ตอนที่ 161-162
ตอนที่ 161 : เหว่ยอี้ตัดสินใจ
เหว่ยอี้เดินไปตามเส้นทาง ชุดเครื่องแบบสีขาวซึ่งสวมใส่อยู่นั้นค่อนข้างสะดุดตา
หลายคนตระหนักได้ถึงสัญลักษณ์รูปอัคคีเพลิงบนชุด เป็นผลให้ต่างต้องเร่งรีบถอยหลบ
พร้อมกันนี้สายตายังหันมองตาม
เหว่ยอี้คล้ายคุ้นชินเรื่องราวเช่นนี้แล้ว ฝีเท้ายังคงก้าวเดินไปอย่างไม่ลังเลใด
นักปรุงยาคือตัวตนสูงส่งและหาได้ยากล้ำท่ามกลางผู้ฝึกตนของทวีปเทียนหลัน
โอสถที่พวกเขาสกัดออกมานั้นมีสรรพคุณนับไม่ถ้วน
กล่าวได้ว่าตลอดชั่วชีวิตผู้ฝึกตนต้องข้องเกี่ยวกับโอสถไม่มากก็น้อยโดยตลอด
มันไม่เกินเลยนักหากจะกล่าวว่าตัวตนของนักปรุงยาเป็นสิ่งชวนสะพรึง
“นักปรุงยาในตำนานงั้นหรือ?”
“สมควรเป็นดังที่เห็น ตราสัญลักษณ์นั่นมีแต่คนของหุบเขาโอสถจึงสามารถถือครองได้!”
“เฮ้อ... หุบเขาโอสถงั้นหรือ? ครานี้ถึงกับมาเยือนนครจิ่วเหยาแล้ว...”
พบเห็นอีกฝ่ายเดินไปไกลแล้วกลุ่มคนค่อยเริ่มกระซิบต่อกัน
ไม่ช้าเหว่ยอี้จึงมาถึงจุดหมายปลายทาง
มันเป็นอาคารหรูหราที่สุดของถนนเส้นนี้... ตำหนักหมื่นโอสถ!
ตำหนักหมื่นโอสถคือสถานที่ซึ่งหุบเขาโอสถใช้จำหน่ายโอสถทั้งหลาย อีกทั้งยังมีสาขาอยู่ทั่วทั้งทวีปเทียนหลัน!
เหว่ยอี้ก้าวเดินเข้าสู่ด้านในตำหนักหมื่นโอสถ ไม่ช้าจึงพบชายวัยกลางคนเร่งรีบเข้ามาพบปะ
อีกฝ่ายสมควรเป็นผู้จัดการของตำหนักหมื่นโอสถแห่งนี้
กระทั่งเถ้าแก่ยังต้องให้ความหวั่นเกรงผู้มาเยือน
แม้เป็นเถ้าแก่ของตำหนักหมื่นโอสถ ทว่าก็โดยนาม แท้จริงเป็นเพียงคนงานเล็กจ้อยของหุบเขาโอสถ
ขณะนี้พบเห็นศิษย์ของหุบเขาโอสถมาเยือน ดังนั้นจึงต้องเร่งรีบมารับรอง
“นายท่านมาที่นี่มีเรื่องอันใดให้ข้ารับใช้หรือไม่?” เถ้าแก่กล่าวถามอย่างระแวดระวัง
สายตานี้คล้ายหลบเลี่ยงไม่คิดมองอีกฝ่าย
เหว่ยอี้หาได้ตระหนักถึงความแปลกของเถ้าแก่ เขากล่าวออก “ข้าคิดส่งข้อความกลับหุบเขาโอสถ”
ทวีปเทียนหลันกว้างใหญ่ ผู้ฝึกตนทั่วไปไม่อาจสำรวจทั่วแดนดินได้แม้ใช้เวลาทั้งชีวิต
อุปกรณ์สื่อสารคือสิ่งจำเป็นสำหรับการติดต่อทางไกล
อย่างไรแล้วก็ไม่ใช่ผู้ฝึกตนทุกคนจะเป็นถึงขอบเขตทดสอบเต๋าผู้แข็งแกร่ง การได้รับข่าวคราวที่ห่างไกลนับพันหมื่นลี้ย่อมต้องอาศัยอุปกรณ์
ผู้ฝึกตนทั่วไปอย่างมากสุดก็เพียงอาศัยค่ายอาคมขนาดเล็กที่ใช้ผลึกวิญญาณเป็นตัวกลางส่งถ่ายพลังสำหรับนำส่งข้อมูล
ที่ตำหนักหมื่นโอสถแห่งนี้ย่อมมีค่ายอาคมส่งถ่ายข้อมูลขนาดใหญ่คงอยู่!
เถ้าแก่ต้องลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่อีกฝ่ายไม่ได้มาหาเรื่องตนเอง
“เรียนเชิญนายท่านทางด้านนี้แล้ว”
เถ้าแก่นำเหว่ยอี้สู่ด้านในตำหนักหมื่นโอสถ
ไม่ช้าคนทั้งสองจึงมายังห้องที่คล้ายจะอยู่ใต้ดิน
ตำหนักหมื่นโอสถคล้ายว่าให้การคุ้มกันค่ายอาคมนี้เป็นอย่างดี
“นายท่าน ค่ายอาคมอยู่ภายในห้องแห่งนี้ ท่านสามารถใช้ได้อย่างอิสระ ข้าขอตัวก่อนขอรับ” เถ้าแก่กล่าวออกด้วยความนอบน้อม
เหว่ยอี้พยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าห้องไป
ภายในห้องคือแท่นบูชาขนาดเล็กซึ่งมีอักขระลึกลับประดับเอาไว้
สิ่งนี้คือค่ายอาคม
เหว่ยอี้ใช้นิ้วสัมผัสแหวนมิติ ผลึกวิญญาณจำนวนหนึ่งปรากฏ
ผลึกวิญญาณถูกนำวางไว้ที่ตำแหน่งพลังงานของค่ายอาคม
เมื่อสัมผัสถึงผลึกวิญญาณ ตัวค่ายอาคมเริ่มส่องสว่างเผยแสงออก
เหว่ยอี้สูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมนำเอาหยกพิเศษออกมาวางที่ตรงกลางค่ายอาคม
ภายในก้อนหยกมันคือเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของเขา
จิตวิญญาณนั้นประกอบด้วยเนื้อหาที่เขาได้ทราบจากร้านต้นตำรับ
วูบ!
พริบตาถัดมาแสงจึงปรากฏสุกสว่างจากตัวค่ายอาคม
ภายใต้แสงเจิดจ้า เหว่ยอี้อดไม่ได้ที่จะต้องหรี่ดวงตาลงเล็ก
พริบตานี้เสียงปริแตกบังเกิด แสงสว่างเริ่มหม่นลง
ผลึกวิญญาณแตกกระจาย ก้อนหยกภายในค่ายอาคมก็แตกสลาย
ถัดจากนั้นเหว่ยอี้ค่อยกลับออกจากห้องลับ
หยกจิตวิญญาณที่แตกสลายหมายความถึงส่งข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว
ตอนที่ 162 : หุบเขาโอสถ
ทวีปเทียนหลันมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล
แดนอันรกร้างแห่งนั้นขาดซึ่งพลังงาน นั่นก็หมายความถึงมันต้องมีแดนที่เปี่ยมแน่นด้วยพลังงาน!
ในหุบเขาแห่งหนึ่งซึ่งมีพลังงานวิญญาณหนาแน่น ถ้ำพักอาศัยจำนวนนับไม่ถ้วนเปรียบดังดวงดาราบนฟากฟ้าอยู่ที่นี่
กลิ่นหอมของโอสถทั้งหลายต่างฟุ้งในอากาศกลางหุบเขา
ผู้ฝึกตนในชุดขาวต่างสัญจรไปมาทั้งบนพื้นและฟากฟ้าประหนึ่งเทพเซียน
เสียงอึกทึกบ่อยครั้งยังดังให้ได้ยิน กระทั่งอัคคีเพลิงพวยพุ่งออกจากถ้ำยังมีให้เห็นเป็นบางครั้ง
ทว่าคนเหล่านี้คล้ายคุ้นชินกับสภาพแวดล้อม...
ที่นี่คือหุบเขา
ด้านหน้าของหุบเขามันยืนหยัดด้วยประตูหินสูงใหญ่หลายสิบเมตร
ที่ด้านบนประตูใหญ่ มันปรากฏสองตัวอักษรพร้อมมังกรและวิหคอมตะที่ราวกับร่ายรำ!
หุบเขาโอสถ!
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนต่างต้องแสดงความนับถือยามเผชิญหน้าประตูใหญ่แห่งนี้ ที่นี่คือหุบเขาโอสถ!
หุบเขาโอสถไม่ใช่สถานที่ซึ่งผู้ฝึกตนหน้าไหนก็สามารถเข้าออก!
ภายในถ้ำ ค่ายอาคมนับไม่ถ้วนได้มีการแกะสลักเอาไว้บนพื้นและผนัง
ทันใดนี้เองที่ค่ายอาคมสุกสว่าง ราวกับมีอะไรบางอย่างคิดปรากฏออก
ศิษย์ที่รับหน้าที่ตรงนี้เร่งรีบนำก้อนหยกวางในค่ายอาคม
ค่ายอาคมส่องแสงพร้อมปรากฏอะไรบางอย่างไหลเวียนเข้าสู่ก้อนหยก
“ข่าวคราวจากศิษย์พี่เหว่ย” ขณะรับหยกขึ้นมา ศิษย์ผู้นี้ต้องเผยสายตาพร้อมคำกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“นำสิ่งนี้ส่งมอบให้แก่ผู้อาวุโส”
“ขอรับ!”
……
“ผู้อาวุโส ท่านคิดอย่างไรกับข้อความจิตวิญญาณที่เหว่ยอี้ส่งมา?”
ในห้องโถงทองแดงโอ่อ่า ชายชราไว้หนวดเคราสีขาวกำลังนั่งจิบชาราวเป็นคนเฒ่าชราธรรมดาผู้หนึ่ง
กระนั้นสายตาไม่ใช่ นัยน์ตาคู่นั้นราวกับปรากฏดวงดาวสุกสว่างเผยให้เห็น
ผู้นี้คือจ้าวสำนักหุบเขาโอสถ เหยาฮุยเฉิน!
ไม่เพียงแต่วิถีปรุงยาสูงส่งเลิศล้ำ ทว่าการฝึกฝนยังทรงอำนาจอย่างถึงที่สุด ตัวเขาได้ทำลายปราการกีดขวางของขอบเขตทดสอบเต๋าได้ทั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน!
กำลังของเขาตอนนี้นั้นยากที่ผู้อื่นจะตรวจทราบได้!
“เหว่ยอี้ไปที่นครจิ่วเหยา จุดประสงค์คือรอคอยโบราณสถานที่เทือกเขาจิ่วเหยาเปิดออก ขณะนี้ได้ทราบข่าวคราวใหม่มา เรื่องนี้ต้องใช้ความคิด!”
“ถูกต้องแล้ว! สิ่งที่เขากล่าวนั้นแม้เป็นข้าก็ยังไม่เคยได้ยิน สรรพคุณของมันแทบไม่ต่างอะไรกับเม็ดยาอันสูงส่ง สำคัญยิ่งกว่าคือราคาต่ำกว่าหนึ่งร้อยผลึกวิญญาณ!”
“หากเรื่องราวนี้ถูกแพร่สู่ทวีปเทียนหลัน เช่นนั้นหุบเขาโอสถย่อมสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่...”
ผู้อาวุโสทั้งหลายพูดคุยต่อกัน สีหน้าแต่ละคนต่างไม่ค่อยสู้ดี
อย่าได้กล่าวถึงสินค้าลึกลับเหล่านั้น กระทั่งว่าพื้นเพของร้านต้นตำรับก็ไม่อาจคาดเดา
เถ้าแก่ผู้ลึกลับซึ่งไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาก่อนถึงกับปรากฏตัวในทวีปเทียนหลัน!
ทั้งยังมีสิ่งที่ขณะนี้สินค้าหมดอย่างไวน์หยกที่เพิ่มพูนพลังชีวิตแก่ผู้คน เรื่องค่ายอาคมมิติที่สมควรคงอยู่ภายในร้าน รวมถึงเกมเสมือนจริงที่ช่วยเพิ่มพูนการฝึกฝน...
เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อ!
สิ่งของเหล่านั้นมันเกินสามัญสำนึก ทั้งยังทำให้พวกเขาไม่สบายใจกันอย่างถึงที่สุด!
เหยาฮุยเฉินสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนกระแอมไอออกมา
เสียงพูดกล่าวเลือนหาย บรรดาผู้อาวุโสรอคอยจ้าวสำนักตัดสินใจ
“เถ้าแก่ลึกลับผู้นั้น ไม่ทราบว่าสนใจเรื่องโบราณสถานหรือไม่ หากไม่ เช่นนั้นพวกเราต้องส่งคนไป!”
“ผู้อาวุโสที่สามนำคณะคนในครั้งนี้ไปเป็นอย่างไร?”
เหยาฮุยเฉินหันมองทางชายชราชุดดำ
อีกฝ่ายคือผู้อาวุโสลำดับที่สามแห่งหุบเขาโอสถ!
ขณะเดียวกันนี้เขายังมีอีกหนึ่งตัวตน นั่นก็คืออาจารย์ของเหว่ยอี้!
สาเหตุว่าทำไมเหยาฮุยเฉินจึงขอผู้อาวุโสที่สามเดินทางไปก็เพราะเห็นว่าเหมาะสม
นอกจากวิถีปรุงยาอันสวนสะพรึงของผู้อาวุโสที่สามแล้ว ระดับการฝึกฝนของเขายังเป็นที่หนึ่งในท่ามกลางผู้อาวุโสทั้งหมด
ตัวเขาคือผู้ที่ใกล้เหยียบย่างเข้าสู่ขอบเขตราชันที่สุด!
หากการเดินทางครั้งนี้ได้คว้าโอกาสใดในโบราณสถาน เช่นนั้นคิดก้าวหน้าสู่ขอบเขตราชันย่อมไม่ใช่เรื่องยาก!