ตอนที่แล้วตอนที่ 188 นักหว่านล้อม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 190 2 เควสใหญ่ๆ

ตอนที่ 189 ลมหายใจเฮือกสุดท้าย Dying Toxic


ตอนที่ 189 ลมหายใจเฮือกสุดท้าย Dying Toxic

“งั้นก็ให้เหล่าจอมเวทย์สร้างม่านพลังช่วยป้องกันเอาไว้สิ มีทหารองค์รักษ์ผลัดเวรยามช่วยกันสอดส่อง ตรวจตราสักนิดก็แก้ปัญหาได้แล้วมิใช่เหรอ?” เพียงเจสเปอร์โพล่งประโยคนี้ออกไป ดยุกซิมป์สันก็เหมือนได้ปัดเป่าเมฆหมอกที่บดบังทัศคติในใจลงทันที

“ท่านผู้กล้ากล่าวได้อย่างถูกต้อง ประตูมิติจะช่วยให้พวกเราสามารถติดต่อกับเมืองที่อยู่ห่างไกลได้เสียที!!”

ดยุกอาเซนิคพยักหน้าเห็นด้วย พลางหันไปพูดคุยกับเหล่าขุนนางคนอื่นๆ เพื่อโน้มน้าวขอคะแนนเสียงเพิ่มเติมให้กับการสร้างประตูมิติ

ซึ่งแน่นอนว่าผลตอบรับเป็นไปตามที่เจสเปอร์ได้ตั้งใจไว้ กษัตริย์ Candor ทรงอนุญาตให้ ศจ.อลาสเตอร์และแม่มดขาว Elunirได้ก่อร่างสร้างประตูมิติขึ้นที่เมืองอีรูไดซ์ได้ เพียงแต่การประชุมที่ดูเหมือนว่าจะจบลงไปแล้ว กลับยังไม่จบลงแค่นั้น เมื่อจู่ๆดยุกซิมป์สันที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเดินเข้ามาทางกลุ่มคณะเดินทาง พร้อมกับเรียกเจสเปอร์ให้ตามเขาไปเพียงลำพัง

“เจ้าบารอน!!องค์กษัตริย์ มีรับสั่งให้ข้านำตัวเจ้า...เข้าพบเพียงลำพัง จงมากับข้าถ้าไม่อยากให้ใครได้รับอันตราย”

ดยุกซิมป์สันไม่ได้แค่ขู่เท่านั้น เพียงแต่เขายังได้ปลดปล่อยรังสีฆ่าฟันเพื่อกดข่มเจสเปอร์ให้ยอมทำตามอีกด้วย ซึ่งชายหนุ่มเมื่อโดนรังสีนี้เข้าไปก็แทบจะทรุดลงกับพื้นในทันที

‘ต่างชั้นมากเกินไป’

เจสเปอร์พยายามฝืนต้านความกดดันนี้อย่างสุดกำลังเพื่อให้ตนเองยังคงยืนอยู่กับที่ได้โดยไม่แสดงอาการใดๆให้ NPC ที่แสนหยาบคายนี้ได้เห็น

“ได้...ข้าจะตามท่านไป!!”

‘เฮือก!!’

คล่อยหลังดยุกซิมป์สันได้ไม่นาน ความกดดันที่เข้าปกคลุมก็ค่อยๆจางหายไป ศจ.อลาสเตอร์และแม่มดขาว Elunirดูจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรมากนัก แต่สำหรับหิมะน้อยมันคนละเรื่อง เธออาเจียนและมีอาการสั่นเทาราวกับถูกผีเข้า เหงื่อผุดขึ้นชะโลมร่างกายอันแสนบอบบางไปทั่วทั้งตัว ก่อนที่แม่มดขาว Elunir จะเข้ามากอดศิษย์ของเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

“ไอ้ลูกหมาซิมป์สัน มันกล้าดียังไงถึงทำกับศิษย์ของข้าขนาดนี้ อยากจะหาเรื่องก็มาลงที่ข้านี้ มาลงกับเด็กตัวเล็กๆทำไม??!!”

“ท่านอาจารย์ทั้งสองไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ดยุกซิมป์สันนี้ทำเกินไปจริงๆ ข้าต้องขออภัยแทนเขาด้วย หากยังไงขอเชิญพวกท่านมาดื่มน้ำชาที่ห้องทำงานข้าเสียก่อนจะดีหรือไม่”

ดยุกอาเซนิคที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรีบเข้ามาประคองร่างของหิมะน้อยให้ยื่นขึ้นด้วยความกระตือรือร้น พลางเอ่ยปากชวนให้เหล่าคณะเดินทางทั้งสามไปพัก ดื่มชาที่ห้องทำงานของตัวเอง แต่ถึงกระนั้นหิมะน้อยที่ลุกยืนขึ้นมา ก็ร้องปฏิเสธด้วยอาการที่ยังตื่นตระหนกตกใจ ซุกหน้าเข้าหาอ้อมอกของแม่มดขาว

“ขอบคุณในความหวังดีของท่านดยุก!แต่จอมเวทย์น้อย คงยังกลัวอยู่ยังไงให้ข้าและยัยเฒ่าพาเธอกลับไปดูอาการในที่บ้านพักของเราคงจะดีกว่า”

ศจ.อลาสเตอร์และแม่มดขาว Elunir รีบขอตัวลา พร้อมกับให้คลูเอลมาช่วยประคองร่างหิมะน้อยไปส่งยังที่พัก

ในขณะนั้นเองเจสเปอร์ที่เดินตามดยุกซิมป์สันตามคำสั่งเรียกของกษัตริย์ Candor ก็ถูกพามายังห้องๆหนึ่งที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน ไม่มีวี่แววของตัวองค์กษัตริย์อยู่ในห้องแต่อย่างใด ‘หรือนี้จะเป็นแผนลวง??!!’

แต่ก่อนที่เจสเปอร์จะกระทำการขัดขืนและตอบโต้ดยุกซิมป์สัน ตัวชายหนุ่มก็ได้ถูกผลักเข้าไปยังช่องลับที่ซ่อนอยู่ทางด้านหลังรูปภาพใหญ่ที่เป็นตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์กรีนเวต้า

“เงียบเสียงก่อนท่านผู้กล้า!!”

ดยุกซิมป์สันรีบยกมือขึ้นปิดปากเจสเปอร์ทันทีที่เข้ามาในห้อง โดยที่น้ำเสียงของเขาที่พูดออกมากลับกลายเป็นเสียงที่สุขุม นุ่มลึก แตกต่างจากก่อนหน้านี้ราวกับหน้ามือเป็นหลังมืออย่างไรอย่างนั้น

“เบามือของเจ้าลงหน่อยเถอะซิมป์สัน บารอนเจสเปอร์คงจะขาดใจตายเสียก่อนถ้าขืนเจ้ายังรัดเขาแน่นขนาดนี้ แค่กๆ!!” เจสเปอร์ค่อยๆปรับสภาพสายตาของเขาให้เข้ากับห้องที่เต็มไปด้วยมนต์อาคมแห่งการรักษา ซึ่งเป็นกษัตริย์ Candor เองที่ได้นั่งอยู่ข้างในวงเวทย์เหล่านั้น

“เป็นอย่างที่เจ้าสงสัยนั้นล่ะบารอนเจสเปอร์...ข้าไม่ได้ล้มป่วย!! แต่ข้านั้นได้ถูกคนร้ายลอบวางยาพิษ ยาพิษตัวนี้ไร้สีไร้กลิ่นกว่าที่ข้าจะทันรู้ตัว ร่างกายของข้านั้นก็ได้รับพิษมาเป็นจำนวนมากแล้ว แค่กกๆ”เมื่อจบประโยคกษัตริย์ Candor ก็ไอออกมาอย่างรุนแรง หยดเลือดที่สำรอกออกมาล้วนเป็นสีดำสนิท พร้อมๆกับที่ม่านพลังสีขาวนวล(อาคมของผู้รักษา)จะช่วยย่อยสลายสารพิษนั้นให้ระเหยหายไปทีละน้อย

เจสเปอร์ที่เห็นภาพดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามดยุกซิมป์สันที่คอยดูแลกษัตริย์อยู่ไม่ห่างก็ได้ร้องห้ามตัวเขาเอาไว้

“อันตราย!!ถึงม่านพลังอาคมรักษานี้จะช่วยย่อยสลายพิษในร่างองค์ของกษัตริย์ได้ก็จริง แต่มันก็ทำได้เพียงแค่บรรเทาอาการเท่านั้น หากท่านผู้กล้าเข้าไปยังด้านใน...เกรงว่าพิษอาจทำอันตรายต่อท่านได้!!”

“เชื่อคำของดยุกซิมป์สันเถิดมันเป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆ ข้ารู้อาการของตัวเองดี...ข้ายังไหว!!ส่วนที่ข้าเรียกเจ้ามาพบก็เพื่อที่จะขอให้เจ้าอย่าเพิ่งบอกเรื่องอาการป่วยของข้าให้กับองค์ชายและองค์หญิงทั้งสองได้รู้ ข้าไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วง”

กษัตริย์ Candorและดยุกซิมป์สันไม่ได้เรียกเจสเปอร์ให้มาพบเพียงแค่ให้ช่วยปิดบังเรื่องอาการป่วยเท่านั้น NPCทั้งสองยังได้บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับชายหนุ่มได้รับฟังอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการมีหนอนบ่อนไส้อยู่ในกองทัพหรือการที่ต้องแต่งตั้ง NPC ซิมป์สันให้เข้ารับตำแหน่งดยุกเพื่อออกว่าราชการแทนพระองค์และนั่นรวมถึงการต้องให้ดยุกซิมป์สันแสร้งแสดงละครเพื่อสวมบทผู้ร้ายอยู่ตลอดเวลาคอยขัดขวางการทำงานที่ไม่ชอบมาพากลของคนที่ตัวกษัตริย์ Candor สงสัยว่าจะเป็นกบฏลอบว่ายาพิษพระองค์อย่าง ‘ดยุกอาเซนิค!!’

‘เป็นมันนั่นเองที่ปล่อยรังสีฆ่าฟันเข้าใส่ข้า’

แท้ที่จริงแล้วคนที่ปล่อยจิตสังหารเข้ากดดันพวกเขาเมื่อครู่อาจไม่ใช่ดยุกซิมป์สันก็เป็นได้ เพราะยังมีดยุกอาเซนิคอีกหนึ่งคนที่อยู่แถวนั่นและจ้องมองมาทางพวกเขาด้วยเช่นกัน

ซึ่งในทันทีที่เจสเปอร์ได้ยินชื่อผู้ต้องสงสัยจากปากของกษัตริย์ Candor ตัวเขาก็ประติดประต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด ความจริงแล้วข้อมูลจากอดีตของเขาไม่ได้ผิดเพี้ยน มันอาจจะตกหล่นอะไรไปบ้างแล้วทำให้ตัวเขาไขว้เขวหลงทาง แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเส้นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจะเปลี่ยนแปลงไปเลย ผู้ร้ายยังคงเป็นคนเดิม!! ถ้าอย่างนั้นแล้วละก็แสดงว่าพิษที่อยู่ในร่างของกษัตริย์ Candor...แย่แล้ว!!

‘พิษลมหายใจเฮือกสุดท้าย Dying Toxic!!’

“พิษที่อยู่ในร่างของกษัตริย์คือพิษร้ายนามว่า Dying Toxic หรือพิษลมหายใจเฮือกสุดท้ายหากไม่รีบถอนพิษนี้ออกภายในเร็ววันตัวองค์กษัตริย์อาจต้องตายเป็นแน่ แม้แต่ม่านพลังนี้ก็ไม่อาจช่วยรักษาพระองค์ได้”

“ไม่ใช่ว่าพิษที่ข้าได้รับเป็นพิษสารหนูที่ทำลายร่างกายอย่างนั้นหรอกหรือ?” กษัตริย์ Candorยังคงยืนกรานตามอาการที่เหล่านักบวชและผู้พยากรณ์เป็นคนบอกมาอย่างหนักแน่น ซึ่งก็เป็นพวกเขาเหล่านี้ที่เป็นคนสร้างม่านอาคมช่วยรักษาให้กับพระองค์

“พิษ 2 ชนิดนี้มีอาการแสดงออกคล้ายคลึงกันอยู่มาก หากมองด้วยตาเปล่าและสังเกตจากอาการไม่กี่ครั้ง ไม่แปลกเลยที่เหล่านักบวชจะบอกว่าตัวพระองค์ได้รับสารหนู...แต่ถ้าพวกเขาตรวจดูให้ละเอียดอีกสักนิด คงจะเห็นความผิดปกติของพิษตัวนี้อย่างแน่นอน”

เจสเปอร์อธิบายรายละเอียดของพิษ Dying Toxic ให้กับกษัตริย์ Candorและดยุกซิมป์สันให้ฟังอย่างละเอียดโดยนำข้อมูลจากความทรงจำครั้งที่แล้วที่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะยกขึ้นมาอธิบาย พร้อมทั้งบอกวิธีการถอนพิษที่ว่านี้ให้กับ NPCทั้งสองได้รับฟัง

“ยาสมุนไพรที่ท่านผู้กล้าได้บอกมา ทางราชวงศ์มีครบทุกอย่างอยู่ในคลังหมดแล้ว ขาดเพียง ลมหายใจของมังกรและคำอวยพรของนักบุญเท่านั้นที่ดูจะเป็นปัญหา” ดยุกซิมป์สันที่วิ่งเต้นไปทั่วพระราชวังเพื่อตรวจเช็คตัวยาจากห้องพระคลัง ได้วิ่งกลับมาหาคนทั้งสองด้วยอาการเหน็ดเหนื่อย พลางแสดงสีหน้าวิตกกังวลเพราะของ 2 อย่างที่พวกเขาขาดไป ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่จะหามา

ลมหายใจมังกร ต้องใช้จากมังกรระดับสูงที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นและที่พอจะนึกออกก็มีเพียง มังกรปีศาจ Xanidarth ตัวเดียวเท่านั้น นี้ไม่เท่ากับว่าส่งคนไปตายอย่างนั้นหรอกเหรอ? กษัตริย์ Candor ร้องปฏิเสธการรักษาโดยทันที พระองค์ทรงไม่ยอมแน่ๆถ้าจะให้ประชาชนหรือทหารนับพัน นับหมื่นต้องไปเสี่ยงตายทำภารกิจที่ไม่มีวันสำเร็จ

อย่างไรก็ตามนั้นไม่ใช่ปัญหาเลยกับสำหรับผู้กล้า นี้คือเควสเนื้อเรื่องที่มีเพียงผู้เล่นเท่านั้นที่จะทำได้และต้องเป็นกลุ่มของ Rising Sun Guild ของเขาเท่านั้นที่ต้องเป็นคนดำเนินเควสเนื้อเรื่องบทต่อไป

ส่วนการที่ไอรีนได้อาชีพลับนักบุญมาครอบครองก็ไม่ใช่เรื่องโชคดีหรือบังเอิญแต่อย่างใด แต่มันคือฟั่นเฟืองตัวหนึ่งที่ใช้ประกอบเข้ากับเควสเนื้อเรื่องบทนี้นั่นเอง

“เรื่องนักบุญนั้นไม่ใช่ปัญหา ตัวข้าพอจะรู้จักนักบุญอยู่คนหนึ่ง แต่นักบุญคนนี้อยู่ห่างออกไปจากเมืองอีรูไดซ์มากพอสมควร...เกรงว่าคงต้องใช้เวลาเดินทางอีกสักพักกว่าข้าจะพาเธอมาได้ หากได้ประตูมิติเข้าช่วยเหลือคงจะช่วยประหยัดเวลาไปได้ไม่มากก็น้อย??!!” เจสเปอร์แสดงสีหน้าวิตกกังวลถึงเรื่องที่เกิดขึ้นโดยลอกเลียนมาจากดยุกซิมป์สันแบบไม่ผิดเพี้ยน แต่ลึกๆภายในใจมันกำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี ‘สกิลนักหว่านล้อมกำลังแสดงผล!!’

[ท่านได้รับเควส: รักษากษัตริย์]

[รายละเอียด:นำลมหายใจมังกรจากมังกรปีศาจ Xanidarth กลับมาให้กับ กษัตริย์ Candor พร้อมทั้งพานักบุญมาช่วยประกอบพิธีล้างพิษในครั้งนี้]

[ท่านได้รับเควส:สร้างประตูมิติขึ้นที่เมืองอีรูไดซ์]

[รายละเอียด: กษัตริย์ Candor ต้องการที่จะใช้ประตูมิติเพื่อที่จะเชิญนักบุญจากแดนไกลมาช่วยรักษาอาการป่วยของพระองค์ โปรดจงเร่งสร้างประตูมิติแห่งนี้ให้เสร็จโดยเร็ววัน ความสำเร็จขึ้นอยู่กับว่าประตูมิติแห่งนี้จะเสร็จเมื่อใด]

ตามหลักแล้วเจสเปอร์และศจ.อลาสเตอร์รวมถึงแม่มด Elunir มีสิทธิในตัวประตูมิติทุกประการ การจะเรียกเก็บเงินหรือกำหนดให้ใครเข้าใช้งานขึ้นอยู่กับพวกเขาทั้งหมด ถึงกระนั้นพื้นที่ ที่พวกเขาต้องการใช้เป็นที่ตั้งของประตูมิติ ดันมีเจ้าของเป็นกษัตริย์ Candor

แม้เจสเปอร์จะให้คลูเอลช่วยจัดการซื้อที่รกร้างแถวนั่นไว้ทั้งหมดเพื่อที่จะไม่เสียผลประโยชน์ไปมากกว่านี้ แต่สุดท้ายดยุกซิมป์สันก็ยืนกรานไม่ยอมขายให้กับคลูเอล ถ้าหากประตูมิติถูกสร้างจนสำเร็จพร้อมเปิดใช้งานรายได้ส่วนหนึ่งจะต้องแบ่งให้กับเจ้าของพื้นที่และเมืองไปโดยปริยาย

เท่ากับว่ารายได้จะต้องถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักด้วยกัน เจสเปอร์ ศจ.อลาสเตอร์ แม่มดขาว Elunir / เจ้าของที่ดิน / เจ้าเมืองหรือเมืองที่ตั้ง เป็นต้น

(เนื่องจากพื้นที่ที่เจสเปอร์และศจ.อลาสเตอร์เลือกมีพลังอาคมของเวทมนต์หนาแน่นมากกว่าจุดอื่น ซ้ำยังอยู่ห่างออกจากไปจากแหล่งชุมชนมากพอสมควร หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นทหารสามารถเข้าไปจัดการและต่อต้านได้อย่างทันถ่วงที พื้นที่ตรงนี้จึงเหมาะสมที่สุดแล้วในการสร้างประตูมิติ)

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ

www.facebook.com/writelazy

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด