉีมองไปในทะเลเลือด มีเลือดไหลย้อมรองเท้าหนังจระเข้เขา แต่สีหน้าเขาไม่เปลี่ยนไปนัก ศพมีอยู่ทุกที่ และเขาก็ชินแล้วจากการใช้ชีวิตบนภูเขา มันแค่ว่าศพตรงหน้าเขาคือเผ่ามนุษย์
ถึงกระนั้น อู่ฉีก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ เขากลั้นลมหายใจ เพ่งสมาธิกับการรับเสียง เข้าสู่สภาวะรับรู้ที่ฝึกฝนมาอย่างยาวนานบนภูเขา
วินาทีที่เขาพบเป้าหมาย อู่ฉีก็พุ่งทะยานไปโดยไม่ร้องเตือนใคร เขากระโดดไปชั้นสองของอาคาร ชี้ดาบเขาตรงไปที่หน้าต่างระเบียง ตัวหน้าต่างปกติดีไม่บุบสลาย เว้นแต่ว่ามีรอยกรงเล็บบนขอบหน้าต่าง ซึ่งคนธรรมดาคงไม่สังเกตเห็นเพราะความมืด
ในชั่วพริบตา ขนของอู่ฉีก็ตั้งชัน และรีบกระโดดถอยหลัง ในเวลาเดียวกัน เงาใหญ่โตก็พุ่งผ่านหน้าต่าง ตะปบอุ้งเท้าหน้าอันทรงพลังใส่คอของอู่ฉี!
อู่ฉีรีบยกดาบยาวขึ้นป้องกัน กรงเล็บหมาป่าที่ไม่ต่างอะไรกับเหล็กปะทะกับดาบยาวของอู่ฉี ทำให้เกิดเสียงเหล็กบดขยี้กัน ทั้งคู่ถูกแยกกันด้วยแรงปะทะและตกกลับไปบนพื้นพร้อมกัน
โจวฉิงตกใจอีกครั้งกับไหวพริบของอู่ฉี และยิ่งตกใจกว่ากับสติปัญญาของหมาป่าโลกันต์ยักษ์ตัวนี้ที่ซ่อนบนชั้นสองเพื่อซุ่มโจมตี ดวงตามันทอประกายทรงภูมิปัญญา นี่คือหัวหน้าหมาป่าโลกันต์ที่รุกรานเขตปลอดภัยในค่ำคืนนี้ ราชาหมาป่า!