ตอนที่ 141-142
ตอนที่ 141 : เซี่ยหยวนตื่นตะลึง
“รอคอยถึงสี่วัน! ในที่สุดก็ได้มาครอง!” น้ำเสียงของหยิงอู๋จี้เปี่ยมด้วยความตื่นเต้นยินดี
“ไวน์นั่นใช้ทำอะไรได้กัน?” เซี่ยหยวนยังคงสงสัย
เซี่ยหยวนประหลาดใจอย่างแท้จริง ที่หยิงอู๋จี้ถึงกับเผยปฏิกิริยาเช่นนี้ออกมาให้เห็น
เซี่ยหยวนรู้จักหยิงอู๋จี้ดีไม่น้อย อีกฝ่ายเป็นคนเฉยชาอย่างถึงที่สุด คำพูดกล่าวแทบไม่เคยมี กระทั่งใบหน้ายังเรียบเฉยโดยตลอด!
“สรรพคุณของไวน์หยกเขียนไว้ตรงนั้น” ความยินดีของหยิงอู๋จี้เลือนหาย เขากลับสู่ความเรียบเฉย ขณะนี้ชี้ไปยังป้ายที่เขียนบนชั้นพร้อมกล่าวออก “รับชมด้วยตนเอง ข้าไปจ่ายเงินกับเถ้าแก่ก่อน”
ถัดจากนั้นหยิงอู๋จี้จึงเดินไปทางลั่วฉวน
“สรรพคุณ?”
เซี่ยหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมพิจารณาอ่าน
“ไวน์หยก บ่มด้วยน้ำพุแห่งชีวิต...”
“ว่าอะไร? น้ำพุแห่งชีวิต? ไม่เคยได้ยินเรื่องราวเช่นนี้ในทวีปเทียนหลันมาก่อน!”
ด้วยสะกดความสงสัยไว้ในใจ เซี่ยหยวนเริ่มอ่านต่อ
“สรรพคุณ : ฟื้นคืนพลังชีวิต ไม่แก่และไม่ตาย!”
เซี่ยหยวนถึงกับเผยสีหน้างงงัน
สรรพคุณนี้ไม่เกินเลยไปหรือ?”
รอประเดี๋ยว เจ้าสิ่งนี้กล่าวว่าฟื้นคืนพลังชีวิตได้อย่างนั้นหรือ?!
เซี่ยหยวนต้องหันควับรับชมอีกครั้ง
ครั้งนี้ความสงบใจที่มีแต่เดิมไม่อาจมีได้ มันกลายเป็นความตื่นตะลึง
“ล้อกันเล่นหรือ? เติมพลังชีวิตเนี่ยนะ?!”
ขณะนี้สายตาหันมองราคาทางด้านล่าง
“หนึ่ง... หนึ่งแสนผลึกวิญญาณ?!”
ดวงตาเซี่ยหยวนแทบถลนออกจากเบ้า!
วัตถุเทพประทานที่ฟื้นคืนพลังชีวิต ถึงกับนำมาขายได้ราคาขวดละหนึ่งแสนผลึกวิญญาณ?!
นี่มันต่างอะไรกับวางไว้ข้างทางพร้อมให้หยิบไปได้?!
บอกกล่าวตามตรง เซี่ยหยวนพบเห็นครั้งแรกยังไม่คิดเชื่อ
กระนั้นจากท่าทียินดีของหยิงอู๋จี้เมื่อครู่ มันทำให้เซี่ยหยวนได้คิดว่าสรรพคุณนี้สมควรเป็นจริงแล้ว!
อีกทางหนึ่ง หยิงอู๋จี้นำไวน์หยกไปยังโต๊ะชำระเงินพร้อมส่งแหวนมิติ
“แม่นางเหยา หนึ่งแสนผลึกวิญญาณอยู่ภายในนี้”
เหยาซือหยานรับแหวนมิติไว้ นำผลึกวิญญาณออก จากนั้นจึงส่งแหวนกลับคืนให้หยิงอู๋จี้
หยิงอู๋จี้ขณะนี้เผยสีหน้ายินดีอย่างไม่อาจปิดไว้ได้มิด
ในที่สุดก็ได้รับไวน์หยก พลังชีวิตของเขากำลังจะฟื้นกลับคืน!
เซี่ยหยวนที่ตื่นตะลึง ขณะนี้เร่งรีบเดินไปรับชมสรรพคุณสินค้าอื่นในร้าน
ในเมื่อมีของเช่นไวน์หยกขาย อย่างนั้นสินค้าอื่นย่อมต้องไม่ใช่ของธรรมดา!
“ไหนไหน โคล่าช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บในทันที แท่งเครื่องเทศช่วยเพิ่มกำลังชั่วครู่โดยไร้ผลข้างเคียง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปช่วยเพิ่มความเร็วฝึกฝนสิบเท่า...”
“นี่มันร้านอะไรกันนี่...”
เซี่ยหยวนก้าวเดินไปทางหยิงอู๋จี้ราวคนไร้สติ ขณะนี้กล่าวถามด้วยเสียงอันเบา “พี่อู๋จี้ เถ้าแก่ร้านนี้เป็นใครกัน?”
ตามที่เซี่ยหยวนคาดเดา ต่อให้เป็นสัตว์อสูรราชวงศ์ก็ไม่มีทางทำเช่นนี้ได้!
“ไม่เห็นงั้นหรือ?”
หยิงอู๋จี้พบว่าคำถามนี้โง่เง่า จากนั้นจึงชี้นิ้วไปทางลั่วฉวนที่นอนอาบแดดอยู่ทางหน้าร้าน
สีหน้าของเซี่ยหยวนต้องแปรเปลี่ยนอีกครั้งหนึ่ง
เดิมเขาคิดว่าลั่วฉวนสมควรเป็นหุ่นเชิดหน้าฉากของร้าน
แต่ขณะนี้ ลั่วฉวนที่ดูปกติธรรมดากลับไม่ปกติธรรมดาเสียแล้ว!
“น้ำร้อนด้านหน้ายังไม่เสร็จหรือ รีบหน่อย...”
ขณะนี้เองที่เสียงไม่พอใจดังจากกลุ่มศิษย์อีกด้านหนึ่ง
เซี่ยหยวนหันมองไปอย่างไม่ทันรู้ตัว สีหน้าตื่นตะลึงปรากฏที่ใบหน้าอีกครั้งหนึ่ง
“น้ำพุแห่งชีวิต?!”
เซี่ยหยวนอดไม่ได้จนร้องอุทานออก
เขาทราบถึงความสำคัญของน้ำพุแห่งชีวิต และหาได้คาดคิดไม่ ว่าน้ำร้อนที่ศิษย์เหล่านี้กำลังเทกันอยู่ แท้จริงมันคือน้ำพุแห่งชีวิต
ทันใดนี้เซี่ยหยวนรู้สึกราวกับตนหลุดเข้ามาอยู่ต่างโลก
เรื่องราวเหล่านี้กระทบกระเทือนจิตใจเกินไป!
พลังงานอันบริสุทธิ์ซึ่งอัดแน่นภายในน้ำพุแห่งชีวิต มันเป็นตัวช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าทางการฝึกฝนอย่างมหาศาล
ทว่าไม่เคยมีผู้ฝึกตนใดนำน้ำพุแห่งชีวิตมาวางขายเช่นนี้เพียงเพื่อเงินเล็กน้อย!
ตอนที่ 142 : พูดถึงอะไรกัน
“ไปทดลองดูเอาเอง” หยิงอู๋จี้เผยสายตาว่างเปล่ามองมา “ราคาเพียงแค่หนึ่งร้อยผลึกวิญญาณต่อครั้ง”
“ว่าอะไร?! เมื่อครู่เจ้ากล่าวว่าอะไรนะ?” ดวงตาเซี่ยหยวนเบิกกว้างแทบถลนออกจากเบ้า
“หนึ่งร้อยผลึกวิญญาณ” หยิงอู๋จี้ทวนคำตอบ
เซี่ยหยวนไม่ทราบควรตอบอะไรดีแล้ว
ตัวเขารู้สึกตื่นตะลึงหลายครั้งจนเกินไป เพียงวันนี้มันมากกว่าทั้งชีวิตรวมกันเสียอีก!
หลังเรียบเรียงความคิดได้ เซี่ยหยวนจึงเดินไปยังชั้นวางบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จากนั้นจึงคว้ามาหลายถ้วย
ทว่าขณะคิดคว้าถ้วยที่สอง เสียงหนึ่งพลันดังขัดการกระทำ
เหยาซือหยานชี้ไปทางกระดานสีขาวบนผนังพร้อมกล่าวบอก “ต้องขออภัย กฎของร้านคือแต่ละคนซื้อหาสินค้าได้อย่างละหนึ่งชิ้นต่อวันเท่านั้น”
เซี่ยหยวนจึงหันมองทางที่เหยาซือหยานชี้ ที่พบเห็นคือกระดานสีขาวที่มีอักษรเขียนเต็มไปหมด
เซี่ยหยวนนิ่งค้าง
กระนั้นก็พอทราบเรื่องราวได้
ร้านอันชวนสะพรึงลึกลับเช่นนี้ ย่อมต้องมีกฎเกณฑ์ของทางร้าน หากไม่มี เช่นนั้นก็แปลกเกินไปแล้ว!
ถัดจากนั้นเซี่ยหยวนจึงเดินไปต่อแถวเหล่าศิษย์เพื่อรอน้ำร้อน
หากเป็นสถานการณ์ตามปกติ เซี่ยหยวนที่เป็นถึงขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุดคงไม่มาต่อแถวเช่นนี้เป็นแน่
ขอบเขตทดสอบเต๋านั้นแข็งแกร่ง ทำเช่นนี้ไม่สมเกียรติ!
ทว่าที่นี่ เกียรติใดล้วนต้องทิ้งไว้ด้านนอกร้านแล้ว
ก่อนหน้านี้ถ้อยคำบนกระดานขาวเขียนอย่างชัดเจน ว่าหากสร้างปัญหาต้องแบกรับความเสี่ยงด้วยตนเอง
แม้เซี่ยหยวนมั่นใจในกำลังเป็นล้นพ้น กระนั้นก็ไม่ใช่กล้าท้าทายร้านเช่นนี้
นอกจากนี้ หยิงอู๋จี้ยังต่อแถวอยู่ทางด้านหลังของเขาอีกต่างหาก...
เมื่อถึงคราวเซี่ยหยวน เขาค่อยเปิดถ้วยพร้อมรินน้ำร้อนใส่จนเต็ม
ขณะเดียวกันก็ได้เวลาที่เหล่าศิษย์ซึ่งต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก่อนหน้านี้พร้อมรับประทานแล้ว
กลิ่นหอมประหลาดฟุ้งในอากาศ เซี่ยหยวนต้องกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว
“เดี๋ยว อย่าได้รีบ อย่าได้รีบ...”
เซี่ยหยวนพึมพำกับตนเองภายในใจ
เขาได้เห็นมาก่อนหน้า ว่าศิษย์เหล่านี้ต่างรอคอยเวลาชั่วครู่หนึ่งหลังรินน้ำร้อนใส่ในถ้วย
เวลาผ่านพ้นรวดเร็ว ทว่าเซี่ยหยวนรู้สึกว่าไม่กี่นาทีนั้นกลับนานมหาศาล
ท้ายที่สุดจึงได้ที่ ขณะนี้ฝาถ้วยเปิดออกทีละน้อย
และมันก็เป็นช่วงเวลาที่กลิ่นหอมฟุ้งจะเข้าปะทะโสดประสาทรับกลิ่น
ดวงตาเซี่ยหยวนเป็นประกาย เพียงกลิ่นนี้ก็พร้อมทำให้ผู้คนต้องหันตามอย่างน้ำลายสอแล้ว
เซี่ยหยวนไม่คิดลังเล ขณะนี้สวาปามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจนหมดถ้วย
ท่าทีของเซี่ยหยวน ผู้อื่นต่างไม่สนใจแต่อย่างใด
ครั้งมาเยือนร้านเป็นครั้งแรก พวกเขาก็ไม่ได้ต่างจากเซี่ยหยวนเท่าใดนัก
“หยุนซี วันนี้เล่นเหมือนเมื่อวานหรือ?” เจียงเหวิ่นฉางเผยยิ้มเอ่ยถาม
กู่หยุนซีพยักหน้ารับจริงจัง “ก่อนอื่นคือรับชมระบบฝึกสอนทำอาหาร จากนั้นค่อยเล่นในอารีน่าสักหลายรอบ สุดท้ายค่อยเป็นโหมดท้าทาย”
“ว่าไปแล้ว ตอนนี้ไปได้ถึงชั้นที่เท่าไหร่กัน?” เจียงเหวิ่นฉางเอ่ยถาม
กู่หยุนซีตอบคำกลับ “ชั้นที่สาม เจ้าเล่า?”
เจียงเหวิ่นฉางยักไหล่ “ชั้นที่สามเหมือนกัน โหมดท้าทายยิ่งมายิ่งยาก ติดอยู่ที่ชั้นนี้หลายวันไม่น้อยแล้ว”
“เหมือนกัน” กู่หยุนซีเผยใบหน้ากระหายในชัยชนะ “วันนี้ต้องผ่านชั้นสามให้ได้!”
“ไปกัน!”
ศิษย์ผู้อื่นกำลังพูดคุยถึงเรื่องราวที่คล้ายคลึงกันอยู่
แม้เซี่ยหยวนกำลังอิ่มเอมกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กระนั้นก็ไม่ลืมให้ความสนใจกับบทสนทนาของเหล่าศิษย์
รับฟังหัวข้อสนทนาเหล่านี้ เซี่ยหยวนจับต้นชนปลายไม่ถูก
ระบบสอนทำอาหาร?
อารีน่า?
โหมดท้าทาย?
นี่พูดกล่าวถึงอะไรกันอยู่?
ไฉนตนรับฟังแล้วไม่เข้าใจแม้แต่น้อย?
เดิมเซี่ยหยวนคิดอยากถามหยิงอู๋จี้ที่ข้างกาย กระนั้นพบเห็นสีหน้าอีกฝ่ายที่ตีตัวออกห่างจึงได้แต่ต้องชะงักปากเอาไว้