บทที่ 187
เสียงสบถดังลั่นออกมาชายหนุ่มสวมชุดสีดำพร้อมผ้าปิดปากอีกผู้หนึ่ง ในมือถือดาบเล่มโตเดินออกจากชายป่าจ้องมองหน้าเนี่ยฟงอย่างไม่วางตา ทั้งสองหันมาเผชิญหน้ากัน แรงกดดันระดับสีดำขั้นต้นพุ่งที่ทั้งสองปล่อยออกมาเข้าปะทะ หยางเวยอุ้มเสี่ยวจูหลบหนีออกไปจากบริเวณไม่ถึงสิบลมหายใจก็ได้ยินเสียงปะทะของปราณดาบเสียงดังสนั่น เปรี้ยง ปราณดาบสีฟ้าปะทะปราณดาบสีแดง หิมะบนพื้นฟุ้งกระจาย เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง คมดาบปะทะกันจนเกิดประกายไฟ ทั้งสองหาได้มีใครยอมใครยืนปักหลักฟาดฟันดาบอย่างไม่ลดละ เนี่ยฟงเพิ่มกำลังไปทีละส่วนประกายสายฟ้าพุ่งออกจากดาบโจมตีไปที่มือขวาชายหนุ่มด้านหน้า ในจังหวะนั้นเอง เคร้ง เนี่ยฟงตวัดดาบจากล่างขึ้นบน ดาบของชายหนุ่มด้านหน้าหลุดกระเด็นลงพื้น
เนี่ยฟงโยกตัวไปทางขวาซัดฝ่ามือซ้ายออกไป เปรี้ยง ฝ่ามือพุ่งเข้าปะทะกับหน้าอก เลือดสีแดงถูกกระอักออกมาชายหนุ่มด้านหน้ากระเด็นถอยหลังออกไปห้าก้าว
“ไม่คิดว่าระดับผู้อาวุโสสำนักจะลดตัวเป็นสุนัขรับใช้ผู้อื่น หากเจ้าสำนักรับรู้คงเสียใจไม่น้อย”
ชายหนุ่มด้านหน้าหาได้สนใจรีบนำขวดยาออกมากลืนเม็ดยารักษาอาการบาดเจ็บ
“ท่านคงกล่าวสิ่งใดมากไม่ได้เพราะสุนัขหาได้กล่าวสิ่งใดตอบผู้เป็นนาย ทำได้เพียงกระดิกหางทำตามคำสั่งเพียงแค่นั้น”
สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟงชายหนุ่มด้านหน้าร้องคำราม พร้อมกับระเบิดพลังปราณระดับสีดำขั้นต้นอีกครั้ง สะบัดมือขวาถือดาบอีกเล่มในมือ ไม่ถึงสองลมหายใจดาบในมือก็ส่องแสงสว่างออกมา เนี่ยฟงหรี่ตามองเล็กน้อย
“นั้นคงเป็นไพ่ใบสุดท้ายของท่านแล้วสินะผู้อาวุโส เอาเถอะข้าจะได้เอาจริงเสียที”
เนี่ยฟงใช้ทักษะอาภรณ์สายลมพร้อมกับท่าเท้าเหยียบนภาพุ่งเข้าหา ดาบสีดำมีประกายสายฟ้าพุ่งออกมา ทั้งสองฟาดฟันดาบในมือเข้าปะทะ เคร้ง แรงปะทะหลอมละลายหิมะบนพื้นจนกลายเป็นแอ่งน้ำ ดาบทั้งสองเล่มยังคงปะทะกันอยู่ทั้งสองเร่งโคจรลมปราณไปที่ดาบ ไม่ถึงสามลมหายใจ มีคนผู้หนึ่งแสยะยิ้ม ส่วนอีกผู้หนึ่งขมวดคิ้ว คมดาบหนึ่งเล่มเฉือนคมดาบอีกเล่ม เคร้ง ฉัวะ เลือดสีแดงพุ่งกระฉูดออกมา ชายหนุ่มชุดดำถีบเท้าถอยออกมาเพราะบาดแผลที่ได้รับ พุ่งถอยหลบหนีโดยใช้ต้นไม้บังสายตา เนี่ยฟงรีบเก็บดาบพร้อมกับธงสามเหลี่ยมพุ่งติดตามออกมา ด้วยท่าเท้าเหยียบนภาไม่ถึงยี่สิบลมหายใจก็ติดตามมาได้ทัน กระบี่สองเล่มถูกซัดออกจากแหวนในมือขวา
ชายหนุ่มด้านหน้าใช้ต้นไม้บดบังป้องกัน แต่ทว่ากระบี่ทั้งสองสามารถเลี้ยวหลบต้นไม้ได้อย่างหน้าเหลือเชื่อ หนึ่งเล่มพุ่งเข้าเสียบที่ต้นข้าด้านขวาทะลุออกไปด้านหน้า ส่วนอีกหนึ่งเล่มพุ่งเสียบที่หัวไหล่ด้านซ้าย วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏขึ้นมาด้านบนศีรษะของทั้งสอง ไม่นานก็กลายเป็นโดมขนาดใหญ่ครอบทั้งสองเอาไว้ด้านใน เสียงร้องโหยหวนดังลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง
“ถึงท่านแหกปากไปก็หาได้มีผู้ใดได้ยิน”
ในระหว่างที่กล่าว เนี่ยฟงใช้มือขวาค่อยๆดึงกระบี่ออกจากหัวไหล่อย่างช้าๆ ทันทีที่กระบี่หลุดออกมาเนี่ยฟงก็จ้วงแทงลงไปที่แผลเดิมอีกครั้ง
“ท่านไม่ต้องกล่าวว่าผู้ใดส่งท่านมาหรือว่าท่านเป็นคนของใคร เพราะตัวข้าหาได้สนใจเรื่องนั้น ถึงอย่างไรเมื่อข่าวที่ท่านตกตายไปคนที่อยู่เบื้องหลังท่านต้องเคลื่อนไหวเป็นแน่ ดังนั้นตอนนี้ท่านเตรียมใจรับความทรมานที่ข้าจะมอบให้ท่านดีกว่า”
กระบี่อีกเล่มที่จ้วงแทงต้นขา เนี่ยฟงดึงออกมาทิ่มแทงไปตามร่างกายหลายสิบแผล จนชายผู้นั้นต้องอ้อนวอนของให้เนี่ยฟงสังหารตน
“ได้โปรด ได้โปรด สังหารข้าเถอะ”
เนี่ยฟงแสยะยิ้ม สะบัดมือขวานำขวดยาออกมา ป้อนเม็ดยาหนึ่งเม็ดให้แก่ชายหนุ่มชุดดำ สะบัดมือขวาอีกครั้งวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏออกมา หมุนวนรอบกายไม่นานก็กลายเป็นแสงพุ่งหายเข้าไปในจุดตันเถียนอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็สลายโดมสีฟ้าพุ่งติดตามหยางเวยออกไป ทิ้งให้แก่ชายหนุ่มชุดดำนั่งอยู่กับที่ด้วยความงุนงง หลังจากพุ่งออกมาไม่นานเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานข้ามกำแพงเมืองหลวงมุ่งหน้ากลับที่พัก ทันทีที่มาถึงก็พบหยางเวยยืนอยู่กับเสี่ยวจูด้านหน้าบ้านพัก เนี่ยฟงโยนแหวนที่ปลดมาโยนให้แก่หยางเวย
“เจ้าสังหารชายผู้นั้นหรือไม่”
“ไม่ ข้าปล่อยเขาไป รอดูพรุ่งนี้เถอะว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น คืนนี้ให้แม่นางเสี่ยวจูพักเถอะ”
เนี่ยฟงหันไปมองเสี่ยวจู
“ต้องขออภัยที่พาท่านมาพบกับเรื่องแบบนี้”
“ไม่เป็นไรคุณชาย ข้าเข้าใจดี”
“เช่นนั้นแม่นางพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าคงมีเรื่องวุ่นวายขึ้นอีกเยอะ โดยเฉพาะกลุ่มชายชุดดำนั้น”
ไม่นานเสี่ยวจูก็เข้าบ้านพัก เนี่ยฟงและหยางเวยยังคงนั่งอยู่ด้านหน้า
“น่าแปลกเนี่ยฟงเกิดเรื่องขึ้นเช่นนี้ เหตุใดบริเวณแถวนี้หาได้มีผู้ใดตื่นขึ้นมาดู หรือให้ความสนใจ”
“เรื่องนั้นเจ้าอย่าใส่ใจเถอะ เจ้าเคยได้ยินหรือไม่เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ข้าเหตุการณ์ที่เราพบเจอหาได้เกิดขึ้นครั้งแรก เจ้าเตรียมรับมือพรุ่งนี้เช้าเถอะ ความสนุกกำลังจะเกิดขึ้น”
หลังจากนั้นทั้งสองก็นั่งโคจรลมปราณอยู่ด้านหน้าบ้านพัก อรุณเริ่มทอแสงสาดส่อง ไก่ขันร้องดังไปทั่วทั้งเขตบ้านพัก หลายคนต่างออกมามุ่งดูบริเวณบ้านพักของเนี่ยฟงเพราะเกิดร่องรอยการปะทะ จงเหรินป้าและหยางเฟยก็รีบมาเช่นกัน เมื่อมาถึงเป็นจงเหรินป้ารีบเอ่ยวาจาออกมา
“ต้องขออภัยศิษย์น้องทั้งสอง เมื่อคืนพวกข้าหาได้ยินเสียงใดเกิดขึ้นที่นี่”
“ไม่เป็นไรขอรับ ข้าเข้าใจดี คนพวกนั้นคงเตรียมการมาดีไม่น้อยสำหรับการปะทะเมื่อคืน พวกท่านไม่ต้องห่วงอีกไม่นานคนที่อยู่เบื้องหลังก็จะโผล่หัวออกมาเอง”
เป็นไปตามที่เนี่ยฟงคาดการณ์เอาไว้ ไม่นานก็มีเหล่าผู้อาวุโสหลายสิบคนเดินทางมาที่นี่ เสียงเอะอะโวยวายดังลั่นออกมาจากด้านหน้า หลายคนรีบหลีกทางให้ เนี่ยฟงหันไปมองพบเห็นเป็นกลุ่มขององค์ชายสี่ เนี่ยฟงแสยะยิ้มเดินต้อนรับ มีการสอบถามเล็กน้อยซึ่งเนี่ยฟงก็แจ้งบอกไปว่าเรื่องทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้วหาได้มีสิ่งใดคนร้ายหลบหนีไปได้ ในระหว่างนั้นเองเนี่ยฟงก็พบเห็นผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่มาพร้อมกับคนขององค์ชายสี่ยืนก้มหน้าตลอดเวลา ไม่นานก็เอ่ยวาจาเสียงดังออกมา
“ข้าก็ไม่รู้เช่นกันว่าพวกสุนัขลอบกัดพวกนี้เป็นใคร เพราะเมื่อคืนมีคนผู้หนึ่งหลบหนีไปได้ ส่วนลูกสมุนที่จับตัวแม่นางเสี่ยวจูไป ถูกข้าสังหารแล้วที่บนเขา แน่นอนว่าข้ามีวิธีตรวจสอบชายที่หลบหนี พวกท่านจะเชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับพวกท่านผู้อาวุโสแล้ว”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงสะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าขนาดเล็กปรากฏขึ้นด้านหน้าบนอากาศ ทันทีที่วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าเสร็จสมบูรณ์ เนี่ยฟงก็สะบัดมือขวาอีกครั้ง วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าหมุนวนรอบกาย ไม่ถึงสองลมหายใจก็พุ่งทะยานออกไป วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าพุ่งหายเข้าไปในตัวของผู้อาวุโสท่านหนึ่ง ไม่ถึงสามลมหายใจก็เกิดเสียงระเบิดดังลั่นออกมา ตูม เลือดสีแดงฉานพร้อมกับเศษชิ้นส่วนกระจายไปทั่วบริเวณ หลายคนกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เสียงสบถดังลั่นมาจากคนขององค์ชายสี่ เนี่ยฟงก้าวเองเดินออกมาเอ่ยวาจา
“นี้เป็นจดหมายเตือน สำหรับพวกที่คิดลองดีกับข้า พวกท่านคงทราบดีว่าตัวข้ามีความชำนาญเกี่ยวกับอักขระศักดิ์สิทธิ์ดังนั้น นั่นเป็นหลักฐานสำคัญที่ข้าประทับอักขระศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่ตัวคนหลบหนี”
เนี่ยฟงหันไปมองคนขององค์ชายสี่ที่กำหมัดในมือแน่นจ้องมองเนี่ยฟงด้วยความเคียดแค้น หยางเวยยกยิ้มก้าวเดินออกมาพร้อมกับผายมือทั้งสองออกหันไปจ้องมองพวกขององค์ชายสี่
“เรื่องทั้งหมดคงเสร็จสิ้นแล้ว ข้าไม่ขอกล่าวสิ่งใดว่าผู้อาวุโสท่านนั้นเป็นคนของผู้ใด แต่หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นอีก พวกข้าคงต้องจัดการกันเอง ส่วนจดหมายแนะนำพวกท่านคงได้รับแล้ว เช่นนั้นข้าจะขอประกาศไว้ในที่นี้ พวกข้าทั้งสามได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนักคชสารธรณี ให้คัดเลือกคนเพื่อจัดตั้งทีมสังหารปีศาจเพื่อบุกยึดพื้นที่คืน”
สิ้นเสียงกล่าวของหยางเวยทุกคนต่างนิ่งเงียบได้ยินเพียงเสียงลมหายใจดังแว่วเพียงแค่นั้น