ตอนที่ 193 ภาพนิมิตเป็นเรื่องจริง
ตอนที่ 193 ภาพนิมิตเป็นเรื่องจริง
เจสเปอร์ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะเรียนรู้ทักษะในหนังสือเล่มนี้กับตัวเองโดยทันที ซึ่งหากตีเป็นราคาค่างวดหนังสือทักษะสกิลชิ้นนี้อาจสูงถึงหลายร้อยเหรียญทองเลยก็ว่าได้และไม่ต้องถามถึงความหายากของมันเพราะเซอร์เบอรัสสามหัวไม่ใช่มอนสเตอร์ที่จะออกมาให้ผู้เล่นได้พบเจอบ่อยๆอยู่แล้ว
ดังนั้น ‘หนังสือสกิลไฟ กรดและพิษ’หนังสือเล่มนี้ที่รวบรวมสามธาตุที่เป็นหัวใจหลักของสามสกิลที่เอ่ยมา จึงเป็นไอเท็มและสกิลที่ค่อนข้างหายากเป็นอย่างมากภายในเกม
หลังจากที่เจสเปอร์ได้จัดการหมาสามหัวได้เป็นที่เรียบร้อย ตัวชายหนุ่มก็อาศัยช่วงจังหวะที่ว่าง พักผ่อนเพื่อฟื้นค่าความเหนื่อยล้าและพลังชีวิตของตนเองสักหน่อย ก่อนจะแอบแวะเปิดดูแผนที่ปราสาทดำ Black Castle จากข้อมูลในอดีตสักหน่อยเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเขาจะไม่หลงไปในทิศทางที่เปล่าประโยชน์
ซึ่งเป้าหมายแรกที่เจสเปอร์ตั้งใจเอาไว้คือการไปช่วยเหลือศิษย์เอกซีริคที่ถูกจับตัวเอาไว้ ตามภาพในนิมิตที่เห็นให้ได้เสียก่อน ทั้งหมดก็เพื่อที่จะยืนยันให้แน่ชัดไปเลยว่าตัวเขาไม่ได้ถูกมังกรปีศาจ Xanidarth หลอกมา
เมื่อทุกอย่างถูกกำหนดและตั้งเป้าเอาไว้ชัดเจน ผู้ควบคุมธาตุหนุ่มก็กลับเข้าเกมอีกครั้ง พร้อมกับภาพในหัวที่เขาได้จดจำแผนที่ภายในปราสาทแห่งนี้เอาไว้ทั้งหมด ก่อนจะก้าวเดินขึ้นไปยังตัวปราสาทด้วยความมั่นคง
ซึ่งการเจสเปอร์ล่วงรู้ทุกซอกทุกมุมของปราสาทแห่งนี้เกือบทั้งหมด ย่อมทำให้เขาประหยัดเวลาไปได้มากกว่าครึ่ง เจสเปอร์หลบหลีกมอนสเตอร์ที่ไม่จำเป็นต่อการเพิ่มระดับของเขาไปหลายจุดหรือต่อสู้บ้างประปรายหากเลี่ยงไม่ได้จริงๆและไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ในที่สุดตัวเขาก็ได้มายืนอยู่บนชั้น 5 ของปราสาทดำได้เป็นที่เรียบร้อย
ชั้น 5 ของปราสาทดำแห่งนี้ถือเป็นชั้นระหว่างกลางที่เชื่อมโยงกับหน้าผาธรรมชาติ ที่เจสเปอร์คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นที่คุมขังศิษย์เอกซีริคหรือศิษย์พี่ของเขานั่นเองหากนับตามหลักศิษย์สำนักของปรมาจารย์เมนอส
‘ซู่ๆ’
บรรยากาศในปราสาทชั้นที่ 5 แห่งนี้ ผิดกับชั้นอื่นๆที่เขาขึ้นมาไปโดยสิ้นเชิงเพราะทันทีที่เขาได้ก้าวขาขึ้นมาเหยียบธรณีชั้นดังกล่าว ลมพายุหิมะก็ต้องปะทะเข้ากับร่างของเขาในทันที ขนาดเจสเปอร์ที่สวมเสื้อเกราะอ่อนและมีบัพพิเศษจากเอ็นหัวใจที่ยังเต้นของหมีภูเขาที่ช่วยเสริมการต้านทานธาตุน้ำขึ้น 5% ก็ยังไม่อาจที่จะสู้กับอุณหภูมิที่ติดลบนี้ลงได้
ทว่า...!! หากว่าเจสเปอร์ที่มีเครื่องนุ่งห่มจนเต็มร่างกายและยังบ่นว่ายังหนาวขนาดนี้แล้วศิษย์เอกซีริคที่ถูกจับตัวอยู่บนขือปลายสุดขอบหน้าผา ที่ถูกจับเปลือยกายล่อนจ้อนนั่นล่ะจะเป็นเช่นไร? (ล่อนจ้อนในที่นี้ยังมีผ้าเตี่ยวปกปิดของสงวนเอาไว้อยู่)
‘ภาพนิมิตนั้นเป็นความจริง...ศิษย์เอกซีริคถูกจับมาอยู่ที่นี้??!!’
เจสเปอร์มองดู NPC ในตำนานอีกหนึ่งคนถูกจับเปลือยกายด้วยความเวทนา สภาพของเขาไม่ต่างอะไรกับชายที่ผอมแห้งไร้เรี่ยวแรง เรือนผมสีแดงที่เคยสะท้อนสว่างไสวยามต้องกับพระอาทิตย์ บัดนี้กลับกลายเป็นสีขาวอมเทาดั่งชายชรา หมดสิ้นเค้าโครงของตำนานที่เคยเป็นที่โจษจันกันไปทั่วอาณาจักรว่าเป็นชายรูปงามที่สุด
“มองไปทางไหนกันพ่อหนุ่มน้อย...เจ้าคิดเหรอว่าจะช่วยตาแก่นั้นได้?”
เป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่ปรากฏขึ้นและพูดกับเจสเปอร์ ซึ่งพอได้ฟังก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าหญิงปริศนาคนนี้ค่อนข้างมีความโรคจิตอ่อนๆผสมอยู่ในนั่น
‘กริ้งงง!!’
เธอหมุนโซ่ที่คล่องอยู่บนคอที่เธอใช้เป็นเครื่องประดับชนิดหนึ่ง ให้กระทบกันไปมาจนเกิดเสียงที่น่ารำคาน หวังจะล่อลวงให้เจสเปอร์หันมาสนใจในเรือนร่างที่สวยงามของเธอ...!! ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ชายหนุ่มได้หันกลับไปตามเสียงที่ว่านี้จริงๆ...แต่ไม่ใช่เพื่อมองเรืองราง
‘Infernal Impact!!’ หากแต่เพื่อฆ่า เรือนรองอันสวยงาม? น่าขัน...เขาไม่ใช่พวก ‘ซาดิสม์ มาโซคิสม์’ เสียหน่อย...ที่ชอบเห็นเรือนรางของผู้หญิงที่มีบาดแผลเต็มตัวแล้วเกิดความพิศวาส
[Succubus: เลเวล 58 (Mini Boss)]
[พลังชีวิต : 205,180]
[ธาตุ : ไร้ธาตุ เผ่าพันธ์ปีศาจ]
[รายละเอียด : นางปีศาจที่เกิดขึ้นจากพลังด้านมืดของจิตใจมนุษย์เพศหญิง ที่ถูกกดขี่ข่มเหงจากบุรุษเพศที่เข็มแข็ง นางปีศาจตนนี้มีปีกค้างคาวขนาดใหญ่ดูดดื่มพลังจากมนุษย์เพศชายทุกผู้เป็นอาหาร]
ซึ่งแท้ที่จริงแล้วหญิงสาวปริศนาตนนี้ก็คือ Succubus มอนสเตอร์ประเภทปีศาจ ที่มีแรงขับทางเพศค่อนข้างสูง มันตัวนี้จะดูดพลังงานจากเหยื่อผ่านทางจักระทางเพศและแปลงมาเป็นพลังของตัวเอง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เธอจะต้านรับสกิล ฟาดฟัน Infernal Impact ของเจสเปอร์ได้อย่างง่ายดาย ราวกับเป็นสกิลปาหี่ของเด็กน้อยที่ยังไม่โต
แน่นอนมันเป็นอย่างที่ทุกคนกำลังเข้าใจ ปีศาจสาว Succubusตนนี้เป็นผู้คุมของ ศิษย์เอกซีริค ที่ถูกจับขึงตรึงอยู่บนขือในสภาพล่อนจ้อนนั่นเองและเธอยังได้ดูดกลืนพลังต่างๆจากศิษย์เอกผู้นี้มาเป็นของตัวเธอเองอีกด้วย ในสงครามการจับกุมตัวประกันหรืออะไรก็ตามทุกอย่างไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่หลายๆคนทราบหรือเห็นในตามภาพยนต์ เกม The Era Online ก็เช่นเดียวกัน
การขับกุมตัวประกัน การขโมยพลังอะไรเกิดจากความทรมานแทบทั้งสิ้น ถึงแม้จะไม่แสดงให้เห็นต่อหน้าต่อตาตามกฏหมายที่ครอบคลุมการประกอบการของสื่อ แต่ก็ไม่อาจมองข้ามไปได้ว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆในหน้าประวัติศาสตร์
ถูกท่วงท่าและสกิลที่เจสเปอร์มีถูกเธอปัดป้องและไปได้ทั้งหมด แถมยังตอบโต้กลับมาด้วยความการโจมตีที่หนักกว่าหลายเท่าเสมอๆ หากสกิล Sweep Slash ของเจสเปอร์ที่ซัดออกไปเต็มขั้นที่เลเวล 10 ผลที่เขาจะได้รับกลับมาจากปีศาวสาวตนนี้ก็คงเป็น Sweep Slashเลเวล 20 อย่างไรอย่างนั้น!!
“ช่วยทำให้ฉันสนุกหน่อยสิพ่อหนุ่มน้อย...บอกตามตรงหลายเดือนมานี้ ข้าช่างเหงาและเปล่าเปลี่ยวเหลือเกิน ช่วยมาเป็นของเล่นให้ข้าที!!” ดวงตาของนาง Succubus ถลึงตาเข้าใส่เจสเปอร์ราวกับปีศาจร้ายที่จ้องจะจับเหยื่อ ก่อนจะสยายปีกที่อยู่บนหลังของเธอพุ่งเข้าหาเจสเปอร์ด้วยสกิลที่ชายหนุ่มคุ้นเคยดีของผู้ควบคุมธาตุอย่างสกิล
‘Infernal Impact’
‘วูมมม!! คิดง่ายไปหน่อยมั้ง? ที่จะจัดการฉันด้วยสกิลที่คุ้นเคยแบบนี้ หึหึ!!’
ถึงแม้ว่านางปีศาจตัวนี้จะมีท่วงท่าและสกิลของศิษย์เอกซีริคที่มากกว่าเจสเปอร์หลายเท่า แต่เขากลับเลือกที่จะต้านรับการโจมตีที่พุ่งเข้ามานี้ด้วยความเต็มใจ พลางแสยะยิ้มถึงความเจ้าเล่ห์ที่อีกฝ่ายเดินเข้ามาตกหลุมพราง...ตามเกมของเขา บิงโก!!
เจสเปอร์ที่สังเกตยางปีศาจมาตลอดนับตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาและมันเริ่มปะทะกัน มันมีอยู่สิ่งหนึ่งที่นางปีศาจ Succubus ที่ดูดกลืนพลังของศิษย์เอกซีริคลอกเลียนมาเป็นของตนไม่ได้เลยนั่นก็คือลูกบอลพลังธาตุ ความสามารถที่มีเฉพาะผู้ควบคุมธาตุเท่านั้นที่จะดึงพลังจากเอกธาตุเหล่านี้ขึ้นมาใช้งานได้
แย่เสียหน่อยที่เธอเลือกดึงพลังจากผู้ควบคุมธาตุแล้วนำมันมาใช้งาน...เพราะมันจะไร้ประโยชน์ในทันทีเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ควบคุมธาตุด้วยกันเอง ‘พรึ่บ!...Wall of Protection’
เจสเปอร์ตัดสินใจกางกำแพงป้องกันขึ้นมารับการฟาดฟันจากนางปีศาจที่ถาโถมเข้ามาในทันที จากนั้นก็สวนกลับด้วยสกิลใหม่ที่เข้าได้รับมาอย่าง ‘Liquid Fire’ ชโลมร่างของนางปีศาจที่ไม่ระวังเข้าเต็มๆ ‘ช่าหหห์ ผิวหนังและปีกของเธอถูกความร้อนจากไฟและกรดกัดกินร่าง จนดิ้นทุรนทุรายไปมาอยู่กลางอากาศ!!’ ก่อนจะตกลงมาพร้อมๆกับปีกแห่งความภาคภูมิใจที่ขาดวิ่น
“มนุษย์ที่น่ารังเกียจ!!”
Succubus กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีการลอกเลียนอะไรอีกแล้ว คราวนี้นางปีศาจรู้แล้วว่าเหยื่อตรงหน้าของมันไม่ได้อ่อนแออย่างที่ตัวมันคาดไว้ มันต้องกำจัดชายผู้นี้ให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นแล้ว คงเป็นตัวมันที่ต้องกลับลงสู่นรกภูมิที่มืดมิดเป็นแน่
เจสเปอร์มองดูผลลัพธ์ที่ทำเอาไว้ด้วยความพอใจ ถึงแม้เขาจะลดพลังชีวิตมันลงได้ไม่มากอย่างที่คาดหวังในตอนแรกก็ตาม ด้วยความที่เลเวลของสกิล Liquid Fire ยังต่ำเกินไป ความรุนแรงที่มันทำได้จึงน้อยนิดเมื่อเทียบกับเซอร์เบอรัสหมา 3 หัว
ทั้งสองยังคงเข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่อง นางปีศาจ Succubusเองก็ยังถือครองความได้เปรียบจากการที่มันเป็นถึงมอนสเตอร์ระดับมินิบอสและมีเลเวลมากกว่าเจสเปอร์อยู่เล็กน้อย...แต่ความได้เปรียบนั้นก็ไม่ได้มากหรือห่างกันจนไม่อาจเทียบเคียง
ในตอนแรกนั้นการโจมตีของ นางปีศาจ Succubus ที่ใช้พลังของศิษย์เอกซีริค นั้นส่งผลให้เจสเปอร์ต้องแบกรับความเสียหายมหาศาลอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ที่นางปีศาจเปลี่ยนมาใช้พลังของตัวมันเอง เจสเปอร์ก็ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายเหมือนอย่างเดิมอีก
แสดงให้เห็นว่าพลังที่แท้จริงของนางปีศาจตัวนี้จริงๆแล้วไม่มีอะไรน่ากลัวเลย...ทั้งหมดเป็นสิ่งจอมปลอมที่มันดูดกลืนมาจากผู้อื่น!!
‘อย่าได้...ประมาทนางปีศาจตนนี้...เธอยังมีอีกร่าง!!’ เสียงการต่อสู้ที่ดังขึ้นช่วยปลุกเลือดนักสู้ในกายของศิษย์เอกซีริคให้ตื่นขึ้นอย่างช้าๆ แต่ร่างกายของ NPC ระดับตำนานในตอนนี้อ่อนแอเกินไป เพราะเพียงแค่เขาพยายามส่งข้อความทางกระแสจิตให้กับผู้กล้าตรงหน้าก็แทบจะทำให้เขาหมดสติไปอีกรอบ
NPC ซีริคพยายามฝืนร่างของเขาให้ยืนขึ้นอีกครั้ง โซ่เหล็กที่มัดตึงร่างที่นิ่งสนิทไร้การเคลื่อนไหวมานานหลายสัปดาห์เริ่มขยับส่งเสียงกรุ้งกริ้งที่ละน้อย ก่อนที่หัวใจนักสู้จะพลันเต้นแรงอีกครั้งเมื่อดวงตาที่พร่ามัวได้มองเห็นดาบเล่มหนึ่งที่อยู่ในมือของผู้กล้าแปลกหน้าที่กำลังมาช่วยตนเอง
ชายผู้นี้เป็นใครกัน? กลิ่นอายและความสามารถของคนผู้นี้ต้องเป็นผู้ควบคุมธาตุอย่างแน่นอน...แล้วเหตุใดดาบที่ชายผู้นั่นถือมันช่างละม้ายคล้ายคลึงกับดาบอีเทอนัลวอร์เบลดของท่านอาจารย์เมนอสมากขนาดนั้น?
ถึงในตอนนี้เขาจะอ่อนแอ ไร้พลัง แต่ NPC ผู้นี้ไม่มีทางลืมดาบของท่านอาจารย์ที่เคยสั่งสอนตนแม้แต้เสี้ยววินาทีเดียว!!
ทันทีที่เจสเปอร์ได้รับคำเตือนจากเสียงกระซิบให้ตัวเขาระวังตัวจากนางปีศาจเอาไว้ เจสเปอร์ก็ไม่คิดต่อต้าน ท้าทายหรือคิดลองดีแต่อย่างใด
การต่อสู้ของเขาเปลี่ยนเป็นการตั้งรับแบบเต็มตัว ก่อนที่ชั่วขณะนั้นเองร่างของนางปีศาจ Succubus ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น
‘ไม่ๆท่านพี่...ข้ายังไหว ข้าสามารถจัดการเหยื่อคนนี้ได้...ได้โปรด อย่ายืดร่างข้าไปอีกเลยยย!!’ ตั้งแต่ที่ต่อสู้กันมา เจสเปอร์ก็เพิ่งจะเคยเห็นท่าทางของนางปีศาจที่ตื่นกลัวขนาดนี้เป็นครั้งแรก
ขนาดที่ว่าเขาระเบิดระพลังธาตุหรือใส่หรือใช้สกิลไฟกรดและพิษ เข้าใส่ร่างเธอจนเสียโฉม นางปีศาจตนนี้ก็ยังไม่มีอาการตื่นกลัวมากถึงขนาดนี้...พร้อมกับเสียงกรีดร้องอันน่าสังเวช คลานเข้าหาเจสเปอร์สองมือจับขาเข้าไว้ พลางพ่นคำพูดพะงึมพะงำ ฟังไม่ได้ศัพท์‘ฆ่าฉันเดี๋ยวนี้ ฆ่าฉันนนนน...สายไปแล้วแกต้องตาย!!’
จากเสียงหญิงสาวโรคจิตอยู่ดีๆก็เปลี่ยนเป็นเสียงทุ่มต่ำของผู้ชาย พร้อมกับรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปทรวดทรงองเอวที่เคยปรากฏ ค่อยหายไปตามเสียงลั่นกระดูก ‘กรอบแกรบ!!’
‘มันกำลังกลายพันธ์??!!’
สายไปแล้วกว่าที่เจสเปอร์จะเข้าใจ ขั้นตอนการกลายพันธ์ที่ดำเนินในเสี้ยววิ ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว พร้อมกับส่งร่างนางปีศาจ Succubus ลงขุมนรก ก่อนจะให้กำเนิดร่างใหม่ในร่างของปีศาจเพศกึ่งหญิงกึ่งชาย ที่นางปีศาจร้องห้ามกำเนิดขึ้นมาแทนที่
‘Incubus!!
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy
