เล่ม1 : บทที่ 55 – โกเล็ม
กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 55 – โกเล็ม
โนอาห์ใช้เวลาพักผ่อนไปครึ่งวัน หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมา เขาก็กินอาหารรองท้องเล็กน้อยและกางแผนที่ออก แผนที่บอกรายละเอียดได้ชัดเจนไม่ซับซ้อน บอกรายละเอียดภูมิประเทศขนาดใหญ่ของยูทราซึ่งเป็นแผนที่ที่ดีที่สุดที่จะทำให้โนอาห์หาพบจากเขตนอก
‘ฉันต้องไปทิศตรงข้ามกับคฤหาสน์บัลวันแต่บางทีที่นั่นอาจจะเป็นเส้นทางที่พาขึ้นไปข้างบน’
เขาจากจุดที่มีความหนาแน่นของ “ลมหายใจ” ต่ำระหว่างการต่อสู้ซึ่งเป็นทิศทางตรงกันข้ามกับคฤหาสน์
‘ต้องไปสำรวจพื้นที่ก่อน ไม่อยากเผชิญหน้าไม่ว่ากับสัตว์แบบไหนอีกแล้ว เว้นแต่จะจนหนทางจริงๆ’
เขาลุกขึ้นและออกจากถ้ำ ในที่สุดเขาก็มีเวลาได้มองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบหุบเขาได้อย่างละเอียดเต็มตา พื้นปกคลุมด้วยหญ้าสีเขียวและแสงสว่างสาดส่องลงมาจากข้างบนผ่านม่านหมอก
‘แปลกมาก ผ่านไปครึ่งวันแล้วแต่ยังไม่ตกกลางคืนเลย บางทีอาจจะเป็นเพราะหมอกก็ได้’
หมอกจางๆ ที่ปกคลุมพื้นที่ได้บดบังแสงอาทิตย์บางส่วนทำให้ทุกทั่วบริเวณของหุบเขาสดใสและชัดเจน โอนห์ยังคงสำรวจพื้นที่ที่มีความเข้มข้นของ “ลมหายใจ” ต่ำ
สัตว์เวทมนตร์ประเภทงูที่ซ่อนตัวไม่ให้เขาเห็น กลับมายังถ้ำและขู่เพื่อไข่เขา กำแพงรอบๆ เขาชันมากและไม่เหมาะกับการปี โนอาห์เกือบคิดที่จะล้มเลิกให้กับการสำรวจฟากนี้ของหุบเขา และจู่ๆ เขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งผิดปกติ
สุดขอบหุบเขาแทบจะไม่มีสัตว์เวทมนตร์เลย กำแพงก็ยังคงสูงชันเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บนพื้นยังมีร่องรอยสิ่งปลูกสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นหลงเหลืออยู่
‘เป็นไปได้ยังไง?’
โนอาห์เข้าไปใกล้ซากปรักหักพังเพื่อตรวจสอบแต่จากนั้นร่างยักษ์ของบางสิ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาตรงที่เขาอยู่
โนอาห์รีบชักดาบออกมาป้องกันการโจมตีทันทีและกระเด็นออกไปหลายเมตร เขาตั้งท่าป้องกันและรอการโจมตีที่จะเข้ามาอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขามองร่างที่ไม่ขัยเขยื้อนตรงหน้าสิ่งปลูกสร้าง มันเป็นร่างที่สูงสามเมตรอยู่ในชุดเกราะและปรากฏใบหน้าระหว่างช่องหมวก มีแสงเรืองรองสีฟ้าประกายออกมาจากร่างกายของมันทำให้ทั่วทั้งร่างกายเป็นสีฟ้าอ่อนๆ บนชุดเกราะมีร่องรอยของการต่อสู้มากมายเต็มไปด้วยรอยฟันและรู
เมื่อเห็นชุดเกราะไม่ขยับ โนอาห์ก็คลายป้องกันและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
‘มันปกป้องสถานที่แห่งนี้หรือ? แล้วจะกำจัดมันยังไง?’
เขาฟันลมเพื่อปล่อยคลื่นลมไปยังทิศทางที่โกเล็มยืนอยู่ โกเล็มยกแขนขึ้นมาป้องกัน ทิ้งไว้เพียงแค่รอยข่วนเล็กๆ จากการโจมตีของโนอาห์เท่านั้น
‘หึม ฉันน่าจะทำลายมันได้ถ้าใส่เต็ม แต่มันจะสูบพลังฉันจนหมด แถมยังไม่รู้ด้วยว่ามีแค่ตัวเดียวหรือเปล่า’
ความสนใจของเขาเลื่อนไปที่อักษรรูนสีฟ้า ‘นั่นน่าจะเป็นแก่นพลังงานของมัน ถ้าทำลายมันได้ฉันอาจจะโค่นมันลงได้ก็ได้’
หลังจากเขาวางแผนแล้ว เขาก็ไม่รีรออีกต่อไป เขากระโดดตรงไปหาโกเล็มพร้อมปล่อยคลื่นลมสามคลื่นและเคลื่อนหลบไปด้านข้าง
โกเล็มต้องป้องกันการโจมตีจนไม่สามารถมุ่งเป้าไปที่การโจมตีจากภายในการตั้งป้องกันของโนอาห์ได้
ดาบตัดผ่านรูนที่อยู่กลางหน้าอกบนเกราะทำให้แสงสีฟ้าดับลง
‘ดับไปหนึ่ง เหลืออีกเก้าจุด’
โนอาห์และโกเล็มต่อสู้กันอยู่ครู่หนึ่งโดยใช้วิธีโจมตีใส่และเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อป้องกันอันตรายจากการต่อสู้
‘ดับไปสิบ’
เมื่ออักษรรูนอันสุดท้ายดับลง โกเล็มก็ล้มลงกับพื้น โนอาห์ตรวจสอบเกราะเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าและดูดเข้าไปในแหวนปริภูมิ
‘ไม่เข้าใจจารึกนี่เลย แต่เก็บไว้ก่อนแล้วกัน อาจจะมีประโยชน์ก็ได้’
จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังซากปรักหักพังและตั้งสมาธิ เขาเดินไปอย่างระมัดระวังกับสภาพแวดล้อมที่เขาไม่รู้เลยว่าจะมีโกเล็มอีกตัวปรากฏออกมาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเงียบสงัดและไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นกับเขา โนอาห์ผ่อนคลายและเริ่มการคาดเดา
‘ที่นี่ใหญ่พอๆ กับคฤหาสน์บัลวันเลย น่าจะเป็นของตระกูลขุนนางขนาดกลางที่เข้ามาสำรวจหุบเขาแห่งนี้’
ดวงตาเขาเบิกโพลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าถ้าตระกูลขุนนางย้ายมาที่นี่ พวกเขาก็ต้องย้ายทรัพย์สมบัติมาที่นี่ด้วยเช่นกัน!
โนอาห์เริ่มสำรวจอย่างรวดเร็ว โดยค้นหาทุกซอกทุกมุมทั่วอาคาร บางครั้งเขาก็พบโครงกระดูกหรือกะโหลกศีรษะเก่าๆ บางครั้งก็พบข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
ขณะเดียวกันนั้น ความแครงใจบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเขา
‘ถ้าตระกูลนี้อยู่ในระดับเดียวกันกับตระกูลฉัน แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงที่สถานที่ที่ปลอดภัยเช่นนี้ถึงถูกทำลายลงได้?’
มีร่องรอยของการต่อสู้ตามจุดต่างๆ แต่โนอาห์ไม่เข้าใจว่าใครหรืออะไรที่แข็งแกร่งพอที่จะโค่นล้มพวกเขาได้
‘แม้แต่ฝูงงูดินก็ไม่น่าจะถึงกับทำลายที่นี่ได้ แล้วพวกเขาตายได้ยังไงกัน?’
เขามาถึงส่วนที่เป็นเขตในของคฤหาสน์พลางคิดไปเรื่องนั้นไปด้วย มีประตูใหญ่บานหนึ่งแบ่งพื้นที่และมีโกเล็มขนาดสี่เมตรสามตัวแหลกเป็นชิ้นอยู่บนพื้น
โนอาห์ตรวจดูรอยบนชุดเกราะของพวกมันและสรุปว่ามันน่าจะเป็นฝีมือของสัตว์เวทมนตร์
‘ที่นี่อันตรายกว่าสัตว์เวทมนตร์อันดับสามเสียอีก’
เขาเริ่มเกิดความรู้สึกกระสับกระส่ายภายในร่างกายเมื่อเขาตั้งใจที่จะออกจากหุบเขาแห่งนี้โดยเร็วที่สุด
เขาผ่านประตูบานใหญ่และเข้าไปยังเขตในของคฤหาสน์ ภายในไม่ร่องรอยของความเสียหายน้อยกว่าภายนอกเล็กน้อยและจากข้าวของที่เหลืออยู่ก็ทำให้คุณจินตนาการถึงความหรูหราของที่นี่ได้เลย
โนอาห์เดินอย่างรวดเร็วและหยุดหลังจากที่พบประตูเหลกบานใหญ่ที่ยังคงถูกปิดไว้อยู่บานเดียวในห้อง เขาเริ่มตื่นเต้นและผลักประตูเปิดพร้อมถือดาบในมือ
ประตูหนักมากและเกิดเสียงครูดไปตามพื้นเมื่อเปิด
โนอาห์มองไปยังอีกฝั่งและสังเกตเห็นห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งที่เกือบจะว่างเปล่ามีเพียงโครงกระดูกหนึ่งที่ตั้งอยู่บนบัลลังก์ในท่าไขว่ห้าง