ตอนที่ 139-140
ตอนที่ 139 : คนรู้จักของหยิงอู๋จี้
จากมุมมองของชายลึกลับ หากกล้าตั้งชื่อนี้ อย่างนั้นเถ้าแก่ร้านย่อมเป็นยอดฝีมือซ่อนเร้น หรือไม่ก็เป็นผู้ที่ไม่ทราบว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเช่นไร
แน่นอนว่าด้วยร้านเปิดในตรอกไกลห่างเช่นนี้ ความเป็นไปได้คือกิจการอย่างไรก็ไม่ดีอย่างทราบแน่แก่ใจ
รอยยิ้มอ่อนจางปรากฏที่มุมปากชายหนุ่ม
ตัวเขามองว่าร้านต้นตำรับแห่งนี้อาจสมแก่นามแล้ว!
เมื่อก้าวเดินสู่ในร้าน ที่พบเห็นคือชั้นวางซึ่งทำจากเครื่องแก้วประดับตกแต่งประหนึ่งนวนิยาย
ลมหายใจนั้นอดไม่ได้จนต้องสูดเข้าลึก “โห! ร่ำรวยใช่เล่น!”
มูลค่าของเครื่องแก้วเหล่านี้เพียงลำพังราคาก็ชวนสะพรึงแล้ว
ไม่ทราบว่าสินค้าที่ขายในร้านนี้จะเป็นเช่นไรบ้าง
ดวงตาหันมองไปทางลั่วฉวนที่อยู่ภายในร้าน
“เถ้าแก่ร้านหรือ?” ชายลึกลับขมวดคิ้วกล่าวถาม
พบเห็นใบหน้าลั่วฉวน มันค่อนข้างผิดจากที่เขาคาดคิดเอาไว้
ตามที่คาดเดา เถ้าแก่ร้านสมควรเป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่านี้สิ!
กระนั้นชายหนุ่มตรงหน้าก็ให้ความรู้สึกเป็นเถ้าแก่ แม้ว่าจะทั้งอายุน้อยและไม่ทราบว่าแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม
“ถูกต้องแล้ว เถ้าแก่ร้านนี้เอง” ลั่วฉวนพยักหน้ารับพร้อมตอบเสียงราบเรียบ
ขณะชายลึกลับคิดเปิดปากกล่าวบางอย่างออกมา
เสียงประหลาดใจพลันดังจากประตูร้านกลายเป็นดึงความสนใจเขาไปทางด้านนั้น
“เซี่ยหยวน? ทำไมถึงมาร้านเถ้าแก่?”
หยิงอู๋จี้ประหลาดใจยามได้พบเห็นใบหน้าคนรู้จัก
ด้านหลังของหยิงอู๋จี้ คือศิษย์เจ็ดคนจากสถาบันวิญญาณเมฆา
ศิษย์เหล่านี้ต่างมองชายอีกฟากฝั่งด้วยสีหน้าสงสัย
คล้ายว่าอาจารย์หยิงจะรู้จักชายผู้นี้!
คณะศิษย์ของสถาบันวิญญาณเมฆาที่มาเยือนนครจิ่วเหยามีทั้งสิ้นสิบห้าคน
เพราะที่นั่งเล่นในร้านมีเพียงสิบ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการแย่งเครื่องเล่น มู่หรงไห่เถิงจึงแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่ม
กลุ่มแรกมาตอนเช้า และอีกกลุ่มช่วงบ่าย โดยแยกหน้าที่กันนำกลุ่มคนมา
หยิงอู๋จี้ประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าจะพบเซี่ยหยวนที่ร้านแห่งนี้
“ก็เพิ่งมาถึงนครจิ่วเหยานี่ เพียงเดินเล่นไปเรื่อยจึงพบเจอร้านนี้เข้า” เซี่ยหยวนกล่าวออกอย่างเรียบง่าย
“ทางเจ้านำสถาบันจันทราลึกล้ำมางั้นหรือ?” หยิงอู๋จี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย
สถาบันจันทราลึกล้ำ เป็นสถาบันที่ยืนอยู่ชั้นแนวหน้าของทวีปเทียนหลันอย่างไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสถาบันวิญญาณเมฆา
ตัวตนของชายนามเซี่ยหยวนย่อมกระจ่าง เป็นอาจารย์ของสถาบันจันทราลึกล้ำ!
เซี่ยหยวนพยักหน้ารับ
ศิษย์ของสถาบันทั้งสองมีเส้นทางที่แตกต่าง ทว่าขณะนี้มารวมตัวกันที่นครจิ่วเหยาแล้ว
และอีกฝ่ายก็เพิ่งมาถึงไม่นาน ราวสองถึงสามวันที่ผ่านมา
เซี่ยหยวนหันมองศิษย์ทั้งเจ็ดคนด้านหลังหยิงอู๋จี้ ขณะนี้เผยความสนใจ “หยิงอู๋จี้ ไฉนจึงนำศิษย์เจ้ามายังร้านแห่งนี้?”
ขณะนี้เซี่ยหยวนค่อยทราบ ว่าร้านต้นตำรับแห่งนี้ตัวเขาไม่อาจเก็บงำเป็นความลับส่วนตัวได้อีก
หยิงอู๋จี้ตอบกลับอย่างเฉยชา “พามาเล่นเกม”
ถัดจากนั้น เขาจึงผลักเซี่ยหยวนให้พ้นจากประตูร้านก่อนจะเดินนำศิษย์ทั้งเจ็ดเข้าสู่ภายในร้าน
กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางต่างก็อยู่ในกลุ่มเจ็ดคนนี้ด้วย
ไม่เพียงแต่คนทั้งสอง ทว่าอีกห้าคนที่เหลือต่างรับชมการกระทำของหยิงอู๋จี้ด้วยความนับถือ
สมแล้วที่เป็นอาจารย์หยิง!
เหนือล้ำ!
ขณะนี้เอง เซี่ยหยวนที่ถูกผลักพ้นจากทางนั้นยังไม่ตอบสนอง ทว่าคิ้วขมวดราวกับเมื่อครู่ได้ยินอันใดผิดไป
เมื่อครู่หยิงอู๋จี้พูดว่าอะไร?
นำคณะศิษย์มายังร้านไกลห่างเช่นนี้เพื่อเล่นเกม?
โกหกกันอย่างเห็นได้ชัด!
ผ่านไปครู่ เซี่ยหยวนค่อยรู้สึกโกรธรุนแรงที่โดนหยอกล้อใส่
กระนั้นอย่างไรก็เป็นคนรู้จักต่อกัน ดังนั้นเล่นด้วยสักครั้งหนึ่งก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี!
ตอนที่ 140 : ช่างน่าผิดหวัง!
หยิงอู๋จี้ทำเป็นเมินเฉยเซี่ยหยวน
เขาเลือกหันไปพูดคุยกับลั่วฉวนด้วยท่าทีร้อนใจ
“เถ้าแก่ วันนี้ไวน์หยกมีเข้ามาหรือยัง?” หยิงอู๋จี้เผยเสียงสั่นกล่าวถาม
ลั่วฉวนจึงพยักหน้ารับ “มีแล้ว สินค้าเพิ่งมาถึงวันนี้เอง”
หยิงอู๋จี้ผ่อนลมหายใจออกอย่างโล่งอก ความยินดีเผยออกทางสีหน้า
ด้วยไวน์หยกที่พร้อมขาย ตัวเขาเพียงซื้อด้วยผลึกวิญญาณก็จะได้พลังชีวิตฟื้นกลับคืนมา!
“ไวน์หยก มันคืออะไรกัน?”
ไม่ทราบว่าเมื่อใดที่เซี่ยหยวนพลันเอนกายเข้ามาถามไถ่ด้วยความใคร่รู้
มันทำให้เซี่ยหยวนได้ตระหนัก ว่าร้านนี้มีเรื่องชวนน่าสงสัยไม่ใช่น้อย
เถ้าแก่ร้านดูผิดปกติเกินไป เพราะหยิงอู๋จี้เผยท่าทีเคารพนอบน้อมให้!
เซี่ยหยวนรู้จักหยิงอู๋จี้ดี อีกฝ่ายเป็นคนเย็นชาและเย็นเยือกต่อผู้อื่นโดยเสมอ
และกับเหล่าศิษย์ เมื่อเข้าร้านแล้วขณะนี้เดินไปยังชั้นวางสินค้าหยิบถ้วยอะไรไม่รู้กันคนละถ้วย
ทั้งในมือยังมีของเหลวสีดำ รวมถึงห่ออะไรสักอย่าง
ของเหล่านี้ไม่เคยพบเห็น ร้านนี้แปลกเกินไปแล้ว!
“จะอยากรู้ไปทำอะไร?” หยิงอู๋จี้เกิดระแวงขึ้นมา
ขณะนี้ในใจเขา เซี่ยหยวนอาจเป็นคู่แข่งแย่งชิงไวน์หยก!
“ก็แค่ถาม ไม่ได้หรือ?” เซี่ยหยวนไม่ทราบว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ถามก็ไม่ได้งั้นหรือ?
ขณะนี้เองที่เหยาซือหยานเดินลงมาจากชั้นบน
พบเห็นเซี่ยหยวน นางจึงเผยยิ้มกล่าวออก “ลูกค้าใหม่งั้นหรือ?”
เซี่ยหยวนตื่นตะลึงยามพบเห็นเหยาซือหยาน เพียงครู่นั้นดวงตาเบิกกว้างด้วยความแตกตื่น
“สัตว์อสูรราชวงศ์!”
เซี่ยหยวนอุทานร้องออกมา
ผู้คนต่างหันมองสายตาทางเซี่ยหยวน
ขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุดโวยวายแหกปาก นี่ช่างไม่สมฐานะ
เซี่ยหยวนพลันรู้สึกอับอายขึ้นมา
ราวกับคนเหล่านี้ทราบดีอยู่แล้วว่านางคือสัตว์อสูรราชวงศ์ ดังนั้นแม้มีคนตะโกนออกก็หาได้ประหลาดใจใดไม่
“พี่ซือหยาน สวัสดียามบ่าย” กลุ่มศิษย์เข้าไปกล่าวทักทาย
เหยาซือหยานยิ้มรับ
เซี่ยหยวนยิ่งแตกตื่น
โดยไม่คาดคิด ร้านเล็กจ้อยในนครจิ่วเหยาแห่งนี้ถึงกับมีพยัคฆ์ซ่อนมังกรเร้นกาย!
เหล่านี้โดนโบราณสถานที่กำลังจะเปิดออกดึงดูดมาอย่างนั้นหรือ?
เหมือนว่าการเดินทางครั้งนี้จะไม่ราบลื่นเอาเสียแล้ว!
และเซี่ยหยวนยังคาดเดาภายในใจ บางทีสตรีตรงหน้าตนอาจเป็นผู้ควบคุมเบื้องหลังร้านแห่งนี้ตัวจริง
ชายหนุ่มที่เห็นอาจเป็นเพียงเถ้าแก่บังหน้า
“หยิงอู๋จี้ ร้านนี้มันอะไรกัน?” เซี่ยหยวนกล่าวถามเสียงเบา
“เป็นอะไรไป?” หยิงอู๋จี้เผยสีหน้าสับสน
เซี่ยหยวนถึงกับพูดกล่าวต่อไม่ถูก น้ำเสียงยิ่งเบาลง “สัตว์อสูรราชวงศ์เชียวนะ! ถึงกับอยู่ในร้านนี้! เจ้าดูคุ้นเคยกับร้านดี ดังนั้นอธิบายให้ข้าได้ทราบ!”
“โอ้” หยิงอู๋จี้ค่อยพยักหน้า “พูดกล่าวไว้ภายหลัง ข้าขอซื้อหาไวน์หยกก่อน”
เซี่ยหยวนถึงกับพูดกล่าวต่อไม่ถูก
ถัดจากนั้น หยิงอู๋จี้จึงเดินไปยังชั้นวาง
เซี่ยหยวนคิดไปครู่ก่อนจะเดินตามไปรับชม
เขาคิดอยากได้เห็น ว่าไวน์หยกมันเป็นอะไรถึงทำให้หยิงอู๋จี้ปรารถนาจะครอบครองเพียงนี้ได้!
ทั้งสองจึงมาถึงหน้าชั้นที่ไวน์หยกวางเอาไว้
ป้ายบอกสินค้าหมดถูกนำออก ขณะนี้ที่วางอยู่คือขวดหยกน้อย
หยิงอู๋จี้เผยความตื่นเต้นเด่นชัด มือยื่นไปสัมผัสขวดหยกเย็นด้วยความระแวดระวัง
“เจ้าสิ่งนี้หรือ?” เซี่ยหยวนรับชมด้วยความประหลาดใจ
ไวน์หยก นามสูงส่ง เขานึกว่าจะเป็นสมบัติอันล้ำค่ากว่านี้
แต่แล้วไม่คาดคิด ว่าจะเป็นเพียงขวดหยกเย็นธรรมดา
ช่างน่าผิดหวัง!