บทที่ 23 พันธมิตร(อ่านฟรี 29-11-2020)
เปลี่ยนคำสรรพนามนิดหน่อยครับ รู้สึกว่าใช้คุณ เธอ จะไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่
“เมืองคาร์มาร์?” วิสเคานท์เลสลี่หันไปมองพ่อบ้านบรูไนที่ยืนอยู่ด้านข้างมาโดยตลอดก่อนจะพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะขายพัดลมเวทมตร์ที่เมืองอื่นได้แล้ว เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ”
ซูยี่หัวเราะพลางส่ายหัว “ความจริงแล้วเราไม่ได้เป็นฝ่ายขายมัน แต่เป็นพวกเขาที่เป็นฝ่ายขอซื้อ”
“หือ? เจ้าหมายความว่าอย่างไร” วิสเคานท์เลสลี่ถามด้วยความสงสัย
“ตามที่ท่านวิสเคานท์เพิ่งกล่าวไป ประชากรของเมืองบันต้านั้นมีจำกัด แม้จะนับรวมหมู่บ้านนอกเมืองแล้วความต้องการของพัดลมเวทมนตร์ก็ไม่ได้มากมายอะไร ดังนั้นเราจึงวางแผนว่าจะกระจายข่าวเรื่องพัดลมเวทมนตร์ไปที่ต่างเมือง ที่เรายังไม่ได้กระจายข่าวออกไปในก่อนหน้านี้เป็นเพราะมันยังไม่ถึงเวลา”
“ทำไมถึงยังไม่ถึงเวลา” วิสเคานท์เลสลี่รู้สึกสับสนเล็กน้อย “เจ้าไม่ต้องการขายให้กับคนอื่นรึ”
“มันไม่ใช้แบบนั้น เรื่องนี้แค่กำลังอยู่ในขั้นการวางแผนในอนาคต”
ซูยี่วางน้ำผลไม้ของเขาลงและตัดสินใจอธิบายทั้งหมดให้วิสเคานท์เลสลี่ฟัง
หลังจากที่พวกเขาคุยกันได้ไม่นานความประทับใจของเขาที่มีต่อวิสเคานท์เลสลี่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขารู้สึกว่าคนคนนี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์เหมือนเหล่าขุนนางชั้นสูงทั่วไปและมีความคิดและมุมมองของตัวเองมาก กับคนแบบนี้ซูยี่เต็มใจที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้วย
“แม้ว่าจะมองจากผิงเผินว่ามันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราจะนำพัดลมเวทมนตร์ไปสู่ตลาดที่กว้างขึ้นอีกทั้งยังเป็นผลดีกับเราอีกด้วย แต่ว่าเรื่องนี้เราไม่สามารถรีบเร่งได้ เพราะเมื่อยอดขายมากขึ้นเราก็ต้องเร่งการผลิตด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเราจะไม่สามารถผลิตตามจำนวนคำสั่งซื้อได้ เรื่องนี่ไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายในด้านยอดขายแต่ยังรวมไปถึงชื่อเสียงของเราได้ซึ่งจะทำให้การพัฒนาของเราในอนาคตลำบากไปด้วย”
วิสเคาเลสลี่คิดตามก่อนจะถามออกไปด้วยคิ้วที่ขมวดว่า “แล้วทำไมเจ้าไม่เพิ่มการผลิตล่ะ? หรือเป็นเพราะเจ้ามีคนไม่พองั้นรึ ข้าได้ยินมาว่าเจ้ารับสมัครนักเรียนจากสถาบันเวทมนตร์บารอนริกโตได้เพียงสามสิบคนมันเลยทำให้เจ้าไม่สามารถผลิตพัดลมเวทมนตร์ได้มากนัก เจ้าบอกว่าตอนนี้เจ้าสามารถผลิตพัดลมเวทมนตร์ได้หนึ่งร้อยห้าสิบตัวต่อวันถ้าเจ้ารับสมัครคนเพิ่มแม้จะไม่มากแต่อย่างน้อยก็น่าจะสามารถผลิตพัดลมเวทมนตร์ได้สองร้อยตัวใช่หรือไม่”
“ท่านวิสเคานท์ ท่านลืมสิ่งสำคัญไปอย่าง”ซูยี่ส่ายหัว
"อะไรอย่างนั้นรึ?"
“นั่นคือคุณภาพ แม้ว่าจะเป็นเรื่องง่ายมากที่จะผลิตพัดลมเวทมนตร์ แต่จนถึงตอนนี้คนที่สามารถผลิตพวกมันได้ก็ยังมีน้อยมาก พูดให้ถูกต้องมีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถผลิตพัดลมเวทมนตร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นักเรียนที่ได้รับการว่าจ้างแม้ว่าพวกเขาจะสามารถทำงานในส่วนของรูปแบบเวทมนตร์ซู่งเ็นส่วนสำคัญที่สุด แต่เรื่องการติดตั้งที่ละเอียดอ่อนนั้นไม่มีใครที่สามารถทำได้นอกจากข้า นี่เป็นเรื่องที่ทำให้ข้าคิดหนัก ในฐานะคนคนเดียวความสามารถของข้ามีจำกัด ดังนั้นความสามารถในการผลิตจึงมีจำกัดตามไปด้วย”
วิสเคานท์เลสลี่มองไปที่ซูยี่สักพัก“นี่ไม่ถูกต้อง ขนาดรูปแบบเวทมนตร์ที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดเจ้ายังมอบให้นักเรียนพวกนั้นทำได้เลยแล้วงานอื่นทำไมจะบชให้คนอื่นทำไม่ได้ ข้าคิดว่า..... เจ้าน่าจะไม่ต้องการที่จะเปิดเผยความลับนี้เจ้าเลยไม่เต็มใจจะมอบงานนี้ให้ใครใช่หรือไม่”
“ท่านวิสเคานท์ ท่านกำลังดูถูกข้าอยู่นะ” ซูยี่เผยรอยยิ้ม“ข้าบอกไปแล้วว่าพัดลมเวทมนตร์ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างมันขึ้นมาและสำหรับข้่าพวกมันก็ไม่ได้ถือเป็นความลับเลย แต่ขั้นตอนนี้มันยากมากข้าเลยไม่สามารภให้คนอื่นทำได้ แต่ข้าเชื่อว่าสถานะการณ์นี้จะคงอยู่ไม่นานนัก นักเรียนเหล่านั้นเริ่มเรียนรู้ส่วนหลัก ๆ อย่างช้าๆและข้าเชื่อว่าหลังจากผ่านไประยะหนึ่งพวกเขาจะสามารถรับช่วงงานของข้าได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อถึงเวลานั้นท่านจะพบว่าความสารถมารในการผลิตของพัดลมเวทมนตร์จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก” หลังจากพูดสิ่งนี้ซูยี่ก็หยุดชั่วคราวและเผยให้เห็นรอยยิ้มลึกลับ“นอกจากนี้ ข้าจะบอกความลับให้กับท่าน พัดลมเวทมนตร์รุ่นใหม่กำลังจะปรากฏตัวขึ้นแล้ว”
วิสเคานท์เลสลี่ตะลึงทันที“รุ่นใหม่อย่างนั้นเหรอ? มีพัดลมเวทมนตร์แบบอื่นด้วยรึ? มันแตกต่างกันอย่างไรเมื่อเทียบกับพัดลมเวทมนตร์ที่เจ้ากำลังขายอยู่”
“มันมีความแตกต่างอย่างไรข้าเกรงว่าจะอธิบายไม่ได้ง่ายๆ เมื่อพัดลมเวทมนตร์รุ่นใหม่ปรากฏตัวท่านก็จะรู้เอง” ซูยี่จงใจให้เขาเดา“ยิ่งไปกว่านั้นข้าสามารถบอกท่านได้ว่าพัดลมเวทมนตร์รุ่นใหม่ถูกสร้างขึ้นด้วยกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กำลังการผลิตของมันจะเหนือกว่าพัดลมเวทมนตร์ที่กำลังผลิตอยู่ เมื่อถึงเวลานั้นนั่นคือเวลาที่เราจะผลักดันพัดลมเวทมนตร์เข้าสู่ตลาดที่กว้างขึ้น”
วิสเคานท์เลสลี่จ้องมองซูยี่สักพักก่อนจะส่ายหัวด้วยรอยยิ้มและพูดว่า“ตอนที่ข้าเห็นแผนพัฒนาที่พ่์บ้านบรูไนให้ข้าดูในตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนที่ชอบพูดจาใหญ่โต แต่เมื่อมองไปที่เจ้าตอนนี้ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ ดีมากเนื่องจากเจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังนั่นหมายความว่าเราสามารถพูดคุยเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ บรูไนนำสัญญาออกมา”
พ่อบ้านบรูไนโค้งคำนับก่อนจะเดินจากไป
"สัญญา?" ซูยี่เห็นท่าทางของวิสเคานท์เลสลเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เป็นไปได้ไหมว่าเพื่อนคนนี้ต้องการอะไรบางอย่าง?
หลังจากนั้นไม่นานพ่อบ้านบรูไนก็กลับมาพร้อมกับเอกสารซึ่งวิสเคานท์เลสลี่วางไว้ตรงหน้าซูยี่
“อ่านดูก่อนสิ ถ้ามีคำถามอะไรก็ถามมาได้เลย”
ซูยี่หยิบเอกสารขึ้นมาอย่างอยากรู้อยากเห็นและพบว่ามันเป็นสัญญาเช่าที่ดินที่เกี่ยวกับที่ดินที่เขาเช่าอยู่ในปัจจุบัน
แต่เมื่อเทียบกับสัญญาฉบับแรกสัญญานี้มีลายละเอียดลึกกว่ามากและยังได้รับสิทธิพิเศษมากกว่า
ในสัญญาก่อนหน้านี้ซูยี่และไฮนซ์ได้เช่าที่ดินจากวิสเคานท์เลสลี่เป็นเวลาหนึ่งปีเท่านั้นและพวกเขาไม่ได้มีอำนาจใดๆเลยพวกเขาถูกจำกัดโดยวิสเคานท์เลสลี่และถ้าวันหนึ่งเขารู้สึกพอไจเขาสามารถขับไล่พวกเขาไปได้โดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ
สำหรับสัญญาฉบับนี้ระบุชัดเจนว่าซูยี่มีอำนาจควบคุมการใช้ที่ดินได้อย่างสมบูรณ์และวิสเคานท์เลสลี่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินเท่านั้น
นอกจากนี้ยังหมายความว่าซูยี่สามารถทำทุกอย่างที่ต้องการกับที่ดินได้โดยไม่ต้องขออุญาติกับวิสเคานท์เลสลี่ก็ได้
ในเวลาเดียวกันวิสเคานท์เลสลี่ได้เพิ่มระยะเวลาของสัญญาโดยตรงจากหนึ่งปีเป็นห้าปีรวมทั้งการลดค่าเช่าลงครึ่งหนึ่งซึ่งจะมีราคาเพียงห้าสิบเหรียญทอง!
ซูยี่มองดูสัญญาอย่างรอบคอบและหลังจากยืนยันว่าเขาพลาดอะไรไปเขาก็วางสัญญา เขาถามว่า "วิสเคานท์เลสลี่ท่านมีเงื่อนไขอะไรไหม"
สายตาของวิสเคานท์เลสลี่เปล่งประกายแวววาวและเขาพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ว่า“ถ้าข้าบอกว่าไม่มีเงื่อนไขอะไร เจ้าจะเชื่อไหม”
ซูยี่ยิ้มโดยไม่พูดอะไร
“ ฮ่าฮ่าเอาล่ะข้าจะไม่ล้อเล่นแล้ว แน่นอนว่ามีเงื่อนไข แต่ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่ปฏิเสธ”
“ท่าีวิสเคานท์เลสลี่พูดมาได้เลย”
“เงื่อนไขนี้ง่ายมากข้าต้องการลงทุน ให้ความสนใจนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกับการแบ่งปัน 10% ที่เจ้าให้ข้า แต่ข้าอยากมีส่วนร่วม ในอนาคตไม่ว่าจะเป็นพัดลมเวทมนตร์ หรือโครงการอื่น ๆ ที่เจ้าทำข้าต้องการสิทธิ์ในการรับรู้และแสดงความคิดเห็นของข้า แน่นอนว่าข้าจะไม่ฝืนเข้าไปนอกจากจัดหาที่ดินแล้วข้ายังสามารถอัดฉีดเงินทุนเข้าหอการค้าเฟรสเทคได้อีกด้วย นอกจากนั้นข้ายังสามารถใช้เส้นสายของข้าในการเปิดตลาดให้กับเจ้าได้ ตัวอย่างเช่นข้าสามารถช่วยเจ้านำพัดลมเวทมนตร์นี้ไปที่เมืองอันวิลมาร์เพื่อขาย แล้วเจ้าล่ะคิดอย่างไรกับข้อเสนอนี้”
สีหน้าของซูยี่ไม่เปลี่ยนไปและหลังจากคิดสักพักเขาก็ถามด้วยท่าทางจริงจัง“ท่านวิสเคานท์ข้าขอถามอะไรบางอย่าง เมื่อท่านยกเงื่อนไขนี้ท่านจะใช้ตัวตนของท่านในฐานะขุนนางหรือพ่อค้าธรรมดา?”
“โอ้? มันแตกต่างด้วยรึ” เมื่อได้ยินคำถามแปลก ๆ ของซูยี่วิสเคาเลสลี่ก็สนใจมากขึ้น
“มีความแตกต่างอย่างมาก”ซูยี่พยักหน้า“ถ้าท่านใช้ตัวตนของท่านในฐานะผู้สูงศักดิ์ตามกฎที่กำหนดโดยรัฐสภาของราชอาณาจักรสิทธิ์ของท่านในฐานะผู้ถือหุ้นจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐสภาและไม่สามารถปกปิดอะไรได้ เช่นนี้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างของ บริษัท ของเราที่ไม่สามารถซ่อนจากรัฐสภาได้ นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ข้ายอมรับไม่ได้และทำได้แค่ต้องปฏิเสธเท่านั้น”
“ถ้าเป็นพ่อค้าธรรมดาล่ะ?”
“ถ้าเป็นพ่อค้าธรรมดา……” ซูยี่เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“ในแง่ของธุรกิจเงื่อนไขที่ท่านระบุนั้นน่าดึงดูดมาก แต่ข้าต้องบอกท่านให้ชัดเจนว่าแม้ว่าท่านจะไม่มีปัญหาในการเป็นผู้ถือหุ้นของหอการค้าเฟรสเทคแต่ท่านจะมีสิทธิ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นหมายความว่านอกจากสิทธิ์ในการให้ความคิดแล้วท่านจะไม่มีอำนาจตัดสินใจใด ๆ ท่านคิดยังไงเกี่ยวกับ่เรื่องนี้?”
พ่อบ้านบรูไนที่ด้านข้างขมวดคิ้วแน่นและพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า“เจ้ากล้า! ท่านวิสเคานท์ยินดีที่จะลงทุนใน บริษัท เล็ก ๆ ของเจ้านั่นก็ถือเป็นเกียรติของเจ้าแล้ว! เจ้ากล้าพูดว่าท่านวิสเคานท์จะไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ? ช่างกล้าเสียจริง!”
การแสดงออกของซูยี่ไม่เปลี่ยนแปลง เขาไม่สนใจพ่อบ้านบรูไนโดยสิ้นเชิงและมองไปที่วิสเคานท์เลสลี่ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
วิสเคานท์เลสลี่ไม่ได้แสดงความประหลาดใจแม้แต่น้อยเขาพยักหน้าและถามว่า“ข้าเข้าใจความคิดของเจ้า แต่ซูยี่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเจ้าจะไม่ตัดสินใจผิดพลาด พูดง่ายๆเจ้าจะรับประกันผลประโยชน์ของข้าได้อย่างไร”
ซูยี่พลางกระพริบตาให้วิสเคานท์เลสลี่อย่างไม่คาดคิดขณะที่เขาพูดว่า“ท่านวิสเคานท์ท่านไม่เชื่อในตัวข้าหรือ?”
วิิสเคานท์เลสลี่ประหลาดใจก่อนจะหัวเราะออกมา
"ดี! ดี! ซูยี่ เจ้าเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ บรูไนไม่เป็นไรเอาสัญญาอีกฉบับให้เขาดู”
ซูยี่ได้รับสัญญาอีกฉบับจากบรูไนและพบว่าเป็นสัญญาการลงทุน
สัญญาระบุว่าวิสเคานท์เลสลี่จะใช้ดินแดนเพื่อเข้าร่วมกับหอการค้าเฟรสเทคและหุ้น 10% เดิมของเขาจะเพิ่มเป็น 30%
สัญญายังระบุชัดเจนว่าในแง่ของการตัดสินใจของบริษัทวิสเคานท์เลสลี่ไม่มีอำนาจตัดสินใจใด ๆ สำหรับทุกอย่างเกี่ยวกับ บริษัทซูยี่เป็นผู้รับผิดชอบและวิสเคานท์เลสลี่ไม่สามารถแทรกแซงได้
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาเป็นพิเศษคือประโยคความเป็นส่วนตัวซึ่งหมายความว่าสัญญานี้จะไม่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐสภาของราชอาณาจักร
ด้วยเหตุนี้ซูยี่จึงรู้สึกผ่อนคลาย
หลังจากอ่านสัญญาอย่างถี่ถ้วนซูยี่เงยหน้าขึ้นและยื่นมือขวาออกไปขณะที่เขามองไปที่วิสเคานท์เลสลี่ด้วยรอยยิ้ม
“ท่านวิสเคานท์ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ”
วิสเคานท์เลสลี่ก็ยื่นมือออกมาด้วยรอยยิ้มและจับมือของซูยี่ไว้แน่น
“แด่ความร่วมมือที่ดี”