ตอนที่ 145-146
ตอนที่ 145 : ศึกครั้งใหญ่
ร่างของเซี่ยหยวนและร่างจำแลงต่างต้องเว้นระยะห่างถอยหนี
ตำแหน่งที่ยืนแต่เดิม ขณะนี้ได้กลายเป็นหลุมกว้างกว่าร้อยเมตรแล้ว!
ลาวาร้อนแรงพวยพุ่งออกทั่วสารทิศ ขณะนี้สถานการณ์กลายเป็นตึงเครียด
ตู้ม! ตู้ม!
และเสียงปะทุของภูเขาไฟยังคงดังต่อเนื่อง
ไม่ทราบว่าเมื่อใด คนทั้งสองได้ทะยานขึ้นสู่อากาศออกกระบวนท่านับสิบต่อกันแล้ว!
ภาพติดตาของร่างทั้งสองยังคงหลงเหลือไว้ทั่วทิศ!
ห้วงมิติสั่นไหว รอยแยกสีดำปรากฏ!
นี่มันเปรียบดังภาพฉากวันโลกาวินาศ!
เคร้ง!
เสียงของแข็งปะทะต่อกันคล้ายหักออก
เซี่ยหยวนขมวดคิ้ว ขณะนี้อาวุธในมือปรากฏรอยร้าว
หากปะทะอีกเพียงสักครั้งหนึ่งมันย่อมพัง!
ทางด้านร่างจำแลงเองก็เช่นเดียวกัน!
อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ ขณะนี้ไม่อาจทนทานรับพลังขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุดได้!
“งั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้!” ดาบถูกโยนทิ้ง ดวงตาเซี่ยหยวนเผยประกายรุนแรง “ข้ายอมรับว่าสร้างได้เหมือนจนจุดประกายเพลิงการต่อสู้ได้ดีนัก!”
เซี่ยหยวนเลียรอบริมฝีปาก ใบหน้าเผยซึ่งความกระหายต่อศึกสงคราม!
น่าเสียดายที่ร่างจำแลงนั้นไม่อาจพูดกล่าว
“ได้ อย่างนั้นมาสนุกกัน!”
เซี่ยหยวนหัวเราะคลุ้มคลั่งพร้อมทะยานเข้าหาร่างจำแลงพร้อมต่อยหมัด!
การศึกเริ่มขึ้นอีกยกหนึ่งแล้ว!
……
ด้วยเพราะรู้สึกเบื่อ ลั่วฉวนลืมตาตื่นรับชมลูกค้าที่อยู่ภายในร้าน
“ชายคนนั้นเหมือนกำลังสนุกอยู่งั้นสินะ”
รับชมลูกค้าใหม่เช่นเซี่ยหยวนที่ตื่นเต้นยินดี พบว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นโหมดอารีน่าอยู่
อย่างไรก็ดี สนุกกับสินค้าในร้านได้ถือเป็นเรื่องดีแล้ว
ส่วนลูกค้าที่เหลือ พวกเขาต่างจมดิ่งดื่มด่ำไปกับโลกเสมือนจริง
ขณะนี้เองที่หยิงอู๋จี้ถอดหมวกออก
“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” เหยาซือหยานเอ่ยถามด้วยความสงสัย
หยิงอู๋จี้ส่ายศีรษะ น้ำเสียงจริงจังกล่าวตอบ “ข้าไม่อาจละทิ้งความคิดได้ดื่มไวน์หยก”
การฟื้นคืนพลังชีวิต มันคือสิ่งที่หยิงอี้ปรารถนามาโดยตลอด
ขณะนี้มันอยู่เพียงแค่เอื้อม เป็นธรรมดาที่หยิงอู๋จี้จะไม่อาจสงบใจไว้ได้
“ดื่มในร้านนี้ก็ได้” ลั่วฉวนคิดไปครู่และจึงกล่าว
“ขอบคุณเถ้าแก่!” หยิงอู๋จี้เผยน้ำเสียงซาบซึ้ง
ถัดจากนั้นไวน์หยกจึงถูกนำออกมา
ด้วยลมหายใจสูดเข้าลึก ความยินดีฉายชัดในดวงตา ฝาขวดไวน์เปิดออกแล้ว
ทันใดนี้เองที่กลิ่นหอมของไวน์ลอยฟุ้งกระจายทั่วทั้งร้านต้นตำรับ
หยิงอู๋จี้สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะยกดื่ม “ไวน์ที่ดี!”
มีแต่เขาที่ทราบ ว่าไวน์หยกสมชื่อของมันแล้ว!
“กลิ่นนี้มันอะไรกัน?”
“หอมมากนัก...”
ผู้คนในร้านต่างได้กลิ่น ขณะนี้ต่างหันความสนใจมายังหยิงอู๋จี้
พวกเขาล้วนทราบว่าหยิงอู๋จี้เพิ่งซื้อไวน์หยกไป
“ไวน์หยกนั่นงั้นหรือ? แค่ได้กลิ่นก็คิดอยากลิ้มลองแม้สักหยดแล้ว!”
“สวรรค์โปรด! เมื่อใดจะมีผลึกวิญญาณมากมายเพียงนั้นกัน...”
“ไวน์หยกงั้นหรือ? ต้องเป็นไวน์เลิศล้ำในโลกหล้าเป็นแน่!”
เซี่ยหยวนถึงกับตื่นตะลึงยามได้กลิ่น ขณะนี้ละทิ้งความสนใจถอดหมวกหันมองทางหยิงอู๋จี้เช่นเดียวกัน
หากได้ดื่มไวน์ที่หอมหวานถึงเพียงนี้ ชั่วชีวิตคงไม่มีเรื่องอะไรให้น่าเสียดายแล้ว!
กระนั้นน่าเสียดาย หยิงอู๋จี้คงไม่มีทางแบ่งให้ใคร
หยิงอู๋จี้ไม่คิดลังเล ขณะนี้เริ่มดื่มไวน์ที่เหลือในขวดหยกเย็น
เพียงอึดใจ พลังแห่งชีวิตจึงแผ่พุ่งภายในร่าง!
ชีวิตที่เลือนหายได้รับการฟื้นคืนกลับมา พลังงานแห่งความตายที่เกาะกุมภายในร่างล้วนถูกชำระล้างหมดสิ้น!
อีกทั้งมันยังช่วยเสริมกำลังวังชา พลังขณะนี้พวยพุ่งสูงขึ้น!
ด้วยมีพลังชีวิตมากมายในครอบครอง ลำพังกำลังของหยิงอู๋จี้ย่อมต้องก้าวหน้าสู่ขอบเขตใหม่ได้!
ตอนที่ 146 : หยิงอู๋จี้เลื่อนระดับพลัง
หยิงอู๋จี้ได้ตระหนักตอนนี้ ว่าร่างกายกำลังเกิดความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงพุ่งตรงออกนอกร้าน
พลังวิญญาณไร้ขอบเขตกำลังทะลักล้นจากทั่วสารทิศ ขณะนี้มันกำลังไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของหยิงอู๋จี้
พายุวิญญาณกำลังก่อตัวขึ้น!
“รุนแรงอะไรขนาดนี้? มีคนคิดเลื่อนระดับพลังงั้นหรือ?”
“นครจิ่วเหยามียอดฝีมือกี่คนกันแน่? ไฉนจึงเกิดเรื่องบ่อยนัก?”
“กลิ่นไวน์ที่คุ้นเคย! นี่มันเป็นผู้ใดกันถึงกับกล้าดื่มไวน์เลิศล้ำไม่แบ่งปันแก่ผู้อื่น!”
ยอดฝีมือทั้งหลายภายในเมืองต่างสัมผัสได้ถึงความแปรเปลี่ยนทางพลังวิญญาณภายในเมือง ขณะนี้ในใจพวกเขาต่างคิดเห็นไปต่าง ๆ นา ๆ
ขณะที่พายุพลังวิญญาณก่อตัว ฉับพลันมันกลับเลือนหายไปในไม่กี่ชั่วลมหายใจ
เรื่องนี้เป็นผลให้เหล่าผู้ฝึกตนในนครจิ่วเหยาต่างต้องละทิ้งความคิดค้นหาต้นตอ
ด้วยความแปรเปลี่ยนทางพลังวิญญาณภายในร่าง รอยยิ้มจึงปรากฏที่มุมปากของหยิงอู๋จี้
ตัวเขาเดินกลับเข้าร้านต้นตำรับ
“นี่เจ้าเลื่อนระดับพลังงั้นหรือ?” เซี่ยหยวนหันมากล่าวอย่างไม่คิดเชื่อ
หยิงอู๋จี้และตัวเขาต่างก็เป็นขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุด ขณะนี้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมไปได้ บอกกล่าวตามตรง ในใจเซี่ยหยวนรู้สึกว่าเรื่องนี้ยากยอมรับ
เซี่ยหยวนตระหนักได้ดี ถึงความร้ายกาจของวิชาที่หยิงอู๋จี้ฝึกฝน
ทันทีที่อีกฝ่ายได้รับพลังชีวิตฟื้นกลับคืน กำลังย่อมเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงเป็นผลให้เซี่ยหยวนไม่พอใจ
ไฉนชายคนนี้จึงโชคดีได้เพียงนี้กัน?
หยิงอู๋จี้ส่ายศีรษะ “เลื่อนระดับง่ายดายเช่นนั้นได้ที่ใด? ข้าเพียงสัมผัสได้ถึงขอบเขตใหม่”
“นั่นก็ไม่เลวแล้ว” เซี่ยหยวนเผยความริษยา
ขอบเขตราชัน กล่าวได้ว่าเป็นภูเขาอันสูงใหญ่ที่เหล่าผู้ฝึกตนทั้งหลายต้องเผชิญ
ก้าวหน้ารวดเร็วก็ใช่ ทว่าผู้ฝึกตนทั้งหลายต่างต้องคิดค้างอยู่ที่ตรงนี้
หยิงอู๋จี้สัมผัสได้ถึงเส้นแบ่งขอบเขตราชัน แม้กล่าวเช่นนั้นเหมือนไม่มีอะไร ทว่าสำเร็จขอบเขตราชันในภายหน้าอย่างไรก็ต้องสำเร็จผลได้!
ในระยะยาวมันจะส่งผลอย่างมหาศาล
กู่หยุนซีและเหล่าศิษย์ต่างกล่าวแสดงความยินดีต่อหยิงอู๋จี้
หยิงอู๋จี้เพียงพยักหน้ารับ
นิสัยของเขาก็เป็นเช่นนี้ สำหรับเหล่าศิษย์แล้วถือว่าการตอบรับมากเกินพอ
หลังพิจารณาให้ดี หยิงอู๋จี้จึงเดินไปทางลั่วฉวนพร้อมกล่าวคำจริงจัง “ขอบคุณเถ้าแก่!”
ลั่วฉวนจึงลืมตารับชมที่หยิงอู๋จี้
ก็เพียงความก้าวหน้าเล็กน้อย ทำได้ก็ดีแล้ว!
เมื่อโบกมือตอบ สีหน้าลั่วฉวนเผยความเฉยชา “เป็นโชคของเจ้าเองที่ได้รับ หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับข้า”
หยิงอู๋จี้สะท้าน ไม่ทราบว่าควรตอบคำเช่นไร
ลั่วฉวนกล่าวคำต่อ “ด้วยเพราะกำลังเจ้าเพิ่มพูน เช่นนั้นเข้าหอคอยแห่งการทดสอบลองเล่นดู ระบบท้าทายกระจกก็น่าจะช่วยให้เจ้าเข้าใจตนเองได้ดีขึ้น”
เมื่อครู่ครั้งเซี่ยหยวนบังเอิญเริ่มใช้งานระบบท้าทายกระจก ลั่วฉวนที่เป็นเถ้าแก่ร้านจึงได้ทราบข้อมูลใหม่
ขณะนั้นมันทำเขาประหลาดใจไม่น้อย เขาหาได้คิดไม่ว่าโหมดอารีน่าจะมีอะไรเช่นนี้ซุกซ่อนไว้
มันราวกับทุกสิ่งภายในร้านต่างพัฒนาขึ้นได้ไม่หมดสิ้น
ระบบท้าทายกระจก? มันคืออะไร?
“เถ้าแก่ ระบบท้าทายกระจกคือโหมดใหม่หรือ?” หยิงอู๋จี้เอ่ยถาม
ผู้คนที่เหลือต่างให้ความสนใจ
มีของใหม่ในร้านอีกแล้ว?
ลั่วฉวนจึงอธิบาย “ก็ไม่ใช่ใหม่”
ผู้คนต่างผิดหวัง
ลั่วฉวนกล่าวคำต่อ “ระบบท้าทายกระจกเป็นส่วนหนึ่งของโหมดอารีน่า สามารถสร้างตัวตนจำแลงเสมือนตัวพวกเจ้าขึ้นมาได้”
ทุกคนต่างพยักหน้ารับ พวกเขาทราบความหมายคำของลั่วฉวนดี