ตอนที่ 194 เควสในตำนานคืบหน้า
ตอนที่ 194 เควสในตำนานคืบหน้า
ขั้นตอนการกลายพันธ์ของ Incubus และ Succubus เกิดขึ้นเร็วมากเสียจนเจสเปอร์แทบจะตั้งตัวไม่ทัน เขาทำได้แค่มองดูร่างกายที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงของมันจากวงนอกอย่างจนใจ ที่สุดแล้วภายในระยะไม่ถึง 1 นาที Incubus เพศผู้ก็ยึดร่างนางปีศาจน้องร่วมสายเลือดที่มันแสนจะชิงชังได้เป็นผลสำเร็จ ก่อนจะสยายปีกสีดำอันทรงพลังบินเข้าใส่เจสเปอร์ที่ตั้งดาบเตรียมพร้อมรับแรงกระแทกไว้อยู่แล้ว
‘ชิ้ววว!!’
ความเร็วและความพลังของปีศาจตนนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบเท่าตัว มันไม่มีทีท่าจะหยอกล้อกับเหยื่อเหมือเช่นนางปีศาจแม้แต่น้อย มันพุ่งเข้าหาเจสเปอร์อย่างดุดันหมายจะบดขยี้เขาให้ตาย
แต่มีหรือที่เจสเปอร์จะยอมให้สิ่งนั่นเกิดขึ้น...เขาคือคนที่เคยปะทะกับบอสแผนที่และให้กำเนิดบอสโลกขึ้นมาเชียวนะ ลำพังแค่มินิบอสที่กลายพันธ์ตัวเดียวมีหรือจะทำให้เขากลัวได้
‘กล้าหาญ...มีไวพริบ...แข็งแกร่ง!! ผู้ควบคุมธาตุหนุ่มคนนี้ช่างละหม้ายคล้ายคลึงกับพวกฉัน 3 คนจริงๆ?? ’
กล้าหาญเหมือนข้า ฉลาดและประเมินสถานการณ์ได้ดีเหมือนทอน์และแข็งแกร่งเหมือนเกโด ชายผู้นี้มีองค์ประกอบที่เหมาะสมจะสืบทอดตำแหน่งของท่านอาจารย์ทั้งสอง(ปรมาจารย์เมนอสและปรมาจารย์ยูออน)มากเหลือเกินจะเป็นไปได้ไหมที่ว่า ชายหนุ่มผู้นี้จะเป็น ‘ผู้ควบคุมธาตุในคำทำนาย...ผู้ควบคุมธาตุที่จะรวมเอาสายวิชาทั้งสองมารวมเป็นหนึ่ง??!!’
ศิษย์เอกซีริคที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจ้องมองไปยังร่างของเจสเปอร์ที่กำลังรับมือกับปีศาจ Incubus อย่างแข็งขัน ทว่า...ด้วยความที่ตัวเขาบาดเจ็บสาหัสหรือเกิดภาพหลอนจากการที่ถูกดูดพลังเวทมนต์ในตัวออกไปจนหมดสิ้นก็ตาม ดวงตาของเขาจึงได้พล่ามัวจนมองเห็นร่างของปรมาจารย์เมนอสและปรมาจารย์ยูออนประทับอยู่ในตัวของ เจสเปอร์ ไปเสียอย่างนั้น
ซึ่งความจริงแล้ว หากศิษย์เอกซีริคจะมองเห็นเป็นแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด เพราะช่วงจังหวะนั้นเอง...เจสเปอร์ก็ได้ควักเอาคัมภีร์เสริมพลังกายและฟื้นฟูเวทมนต์ที่เขาสร้างขึ้น โยนเข้าหาศิษย์เอกซีริคที่พลังชีวิตจวนเจียนใกล้จะหมดลงอยู่รอมร่อ ให้กลับมาฟื้นคืนขึ้นอีกครั้ง
พลางยื้อชีวิตศิษย์ผู้พี่ต่อเนื่องด้วยสกิล [All Heal] ที่เขาได้จดจำมาจากไอรีน นักบุญหญิงเพียงหนึ่งเดียวในอาณาจักรกรีนเวต้าจากแหวนคู่ที่พวกเขาทั้งสองคนได้ใส่คู่กันเอาไว้
หลังจากที่เจสเปอร์ชำเลืองมองกลับไปจนแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เขาได้ทำลงไปเมื่อครู่ ได้ช่วยชีวิตศิษย์เอกซีริคจากน้ำมือของพญามัจจุราชได้เป็นผลสำเร็จ ชายหนุ่มเองก็หมดห่วงลงไปหนึ่งเปราะ พร้อมกับปล่อยให้คัมภีร์ที่เขาสร้างไว้ ได้ทำงานตามผลของมัน ในการช่วยรักษา NPC ไปตามลำดับ
ส่วนตัวเจสเปอร์เองนั่นก็หันกลับไปโฟกัสกับปีศาจ Incubus ได้อย่างเต็มทีโดยไม่มีอะไรต้องพะว้าพะวังอีกต่อไป สังเกตได้จากการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในยามนี้ที่ปีศาจ Incubus แทบจะไม่ได้สยายปีกอันทรงพลังของมันและบินได้สูงเกิน 5 เมตรอีกเลย นับตั้งแต่เจสเปอร์หันมาให้ความสำคัญกับตัวมัน
เพราะในทันทีที่มันคิดจะตั้งใจบินขึ้นฟ้าเพื่อหลบสกิลกรดพิษ ‘Acid Spray’ ที่ถูกสาดเข้ามายังใต้เท้าของมัน
ช่วงจังหวะนั้นเจสเปอร์ก็ได้สวนทางการลอยตัวของมันด้วยการพ่นสกิล ‘Breathe Fire’ ออกไปเพื่อแผดเผาปีกของมันให้ร่วงหล่นลงมาที่เดิมอีกครา!!
หากแต่มันคิดจะพุ่งสวนทางตอบโต้...เจสเปอร์ก็เตรียมรอรับมันด้วยสารพัดสกิลที่มี ส่งร่างโยนมันกลับเข้าไปยังบ่อกรดพิษของเขาอีกหนึ่งคำรบ
‘ยืนก็ไม่ได้ บินก็ถูกปิดผนึก พุ่งเข้าหายิ่งแล้วใหญ่??!!’
ไม่ว่าจะหันไปทิศทางใดปีศาจ Incubusก็ถูกเจสเปอร์เตะโด่งกลับมาให้เกือกกลิ้งอยู่บนพื้นที่ๆเต็มไปด้วยพิษกัดกินร่างเสียทุกที
เจสเปอร์พยายามกดข่มและควบคุมพื้นที่เอาไว้อย่างสุดกำลัง เขาจงใจที่จะไม่เอาตัวเข้าไปแลกกับปีศาจ Incubus แบบตรงๆตามที่มินิบอสตัวนี้ต้องการ ประหนึ่งมีลางสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้นว่า ศัตรูตัวต่อไปที่เขาจะต้องเผชิญดีไม่ดีอาจเป็นมังกรปีศาจ Xanidarth ลาสบอสตัวสุดท้ายของอาณาจักรก็เป็นได้?
แต่ก็ใช่ว่าปีศาจ Incubus จะยอมให้ตัวมันเองตกเป็นเป้าให้ทุกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่ เพียงไม่นานหลังจากการกดข่มทุกประตูของเจสเปอร์เริ่มถูกมินิบอสตนนี้จับทางได้ แผนการกดข่มและเลี่ยงไม่ปะทะของเขาก็เป็นอันตกยุติลง พร้อมกับในช่วงจังหวะที่ปีศาจ Incubus ยอมเอาตัวของมันเข้าแลกกับกรดพิษที่อยู่ตามพื้น...เพื่อหาจุดปลอดภัยเพื่อหยั่งเท้า!!
อย่างไรก็ตามถึงการกระทำของปีศาจ Incubusจะอยู่นอกเหนือจากที่เจสเปอร์คาดการณ์เอาไว้บ้าง แต่นั้นไม่ได้แปลว่าเขาจะหมดหนทางในการรับมือกับปีศาจตนนี้เสียหน่อย?
มันก็เหมือนกับการดิ้นรนครั้งสุดท้ายที่เปล่าประโยชน์แบบเดียวกับนางปีศาจ Succubus น้องสาวที่มันยึดครองร่างเคยทำนั่นละ? เพราะไม่ว่าจะก้าวไปทางไหน ดาบอีเทอนัลวอร์เบลดของเจสเปอร์ก็พร้อมทะยานเข้าฟาดฟันมันจากทุกทิศทุกทางอยู่ดี!
‘ปึก ปึก!!’ หนึ่งดาบ สองดาบ...! ดาบอันทรงพลังเสียบเข้าออกไปมาดูดกลืนพลังเวทมนต์(เอฟเฟคพิเศษของดาบอีเทอนัลในการเติบโตขั้นที่ 5 )จากตัวปีศาจ Incubus มาฟื้นคืนให้กับผู้ควบคุมธาตุมากขึ้นเรื่อยๆ...ทั้งหมดทั้งสิ้นแล้วถึงจะเป็นมินิบอสอันแข็งแกร่งสักเพียงใด ‘หากหมดสิ้นพลังเวทมนต์ก็เหมือนไร้ซึ่งแขนขา’
ยามนี้ปีศาจ Incubus ได้แต่คับแค้นใจตนเอง เพราะนับตั้งแต่มันได้กลายพันธ์ถือกำเนิดเกิดขึ้น มันก็แทบไม่มีโอกาสได้สัมผัสโดนตัวเพื่อดูดกลืนพลังชีวิตของผู้บุกรุกตรงหน้าเลยแม้แต่หนเดียว มิหนำซ้ำยังปล่อยปละละเลยจากนักโทษให้หลุดมือออกไปอีกด้วย
‘ชีวิตนี้มันจบสิ้นแล้ว!!ไม่ว่าจะนรกภูมิหรือบนโลก Era ท่านจอมปีศาจคงไม่ปล่อยเผ่าพันธ์ปีศาจ Incusbus และ Succusbus ของมันไว้แน่??!!’
‘อ๊ากกกก!’
...............
‘อ๊ากกกก!’
เสียงร้องของกษัตริย์ Candor ที่ถูกพิษลมหายใจเฮือกสุดท้ายกัดกินชีวิตจนไม่อาจอดกลั้นฝืนทนได้ดังเล็ดลอดทะลุออกมาจากห้องลับยามค่ำคืนอย่างสุดเสียง พร้อมกับๆที่ใบหน้าของชายลึกลับกำลังแสยะยิ้มจากเงามืด...ค่อยๆปรากฏขึ้น! จากแสงไฟที่จู่ๆก็พลันส่องสว่างขึ้นจากบุคคลลึกลับที่มีกองทหารกลุ่มหนึ่งเดินติดตามอยู่ข้างกาย
“นี้ก็ยามวิกาลมากแล้ว...เหตุใดท่านดยุกอาเซนิคถึงยังมาเดินเพ่นพ่านอยู่ใกล้ๆห้องบรรทมของกษัตริย์ด้วยล่ะ??!!”
คราวนี้ดยุกซิมป์สันไม่ได้ใช้โทนเสียงเหยียดยามผู้อื่นและแสร้งทำตัวโง่งมเหมือนเช่นตอนแรกอีกต่อไปแล้ว NPC นับรบผู้ภักดีส่องตะเกียงไฟในมือสาดเข้าที่ใบหน้าของชายอีกคนที่ทำท่าทางลับล่อๆอยู่ในห้องบรรทมขององค์ราชินีซีเรียที่ถูกรับสั่งให้คงสภาพไว้ดั่งเดิมข้างๆห้องกษัตริย์ Candor
ก่อนที่แสงไฟเหล่านั้นจะช่วยปัดเป่าความมืดยามราตรี ปรากฏให้เห็นดยุกอาเซนิคที่กำลังยืนแข็งค้างด้วยความตกใจพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มในตอนแรก
“เป็นท่านดยุกซิมป์สันนี้เอง!เอาซะข้าตกอกตกใจหมดเลย...พอดีว่าข้ากำลังทำงานที่ค้างอยู่ที่ห้องทำงานด้านล่างและได้ยินเสียงร้องประหลาดเมื่อครู่ดังมาจากห้องนี้ ข้าเกรงว่าจะเป็นภูตผีปีศาจบุกล้ำเข้ามาผ่านช่องประตูมิติของสมาคมผู้ควบคุมธาตุเลยขึ้นมาตรวจดูเสียหน่อย...แต่ในเมื่อได้เห็นท่านดยุกซิมป์สันและกองทหารมาตรวจดูแล้วข้าเองก็เบาใจ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัวกลับไปทำงานก่อนก็แล้วกัน!”
เมื่อกล่าวจบดยุกอาเซนิคก็ขอตัวลาจากไปเสียดื้อๆ ทิ้งให้ดยุกซิมป์สันและกองทหารผจญกับความมืดภายในห้องต่อไป
กระนั้นแล้วมีเหรอที่คำกล่าวอ้างเมื่อครู่ของดยุกอาเซนิคจะมีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ? ถึงน้ำเสียงของ NPC ผู้นี้จะวางตัวเป็นคนใจดีแต่ลึกๆแล้วในคำกล่าวอ้างเมื่อครู่ มันโยนไปให้ทาง ศจ.อลาสเตอร์และแม่มดขาว Elunir ที่สร้างประตูมิติขึ้นมาเลยไม่ใช่หรือไง?
“ท่านอาจารย์ทั้งสองคงเห็นกับตาแล้วใช่ไหมว่าดยุกอาเซนิคมีพิรุธมากแค่ไหน ทำงานที่คั่งค้างและขึ้นมาตรวจห้องขององค์ราชินีในยามนี้นะเหรอ... น่าขัน? ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข้ายังไม่เคยเห็นดยุกคนไหนในเมืองนี้นอกจากข้าอยู่เกินพระอาทิตย์ตกดินเลย!!”
เมื่อดยุกอาเซนิคจากไปดยุกซิมป์สันที่ถือตะเกียงไฟก็เร่งแสงของมันให้ส่องกระจายมากยิ่งขึ้น ก่อนที่แสงจากตะเกียงจะสาดส่องไปทั่วห้องเปิดเผยใบหน้าของกองทหารที่ติดตามมาด้วย ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเป็นเหล่าสมาชิกกองทัพกิลด์ Rising Sun ประกอบไปด้วยคลูเอล อามมี่และลูอิส พร้อมทั้งสองอาจารย์ผู้สร้างประตูมิติอย่าง ศจ.อลาสเตอร์และแม่มดขาว Elunir ที่บัดนี้ท่านผู้วิเศษทั้งสองได้ต่างกำหมัดไว้แน่น พลางสบถด้วยถ้อยคำหยาบคายถึงดยุกอาเซนิคที่จงใจโยนความผิดมาที่ประตูมิติของพวกตน
‘ถ้าหากว่าปีศาจและอสูรบุกเมืองขึ้นมาจริงๆ แกคงจะโทษประตูมิติของฉันที่ทำเพื่ออาณาจักรสินะไอ้ลูกหมาอาเซนิค!!’
ศจ.อลาสเตอร์และแม่มดขาว Elunir หมดสิ้นความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีต่อดยุกอาเซนิคลงทันที โดยเฉพาะตัวแม่มดขาว Elunir ที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าอยากจะหักกระดูก NPC ดยุกคนผู้นี้เป็นสองท่อน ที่บังอาจมาใช้จิตสังหารกดดันลูกศิษย์ของเธอ แล้วยังแสร้งมาทำดีกลบเกลื้อน
“สำเร็จเรียบร้อยตามแผนของเจส...แล้วใช่ไหม??!!”
“อืมคาดว่าจะเป็นแบบนั้น ที่เหลือก็แค่รอให้ ศจ.อลาสเตอร์และแม่มดขาว จัดการก็น่าจะเรียบร้อย แต่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าผลลัพธ์จะออกมาในรูปแบบไหนเพราะหมอนั่นไม่ได้บอกเอาไว้ แต่จากที่ฉันคาดเดาหมอนั่นต้องมีแผนที่จะให้อาจารย์ทั้งสองทำอะไรกับดยุกอาเซนิคแน่ๆ”
ใช่แล้วเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในราตรีวันนี้เป็นแผนของชายหนุ่มที่กำลังเผด็จศึกปีศาจ Incubus อยู่ที่ปราสาทดำจริงๆ โดยเขาจงใจให้คลูเอลและคนอื่นๆช่วยกันจัดฉากละครนี้ขึ้นมาเพื่อให้ NPC อาจารย์ทั้งสองได้มาเห็น ความปลิ้นปล้อน ตลบตะแลงของดยุกอาเซนิคด้วยตาของตัวเอง
เพราะหากเทียบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้กับภาพเหตุการณ์ในอดีตของเจสเปอร์ ถ้าเขาคาดเดาเอาไว้ไม่ผิด...ที่ไอเดนสามารถเปิดโปงแผนชั่วของดยุกอาเซนิคได้นั่นส่วนหนึ่งก็มาจากข้อมูลที่สมาคมจอมเวทย์และผู้ควบคุมธาตุไดให้ไว้นั่นเอง ซึ่งตัวไอเดนจะสืบทราบแล้วรู้จักกับ NPC ระดับสูงของสมาคมได้ยังไง ก็จนปัญญาที่เจสเปอร์จะรู้ได้...?
..........
“ที่แท้เจ้าก็เป็นศิษย์น้องของข้าเองหรอกเหรอ...แล้วดาบนี้ก็เป็นท่านอาจารย์ที่ให้ไว้กับเจ้าสินะ....?”
คำถามมากมายพลั่งพรูออกมาจากปากของศิษย์เอกซีริคที่บัดนี้ได้ฟื้นคืนสติ เอ่ยถามต่อศิษย์น้องที่เข้ามาแนะนำตัวหลังจากจัดการสังหารปีศาจ Incubus ลงได้เมื่อครู่
“ใจเย็นก่อนศิษย์พี่อาการของท่านยังไม่สู้ดีนัก! ค่อยถามข้าที่ละคำถามก็ได้ ข้าเองก็ไม่ได้รีบไปไหน”
ถัดจากการแนะนำตัวและอธิบายถึงที่มาที่ไปอยู่นาน เจสเปอร์ก็ได้บอกเล่าถึงเรื่องที่ ปรมาจารย์เมนอส ได้ฝากฝังเขาเอาไว้ต่อศิษย์เอกซีริคให้ได้รับทราบ ก่อนที่จะมีเสียงสัญญาณแจ้งเตือนจากเควสในตำนานที่ไม่ได้ยินเสียนานดังขึ้น
‘ติ้ง!’
[เควส: ออกตามหาศิษย์เอกทั้ง3 (เควสตำนาน) เควสสำหรับผู้ควบคุมธาตุไม่สามารถปฏิเสธได้ ระยะเวลาคงเหลือ 1 เดือน 28 วัน]
[รายละเอียดความสำเร็จ: ศิษย์เอกเกโด(สำเร็จ),ศิษย์เอกซีริค(สำเร็จ),ศิษย์เอกทอน์(กำลังดำเนินการ)]
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy