ตอนที่แล้วประกาศเกี่ยวกับการอัพโหลด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 15: ถ่ายทอดสด

Chapter 14: ชายผู้ต่อต้านความตาย Eder (จบ)


*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

------------------------------------------------------------------------------------------------

การทำลายโกเล็มกระดูกนั่นได้ทำให้กระดูกมากมายนับไม่ถ้วนกระจุยกระจายไปทั่วกำแพง.

“ทางนี้เลย”

ผีเขียว Eder ชี้ไปด้านหนึ่งของกำแพง.

Darion เดินลุยผ่านกองกระดูกไป และเห็นว่ามันมีประตูอยู่ตรงนั้นจริงๆ.

“หวังว่ามันคงไม่ใช่กับดักนะ” กังโอพูด มองไปทางEder อย่างน่าสงสัย.

“ไม่อยู่แล้วน่า” Eder ปัดมือ.

แต่กันไว้ก่อนก็ดีเหมือนกัน.

“Darion สนใจไปก่อนปะ?”

“ข้าขอบาย”

“ตามที่เขาพูด. เจ้าไปก่อนดิ” กังโอพูดแล้วผลักEder ไปด้วยดาบปีศาจ.

Eder เข้าไปก่อนและกังโอก็ตามเข้าไป.

เหมือนชื่อของดันเจี้ยนนี้จริงๆ มันเป็นแล็บ.

ชั้นวางของเต็มไปด้วยยาแปลกๆแล้วก็มีหนังสือเกี่ยวกับพวกยาไม่ก็เวทย์มนต์กระจัดกระจายอยู่เต็มโต๊ะไปหมด.

อีกฟากหนึ่ง ร่างของEder ถูกแช่แข็งนิ่งอยู่ในหลอดแก้ว.

“ข้าจะ...สิงเจ้า Skeleton (สเกเลตั้น/โครงกระดูก) ตรงนั้นนะ”

Eder ชี้ไปทาง Skeleton ที่ใส่ชุดหมออยู่.

“นายรู้ใช่ไหมอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าหลอกชั้น?” กังโอถาม.

“แน่นอนครับ”

Eder สิง skeleton และมันก็มีชีวิตขึ้นมา.

“นั่งลงก่อนสิครับ”

Eder ชี้ไปทางโต๊ะและเก้าอี้.

กังโอ Darion แล้วก็ Eder นั่งรอบโต๊ะ.

“ข้าต้องเสิร์ฟชา….ข้าไม่ได้เตรียมไว้น่ะ พอดีนานมากแล้วที่ข้าจะมีแขกมา” Eder พูด.

แม้ว่ากรามของ Skeleton จะนิ่ง แต่พวกเขาก็ได้ยินเสียงของ Eder ดังมาจากหัวของมัน.

“ใครสนวะห้ะ. เอาเงินที่นายบอกจะให้มาซะ!”

“ครับ เดี๋ยวข้าจะให้. ข้าหามาได้บ้างตอนที่ยังเป็นฮีลเลอร์อยู่”

“เท่าไหร่?”

“ข้าใช้ส่วนหนึ่งในการวิจัย แต่ก็น่าจะมีเหลืออยู่ซัก 5พันโกลด์ได้”

กังโอกลืนน้ำลาย.

5พันโกลด์!

นั่นประมาณ50ล้านวอนเลย (ประมาณ1.3ล้านบาท)

“ก็ได้.ถ้าเจ้าให้ข้า5พัน ข้าก็จะไม่ฆ่าเจ้า” กังโอพูด.

“แลกกับ…”

“แลกกับ?”

กังโอมองคิ้วขมวดแล้วรีบจับด้ามดาบของเขาทันที.

“ช่วยข้าซักเรื่องเถอะ” Eder พูด.

กังโอนั่ง งง.

‘มันคงจะน่ารำคาญ แต่ถ้ามันคุ้มกับเงิน5พันโกลด์ละก็…’

เขาอยากจะฆ่า Eder ให้พ้นๆไปซะ.

แต่ทว่า เขาผลีผลามตัดสินใจไม่ได้เพราะเงิน5พัน.

“งั้นลองมาฟังที่นายจะพูดก่อนแล้วกัน” กังโอพูด.

“ช่วยย้ายร่างของข้าไปที่วิหารของเทพธิดาแห่งความตาย Deborah (เดโบร่า) ด้วยเถิด. หากท่านช่วยข้า ข้าจะยอมยก5พันโกลด์ให้เลย” Eder พูดและหน้าต่างเควสก็โผล่มา.

 

[Transport Eder's Body] (เคลื่อนย้ายร่างของเอเดอร์)

Eder พยายามทุกทางที่จะรักษาตัวเขาแต่ก็ไม่สำเร็จ.

ตอนนี้เขาเหลือทางเลือกสุดท้ายแล้ว. นั่นคือเขาต้องตามหาเทพธิดาแห่งความตายและขออภัยโทษ.

หากท่านเคลื่อนของร่างของ Eder ไปที่วิหารของเทพธิดาแห่งความตาย Deborah ท่านจะได้รับรางวัลมหาศาล.

ความยาก: Nightmare (ฝันร้าย/โคตรยาก)

เงื่อนไข: ร่างของ Eder ต้องไม่บุบสลาย.

รางวัล: 5,000 โกลด์. หนังสือเกี่ยวกับยาและเนโครแมนซี่ (มนต์ดำเกี่ยวกับความตาย)

ล้มเหลว: ร่างของ Eder บุบสลายหรือ Eder กลายเป็นวิญญาณชั่วร้ายไป.

 

กังโออ่านรายละเอียดของเควสและวางดาบลง.

‘เควสอะไรวะเนี่ย!?’

เขาไม่รู้รึไงว่าวิหารของเทพธิดาแห่งความตาย Deborah เป็นยังไง?

ก็ไม่มีใครรู้ที่แบบนั้นน่ะสิ.

เขารู้แค่ว่ามีข่าวลือว่ามันอยู่ที่ไหนซักที่ใน Despia (เดสเปีย) ดินแดนที่อยู่พรมแดนของนรก.

แล้ว Despia เป็นแบบไหนกันแน่ล่ะ?

ซอง ลี เชนโปรเฟสเซอร์ด้านธรณีวิทยาแห่งมหาลัยปักกิ่ง ที่เล่น Arth เหมือนกันนั้นไม่สามารถหยุดตัวเองจากการศึกษาเรื่องธรณีวิทยาและภูมิประเทศใน Arthได้.

หนังสือของเขา Arth is Larger than China (อาร์ทนั้นใหญ่กว่าเมืองจีน) เป็นหนังสือที่ขายดีทั่วโลก ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับภูมิประเทศและธรณีวิทยาของ Arth ในนั้น.

แน่นอนว่า กังโอก็ได้อ่านมันแล้ว.

ในหนังสือ ซอง ลี เชน ได้หยิบพื้นที่7ที่ที่อันตรายที่สุดใน Arth มา และ Despia พรมแดนแห่งนรก ก็เป็นหนึ่งในนั้นจริงๆ.

แน่นอนว่า ซอง ลี เชน ไม่เคยไปที่ Despia มาก่อน. เขาอ่านข้อมูลทุกอย่างและฟังสิ่งที่ NPC พูดต่อๆมาๆ. จากข้อมูลนั้นแล้ว เขาเลยสันนิษฐานว่า Despia เป็นยังไง.

Despia เป็น underworld (อันเดอร์เวิร์ล/ยมโลกไม่ก็โลกข้างใต้ครับ ขออณุญาตทับศัพท์) เป็นที่ที่อยู่ของมอนส์เตอร์เลเวลสูงกว่า300ซะอีก และแสงอาทิตย์สาดไปไม่ถึงที่นั่น.

ยิ่งไปกว่านั้น ซอง ลี เชน สันนิษฐานว่าสภาพแวดล้อมที่นั่นโหดร้ายมากและไม่มีใครคนใด, ผู้เล่นไหนๆก็ตามจะสามารถมีชีวิตรอดในนั้นได้.

แต่นี้มันเป็นแค่สมมติฐานเท่านั้น, มันอาจจะแย่กว่าที่เขาคิดไว้ก็ได้.

พูดอีกอย่างคือ กังโอต้องมีเวลอย่างน้อย300เพื่อที่จะเข้าไปใน Despia ซึ่งคงใช้เวลานานแหง.

แถมยังมีปัญหายิบย่อยอีกด้วย. ถ้าEder โดนผู้เล่นอื่นฆ่า หรือร่างของเขาเจอปัญหาเขา หรือเขาเปลี่ยนใจแล้วหนีไปซ่อน ทั้งหมดที่ทำมาก็จะไม่มีความหมาย.

แทนที่จะไปเสี่ยงกับเรื่องแบบนั้น เขาแค่ฆ่า Eder และเอารางวัลสำหรับการเป็นคนแรกที่เคลียดันเจี้ยนซะดีกว่า.

“หลับให้สบายเด้อ!”

กังโอตัดสินใจแล้วและเหวี่ยงดาบออกไป.

“อ๊าาก!” Eder กรีดร้อง.

เก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ถูกผ่าครึ่ง.

ถ้า Eder ไม่รีบหลบดาบนั่นล่ะก็ เขาก็คงแหกเป็นครึ่งเหมือนกัน.

“หือ แกหลบเหรอ”

กังโอเข้าไปหา Eder พร้อมแผดรังสีเจตนาฆ่าออกมา.

“ข้าจะให้เจ้า1พันโกลด์ก่อนเลย!” Eder พูดรีบพูด.

กังโอที่เตรียมจะลงดาบต่อไป หยุดชะงัก.

“1พันโกลด์หรอ?”

“ใช่ 1พันโกลด์ ต่อให้ท่านเอาทุกอย่างที่นี่ไปมันก็มีค่าไม่ถึง100โกลด์หรอก!”

กังโอจิ้มกรามล่างของเจ้า skeleton ด้วยปลายดาบ.

“เควสไม่มีเวลาจำกัดใช่ไหม?”

“ครับ!”

“หากเจ้ากลายเป็นวิญญาณชั่วร้าย ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยดาบนี่”

กังโอ้เหวี่ยงดาบปีศาจใส่ลมไปมา.

“ครับ”

“ก็ได้.ข้าจะรับเควสแล้วเจ้าก็เอาเงินมาให้ข้า1พันโกลด์”

“เข้าใจแล้วครับ”

สัญญาเสร็จสิ้น!

 

***

 

ในแล็ปลับของ Eder นั้นมีทางเดินลับซ่อนอยู่ มันเชื่อมไปที่แมนชั่นหนึ่งใน Altein.

เตาไฟในนั้นเปิดออก และกังโอ Darion กับ Eder ก็โผล่มา.

“ข้าใช้ทางนี้ไว้ซื้อหนังสือกับยาเป็นครั้งคราว”

ร่างกระดูกของเขาถูกคลุมไปด้วยชุดคลุมยาวๆ และหน้าของเขาถูกปิดไว้ด้วยหน้ากากยิ้ม.

“นี่เป็นที่ที่ข้าเคยอยู่เมื่อนานมาแล้ว: Eder พูดต่อ.

“บ้านนี้แพงปะ?” กังโอถาม.

“เขาบอกว่ามันถูกผีสิง มันก็เลยถูกเรี่ยดินครับ”

“รีบๆพาข้าไปหาเงินซักทีสิ” กังโอพูด หมดความสนใจกับแมนชั่นไปเลย.

เมื่อพวกเขาออกจากแมนชั่นไป พวกเขาก็พบกับถนนของ Altein ที่มีผู้คนชุกชุม.

“ข้าขอตัวกลับไป holiseum ก่อนล่ะ” Darion พูด.

“โอเค เจอกันพรุ่งนี้”

กังโอสนใจกับเงิน1พันโกลด์มากซะจนเขาไม่สนใจDarion ซักนิดเลย.

เขาคิดไว้ว่าอาจจะโดนกังโอบังคับให้อยู่ต่อ แต่ก็หายไปในฝูงชนอย่างไว.

“ไปกันเถอะ” กังโอเร่ง.

“ครับ”

Eder พาเขาไปที่ธนาคาร Diana (ไดอาน่า).

ธนาคารไดอาน่าคือธนาคารแห่งแรกของ Arth และมีประวัติยาวนาน.

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมใน Altein ถึงหรูหรานัก มีหอนาฬิกาเต็มไปหมด.

ตราการค้าของมันที่มีเกล็ดและโล่ หรูหราอย่างกับของราชวงศ์เลย.

“ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยคะ?”

กังโอกับ Eder มาที่แผนกต้อนรับและพบกับพนักงานธนาคารผู้ร่าเริงเข้า.

“ข้ามาเอาไอเท็มที่เก็บไว้ในตู้เซฟส่วนตัวของข้า”

Eder หยิบเหรียญทองขนาดเท่ากำปั้นออกมา แล้วยื่นออกไป.

ตราประทับของธนาคารไดอาน่าที่มีเกล็ดและโล่อยู่ด้านหน้า ส่วนอีกด้านหนึ่งมีตัวเลข 1403สลักไว้.

“ขอติดต่อกับผู้จัดการก่อนนะคะ”

ผู้จัดการนั้นไม่ถามคำถามอะไรเลยและพาพวกเขาไปที่เซฟของ Eder.

พวกเขาผ่านทางเดินที่มียามเฝ้าไปและมาถึงที่ประตูที่ไม่มีกลอน.

“เชิญหยอดเหรียญเข้าไปด้วยครับ” ผู้จัดการพูด.

พอมองดูใกล้ๆแล้ว ที่ประตูก็มีรูกว้างพอให้ใส่เหรียญจริงๆ.

เมื่อEder หยอดเหรียญเข้าไปแล้ว ประตูก็เปิดออก.

“งั้น ขอตัวนะครับ”

ผู้จัดการไปแล้ว.

“เข้าไปด้านในกันเถอะครับ” Eder พูด.

“ฮึ่มมม แปลกๆนะ” กังโอพึมพำขณะเดินเข้าไป.

มีประตูอยู่แค่บานเดียว แต่มันก็สามารถเชื่อมไปหาที่อื่นตามเหรียญที่หยอดเข้าไปได้.

“มันเป็นเซฟส่วนตัวที่ถูกสร้างโดย Archmage Achelini (อาร์ชเมจ อเคลินี่/อักขระจอมเวทย์ อเคลินี่). ธนาคารไดอาน่านั้นภูมิใจกับมันมากเลยครับ” Eder พูดเพราะได้ยินที่กังโอพึมพำ.

“เหรียญทองนั่นเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทย์มนต์ เพราะฉะนั้นมันจะไม่ทำงานเว้นซะแต่เจ้าของของมันจะเป็นคนใช้น่ะครับ”

งั้นแปลว่าการขโมยเหรียญทองนั่นก็คงไม่มีประโยชน์.

“มันให้คนอื่นได้ไหม?” กังโอถาม.

“ข้าไม่ให้ท่านแน่” Eder พูดเสียงแข็ง.

“งั้นแปลว่าเป็นไปได้สินะ”

“ข้าบอกแล้วไงข้าไม่ให้ท่านแน่”

“เออ เข้าใจแล้ว”

แต่ว่า มีประตูอยู่อีกบานในเซฟส่วนตัวนั่น.

เป็นประตูที่มีแม่กุญแจอยู่.

Eder หมุนเลขไป.จากนั้นเขาก็กางแขนออกมา,หยุด,แล้วก็จ้องไปทางกังโอ.

เขาเอาตัวเองบังแม่กุญแจไว้แล้วใส่รหัส.

แก๊ก

ประตูเปิดออกด้วยเสียง ‘แก๊ก’

แสงสีทองสาดออกมาจากช่องนั้น.

“โอ้้้้้้้!” กังโอกลืนน้ำ.

ประตูเปิดออกเต็มบาน โชวให้เห็นแท่งทองคำ(มีค่าอันละ100โกลด์)วางซ้อนกันเป็นระเบียบอยู่ภายใน.

ในนั้นมีอยู่50อัน!

มันมีค่าเท่ากับ 50ล้านวอนเลย (1.3ล้านบาท).

 

***

 

กังโอกับ Eder กำลังคุยกันอยู่ในเซฟ.

“เอามาให้ข้าก่อนสิ 1พันโกลด์!” กังโอพูด.

“ท่านต้องรับเควสก่อน” Eder ตอบ.

กังโอไม่เชื่อว่าEder จะให้เงินเขาก่อน1พันโกลด์ถ้าเขารับเควสไปแล้ว.

ส่วน Eder ก็คิดว่ากังโอคงหนีไปพร้อมเงิน1พันโกลด์แล้วก็ไม่ยอมรับเควส.

“นี่มันไม่เหมือนที่นายพูดหนิ. นายบอกจะให้ชั้นก่อน 1พันโกลด์ล่วงหน้าหนิ”

“ท่านต้องยอมรับเควสก่อนข้าถึงจะจ่ายล่วงหน้าให้ท่านได้”

กังโอจับด้ามดาบของเขาไว้.

เนื่องจาก Eder กลัวดาบปีศาจมาก ถ้าเขาขู่Eder ล่ะก็ เขาคงจะยอมแพ้ไป.

แต่ว่า…

 

[การใช้อาวุธถูกห้ามในที่นี้.]

 

ข้อความที่โชคร้ายก็โผล่ขึ้นมา.

“ภายในเซฟส่วนตัว สกิลต่อสู้,อาวุธและไอเท็มไม่สามารถใช้ได้!” Eder พูดยิ้มอย่างภูมิใจ.

“เวรเอ้ย. ชั้นบอกแล้วไง ชั้นจะรับเควสถ้านายให้ชั้น1พันโกลด์!”

“ไม่. ข้าจะเชื่อท่านได้ไง? ช่วยยอมรับเควสก่อนเถอะ แล้วข้าจะให้ 1พันโกลด์”

“แล้วชั้นจะเชื่อแกได้ยังไง?”

พวกเขาเป็นอย่างกับเส้นขนานสองเส้นที่ไม่มีวันบรรจบกันซักที.

‘ไอ้กระดูกเวรนี่!’

‘ไอ้โจรถือดาบนี่!’

กังโอกับEder จ้องหน้ากันแล้วสวนกันไปมา.

ในที่สุด Eder ก็ถอนหายใจ.

“ก็ได้. ข้ายอมก็ได้”

แม้ว่าเขาจะไม่ชอบกังโอ แต่Eder จะเป็นคนที่เสียเยอะสุดถ้าปล่อยเขาไป.

เขาทั้งเหนื่อยและเหงามากจากการเป็นผีมานาน. อีกอย่าง ไม่มีทางไหนจะรักษาร่างของเขาอีกแล้ว.

ถ้าเขาปล่อยกังโอไป เขาก็เหลือตัวคนเดียว.

“ดีมาก เอา1พันโกลด์มาให้ชั้น”

กังโอยื่นแขนออกไป.

ไม่ใช่เงิน แต่ทว่า Eder ให้อย่างอื่นแทน.

 

[Eder ได้ร่าย Attach. ท่านจะยอมรับหรือไม่?] (แอทแท็ช/แนบ, ติด, แปะ)

 

เหมือนกับพ็อลเทอร์ไกสท์(ปรากฏการณ์ที่ของลอยไปมาได้เอง) ที่อยู่ในที่ที่หนึ่งตลอดกาล, ผีตนหนึ่งสามารถเกาะติดตัวพวกมันกับใครก็ได้แล้วก็ตามไปทุกที่.

‘นี่แกทำอะไรของแกน่ะ?!’

“ทำบ้าอะไร…” กังโอคิ้วขมวดแต่ก็เปลี่ยนใจ.

‘หมอนี่เป็นบอสมอนส์เตอร์.อีกอย่าง หมอนี่ก็เคยเป็นฮีลเลอร์ชื่อดังมาก่อน’

พูดอีกอย่างก็คือ เขาน่าจะประโยชน์ไม่ใช่เหรอ?

“ฮึ่มม. เจ้าสู้ได้ปะ?” กังโอถาม เปลี่ยนเรื่องไป.

“ได้สิ. เนโครแมนซี่ของข้านั้นเยี่ยมกว่าคนอื่น. ข้าสามารถร่ายคำสาปหลายอย่างและเก่งด้านเวทย์มนต์กระดูกด้วย’ Eder ตอบ.

“เจ้าเลเวลเท่าไหร่?”

“429”

“ห้ะ?”

กังโอเหมือนจะหูแว่วไป.

“เลเวลของร่างที่แท้จริงข้านั้นคือ429. แต่ในร่าง skeleton นี่ข้าดึงพลังออกมาได้แค่เลเวล80เอง”

“แล้วเลเวลเพิ่มได้มั๊ย?”

“ข้าเวลเพิ่มไม่ได้”

‘งั้นก็คงจะลำบากอยู่ถ้าเอาเขาไปด้วยนานๆ’

พูดอีกอย่างคือ เขาจะกลายเป็นภาระในที่สุด.

“แต่ในทางกลับกัน ข้าสามารถใช้พลังของข้าได้มากขึ้นหากเจ้าหาร่างอันเดธที่แข็งแกร่งกว่านี้มาให้ข้าได้” Eder พูด.

“ร่างอันเดธที่่แข็งแกร่ง….”

“ประมาณว่า Lich (ลิช) ที่เสียพลังงานชีวิตไปแล้ว”

‘ลองคิดในแง่บวกดูก็ต่อให้เราสู้ไปด้วยกัน หมอนี่ก็ไม่ได้ expอยู่ดี’

กังโอเริ่มปิ๊งไอเดียดีๆได้.

“เจ้าฮีลด้วยได้มั๊ย?”

“ไม่ได้ครับ เพราะข้าไม่ได้อยู่ในร่างหลักแล้ว”

‘แย่เกิ๊น!’

Eder เคยเป็นถึงฮีลเลอร์ในตำนานเลยนะ!

ถ้าเขาฮีลได้ล่ะก็ เขาสามารถทำเงินจากการรักษาแบบผิดกฏหมายได้.

ถึงยังไงก็ตาม Eder ก็มีประโยชน์จริงๆ. เขามีเงินเยอะด้วย.

“ข้ามีคำถามสุดท้าย. เจ้าจะช่วยข้าอย่างเต็มที่ตอนที่ข้าสู่อยู่ไหม?”

“ก็ถ้าท่านตามหาวิหารของ Deborah อย่างเต็มที่ละนะ!”

“ก็ได้”

กังโอตัดสินใจที่จะใช้หมอนี่เหมือนกับม้า. เหมือน Darion!

แต่ว่าถ้าเขาไม่รอบคอบล่ะก็ Eder อาจจะเป็นเหมือน Darion ที่คอยเถียงคำสั่งเขา ไม่เชื่อฟังหรือกวนไปมาเอาได้.

‘ถ้างั้นล่ะก็…’

“เขียนสัญญา!”

กังโอหยิบเศษกระดาษมาจากช่องเก็บของ.

มันคือสัญญาของเทพธิดาแห่งพันธะสัญญา Sabra (ซาบร้า). มีงูสองหัวอยู่ด้านหลังของกระดาษ ซึ่งสื่อถึงตัวเทพธิดา.

หากสัญญาถูกกำหนดขึ้นผ่านสัญญาของ Sabra ตัวเกมสามารถเช็คได้ว่าสัญญาถูกละเมิดหรือไม่.

ถ้าเกิดว่าสัญญาถูกละเมิด ใครที่ละเมิดก็จะโดนลงทัณฑ์ไป.

แน่นอนว่าด้วยความสุดยอดของสัญญา เลยไม่สามารถใช้มั่วสั่วได้.

หากสัญญาถูกบังคับ, ไม่แฟร์หรือถูกฉีกขาด ก็จะโดนลงโทษทันที.

การลงทัณฑ์ที่มาจากสัญญานี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย!

‘เอาล่ะ เจ้าต้องทำตามสัญญา สู้อย่างสุดความสามารถที่เจ้ามี’

กังโอหยิบปากกาออกมาและเริ่มขึ้นรายละเอียดลงไป.

Eder คอยมองอยู่ข้างๆเขา.

เมื่อเขาเขียนสัญญาเสร็จแล้ว กังโอลงลายเซ็นต์ไว้.

“ไม่มีปัญหาใช่ไหม?”

“ครับ”

Eder พยักหน้าและลงลายเซ็นต์ไป.

ตัวอักษรที่อยู่ในสัญญาของ Sabra เริ่มส่องแสงสว่าง.

ไม่มีบรรทัดไหนถูกลบเลย.

หากว่ามันไม่แฟร์หรือไม่มีมนุษยธรรมแบบ ‘เชื่อฟังอย่างเดียวโดยไม่มีข้อแม้’ หรือ ‘เจ้าต้องรับใช้ข้าในฐานะทาสไปชั่วนิรันด์’. ระบบมันก็จะลบข้อตกลงนั่นอัตโนมัติ. แล้วสัญญาก็จะมีแต่ความว่างเปล่า.

แต่ว่าในสัญญาของกังโอนี้ไม่มีปัญหาอะไรเลย.

สัญญาแยกออกเป็นสองใบ มีข้อมูลที่เขียนเหมือนกันในสัญญาของ Sabra นั้น.

กังโอและ Eder มองไปที่ใบสัญญาของพวกเขา.

เนื้อหาของสัญญาด้านในมีดังนี้.

 

1. กังโอ (ผู้เขียนสัญญา) และ Eder (บุคคลที่สอง) ได้ลงลายเซ็นต์สัญญาตามเนื้อหาด้านล่างนี้.
2. ผู้เขียนสัญญาอณุญาตให้บุคคลที่สองเกาะติดกับเขาและผู้เขียนสัญญาจะยอมรับเควสของบุคคลที่สอง.
3. บุคคลที่สองจะให้ค่าจ้างล่วงหน้าแก่ผู้เขียนสัญญาเป็นจำนวน1พันโกลด์.
4. บุคคลที่สองที่เกาะติดกับผู้เขียนสัญญา จะมีส่วนร่วมอย่างเคร่งครัดเมื่อผู้เขียนสัญญาต่อสู้และจะช่วยเหลือผู้เขียนสัญญาอย่างเต็มที่.
5. บุคคลที่สองจะต้องเชื่อฟังผู้เขียนสัญญาระหว่างการต่อสู้โดยไม่โต้แย้ง. แต่ทว่า, คำสั่งของผู้เขียนสัญญาจะต้องเหมาะสมและมีเหตุผล.
6. ผู้เขียนสัญญาจะต้องช่วยสำเร็จเควสของบุคคลที่สองอย่างเต็มที่. แต่ถ้าหากผู้เขียนสัญญามีเหตุผลที่เหมาะสมเพื่อชะลอการทำเควส สามารถทำได้.
7. การละเมิดข้อตกลงข้างบนหรือทำลายสัญญา ผู้ละเมิดจะต้องถูกลงทัณฑ์.
8. เมื่อผู้เขียนสัญญาสำเร็จเควสแล้ว สัญญาถือเป็นอันสิ้นสุด. ทว่า สัญญาอาจสิ้นสุดได้ หากบุคคลทั้งสองเห็นพ้องต้องกันก่อนเวลา.
9. สัญญาฉบับนี้ถูกรับรองจาก เทพธิดาแห่งพันธะสัญญาซาบร้า.

[ตามข้อตกลงในสัญญา Eder ได้เกาะติดกับท่านแล้ว. จากนี้ไป Eder จะติดตามท่านไป.]

[ตามข้อตกลงในสัญญา ท่านได้รับค่าจ้าง 1,000 โกลด์.]

 

“1พันโกลด์!”

กังโอกำหมัดพอนึกถึงจำนวนเงิน 10 ล้านวอนนี่ (ประมาณ2แสนเกือบ3แสนครับ).

ในตอนนั้น Eder ที่ดูเหมือนว่านึกอะไรบางอย่างออกได้พูดว่า “ถ้าเจ้ามีสัญญาของ Sabra แล้วทำไมไม่ใช้มันแต่แรกเล่า?”

“อ๊ะ!”

หน้าของกังโอหงอยไปแว่บนึง.

เห็นดังนั้น Eder เลยช็อคพูดไม่ออกเลย.

‘เจ้าโง่เอ๊ย!’

“ฮึ่ม”

กังโอส่ายหน้าด้วยความอับอาย.

จากนั้น…!

Eder มองไม่เห็น แต่หน้าของกังโอเปลี่ยนไป.

เขากำลังยิ้มเหยาะ.

ไม่ต้องสงสัยเลย.

เจ้าเล่ห์ชัดๆเลยนั่น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด