ตอนที่แล้วบทที่ 189
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 191

บทที่ 190


ทันทีที่กลับมาถึงบ้านพัก เสี่ยวจูสะบัดมือขวาสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีเขียวไม่นานก็กลายเป็นม่านพลังป้องกันรอบบ้านพัก หยางเวยเร่งรีบนำบิดาของฟางจวินซีวางบนเตียงไม้กลางห้องโถงที่จัดเตรียมเอาไว้แล้ว ส่วนเนี่ยฟงเมื่อมาถึงก็โยนศิษย์สำนักที่แบกมาลงพื้น หยางเวย เสี่ยวจู และฟางจวินซีนำศิษย์สำนักผู้นั้นไปสอบสวน ส่วนเนี่ยฟงเข้ามาดูอาการพร้อมกับเร่งรักษาปรุงยา กลิ่นสมุนไพรโชยแตะจมูกมีทั้งหอมหวานและเหม็นฉุนจนแทบต้องกลั้นหายใจ เข็มเงินปักตรึงทั่วทั้งร่าง ประกายสายฟ้าออกมาจากมือทั้งสองพุ่งเข้าหาเข็มเงิน ไม่นานแสงอรุณสาดส่องเข้ามาตามช่อง เนี่ยฟงถอนหายใจยกยิ้ม เดินมาออกมาด้านหน้าบ้านพัก

หยางเวยสองมือโชคไปด้วยเลือดสีแดง ศิษย์สำนักถูกทุบตีแล้วทุบตีเล่า เสี่ยวจูเป็นคนป้อนยารักษาบาดแผล ส่วนฟางจวินซีหายเข้าไปในครัวทำอาหารตอนเช้า เนี่ยฟงส่ายศีรษะไปมาสะบัดมือขวานำขวดยาโยนให้หยางเวย

“ข้าลืมมอบยาให้เจ้าหยางเวย”

“เหอะ ไม่จำเป็นแล้ว ชายผู้นี้กล่าววาจาออกมาจดหมดสิ้นแล้ว ว่าแต่อาการบิดาของแม่นางฟางจวินซีเป็นอย่างไรบ้าง”

เนี่ยฟงหันไปมองหาฟางจวินซีที่ตอนนี้กำลังยกกับข้าวออกมา

“อาการของบิดาแม่นางฟางจวินซีดีขึ้นแล้ว พักรักษาตัวไม่กี่วันก็คงหายดี ว่าแต่ข้ามีบางอย่างสอบถามได้หรือไม่”

“เชิญคุณชายถามมาเถอะ หาข้าทราบจะกล่าวแจ้งทั้งหมด”

“ก่อนบิดาท่านจะล้มป่วยได้เดินทางไปที่ไหนหรือไม่”

“ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่เมืองหลวงเขตแห่งน้ำพวกข้าก็อพยพมาเรื่อย ๆ ส่วนอาหารการกินก็กินรวมกันหมด”

“แล้วบิดาท่านล้มป่วยเมื่อไร”

“ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ คุณชายสอบถามเช่นนี้”

“มีคนแอบวางยาพิษบิดาท่าน เพราะพิษที่บิดาท่านได้รับ มันเป็นพิษที่พบเจอที่เขตอับชื้นเช่นเขตเมฆหมอกหาได้เกิดขึ้นที่นี่”

“เช่นนั้นคงเป็นผู้อาวุโสจากสำนักอินทรีทองเป็นแน่ที่เป็นคนวางยาบิดาข้า”

“อาจเป็นเช่นนั้นแม่นางฟางจวินซี แต่ทว่าตอนนี้เรายังไร้ซึ่งหลักฐานเอาผิดคนพวกนั้น ทางที่ดีตอนนี้ท่านแอบนำบิดาทานออกไปจากที่นี่ก่อน หากคนพวกนั้นพุ่งเป้าหมายมาที่บิดาของท่านพวกเราจะลำบากกันหมด อีกอย่างที่นี่ก็หาใช่ปลอดภัย”

“ได้ ข้าจะทำตามที่คุณชายชี้แนะ”

เมื่อกล่าวสิ้นฟางจวินซียื่นกับข้าวให้หยางเวยหันมาคารวะเนี่ยฟง เนี่ยฟงรีบใช้มือขวาช้อนรับ

“อย่าทำเช่นนี้เลยแม่นาง เราคนกันเองทั้งนั้น”

“เช่นนั้นข้าขอบคุณคุณชายมาก”

หยางเวยเมื่อเห็นทั้งสองคุยกันเสร็จสิ้นก็เรียกทุกคนมาทานอาหาร

บ้านพักหลังใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเขตบ้านพัก ห้องโถงขนาดใหญ่แสงไฟจากตะเกียงสาดส่องมองเห็น ชายชราสามคมนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้กลางห้องทั้งสามสีหน้าดูเป็นกังวลไม่น้อย ชั่วน้ำเดือดได้มีสาวหนุ่มผู้หนึ่งสวมชุดสีเทาในมือถือพัดเหล็ก ก้าวเดินเข้ามาในห้องโถง

“คารวะผู้อาวุโสทั้งสาม เรียกข้ามาคงมีเรื่องกวนใจไม่น้อย มีสิ่งใดให้ข้ารับใช้ขอรับ”

“เหรินซงหยางเจ้ามาก็ดีแล้ว ข้ามีเรื่องรบกวนเจ้าหน่อย”

“เช่นผู้อาวุโสแจ้งมาเถอะขอรับว่ามีเรื่องอันใด”

“สังหารเนี่ยฟงและพรรคพวก”

“เนี่ยฟง เนี่ยฟง เด็กหนุ่มที่เข้ามาไม่กี่วัน”

“ใช่ เด็กหนุ่มผู้นั้น ข้าให้เวลาเจ้าเจ็ดวัน พอหรือไม่”

“ไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าหากให้สังหารทั้งหมดพวกท่านคงต้องจ่ายหนักพอสมควร เพราะเด็กหนุ่มผู้นั้นหลายคนต่างให้ความสนใจ”

“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาขอเพียงงานสำเร็จ”

“อีกเจ็ดวันท่านเตรียมเงินไว้ให้พอเถอะขอรับ แล้วข้าจะนำศีรษะคนพวกนั้นมามอบให้กับท่านถึงมือ”

“ได้ ตกลงตามนั้น”

กล่าวสิ้นเสียง ผู้อาวุโสเหยินสงก็สะบัดมือขวาโยนแหวนให้แก่เหรินซงหยาง หลังจากรับแหวนมาตรวจสอบก็ยกยิ้มพร้อมกับก้มคารวะ

“หากไม่มีสิ่งใดแล้วข้าขอตัวก่อนขอรับ อีกเจ็ดวันพวกท่านเตรียมเงินให้พร้อมก็แล้วกัน”

เหรินซงหยางยกยิ้มก้าวเดินออกไปจากห้องโถงใหญ่ ทิ้งให้ชายชราทั้งสามอยู่ในห้องเช่นเดิม

“พี่ใหญ่ ท่านคิดว่าฟางจวินซีจะหักหลังเราหรือไม่”

“เหอะ นางไม่กล้าแม้แต่จะคิด เพราะอย่างไรเสียบิดาของนางก็อยู่ในกำมือของเราแล้ว ที่ข้าให้เหรินซงหยางทำงานต่อก็เพราะกลัวว่านางจะทำไม่สำเร็จ”

“หวังว่าจะเป็นไปตามที่พี่ใหญ่กล่าว”

เสียงวิ่งดังมาจากหน้าห้องโถงใหญ่พร้อมกับเสียงหอบเหนื่อย ชายผู้หนึ่งสวมชุดสำนักวิ่งเข้ามาในห้องโถงด้วยอาการตื่นกลัว

“เกิดสิ่งใดขึ้น”

“บิดาของฟางจวินซีถูกผู้ใดไม่ทราบปล้นชิงไปแล้วขอรับ”

“บัดซบ พวกเจ้าทำงานกันอย่างไร แล้วถูกปล้นชิงไปเมื่อไหร่”

“เมื่อคืนขอรับ ที่ด้านหลังตึกปรุงยา”

“ต้องเป็นไอ้สารเลวนั้นแน่ เจ้ารีบออกไปแจ้งข่าวต่อเหรินซงหยาง ว่าขอเร่งเวลาเป็นสามวัน เท่าไรข้าจ่ายไม่อั้น”

“ขอรับ”

ตลอดเวลาสองวันเนี่ยฟง หยางเวย เสี่ยวจูหาได้ออกไปที่ไหนเก็บตัวอยู่ในบ้านพัก ฟางจวินซีและกลุ่มของนางก็หายตัวไปด้วยเช่นกัน ส่วนเหรินซงหยางส่งคนมาคอยสอดส่องที่บ้านพักอยู่ตลอดเวลา เพราะหากว่าครบเวลาสามวันยังสังหารเนี่ยฟงและพรรคพวกไม่ได้คงมีแต่ต้องยกเลิกงาน แต่ทันใดนั้นช่วงเช้าของวันที่สาม เนี่ยฟง หยางเวย เสี่ยวจูกลับออกมาจากบ้านพัก เสี่ยวจูเดินเที่ยวเล่นในเมือง หยางเวยมุ่งหน้าไปที่บ่อนพนัน ส่วนเนี่ยฟงเดินเข้าออกร้านขายสมุนไพรเป็นว่าเล่น แน่นอนว่าเมื่อทั้งสามออกมาเหรินซงหยางก็เริ่มลงมือทันที โดยส่งคนออกติดตามคนทั้งสามอย่างเงียบๆ

ทันทีที่รู้ตัวว่ามีคนติดตามทั้งสามแสยะยิ้มปลีกตัวออกมาทางนอกเมือง หลอกล่อขึ้นมาบนเขา เป็นหยางเวยที่ใจร้อนรีบลงมือก่อน แอบโคจรลมปราณไว้ที่แขนทั้งสองข้างเมื่อถึงจังหวะหนึ่งหันหลังกลับซัดฝ่ามือทั้งสองอย่างรวดเร็ว ปราณฝ่ามือสีม่วงพุ่งเข้าปะทะร่างชายชุดดำสองคน เปรี้ยง เปรี้ยง หยางเวยเร่งลงมือสังหารอย่างรวดเร็วพร้อมกับปลดแหวนในมือของทั้งสองหลบหนี เสี่ยวจูเองก็ใช้เถาวัลย์สีเขียวมีหนามแหลมเข้าจัดการสังหารผู้ติดตามสองคนด้วยเช่นกัน ส่วนเนี่ยฟงหาได้สังหารผู้ติดตามทั้งสองแต่จับกุมลากไปตามทางจนกลับมาที่บ้านพัก ผู้คนมากมายต่างเดินตามเพราะความสนใจ

ทันทีที่กลับมาถึงหน้าบ้านพัก เนี่ยฟงแอบยัดยาให้แก่คนทั้งสองและทำการสอบสวนเสียงดังลั่นที่ด้านหน้าบ้านพัก คนทั้งสองเอ่ยวาจาเสียงดังแจ้งว่าเป็นคนของเหรินซงหยางถูกสั่งการให้มาแอบติดตามและหาโอกาสสังหารคนทั้งสาม โดยเหรินซงหยางเองได้รับการไหว้วานจากผู้อาวุโสจูเซียะฟงอีกทอดหนึ่ง ทันทีที่สิ้นเสียงกล่าวของชายทั้งสอง หลายคนตื่นตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน หลายคนรีบแจ้งข้อมูลให้แก่บุคคลสำคัญในสำนัก ทันใดนั้นเองเกราะสายฟ้าของเนี่ยฟงก็ปรากฏออกมาที่ด้านหลังป้องกันบางอย่างที่พุ่งเข้ามา เนี่ยฟงหันไปมองหยางเวย

“หยางเวยฝากที่นี่ด้วย ปลาติดเบ็ดแล้ว”

หยางเวยแสยะยิ้มพยักหน้าให้ เนี่ยฟงถีบเท้าพุ่งออกไปพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง

“ช่วยข้าด้วยมีคนคิดจะสังหารข้า”

หยางเวยรีบสะบัดมือขวาถือมีดอันแปลกประหลาดเข้าคุ้มกันชายหนุ่มสองคนที่ถูกเนี่ยฟงลากมา ชาวบ้านมากมายต่างแตกตื่น ไม่นานก็มีคนระดับผู้อาวุโสสำนักเร่งรีบมาที่บ้านพักของเนี่ยฟง เสี่ยวจูรีบก้มคารวะ

“คารวะผู้อาวุโสทั้งหลาย”

“เกิดสิ่งใดขึ้นที่นี่เหตุใดถึงมีการแจ้งว่ามีคนกล่าววาจาใส่ร้ายผู้อาวุโสจูเซียะฟง และคุณชายเหรินซงหยาง”

หยางเวยขมวดคิ้วทั้งสองก้าวเดินออกมา

“มีคนคิดสังหารพวกข้าทั้งสามขอรับ เพียงแต่ว่ามีเพียงสองคนเท่านั้นที่จับตัวมาได้ ส่วนพวกที่เหลือถูกสังหารตกตายไปจนหมด พวกท่านสามารถสอบสวนที่เหลือได้ขอรับชายทั้งสองคนอยู่ที่นี่”

เช่นเดิมเมื่อถูกสอบสวนอีกครั้งชายหนุ่มทั้งสองก็เอ่ยวาจาบอกกล่าวทั้งหมด หยางเวยเองก็สังเกตผู้อาวุโสเหล่านั้นด้วยเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด