ตอนที่ 64 เหนือฟ้ายังมีฟ้า
ตอนที่ 64 เหนือฟ้ายังมีฟ้า
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย
พระสูตรแห่งพราหมณ์เป็นเคล็ดวิชาที่เกี่ยวกับเสียงเหมือนกับพระสูตรแห่งสมาธินั่นเอง
เมื่อเริ่มท่องพระสูตรแห่งพราหมณ์ เหล่านักบวชทั้งหลายก็จะได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ ศัตรูทั้งหมดที่ได้ฟังเสียงสวดหัวใจของพวกเขาจะเต้นรั่ว
ผู้ที่มีวรยุทธอ่อนแอจะรู้สึกเกรงกลัวเคล็ดวิชานี้ในทันที เมื่อฟังเสียงสวดมนตร์ไปได้สักพักหนึ่ง เลือดภายในตัวจะไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดจนกระทั่งคนๆ นั้นได้ตายจากไป แต่ถึงจะตายจากไปในทางวิถีพุทธของพวกนักบวช พวกเขาจะไม่ใช้คำว่า 'ตาย' แต่พวกเขาจะใช้คำว่านอนหลับแทน มันเป็นการนอนหลับเพื่อหลุดพ้นซึ่งความทุกข์ และถึงแม้ว่าผู้มีวรยุทธสูงจะไม่ตายหลังจากฟังเสียงสวดแต่พวกเขาก็จะรู้สึกมึนงงสับสนอยู่ดี และความมึนงงนั้นเองจะทำให้พวกเขาถูกโจมตีต่อไป
ในตอนนี้เสียงสวดมนตร์เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ พลังของมันทรงพลังเกินกว่าที่ใครคนหนึ่งจะจินตนาการเอาไว้
ลู่โจวเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธระดับกลางที่อยู่ในขั้นสังหรณ์หยั่งรู้เท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทนทานต่อเสียงสวดมนตร์นี้ได้
หึ่ง หึ่ง หึ่ง
เสียงสวดมนตร์ได้ดังไปทั่วงานพิธีศักดิ์สิทธิ์
ลู่โจวยกแขนขึ้นมา ในตอนนั้นพลังคลื่นเสียงได้ลอยเข้าหูของเขาอย่างรวดเร็ว ลู่โจวพยายามที่จะสกัดกั้นพลังเอาไว้ ในตอนนั้นเองเขาก็หันไปมองหยวนเอ๋อและเจียงอาเฉียน 'เจียงอาเฉียนไปไหนกัน? '
สัญชาตญาณของลู่โจวบอกได้ทันทีว่าเจียงอาเฉียนมีฝีมือ ลู่โจวที่คิดแบบนั้นได้กลับไปสนใจที่แท่นทำพิธีอีกครั้งโดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับเจียงอาเฉียนอีกต่อไป
หยวนเอ๋อเองก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอทำหน้ามุ่ยก่อนที่จะกระทืบเท้าด้วยความโกรธ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร หัวใจและนิสัยอันแสนบริสุทธิ์ของเด็กสาววัย 16 ปี ปราศจากความคิดที่เป็นกิเลส ดังนั้นเธอจึงไม่ได้รับผลกระทบอะไร และยิ่งไปกว่านั้นวรยุทธของเธอก็อยู่ในระดับศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย ดังนั้นพระสูตรแห่งพราหมณ์จึงไม่ได้ส่งผลอะไรกับตัวเธอเลยแม้แต่น้อย
หึ่ง หึ่ง หึ่ง
พระสูตรแห่งพราหมณ์เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเป็นคลื่นทะเลอันใหญ่ยักษ์ที่กำลังซัดเข้าใส่แท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์
ลู่โจวยกมือของเขาขึ้น ตัวเขารู้ดีว่าวรยุทธในระดับสังหรณ์หยั่งรู้คงจะไม่สามารถทำให้ตัวเขาทนต่อการโจมตีนี้ได้แน่ ลู่โจวรีบหยิบการ์ดของเขาออกมา ถ้าหากตัวเขาสังหารกงซุนผู้นำของวิหารแห่งความว่างเปล่าได้บทสวดที่กำลังดังขึ้นก็จะหยุดลงในทันที แต่อย่างไรก็ตามนั่นก็ยังคงมีปัญหาที่จะตามมาอยู่ดี การทำแบบนั้นทุกๆ คนจะต้องหันมาสนใจตัวเขาแน่ และถ้าหากเป็นแบบนั้นการที่จะพาจ้าวยู่กลับมาก็คงจะเป็นไปได้ยาก ลู่โจวครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะหยิบการ์ดออกมา ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของลู่โจวยังสงบนิ่งไม่เคลื่อนไหว
เสียงสวดมนตร์เริ่มดังขึ้นจนเริ่มส่งผลต่อผู้คนที่อยู่แถวนั้น
"โอ๊ย! โอ๊ย! ข้าปวดหัวเหลือเกิน เสียงพวกนั้นมันทำให้ข้าปวดหัว! "
ผู้ฝึกยุทธคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างลู่โจวได้เอามือกุมหัวก่อนที่จะบ่นพึมพำอะไรออกมา เขาเริ่มทนไม่ไหวก่อนที่จะกลิ้งลงบนพื้น
"เอ๊ะ...ทำไมตาแก่นี่ไม่ได้รับผลกระทบกันล่ะ? "
'ถูกต้อง ทำไมฉันถึงไม่ได้รับผลกระทบกันล่ะ? ' ลู่โจวมองไปรอบตัวของเขา ใบหน้าของทุกคนในตอนนี้กำลังบิดเบี้ยวและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของพวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
เสียงสวดมนตร์เริ่มดังกังวานมากยิ่งขึ้น มันดังกว่าเดิมหลายเท่ามาก
ในตอนนั้นลู่โจวก็รู้สึกถึงคลื่นกระแทกที่พุ่งเข้าหาตัวเขา นี่คือผลกระทบของพระสูตรแห่งพราหมณ์ มันเป็นผลกระทบที่ทรงพลังมากที่สุดแล้วนั่นเอง คนจำนวนมากที่เข้าร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ได้ลงไปกลิ้งกับพื้นก่อนที่จะมีเลือดไหลออกมาทั่วตัว เลือดทั้งหมดได้ไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด
ความรู้สึกร้อนแรงได้แผ่ซ่านไปทั่วจุดตันเถียนในตัวของลู่โจว
หึ่ง! หึ่ง!
"เพื่อที่จะเข้าใจผู้อื่น พวกเราจะต้องยอมรับว่าในโลกใบนี้ไม่มีซึ่งความแตกต่าง ถึงแม้ว่าจะมาจากต่างที่ต่างเวลา สุดท้ายแล้วพวกเราก็เป็นเหมือนกับคนในโลกใบเดียวกัน"
"เมื่อยอมรับซึ่งกันและกันได้แล้วพวกเราก็จะได้ยินเสียงของทุกสรรพสิ่งได้"
"ผู้ที่ได้ยินเสียงของทุกสรรพสิ่งได้จะสามารถปล่อยคนทั้งโลกให้พ้นจากความทุกข์ยากได้"
ลู่โจวตกตะลึง ตัวเขาได้ยินเสียงพระสูตรแห่งพราหมณ์ มันเป็นเนื้อหาเดียวกับเคล็ดอักษรสวรรค์! ลู่โจวจำได้ มันมีเนื้อหาส่วนหนึ่งของเคล็ดวิชามนุษย์อักษรสวรรค์ เมื่อความรู้สึกแสบร้อนบนจุดตันเถียนของเขาลดลง ในตอนนั้นมันก็ถูกแทนที่ด้วยความเย็นจางๆ แทน ความเย็นจางๆ ได้แพร่ไปยังหน้าอก, หัวใจ และสมอง
ในตอนนั้นเสียงบทสวดพระสูตรแห่งพราหมณ์ก็ได้ดังเข้ามาในหูของเขาอีกครั้ง ลู่โจวมองไปรอบๆ ตัวในตอนนั้นเหล่าผู้ฝึกยุทธส่วนมากก็ได้นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นหมดแล้ว เห็นได้ชัดว่าคนพวกนั้นทรมานเจ็บเจียนตายไปแล้วนั่นเอง เหล่าผู้ฝึกยุทธที่นอนอยู่ไม่สามารถขยับตัวได้เลย
ในอีกด้านหนึ่งเหล่านักบวชที่กำลังอยู่บนแท่นทำพิธีกำลังผสานมือกันและปิดตาเอาไว้ นักบวชทั้งหมดกำลังสวดมนตร์เพื่อเพิ่มความร้อนในจุดตันเถียนมากยิ่งขึ้น
ในตอนนั้นเองมีเพียงพลังอวตารดอกบัวทั้งสี่แห่งร้อยวิถีส่องแสงอยู่ที่ใจกลางพิธี
หยวนเอ๋อเองกำลังนั่งลงบนพื้น ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนักสิ่งที่ทำให้เธอนั่งลงคงจะเป็นเพราะความรำคาญเท่านั้น
ในอีกด้านหนึ่งจ้าวยู่ในตอนนี้หมดสติไปแล้ว
ในตอนนั้นร่างกายของยอดฝีมือลำดับที่สามจากสำนักปีศาจยังถูกปกคลุมด้วยพลังร่างอวตารดอกบัวทั้งสี่แห่งร้อยวิถี เขากำลังจ้องมองไปยังนักบวชผู้ใช้อรหันต์กายาทองคำอย่างกงซุน ร่างกายของเขากำลังเปล่งแสงสีทองออกมา
เมื่อกงซุนเห็นว่าด้วนชิงยังคงยืนอยู่ได้ ในตอนนั้นเขาก็เพิ่มพลังความแข็งแกร่งโดยใช้พลังอรหันต์กายาทองคำ
อรหันต์กายาทองคำสองเท่า!
"เจ้านักบวชหัวโล้นนี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการจะแสดงอย่างงั้นหรอ? ช่างเป็นเรื่องน่าขำขันซะจริง! " ด้วยชิงหัวเราะออกมาในระหว่างที่ยืนดูกงซุนใช้พลังอรหันต์กายาทองคำ
ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!
เมื่อทั้งสองคนเข้าปะทะกัน แรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงก็ได้สั่นคลอนแท่นทำพิธีศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ลู่โจวในตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอากาศกำลังบิดเบี้ยว
ด้วนชิงรีบใช้งานเคล็ดวิชาเต๋าล่องหนอีกครั้ง ตัวเขาได้ทิ้งร่างแยกเอาไว้รอบตัวกงซุน
เหล่าผู้ฝึกยุทธที่ยังคงตั้งสติได้จ้องมองไปยังพลังร่างอวตารที่มีกลีบดอกบัวทั้งสี่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยิ่งไปกว่านั้นเองตอนนี้พลังร่างอรหันต์กายาทองคำถึง 4 ร่างด้วยกัน
ภายใต้การเพิ่มพลังของร่างกายาทองคำ พระสูตรแห่งพราหมณ์ก็ได้ทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิม เสียงสวดได้ดังกึกก้องมากขึ้นจนทำให้ชาวยุทธส่วนมากไม่อาจทนได้
ตู๊ม!
เสียงระเบิดได้ดังขึ้นกลางอากาศ ในตอนนั้นพลังร่างอวตารดอกบัว 4 ดอกก็ได้หายจางไป ด้วนชิงกระโดดขึ้นก่อนที่จะกลับไปที่นั่งของวิหารปีศาจ
พรึ๊บ! พรึ๊บ! พรึ๊บ!
ด้วนชิงได้ใช้นิ้วของเขาสกัดจุดลมปราณเพื่อหยุดอาการบาดเจ็บเอาไว้ เสียงสวดมนตร์ในตอนนี้ทำให้ด้วนชิงได้รับบาดเจ็บ
ด้วนชิงที่พยายามรักษาอาการบาดเจ็บได้จ้องมองไปยังกงซุนผู้ที่กำลังปลดปล่อยพลังจากบทสวดด้วยสีหน้าท่าทีที่เย็นชา
"เจ้าพระหัวโล้นนี่เก่งกาจถึงขนาดนี้เลยอย่างงั้นหรอ?! " ด้วนชิงได้ลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยมือข้างเดียว ในตอนนั้นเองสีหน้าท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังดุดัน ในตอนนี้ด้วนชิงต้องการที่จะขยับตัวแต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่สามารถทำได้
นี่เป็นผลมาจากพระสูตรแห่งพราหมณ์ มันเป็นผลที่น่ากลัวมาก ทุกตารางนิ้วของพิธีศักดิ์สิทธิ์ถูกพลังของบทสวดเข้าปกคลุม
ดวงตาของกงซุนในตอนนี้ยังคงสดใส ตัวเขาได้ลอยขึ้นไปกลางอากาศก่อนที่จะส่องแสงสีทองออกมา
'เจ้านี่จะทำอะไรกัน? ทำไมเขาถึงไม่หยุดอีกล่ะทั้งที่ชนะแล้ว? ' ลู่โจวได้แต่คิดอยู่ในใจ
"พอแค่นั้นแหละ! " เสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งได้ดังขึ้น มันเป็นเสียงที่ดังมาจากด้านหลังของกงซุน
กงซุนได้แต่ตกตะลึง นั่นใครกัน? เขาหมุนร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังสีทองไปรอบๆ อย่างช้าๆ ในตอนนั้นเองเขาก็เห็นชายชราคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์อย่างสบายใจ ชายชราคนนี้ไม่ได้เคลื่อนที่มาอย่างรวดเร็วเกินไปหรือช้าจนเกินไป แต่ท่าทางทีที่สบายๆ ของเขาทำให้กุงซุนรู้ได้ทันทีว่าชายชราคนนี้ไม่ได้รับผลจากบทสวด
ลู่โจวลูบเคราของเขาอย่างหงุดหงิด "วิถีพุทธของพวกเจ้ามักจะภาคภูมิใจในวิถีแห่งธรรมอยู่เสมอ พวกเจ้าน่ะไม่ชอบที่จะเอาชีวิตใคร แต่วันนี้พวกเจ้ากลับแหกกฎพวกนั้นซะเอง นี่เป็นจุดประสงค์ของเจ้าอาวาสแห่งวิหารแห่งความว่างเปล่า กงหยวนอย่างงั้นหรอ? "
"ท่านชาวยุทธ ท่านไม่ได้รับผลกระทบอย่างงั้นหรอ? " แม้ว่านักบวชกงซุนจะเป็นนักบวช แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็มั่นใจในความรู้และฝีมือที่มี แต่ชายชราที่อยู่ตรงหน้ากลับต้านทานบทสวดอันทรงพลังได้
พระสูตรแห่งพราหมณ์ได้ถูกสวดขึ้นโดยนักบวชกว่าหลายสิบคนรวมไปถึงนักบวชที่มีวรยุทธระดับมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์ แต่ถึงแบบนั้นชายชราคนนี้กลับไม่ได้ผลกระทบอะไรเลย
ลู่โจวได้พูดออกมาอย่างไร้อารมณ์ "ตอบคำถามข้ามาซะสิ"
"ท่านชาวยุทธ ท่านน่ะพยายามที่จะหยุดนักบวชชราผู้นี้อย่างงั้นหรอ? " กงซุนพูดออกมาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง สัญชาตญาณของเขาได้บอกเอาไว้ว่าชายคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ลู่โจวส่ายหัวของเขา สิ่งที่เขาได้ยินไม่ใช่คำตอบที่ตัวเขาอยากฟัง "นักบวชสมองหมู" หลังจากพูดจบลู่โจวก็ยกแขนขึ้นมาอย่างช้าๆ
ในเวลาเดียวกันนั้นเองกงซุนก็ได้ระเบิดพลังแสงสีทองออกมา พลังร่างอรหันต์กายาทองคำได้แยกเป็น 8 ร่าง ในตอนนั้นกงซุนก็ได้ใช้อรหันต์กายาทองคำเข้าโจมตี
ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!
ร่างอรหันต์ทองคำที่สูงกว่า 100 ฟุต กว้างกว่า 10 ฟุตได้ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ตัวของลู่โจว ร่างอวตารทั้งแปดค่อยๆ จางหายไป!
ในตอนนั้นชาวยุทธที่ยังคงรักษาสติเอาไว้ได้ได้แต่จ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความตะลึง อรหันต์กายาทองคำที่ทรงพลังมาโดยตลอดได้อ่อนแอลงอย่างกะทันหัน หรือว่าร่างสีทองที่สร้างขึ้นมีขนาดใหญ่จนเกินไป? ชาวยุทธส่วนใหญ่ที่ได้เห็นพลังอรหันต์นี้ได้แต่ประหลาดใจเมื่อได้เห็นพลังนี้
"ท่านนักบวชอาวุโส! "
"ท่านนักบวชอาวุโส!!! "
ลู่โจวเหวี่ยงแขนเสื้อของเขาเบาๆ ในตอนนั้นเองฝ่ามือเล็กๆ ก็ได้พุ่งผ่านร่างสีทองจนไปถูกกงซุน
กงซุนได้แต่อ้าปากค้าง ตัวเขาเพิ่งจะถูกการโจมตีจนทำให้ปวดร้าวไปทั้งตัว กงซุนได้สลัดพลังอรหันต์กายาทองคำทิ้งไปก่อนที่จะถอยไปอย่างรวดเร็ว
ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย
หลังจากปล่อยฝ่ามือไป ที่ที่กงซุนได้หลบหนีก็ได้เกิดการระเบิดหลายครั้ง กงซุนในตอนนี้สามารถถอยกลับไปได้ด้วยความเร็วดุจดั่งสายฟ้าฟาด
'การ์ดการโจมตีของเพรชฆาตเป็นการ์ดที่สามารถโจมตีให้เป้าหมายถึงตายได้ นักบวชนี่สามารถหลบได้อย่างงั้นหรอ? '