ตอนที่ 198 คำใบ้และคำประกาศิต
ตอนที่ 198 คำใบ้และคำประกาศิต
เนื่องจากเหล่าทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งจากทางศูนย์ใหญ่ให้ดำเนินการตรวจเช็คสภาพร่างกายของผู้เล่นเจสเปอร์คนนี้ให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้นำมาประกอบเป็นแผนงานวิจัยและพัฒนาในลำดับต่อไปในอนาคต ส่งผลให้การตรวจร่างกายในครั้งนี้กินเวลาไปมากกว่า 4 ชั่วโมงโดยประมาณเห็นจะได้ ซึ่งแน่นอนว่าตลอดช่วงเวลาดังกล่าวเจสเปอร์ก็ให้ความร่วมมือกับเหล่าทีมแพทย์เป็นอย่างดี เพราะเขาเล่นนอนหลับอุตุ ไม่สนใจใครจะทำอะไรใดๆทั้งสิ้น
“เจ้ซันนี่...หัวหน้าตายแล้วเหรอ? ถึงได้นอนหลับสนิททั้งๆที่มีเครื่องไม้เครื่องมือโยงเต็มร่างขนาดนั้น สงสัยจังว่าในเกมไปทำเรื่องอะไรมา?”
“ฉันเองก็ไม่รู้...แต่จากที่ได้ฟังพวกเจ้าหน้าเขาพูดกัน เห็นว่ากันว่าที่ร่างกายของเจสอ่อนเพลียแบบนี้ เป็นเพราะหมวก VRของพวกเขาไม่สามารถรองรับขีดจำกัดการควบคุมของเจสได้...อะไรสักอย่างนี้ล่ะ??!!”
แน่นอนว่าการมีคนแปลกหน้านับสิบคนเข้ามาเดินวนเวียนอยู่ใกล้ๆตัวนานหลายชั่วโมง เป็นใครก็ต้องลุกขึ้นมาดูบ้างแหละว่า…บ้านของพวกเขาเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ระบบรักษาความปลอดภัยในหมวกถึงได้แจ้งเตือนพวกเขาที่อยู่ในเกมถี่ขนาดนี้!
ทวิสเต็ดที่มีสัญชาติญาณนักฆ่าติดมาจากตัวละครในเกม เป็นคนแรกที่ออฟไลน์ออกจากระบบแทบจะทันทีเมื่อมีสัญญาณความปลอดภัยแจ้งขึ้น ทั้งที่ชั่วขณะนั้นในเกม The Era ตัวของทวิสเต็ดก็ใกล้ที่จะสังหารบอสแมงมุมแม่ม่ายดำลงได้แล้วเพื่อออกตามล่าหาชุดเซ็ต Black Widow ที่ชายหนุ่มใส่อยู่ให้ครบทั้งสามชิ้น อย่างไรก็ตามหลังจากตื่นขึ้นมาพบกับเจ้ซันนี่และพี่สาวบับเบิ้ล ที่ยืนกอดอกมองดูเหล่าที่แพทย์ปฏิบัติงานหน้าห้องนอนของเจสเปอร์ ทวิสเต็ดที่แสนเงียบขรึมก็หอบเอาหมวก VRและหมอนประจำตัวที่ใช้หนุนหนอนอยู่เป็นประจำ ที่ข้างหมอนสลักคำว่า ‘Proud of you.From MOM’
เดินออกไปจากห้องรับแขกอย่างเงียบๆคล้ายไม่มีตัวตนพลางแอบแวบเข้าไปในห้องของริคเตอร์ เพื่อรีบกลับไปสมทบกับผู้เล่นที่ร่วมออกล่าบอสแมงมุมแม่ม่ายดำด้วยกันอย่างสามสมาชิกหลัก ปับปี้ ร็อคสตาร์และคาซิอุส ที่บัดนี้ทั้งสามคนเดินทางมาพักอาศัยอยู่ที่ตึกสำนักงานกิลด์ที่เจสเปอร์ซื้อไว้เป็นที่เรียบร้อย
กระนั้นแล้ว...เมื่อทวิสเต็ดได้กลับเข้าไปหมกตัวในเกมอีกครั้ง สลิปและริคเตอร์ก็ออกจากระบบไล่เลี่ยกันมา ทว่า...พวกเขาทั้งคู่ไม่มีโอกาสที่จะได้กลับเข้าไปในเกมเหมือนกับทวิสเต็ดที่เห็นว่าเหตุการณ์ทั้งหมดได้มี 2 เลขาคอยจัดการอยู่แล้วนั่น ตัวชายหนุ่มก็หอบเอาของใช้มุ่งหน้ากลับเข้าเกม...เสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พลางล็อคประตูห้องของริคเตอร์ไม่ให้ใครรบกวนเสียอย่างนั้น!!
นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ริคเตอร์และสลิป ถึงต้องยอมจนใจเดินมาดูอาการของหัวหน้าที่นอนหลับเป็นตายท่ามกลางมือหลายสิบคู่ที่พลิกตัวไปมา กับเครื่องมือที่ส่งสัญญาณเป็นจังหวะๆ
หลังจากที่ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่จากบริษัท Phoenix Studios จะขอตัวร่ำลากลับไป พวกเขายังได้มอบหมวก VR รุ่นแพลทตินั่มเบต้าที่กำลังจะวางจำหน่ายในไตรมาศถัดไปแก่สาธารณะชน
(ในช่วงเวลานี้รุ่นแพลทตินั่มยังเป็นแค่หมวก VR อยู่ ซึ่งจะพัฒนาเป็น VR แคปซูลรุ่นแพลทตินั่มเหมือนเช่นในอดีต หลังจากที่ได้นำผลวิจัยการใช้งานของเจสเปอร์ไปตรวจสอบ)
จำนวนหนึ่งเครื่องไว้ให้กับเจสเปอร์เพื่อถือเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนที่พวกเขาขอนำหมวก VR รุ่นโกลด์ของชายหนุ่มกลับไปตรวจสอบ เท่ากับว่าในตอนนี้เจสเปอร์ได้ใช้หมวกรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ก่อนคนผู้เล่นคนอื่นๆหนึ่งก้าว...นั้นสร้างความตื่นเต้นให้กับเจ้ซันนี่ พี่สาวบับเบิ้ล ริคเตอร์และสลิปอยู่ไม่น้อย
แต่สำหรับเจสเปอร์นะเหรอ? เขากลับรู้สึกเฉยๆเหมือนรู้อยู่แล้วว่าหมวกรุ่นนี้จะเป็นแค่ทางผ่านสำหรับเขา อย่างไรก็ตามถึงหมวกจะเพิ่มขึ้นอีกสักกี่รุ่น...ข้อจำกัดของหมวกที่ทำได้ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่า VRแคปซูลได้อยู่ดี
‘มันคือจุดสิ้นสุดของนวัตกรรมหมวก VR แล้ว!!’
การสิ้นสุดดูจะเป็นคำที่รุนแรงเกินไปสำหรับเกมที่เพิ่งเปิดบริการได้เกือบ 6 เดือนเท่านั้น แต่เขาไม่อาจหาคำที่สวยหรูมานิยายได้จริงๆว่า เกม The Era Online มันยิ่งใหญ่เกินกำลังของหมวกที่จะสรรสร้างได้แล้วทั้งหมดไม่ใช่สำหรับผู้เล่นคนอื่น แต่เป็นเฉพาะสำหรับเขาที่เคยชินกับอัตราการซิงค์และปลดปล่อยการควบคุมได้มากเกินกว่า 80% เป็นอย่างน้อย เพียงคนเดียวเท่านั้น
เพราะทุกวันนี้ถ้าจะให้พูดแบบตรงๆเลยก็คือ เจสเปอร์ยอมลดความสามารถของตัวเองลงเพื่อให้ตัวเขาสัมพันธ์กับเทคโนโลยีที่ยังพัฒนาอยู่นี้ให้ได้ มันก็เหมือนกับการที่คนเมือง ได้เห็นแสงสีในทุกวันๆ...แต่วันดีคืนดีๆกลับต้องย้ายไปชนบทที่ห่างไกลนั้นละ มันก็จะโหวงๆหน่อย แต่ถ้าถามว่ายังมีชีวิตต่อไปได้ไหม คำตอบก็คือ ‘ได้’ ทั้งหมดที่ต้องทำก็แค่ปรับตัว
กระนั้นแล้วในเมื่อเหล่าทีมงานมีของมอบให้กับเขา ตัวเจสเปอร์จะไม่ให้อะไรพวกเขากลับไปเลยก็ดูจะกระไรอยู่
“ขอโทษนะครับ สมองของผมเป็นปกติดีใช่ไหม?” เจสเปอร์เกริ่นคำใบ้ออกไปแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่เหล่าทีมงานภาคสนามแจ้งเรื่องกลับไปศูนย์ใหญ่พอดิบพอดี พร้อมกับๆปลายสายนั้นต่อตรงเชื่อมเข้าห้องทำงานของประธานโนเบล เบอร์นาท ที่อยู่รอฟังผลการตรวจ ด้วยความร้อนใจมาตลอดบ่ายที่ผ่านมา
“แน่นอนสิครับ...!! สมองของคุณเจสเปอร์ปกติดี ทางเราสามารถทำสำเนาการตรวจนี้ให้คุณเพื่อไปยืนยันกับทางโรงพยาบาลได้หากคุณเจสเปอร์ต้องการ”
เหล่าทีมงานและปลายสายศูนย์ใหญ่ต่างหน้าซีดเป็นไก่ต้มทันทีเมื่อได้ยินคำถามของเจสเปอร์ที่ถามมา
เนื่องจากพวกเขาต่างกังวลว่าคำถามที่ชายหนุ่มถามมาเมื่อครู่นั่น ต้องการฟ้องร้องอะไรพวกเขาหรือเปล่า? เพราะนับตั้งแต่บริษัทของพวกเขาเปิดให้บริการเกมเสมือนจริง The Era Online นี้ขึ้นมา
กระแสวิพากษ์วิจารณ์และข้อครหา เรื่องความปลอดภัยของตัวผู้เล่นที่ต้องเชื่อมต่อกับเกมคล้ายกับสภาวะจำศีล นั่นได้ถูกผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก หยิบยกขึ้นมาเป็นข้อถกเถียงอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้บริษัทในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนที่เดินอยู่บนขอบเหว พร้อมจะตกลงเบื้องล่างได้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
“แล้วที่ผมเหนื่อยขนาดนี้เป็นผลมาจากอะไรเหรอครับ?” เจสเปอร์ยังแสร้งเล่นละครถามคำถามที่ตัวเขาเองรู้คำตอบดีอยู่แล้วต่อไปเรื่อยๆ
“เอ่อ...เป็นเพราะ!!”
เหล่าทีมงานเริ่มที่จะอำอึ้งกันแล้ว เพราะหากบอกว่าความจริงเรื่องที่หมวก VR ของเขายังมีเสถียรภาพไม่ดีพอก็จะส่งผลต่อความน่าเชื่อของบริษัท แต่ถ้าหากเลือกโกหกก็ดูจะไร้จรรยาบรรณ ที่สุดแล้วไม่ว่าจะเลือกตอบทางไหน พวกเขาก็เจ็บทุกทางอยู่ดี
“สวัสดีคุณเจสเปอร์ ผมมิสเตอร์ Xตัวแทนของบริษัทที่เคยมีโอกาสได้สนทนากับคุณมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ทราบว่าคุณพอจะจำได้หรือไม่?” ท่ามกลางความเงียบของเหล่าทีมงาน จู่ๆ ก็มีเสียงปริศนาที่เจสเปอร์จำได้ในทันทีว่า เป็นทีมงานของบริษัท Phoenix Studios ที่ตัวเขาเคยเจราจาต่อรองตอนเปิดเผยตัวตนเมื่อหนก่อนนั้นเอง
“ที่ร่างกายของคุณมีสภาพเหมือนเหนื่อยล้าเป็นผลพ่วงมาจากหมวก VR ของทางเรา...ที่คุณเจสเปอร์ได้อนุญาตให้มันดำเนินการซิงค์ข้อมูลเกินค่าเฉลี่ยที่หมวกทำได้ ซึ่งทางเราเองก็มีมาตรการรองรับเรื่องนี้เพื่อตัดคุณออกจากระบบเตรียมไว้อยู่แล้ว...แต่เนื่องจากขณะนั้นคุณเจสเปอร์กำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายของเควสระดับตำนาน เราจึงจำเป็นต้องตัดสินใจปล่อยให้คุณแบกรับอันตรายต่อไปโดยพละการ...ทั้งนี้พวกเราต้องขออภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อคุณมา ณ ที่นี้ด้วย!!”
ประธานโนเบลรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจสเปอร์จริงๆ แต่หากย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้เขาก็ยืนกรานที่จะปล่อยให้เจสเปอร์เสี่ยงอันตรายแบบเดิมอยู่ดีเพราะเกม The Era Online สำหรับผู้เล่นอาจเป็นเพียงเกมหนึ่งที่เข้ามาแล้วก็ผ่านไป แต่สำหรับประธานโนเบลที่เป็นคนสร้างเกมนี้ให้เกิดขึ้น เขากลับมองมันว่ามันคือโลกอีกหนึ่งใบที่ไม่มีวันสิ้นสุด...โลกที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้จัก...โลกที่เขาเฝ้ารอให้ผู้เล่นอีกนับล้านมาแต่งเติมสีสันให้กับมันแทนเขา
“ไม่เลย...!! ผมไม่ได้จะเรียกร้องอะไรอย่างที่พวกคุณเป็นกังวลกันหรอก ผมแค่สงสัยที่ผมเหนื่อยก็เท่านั้นเอง ทั้งที่ร่างกายของผมเองก็นอนอยู่เฉยๆบนเตียงที่แสนนุ่มสบาย แต่กลับเมื่อยล้าได้ขนาดนี้...ถ้าหากพวกทีมแพทย์ไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นผมคงคิดว่าเตียงนอนของผมคงจะมีปัญหาซะแล้ว...??!!”
เจสเปอร์ยังคงพูดถึงเรื่องเตียงนอนสลับกับเรื่องที่หมวกไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับสมองของเขาไปเรื่อยเปื่อย แต่คู่สนทนาปลายสายกับนิ่งเงียบจนน่าฉงน
พลันทำให้เหล่าทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่รับหน้าเสื่ออยู่ต่อหน้าคู่กรณีเช่นนี้ พากันวางตัวไม่ถูกเลยทีเดียว สัญญาณขัดข้องหรอ? ไม่นะ!! ทุกอย่างยังคงปกติ มิสเตอร์ X(ท่านประธาน) และศูนย์ใหญ่ก็ยังอยู่ในสายปกติ!!
‘เตียงนอนมีปัญหา...หมวกไม่ส่งผลกระทบต่อสมองตามที่เข้าใจ...แต่เป็นร่างกายที่แบกรับปัญหานี้แทน??!!’
ในหัวของท่านประธานโนเบลตอนนี้คล้ายกับกระแสน้ำที่ไหลเชียว เมื่อได้มีคนมายกเอาหินที่ขวางกันทางน้ำออกไป กระแสน้ำจำนวนมากก็ล้นทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะแตกกระเซ็นเป็นทางน้ำสายใหม่ที่กว้างใหญ่ขยายมากขึ้น
ไม่จำเป็นอีกแล้วที่เขาจะต้องเดินตามกรอบความคิดเดิมที่มุ่งพัฒนาแต่หมวก VR ที่นับวันยิ่งหมดหนทาง ดีไม่ดี...ความคิดใหม่นี้อาจทำให้ตัวเขาและเทคโนโลยี VR ก้าวหน้าจากคอขวดที่เป็นอยู่ก็ได้
“พวกเราบริษัท Phoenix Studioต้องขอขอบคุณที่คุณเจสเปอร์ให้อภัยต่อการกระทำของพวกเราในวันนี้และยอมมอบผลการตรวจร่างกายที่เป็นความลับนี้ไว้ใช่วิจัย ยังไงแล้วหากไม่เป็นการเสียมารยาท งานจัดเลี้ยงฉลองครบรอบ 6 เดือนที่ทำยอดผู้เล่นสูงสุดให้กับเกม The Era Onlineที่จะจัดขึ้นที่ประเทศ U ทางบริษัทขอเชิญคุณเจสเปอร์และคณะมาเป็นแขกจะได้หรือไม่?”
เป็นคำเชิญร่วมงานเลี้ยงเล็กๆที่ทางบริษัทจัดขึ้นเป็นการภายในเพื่อขอบคุณผู้เล่นระดับสูงจากหลายๆอาณาจักรในเกม รวมถึงงานเลี้ยงครั้งนี้ยังเป็นการแถลงการณ์เปิดตัวการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่จะเกิดขึ้นในช่วงครบรอบ 1 ปีให้ผู้เล่นระดับสูงได้เตรียมตัวและรับทราบก่อนหน้าที่จะแถลงการณ์กับสื่อสาธารณะอีกด้วย
‘เหมือนกับหนก่อนสินะ!!’ งานเลี้ยงครั้งนี้เหมือนกับอดีตของเขาไม่ผิดเพี้ยน แต่อาจมีความแตกต่างอยู่เล็กน้อยตรงที่ว่า งานเลี้ยงดั่งกล่าวจะมีเขาและกิลด์ Rising Sun ไปร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วยนั่นเอง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจสเปอร์ได้ส่งเหล่าทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่กลับไป ทางศูนย์ใหญ่ของบริษัท Phoenix Studio ก็เกิดเรื่องที่หนักหนักใจขึ้นทันที มันเหมือนกับฟ้าที่ผ่าลงกลางใจพนักงานออฟฟิสทุกคนไม่มีผิด
เมื่อหัวข้อการประชุมด่วนที่ถูกจัดขึ้นนั้น มันระบุลงมาถึง หมวก VR รุ่นแพลทตินั่มที่กำลังจะวางขาย
‘ประธานจะให้เพิ่มอะไรอีกหรือเปล่า?’
‘ขอให้ครั้งนี้อย่าได้เพิ่มเยอะเลย บอกตามตรงแค่ปรับเพิ่มดีไซน์ก็เอาฉันอยู่ทำ OTเกือบเดือนแน่ะ!’
‘ทีมออกแบบดีไซน์จะไปหนักอะไร ทีมวิจัยของพวกฉันต่างหากที่ควรจะพูดคำนั้น แต่ยังไงซะพวกเราก็น่าจะรอดพ้นแล้วละ หัวหน้าของพวกเราที่เข้าประชุมคงไม่ยอมแน่เพราะรุ่นแพลทตินั่มของพวกเราเพิ่มอัตราการซิงค์ได้ตามเป้าที่วางไว้แล้วยังไงล่ะ ฮาฮ่า!!’
‘หัวเราะไปเถอะทีมวิจัยของนายนะ...เมื่อกี้ฉันเพิ่งรู้ข่าวจากทีมด้านบนที่ขึ้นตรงกับท่านประธานโนเบล เห็นพวกเขาบอกว่ามีผู้เล่นคนหนึ่งได้ซิงค์การควบคุมเกมทะลุถึงระดับ 80% ทั้งๆที่ใช้หมวกรุ่นโกลด์เชียวล่ะ’
‘ทีมการตลาดของนายก็พูดเพ้อเจ้อไปเรื่อยจะมีผู้เล่นที่ทำแบบนั้นได้ยังไงกันจริงไหม...? เอ๊ะนั่นหัวหน้าทีมภาคสนามไม่ใช่เหรอร้อยวันพันปีเพิ่งเคยเห็นเข้าศูนย์ใหญ่สงสัยคงโดนเรียกมาด่าเสียละมั้ง ฮ่าฮ่า’
ท่ามกลางความสับสนและเสียงหัวเราะของพนักงานรากหญ้า บัดนี้ในห้องประชุมที่อุดมไปด้วยเหล่าผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นและหัวหน้าทีมแผนกต่างๆกลับเหมือนอยู่บนลานประหาร เมื่อคำประกาศิตที่พวกเขาได้ยินจากปากท่านประธารเมื่อครู่นั่น เปรียบเสมือนกับการเรียกประหารพวกเขากลางแจ้งอย่างไรอย่างนั้น...!!
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy