ตอนที่แล้วตอนที่ 147-148
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 151-152

ตอนที่ 149-150


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 149 : นักปรุงยาหาได้ขาดแคลนเงิน

เซียวเฉิงถอนหายใจ สีหน้าเผยความอับจน

แม้เหยียบไว้ได้นาน ทว่าการกระทำของสถาบันวิญญาณเมฆา อย่างไรก็ต้องมีกองกำลังอื่นที่มาเยือนนครจิ่วเหยาให้ความสนใจ

ขณะนี้คงไม่อาจปิดบังอะไรได้ต่อแล้ว

อย่างไรข่าวคราวเรื่องร้านต้นตำรับก็ต้องแพร่กระจายออก บอกต่ออีกฝ่ายก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด

เซียวเฉิงเพียงคิดไปครู่ จากนั้นจึงตัดสินใจ

“ก็ไม่ใช่ความลับยิ่งใหญ่อะไร” เซียวเฉิงยักไหล่ สีหน้าเผยความเฉยชาราวเป็นเรื่องปกติ “บอกพวกเจ้าไปก็ไม่เป็นไร!”

“ฮ่าฮ่า ค่อยดีหน่อย! งั้นไว้ค่อยพูดกล่าว!” เหว่ยอี้หัวเราะ “เสี่ยวเอ้อ สั่งอาหารหน่อย!”

ก่อนจะสิ้นเสียง เสี่ยวเอ้อก็เร่งรีบมารับเรื่อง

ภัตตาคารเซียนวิหคอมตะแห่งนี้เป็นที่รู้จักของผู้คนทั้งหลาย ดังนั้นห้องส่วนตัวเช่นนี้ย่อมต้องมีคนรับรองพร้อมหน้าห้องโดยตลอด

“นายท่านต้องการรับอะไรดีขอรับ?” เสี่ยวเอ้อกล่าวถามด้วยความนอบน้อม

“จานนี้ จานนี้ แล้วก็จานนี้...”

เหว่ยอี้พลิกหน้ารายการอาหารรวดเร็วพร้อมชี้นิ้วเลือกสั่ง

“ก็ประมาณนี้!”

“รับทราบขอรับ ขอตัวไปดำเนินการให้ท่านแล้ว!”

เหว่ยอี้จึงกล่าว “ยกเว้นพวกนี้! นอกนั้นเอามาให้หมด!”

เสี่ยวเอ้อนิ่งงัน ทว่าสติกลับคืนรับคำรวดเร็ว “รับทราบขอรับ ขอนายท่านโปรดรอ!”

ถัดจากนั้นเขาจึงเร่งรีบวิ่งไป

เซียวเฉิงเผยยิ้ม “พี่เหว่ยยังใจกว้างเช่นเคย!”

อันที่จริง นักปรุงยาหาได้ขาดแคลนเงินไม่!

“ได้ยินว่าพี่เหว่ยได้ผู้อาวุโสหุบเขาโอสถรับเป็นศิษย์ตรงแล้วนี่?” หลิวลู่อวี่เผยยิ้ม

ตี้อู๋อู่หยิงยังคงเงียบเช่นเคย

ไม่ช้าอาหารทั้งหลายจึงถูกยกนำมา

เซียวเฉิงจึงเริ่มพูดกล่าวถึงเรื่องร้านต้นตำรับ

แน่นอนว่าก็เพียงส่วนเล็กน้อย โดยเป็นการแนะนำสินค้าที่น่าทึ่งภายในร้าน

“หมายความถึงมีร้านอันวิเศษอยู่ใกล้เคียงนี้อย่างนั้นหรือ?”

เหว่ยอี้ขมวดคิ้วเผยท่าทีสับสน

“อาหารนั่นเทียบเท่าเม็ดยาระดับสูง? พี่เซียวมั่นใจหรือว่าไม่ได้ล้อกันเล่น?”

ความสงสัยเผยชัดที่ใบหน้าของหลิวลู่อวี่

หากไม่ใช่เซียวเฉิงเผยสีหน้าหนักแน่น หลิวลู่อวี่คงคิดว่าเป็นวาจาไร้สาระไปแล้ว

ตี้อู๋อู่หยิงเองก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ข้าทราบว่าพูดไปก็ไม่เชื่อ” เซียวเฉิงไหวไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ราวกับทราบอยู่แต่แรกแล้วว่าจะได้รับการตอบสนองเช่นนี้

“แน่นอนว่าพวกเจ้าไปรับชมด้วยตาตนเองกันได้”

ถัดจากนั้นเซียวเฉิงจึงบอกกล่าวถึงตำแหน่งที่ตั้งร้านแก่คนทั้งสาม

ท้ายที่สุดเขายังไม่ลืมกล่าวย้ำเตือนด้วยความจริงจัง “ที่ร้านอย่าได้กล้าดีก่อปัญหา พวกเจ้าจะไม่อาจแบกรับได้ไหว”

สีหน้าของเซียวเฉิงจริงจัง หลิวลู่อวี่จึงหัวเราะออก

เซียวเฉิงมึนงงไปวูบ “นี่เจ้าหัวเราะอะไร?”

“คิดว่าด้วยสถานะและกำลังของพวกเรา ยังมีอันใดต้องหวาดเกรงงั้นหรือ?”

มุมปากของหลิวลู่อวี่ยกยิ้มเป็นการบ่งบอกว่าลำพองตน

นางมีความเชื่อมั่นใจกล่าวคำเหล่านี้ออก

กำลังของนางสูงที่สุดในกลุ่มคน ตัวนางคือขอบเขตจิตวิญญาณระดับสูงสุด และอีกเพียงก้าวก็จะถึงขอบเขตคืนต้นกำเนิด!

นอกจากนี้นางยังเป็นถึงนักบุญแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ ด้วยนางเผยตัวออก แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตทดสอบเต๋ายังต้องยั้งคิด!

“เชื่อหรือไม่ตามแต่เจ้า” เซียวเฉิงไหวไหลรับคำอย่างเฉยชา

อย่างไรแล้วทั้งสามคนนี้ก็เป็นเพียงคนรู้จัก เกิดอะไรขึ้นล้วนไม่ข้องเกี่ยวกับเขา

ถัดจากนั้นจึงเป็นช่วงอิ่มเอมกับมื้ออาหาร

เซียวเฉิงทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ทว่าผู้อื่นล้วนไม่

พวกเขายังคงพิจารณาเรื่องที่เซียวเฉิงกล่าวเมื่อครู่

เสร็จสิ้นมื้ออาหารเซียวเฉิงจึงกลับจากภัตตาคาร

คนทั้งสามยังคงนั่งอยู่ในห้องอย่างเงียบงัน

เหว่ยอี้เลือกทำลายความเงียบ “คิดเห็นอย่างไรกับที่พี่เซียวกล่าว?”

ตี้อู๋อู่หยิงเผยคำออกอย่าง “เขาไม่มีเหตุผลต้องโกหก”

รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากหลิวลู่อวี่ “ข้าชักสนใจร้านนั้นขึ้นมาแล้ว”

ด้วยสนทนากันเรียบง่ายเช่นนี้ คนทั้งสามจึงตัดสินใจกันได้

ตอนที่ 150 : หลิวลู่อวี่มีโทสะ

“คิดไปเมื่อใด?” เหว่ยอี้เอ่ยถาม

“ยิ่งเร็วยิ่งดี” หลิวลู่อวี่ยิ้มรับ

ตี้อู๋อู่หยิงพยักหน้าเห็นพ้อง

เสร็จสิ้นมื้ออาหาร ขณะนี้จึงได้เวลาพิสูจน์

คนทั้งสามมาเยือนนครจิ่วเหยาวันนี้ ก็เพียงเพื่อหาข้อมูลของนครจิ่วเหยา

หลังสอบถามเซียวเฉิงได้ความ จึงได้รับข่าวคราวที่ต้องการมา

จ่ายด้วยผลึกวิญญาณต่อภัตตาคารเรียบร้อย คนทั้งสามจึงมุ่งหน้าไปยังร้านต้นตำรับตามที่เซียวเฉิงกล่าวไว้

ไม่ช้าคนทั้งสามจึงไปเยือนตรอก

“ที่นี่จะมีร้านจริงหรือ?”

เหว่ยอี้หันมองภายในตรอกก็ต้องประหลาดใจ ว่ามันถึงกับมีร้านซุกซ่อนอยู่จริง

“เหมือนว่าเซียวเฉิงจะไม่ได้หลอกพวกเรา”

หลิวลู่อวี่กล่าวออกจึงเดินเข้าสู่ภายในตรอก

เหว่ยอี้และตี้อู๋อี่หยิงต่างเดินตาม

“นั่นเถ้าแก่ร้านหรือเปล่า?”

ชายหนุ่มคนหนึ่งนอนที่บนม้านั่งหน้าร้านอย่างสะดุดสายตา เหว่ยอี้ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยกล่าวถาม

“ใช่” ลั่วฉวนลืมตาขึ้นมาตอบรับคำเสียงเบา

คนทั้งสามเพียงขอบเขตจิตวิญญาณ และไม่ทราบเรื่องราวใดของร้านแห่งนี้

“ร้านต้นตำรับ เถ้าแก่ใช้ชื่อร้านได้ใหญ่โตดียิ่งนัก!”

หลิวลู่อวี่มองที่ป้ายชื่อร้าน ก่อนดวงตางดงามนั้นหันมองไปยังลั่วฉวน

ในความเห็นนาง ลั่วฉวนก็แค่คนธรรมดา ไม่มีแม้กระทั่งร่องรอยพลังวิญญาณ

ความเป็นไปได้มีเพียงสอง คือเถ้าแก่ร้านเป็นคนธรรมดาจริง

ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าไม่สมควรใช่

อีกหนึ่งคือกำลังของเถ้าแก่ร้านเหนือล้ำกว่านางอย่างมหาศาล มันจึงเป็นผลให้ขอบเขตจิตวิญญาณไม่อาจพบเห็นร่องรอย

เหว่ยอี้และตี้อู๋อู่หยิงต่างก็คิดเห็นเช่นเดียวกันนี้ ดังนั้นจึงยังไม่กล้าบุ่มบ่าม

“ร้านของข้าย่อมแบกรับชื่อได้ไหว” น้ำเสียงลั่วฉวนกล่าวออกอย่างเรียบง่าย

ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ พบเห็นเถ้าแก่เป็นเช่นนี้ หลิวลู่อวี่จึงอดไม่อยู่จนเกิดความรู้สึกโกรธขึ้นภายในใจ

ด้วยฐานะนักบุญแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ นายน้อยทั้งหลายผู้มากพรสวรรค์ล้วนจับจ้องนางมาโดยตลอด

แต่แล้วเถ้าแก่เพียงเปรยสายตามองนาง

ร่องรอยความรู้สึกใดในดวงตานั้นหาได้มีไม่!

“หากไม่อาจรับได้ไหว เช่นนั้นก็คงไม่กล้ากล่าวออกมาอยู่ดี” หลิวลู่อวี่เผยดวงตาหรี่เล็กกล่าวคำออก

เหว่ยอี้จึงมองทางหลิวลู่อวี่ด้วยความสับสน

เท่าที่จำได้ หลิวลู่อวี่ไม่เคยใช่คนขาดความอดทนเช่นนี้

เมื่อมายังร้านแห่งนี้พวกเขาได้ตกลงกันแล้ว ว่าจะไม่กระทำการบุ่มบ่ามอย่างไม่ทราบเบื้องลึกเบื้องหลังของร้าน

ตี้อู๋อี่หยิงไม่กล่าวคำใดออกมา

ลั่วฉวนดูสับสนเล็กน้อย ไฉนสตรีน้อยตรงหน้าคล้ายมองเขาเป็นศัตรูเสียได้?

กระนั้นลั่วฉวนก็ยังเผยสีหน้าอันสงบ “อันที่จริงลูกค้าที่มาเยือนร้านต่างก็คิด ว่าร้านต้นตำรับนั้นเป็นเพียงชื่อ”

หลิวลู่อวี่คิดกล่าวออก ทว่าเหว่ยอี้ได้กระแอมไอขัดคำนางเอาไว้ “เถ้าแก่กล่าวเช่นนี้ อย่างนั้นพวกเราขอเยี่ยมชมร้านหน่อยแล้ว”

ลั่วฉวนพยักหน้ารับ “เชิญตามสบาย”

จากนั้นจึงกลับไปนอนหลับตาอาบไล้แสงตะวันยามเย็นเช่นเดิม

“จริงด้วย เสมียนร้านอยู่ด้านใน สงสัยอะไรถามนางก็แล้วกัน”

ลั่วฉวนที่คิดขึ้นมาได้จึงกล่าวเสริมตามหลัง

คนทั้งสามถึงกับทำตัวไม่ถูก

ร้านไกลห่างเช่นนี้ถึงกับมีเสมียนร้าน เถ้าแก่ออกจะน่าสนใจเกินไปแล้ว

คิดเช่นนั้น คนทั้งสามจึงเดินเข้าไปภายในร้าน

ที่ต้องตาก่อนอื่นใดคือชั้นเครื่องแก้ววางสินค้าภายในร้านที่ประดับประดาอย่างหรูหรา

บอกกล่าวตามตรง เพียงพบเห็นก็ทำคนทั้งสามตื่นตะลึงได้แล้ว

ด้วยเครื่องแก้วหลากสีสันมากมายเช่นนี้ เกรงว่าร้านนี้จะน่ากลัวเกินกว่าที่คาดคิดไว้

บ้าจริง!

เซียวเฉิงถึงกับไม่บอกกล่าวว่าร้านนี้มีเบื้องหลัง!

“ยินดีต้อนรับ” เสียงอันเป็นธรรมชาติดังขึ้นจากภายในร้าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด